เขาได้รับม้วนหยกมาจากมือของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง ในนั้นมีการบันทึกวิธีการในการพัฒนาปีกทิพย์ไร้มลทิน ของขลังพรสวรรค์ชิ้นนี้ไม่ต่างจากหอกยุทธ์มังกรดำแล้ว เพราะเป็นสมบัติที่สามารถพัฒนาขึ้นได้

เพียงแต่การพัฒนาขึ้นของปีกทิพย์ไร้มลทินนั้นต้องสะสมของล้ำค่ามากมาย และทุกชนิดล้วนเป็นของที่อาจหาได้พบแต่ยากจะครอบครอง

ข่าวการกลับมาของหลัวซิวนั้นแพร่ออกไปยังโลกภายนอกอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาชั่วครู่ทั้งโลกก็ตกอยู่ในสภาวะปั่นป่วน

ผู้ที่ตกใจที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของสี่แดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ของเผ่ามนุษย์ โดยเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักดารา เพราะเขาคือคนที่ตั้งใจปล่อยข่าวการตายของหลัวซิวออกไปเอง และด้วยเหตุนี้เองทำให้แดนตำหนักจื่อไท่เสวียนเกิดภัยร้ายครั้งใหญ่

ส่วนเทพมารทุกคนของเผ่าพันธ์มารกับเผ่าพันธ์ปีศาจเมื่อได้ยินข่าวนี้ต่างไม่ได้มีความรู้สึกใดเป็นพิเศษ บางทีอาจจะเป็นเพราะโชคชะตาของเจ้าหนุ่มน้อยจากเผ่าพันธ์ุมนุษย์ดีก็เท่านั้นถึงทำให้เขารอดมาจากแดนปริศนานั่นได้

ไม่มีใครคาดคิดว่าหลัวซิวจะสามารถขึ้นสู่ยอดเขาได้ เพราะการที่คิดเช่นนี้ไม่ได้นั้นเป็นเพราะว่าแม้แต่เทพมารช่วงปลายยังไม่สามารถขึ้นไปสู่ยอดเขา รวมทั้งไม่สามารถเข้าไปในพระราชวังทองคำ ได้ด้วย

หากดูจากพลังของหลัวซิวที่แสดงออกมาในปัจจุบันนี้ อย่างมากเขาก็แค่อยู่ในช่วงเทพมารขั้นปฐมภูมิเท่านั้น นับว่ายังห่างไกลจากเทพมารขั้นปลายอยู่มาก ดังนั้นจึงไม่ต้องเทียบกับเทพมารขั้นสูงเลยด้วยซ้ำ

“เขากลับมาแล้วหรือ” เมื่อหลิวหงเทียนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ยินข่าวนี้ก็ตะลึงงัน ข่าวคราวหายไปถึงห้าปี เขาคิดว่าหลัวซิวจะต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายในแดนปริศนาอย่างแน่นอน และถึงขั้นไปเยือนตำหนักจื่อด้วยตนเองเพื่อป่าวประกาศข่าวการหายตัวไปของเขาต่อหน้าคนสำนักไท่เสวียน

ทว่าหลังจากนั้นสีหน้าของหลิวหงเทียนก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปอีกครั้ง เขาพึมพำว่า “ทุกกองกำลังปิดล้อมสำนักไท่เสวียนอยู่ ในเมื่อเขากลับมาแล้วจากนิสัยของเขา หายนะต้องกำลังจะเกิดขึ้นอีกแน่นอน!”

“เจ้าแดนหลิวเป็นอย่างไรบ้าง”

เทพมารที่มาจากโลกเสวียนเทียนเมื่อเห็นสีหน้าอันแปรปรวณของเขาก็เอ่ยปากถาม

ในตอนนั้นเอง หลิวหงเทียนและเทพมารจากโลกเสวียนเทียนสองสามคนก็กำลังสร้างแท่นบูชาอยู่ พวกเขาต้องการใช้แท่นบูชานี้ในการติดต่อกับผู้แข็งแกร่งโลกเสวียนเทียน เพราะต้องการส่งข่าวการหายตัวไปของเทวทูตจื่อเยียน

เรื่องเรื่องนี้ไม่ได้มีความข้องเกี่ยวกับเทวทูตจื่อเยียนเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการมีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกับสมบัติของเทพสงครามเอกภพด้วย หากแม้แต่เทพมารขั้นสูงก็ยังไม่สามารถชิงมันกลับมาได้ ก็ต้องให้โลกาชั้นฟ้าส่งยอดฝีมือลงมายังโลกด้านล่างเสียแล้ว

“เจ้าเด็กหนุ่มที่เทวทูตจื่อเยียนถูกชะตากลับมาแล้ว” หลิวหงเทียนเอ่ย“อ้อ? เขากลับมาอย่างมีชีวิตด้วยหรือ ดูท่าแล้วโชะตาของเขาไม่เลว ไม่แปลกที่เทวทูตจะถูกชะตา” เทพมารจากโลกเสวียนเทียนผู้นี้ยิ้มพลางกล่าว เขาไม่ได้คิดไปยังประเด็นอื่นมากนัก

เนื่องจากข่าวที่เทพสงครามเอกภพเปิดห้วงกาลแดนของแดนปริศนาได้นั้น ลำพังแค่เทพมารก็ถูกกำจัดไปแล้วถึงสิบคน แต่กลับมีหนุ่มน้อยที่ฝึกตนถึงขั้นเจ้ายุทธจักรผู้นี้ที่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง

ในเวลาเดียวกันนั้น เผ่าพันธุ์มารกับเผ่าปีศาจก็กำลังเตรียมตัวรับมือสำหรับการนำเรื่องนี้รายงานต่อโลกาชั้นฟ้า เพื่อให้คนจากโลกาชั้นฟ้าเป็นผู้ตัดสิน

ในขณะที่เหล่าผู้แข็งแกร่งเทพมารกำลังจัดการเรื่องราวเหล่านี้อยู่นั้น หลัวซิวก็ได้สั่งให้เกาเหลียนหงจัดการเรื่องราวต่างๆ ภายในสำนักมากมาย หลังจากนั้นก็ได้พาเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ออกไปจากแดนตำหนักจื่อ

หลายปีที่ผ่านมานี้เกิดเรื่องต่างๆ มากมายต่อเนื่องกัน รวมทั้งความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ห้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรใต้ แดนศักดิ์สิทธิ์หยุนไห่ถูกเผ่าปีศาจทำลายราบ ส่วนตำหนักอัคคีนภาก็ถูกหลัวซิวเผาวอด ดังนั้นจึงเหลือเพียงตระกูลยุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ รวมทั้งสำนักฟ้าดินและสำนักซ่างชิงเท่านั้น

การล้อมโจมตีแดนตำหนักจื่อในครั้งนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์และสำนักใหญ่ๆ จำนวนมากต่างเข้าร่วม สำนักฟ้าดินของอาณาจักรใต้ก็เป็นส่วนหนึ่งด้วย มีเพียงสำนักซ่างชิงเท่านั้นที่ยังอยู่เงียบๆ ไม่ค่อยเข้าร่วมการแก่งที่เกิดขึ้น