คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1818

ปัง

ขณะที่ฉางเอ๋อกำลังคิดอยู่ แดร์ริลก็รู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือนมาจากเจดีย์เจ็ดมหาสมบัติในกระเป๋า ดูเหมือนว่าแบรดลีย์จะกลับเข้ามมาในเจดีย์แล้ว

ในฐานะเจ้าของเจดีย์ แดร์ริลรู้สึกได้ว่าแบรดลีย์นั้นบาดเจ็บแต่ก็ไม่รุนแรง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหยางเจียนต้องสั่งให้คนของเขาโจมตีแบรดลีย์เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะแบรดลีย์ได้

“แบรดลีย์ คุณเป็นยังไงบ้าง?” แดร์ริลถามทันที

ตอนนั้นเสียงของแบรดลีย์อ่อนระโหยขณะที่ตอบว่า “นายท่าน ข้าไม่เป็นไร แต่ว่าสถานการณ์ของท่านคงไม่สู้ดี หยางเจียนส่งคนมากมายตามสะกดรอยท่าน ภูเขากาลีก็เป็นหนึ่งในที่ซึ่งพวกเขาจะมาหา ท่านต้องไปเดี๋ยวนี้…”

“ไม่เป็นไร ตอนนี้ท่านต้องพักเพื่อฟื้นฟูร่างกาย” แดร์ริลยิ้มและปลอบใจเขา ที่พำนักของเกษตรเทวสราญนี้แยกออกมาโดดเดี่ยว เพราะฉะนั้นหยางเจียนไม่น่ามาหาที่นี่ได้

พวกเขาทั้งสองต่างก็สื่อสารกันในใจผ่านเจดีย์เจ็ดมหาสมบัติ ดังนั้นฉางเอ๋อ ซู่หรงและดีไวน์ ฟาร์เมอร์จึงไม่รู้เรืองนี้

“แดร์ริลเจ้าได้ยินไหม? ไปที่เมืองหลวงกับข้าเดี๋ยวนี้” ฉางเอ๋อยืนกราน

ตูม

เมื่อเธอพูดจบก็มีเสียงตูมดังสนั่น ทางเข้าที่พำนักของเกษตรเทวสราญพังทลายลงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เสียงระเบิดดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ตอนนั้นทั้งแดร์ริล ฉางเอ๋อ และทุกคนต่างก็อึ้งไป

สองวินาทีต่อมาแดร์ริลเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาและวิ่งออกไป

‘ใครมันกล้ามาก่อปัญหาที่พำนักของดีไวน์นะ?’

ฉางเอ๋อ ซู่หรงและคนอื่น ๆ ต่างก็รีบตามเขาไป

เมื่อพวกเขาออกไปด้านนอก แดร์ริลก็อดสูดหายใจเย็นเยียบไม่ได้เมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ทหารโมอาน่าเหนือ 100,000 นายปิดทางเข้าไว้เหมือนแน่นหน้าประหนึ่งเหล็กกล้า หยางเจียนยืนอยู่หน้ากองทหารในชุดเกราะสีทองและลอยอยู่กลางอากาศ ดูแข็งแกร่งและน่ากลัวมาก

เบื้องล่างเขามีสุนัขคำรณสวรรค์กำลังดมพื้นที่ทางเข้าโดยรอบ

สีหน้าของแดร์ริลเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ

‘หยางเจียนมาถึงเร็วขนาดนี้ได้ยังไง? ฉันหนีมาจากทหารพ้นแล้วและบ้านของศิษย์พี่ดีไวน์ก็แยกโดดเดี่ยวออกมา ทำไมเขาถึงรู้ทางมาที่นี่ได้?’

ตอนนั้นแดร์ริลยังไม่รู้ว่าสุนัขคำรณสวรรค์นั้นเป็นตัวที่ช่วยระบุตำแหน่งของพวกเขา

ในฐานะของสัตว์เทพ สุนัขคำรณสวรรค์เป็นสัตว์สะกดรอยที่ดีที่สุดในโลก แม้แดร์ริลจะหนีทหารมาได้พ้น สุนัขคำรณสวรรค์ก็ยังสามารถจับกลิ่นของแดร์ริลในอากาศและตามมายังตำแหน่งของเขาได้อยู่ดี

ตอนนั้นหยางเจียนมองเขม็งที่แดร์ริลเขายิ้มเย็นชาและบอกว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”

เฮ้อ

เมื่อเขารู้สึกได้ถึงรังสีที่แข็งแกร่งของหยางเจียน แดร์ริลก็แสร้งทำเป็นสงบนิ่ง เขาฝืนยิ้มแต่ว่าไม่พูดอะไรออกมา

จากนั้นหยางเจียนก็หันไปมองซู่หรงและดีไวน์ เขารู้สึกงุนงง “ข้าไม่คิดเลยว่าเทพอัคคีซู่หรงที่เป็นที่นับหน้าถือตา และเทพโอสถดีไวน์ ฟาร์เมอร์จะมาอยู่ปลีกวิเวกกันแบบนี้”

หลายพันปีก่อน ดีไวน์ใช้ยาสมุนไพรนับร้อยรักษาคนมากมาย จนเขาได้ชื่อว่า ‘เทพโอสถ’

สีหน้าซู่หรงไร้ความกลัวและเขาก้าวขึ้นมาข้างหน้า “หยางเจียน หากว่าเจ้ารู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่แล้วเจ้ากล้านำกองทหารมารบกวนเราได้อย่างไร? เจ้าต้องการอะไรกันแน่?”

ซู่หรงนั้นมีบุคลิกแข็งกร้าวและเขาก็เป็นคนตรงไปตรงมา เมื่อก่อนนี้เขาก็ไม่กลัวโฮ่วอี้และเขาจะให้หยางเจียนได้เจียมตัวสักที

หลังจากที่ซู่หรงพูดจบ ดีไวน์ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “หยางเจียน ข้าปลีกวิเวกมาอยู่ที่นี่หลายปีแล้ว ข้าไม่ต้องการจะยุ่งกับเรื่องวุ่นวายของโลกภายนอก ได้โปรดพาคนของเจ้ากลับไปเสียโดยเร็วและหยุดรบกวนความสงบของข้า”

หยางเจียนยิ้ม “แน่นอนว่าข้าจะไม่รบกวนเจ้า แต่ว่าเจ้าหนุ่มนี่จะต้องไปกับข้า”

เขาชี้ไปที่แดร์ริล ขณะที่พูดเขาสายตาเขาก็เลื่อนไปมองฉางเอ๋อ ดวงตาเขาเปล่งประกายทันใด

“โอ้ พระมเหสีฉางเอ๋อก็อยู่ที่นี่ด้วย ช่างบังเอิญเสียจริง พระมเหสีโปรดกลับไปพระราชวังกับกระหม่อมด้วย” เขายิ้ม

“ไม่ ข้าไม่กลับ” ฉางเอ๋อพูดอย่างเย็นชา เธอตัดสินใจแล้วและไม่ลังเลแม้แต่น้อย

ก่อนหน้านี้ฉางเอ๋อก็อยากจะกลับไปพร้อมแดร์ริลเพื่อพบหยางเจียนและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน แต่เมื่อแดร์ริลบอกเธอว่าหยางเจียนสนใจในตัวเธอ เธอก็หงุดหงิดรำคาญใจมากแล้วจะกลับไปพระราชวังกับเขาได้อย่างไรกันล่ะ?

‘หากว่าข้าตามหยางเจียนกลับไปที่วัง เขาจะต้องพยายามข่มเหงและเอาเปรียบข้าแน่’ ฉางเอ๋อคิด