“เย่หยวน ปล่อยข้าไปเถอะ! หากเจ้ายังพาข้าไปด้วยเช่นนี้ตัวเจ้าก็คงไม่อาจหนีรอดไปได้ด้วย!” หลงเสี่ยวฉุนร้องบอกอย่างกังวล
นางเองก็ได้เห็นว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่หลงเสี่ยวพามามันมีมากมายปานใด แต่ละคนนั้นเก่งกาจสักแค่ไหน พลังฝีมือของพวกเขาทั้งหลายนี้มันเหนือล้ำกว่าคนระดับเดียวกันไปมาก
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการผสานงานที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะดูอย่างไรพวกเขานั้นก็เข้าใจและคงทดลองการปิดล้อมนี้มาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน
“เลิกพูดจาไรสาระเสียที! ทำเช่นนี้มันมีแต่จะเสียสมาธิ! เจ้าเลิกคิดอะไรยุ่งยากและตามข้ามาก็พอ!” เย่หยวนร้องบอก
หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็ต้องสั่นสะท้านเงียบปากลงรอฟังคำสั่งเย่หยวน
เวลานั้นเองหนึ่งในสามเทพสวรรค์สามดาวก็ได้ร้องบอกขึ้น “พี่ใหญ่ ท่านช่วยเสนอแผนใดมาหน่อยเถอะ!”
หลงเสี่ยวร้องบอกกลับมา “อย่าได้วิตกไป! ให้มันหนี ให้มันหลบ! ไม่ว่ามันจะมีวรยุทธการเคลื่อนไหวที่เหนือล้ำปานใดมันก็ย่อมจะหมดแรงได้สักวัน! หากวัดกันที่แรงใจแล้วพวกเราย่อมจะไม่พ่ายแพ้แก่ผู้ใด!”
“หึๆ พูดมามันก็ถูก!”
เมื่อเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้ยินคำของหลงเสี่ยวพวกเขาก็เริ่มลงมือหนักหน่วงขึ้นมา
แต่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้ไม่ได้รีบร้อนใดๆ พวกเขานั้นวางท่าเหมือนแมวที่ดักจับหนู ค่อยๆ ไล่ปล่อยให้เหยื่อเหนื่อยไปเอง
เย่หยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมา คำพูดเดียวของหลงเสี่ยวนี้มันกลับเพิ่มพลังให้คนทั้งหลายนี้ได้มหาศาล!
แต่มันมิใช่การเพิ่มพลังฝีมือต่อสู้ใดๆ มันเป็นการเพิ่มความหนักแน่นทางจิตใจ
ในการต่อสู้นั้นยิ่งมีจิตใจหนักแน่นมากเท่าใด พวกเขาก็จะยิ่งแสดงฝีมือที่มีออกมาได้มากเท่านั้น
เหล่าเทพสวรรค์สามดาวทั้งสามคนนั้นย่อมจะเป็นหัวหอกเข้าโจมตีโดยมีคนอื่นๆ คอยปิดช่องว่างทางหนีอยู่ไม่ห่าง
แต่ว่าแต่ละผู้คนที่โจมตีเข้ามานี้ แม้จะเป็นแค่เทพสวรรค์หนึ่งดาวเองก็เก่งกาจจนไม่อาจประมาณได้
เพราะแต่ละดาบของพวกเขานั้นมันทำร้ายผู้คนจนถึงตายได้ง่ายๆ
คนทั้งหลายนี้ผสานงานกันได้อย่างลงตัวจนเหลือเชื่อว่าจะเป็นแค่กองโจรทั่วไป!
การปิดล้อมเช่นนี้มันย่อมจะเป็นสิ่งที่เย่หยวนต้องรีบหนีออกไปให้ได้
ไม่เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์มันอาจจะถึงตายเข้าจริงๆ
และยังมีตัวหลงเสี่ยวเองที่จนถึงเวลานี้เขาก็ยังไม่ได้ลงมือใดๆ ออกมา!
“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดท่านอ่าวซู่จึงได้กังวลเรื่องของเจ้านัก ด้วยฝีมือของเจ้านี้ต่อให้จะเป็นในศึกทายาทมังกรเองก็คงอยู่ระดับสูงล้ำ ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือตัวเจ้ายังเป็นแค่เทพสวรรค์หนึ่งดาว! หึๆ แต่ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจปานใด วันนี้ก็คงต้องตายลงแล้วเด็กน้อย อย่าได้ขัดขืนให้เปลืองแรงอีกเลย!” หลงเสี่ยวหัวเราะบอก
การที่เขาพูดขึ้นมาข้างๆ เช่นนี้มันเป็นการรบกวนสมาธิของเย่หยวนที่ต้องหลบดาบรอบกายไม่น้อย
และแน่นอนว่ามันยิ่งจะทำให้สถานการณ์ของเย่หยวนลำบากหนักขึ้นไปอีกขั้น
จังหวะนั้นเองที่เทพสวรรค์หนึ่งดาวผู้หนึ่งได้เห็นถึงช่องว่างจากมุมของตนเอง ใช้ดาบยาวในมือแทงเข้ามาใส่หลงเสี่ยวฉุน
หลงเสี่ยวฉุนที่เห็นต้องหน้าถอนสี แต่มันก็สายเกินกว่าที่จะคิดตอบโต้ใดๆ แล้ว
ในวินาทีนั้นเย่หยวนได้พุ่งร่างเข้ามาบังหน้าหลงเสี่ยวฉุนไว้
ฉัวะ!
ดาบนั้นมันแทงเข้าไปยังกลางอกของเย่หยวน
“เย่หยวน!” หลงเสี่ยวฉุนร้องขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่เห็นต้องเบิกตากว้างอย่างดีใจเหมือนดั่งฉลามที่ได้กลิ่นเลือด ดาบแสงต่างๆ รอบด้านพุ่งแทงเข้ามาหาเย่หยวน
“ดีมาก!” เมื่อหลงเสี่ยวเห็นเช่นนั้นตัวเขาย่อมจะร้องบอกขึ้นมาด้วยความดีใจบ้าง
แต่ในเวลานั้นเองที่มันกลับเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมา!
เย่หยวนที่ถูกดาบนี้แทงเข้าไปกลับไม่ได้แสดงท่าทีใกล้ตายดั่งที่ทุกคนคิดใดๆ กลับกัน ตัวเขากลับยกมือขึ้นมาแทงดาบสวนออกมา
“ดาบสลักกลวงแท้!”
เสียงของเย่หยวนดังขึ้นมาพร้อมด้วยพลังของดาบอันรุนแรงพุ่งทำลายเทพสวรรค์หนึ่งดาวผู้นั้นจนแหลกหายไป
“ไป!”
และเย่หยวนก็ไม่ได้คิดจะหยุดแม้แต่เสี้ยววินาที เขารีบดึงตัวหลงเสี่ยวฉุนพุ่งทะยานออกไปจากวงล้อมด้วยช่องว่างที่เกิดขึ้นจากความตายของเทพสวรรค์ผู้นั้น
ภาพตรงหน้านี้มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครสามารถรับมือได้ทัน ต้องปล่อยให้เย่หยวนหลุดจากวงล้อมไปในที่สุด
“เย่หยวน จ-เจ้าไม่เป็นไรหรือ?”
หลงเสี่ยวฉุนนั้นมองดูดาบที่ปักอยู่กลางอกของเย่หยวนพร้อมถามขึ้นด้วยน้ำตาเอ่อ
เย่หยวนนั้นต้องเจ็บตัวเพื่อปกป้องนาง
ที่ถูกตีล้อมปิดทางหนีแต่ทีแรกมันก็เพราะว่าความดื้อด้านของนางเองด้วย
หลงเสี่ยวฉุนนั้นรู้สึกผิดอย่างมากอยู่ในใจ
แต่เย่หยวนกลับหัวเราะขึ้นพร้อมยกมือมาดึงดาบนั้นออก
เจ้าดาบนั้นมันไม่มีแม้แต่รอยเลือดใดๆ
เมื่อหลงเสี่ยวและพวกเห็นเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างก็ต้องเบิกตากว้าง
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไร?” หลงเสี่ยวร้องบอก
เทพสวรรค์หนึ่งดาวแทงเทพสวรรค์หนึ่งดาวด้วยกันอย่างแรง เหตุใดเขาจึงกลับไร้บาดแผลใดๆ ได้เช่นนั้น?
หลงเสี่ยวฉุนเปิดปากอ้าค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“หึๆ เจ้าคงลืมไปว่าร่างกายของข้านั้นมันสุดแกร่ง! มีหรือที่การโจมตีเพียงแค่นี้จะทำร้ายข้าได้?” เย่หยวนร้องบอกพร้อมเสียงหัวเราะ
หลงเสี่ยวหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ตัวเขานึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จนต้องร้องขึ้น “กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด! มัน…มันกลับมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้”
“อะไรนะ? บนโลกนี้มันยังจะมีใครที่บรรลุสำเร็จกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้ด้วยหรือ?”
“ข้าได้ยินมาว่ากายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนั้นมันทนทานหอกดาบใดๆ ได้สิ้น มีการป้องกันที่สมบูรณ์! หากไม่ได้มีพลังบ่มเพาะเหนือล้ำกว่าไปมากมายแล้วผู้คนก็คงไม่อาจจะทำร้ายผู้มีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้ ไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง!”
“ทุกขจุติระดับเจ็ดนั้นมันสุดแสนน่ากลัว! มันผ่านมาได้อย่างไรกัน?”
…
เสียงร้องของเหล่าเทพสวรรค์ดังขึ้นตามๆ กัน ดูท่าแล้วพวกเขาคงตกตะลึงกับคำว่ากายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนี้มาก
เผ่ามังกรนั้นมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งสุดล้ำเป็นทุน นั่นยิ่งทำให้พวกเขาทั้งหลายหลงใหลในพลังกายอย่างกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดอย่างมากล้ำ
ยอดคนมากมายปานใดคิดท้าทายมัน แต่ไม่เคยจะมีใครรอดไปได้
แต่วันนี้มันกลับมีผู้ครอบครองกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดมายืนตรงหน้า มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตื่นตะลึง?
หลงเสี่ยวต้องกัดฟันแน่น “ที่แท้นี่คือไม้ตายของเจ้าสินะเด็กน้อย! แต่มันก็จบกันเท่านี้แหละ!”
ปัง!
คลื่นพลังรุนแรงล้ำพุ่งทะยาน พลังของเทพสวรรค์สี่ดาวนั้นมันทำให้มิติรอบๆ เกิดความสั่นไหวขึ้นได้ไม่ยาก
แต่เย่หยวนเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีกังวลใดๆ ออกมาและยิ้มตอบไป “ไม้ตายของข้านั้นมีมากมาย! จากวินาทีนี้ไปข้าจะให้เจ้าได้เห็นพวกมันเอง รอลิ้มรสมันให้ดี…รสชาติของความเจ็บปวดน่ะ!”
ฟุบ!
เย่หยวนขยับร่างหายไปกับตาผู้คน
เวลาพูดคุยทั้งหลายนี้แท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่เย่หยวนตั้งใจถ่วงไว้
ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นมันก็เพื่อจะหนีจากวงล้อมของคนทั้งหลายให้พ้น
ตราบเท่าที่ตัวเขาบรรลุขึ้นมาได้ ด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติของของเขาแล้วคนทั้งหลายคงไม่อาจจะติดตามตัวเขาได้ทันอีกต่อไป
“เจ้าคิดอยากไป? มีหรือมันจะง่ายดายปานนั้น? รับดาบนี้ไป!”
ดาบสั้นๆ ในมือของหลงเสี่ยวถูกง้างขึ้นก่อนจะผสานพลังสายเลือดหนักหน่วงพุ่งทะยานตามหลังเย่หยวนมาติดๆ
แต่ในเวลานั้นเองร่างของเย่หยวนมันก็ได้หายไปอีกครั้ง!
ดาบอันรุนแรงสะเทือนฟ้าของหลงเสี่ยวนี้มันจึงไม่อาจทิ่มแทงสิ่งใดได้!
“ไม่ได้การแล้ว! เจ้าเด็กคนนี้มันคิดหลบหนีเข้าไปในร่องมิติ! ตามไปเร็ว!” หลงเสี่ยวร้องบอกด้วยสีหน้าหนักใจ
…
ภายในร่องมิตินั้นหลงเสี่ยวฉุนกำลังยิ้มหน้าบานออกมา
ก่อนหน้านี้ตอนที่เย่หยวนถูกทำร้ายนั้นตัวนางสั่นสะท้านไปทั้งกาย
แต่ในเวลานี้ท้องไส้ของนางมันได้อัดแน่นไปด้วยความปีติยินดีเหนือล้ำ
“ฮ่าๆๆ…ตื่นเต้นเสียจริง! เย่หยวน มันน่าตื่นเต้นจนเกินไปแล้ว!” หลงเสี่ยวฉุนร้องบอกขึ้นมาด้วยใบหน้าตื่นเต้นดีใจราวกับว่าลืมความกังวลใบหน้านองน้ำตาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนไปสิ้น
เมื่อเห็นท่าทางของสาวน้อยผู้นี้เย่หยวนเองก็ไม่รู้จะต้องตอบไปว่าอย่างไร
“เสี่ยวฉุน เจ้าอยากเล่นเกมหรือไม่?” เย่หยวนยิ้มถามขึ้น
“อยากๆ! จะเล่นอะไรดีเล่าเย่หยวน?” หลงเสี่ยวฉุนรีบตอบรับพร้อมยกมือขึ้นมาปรบรับ
ความคิดของสาวน้อยผู้นี้มันแตกต่างไปจากผู้คนอย่างมาก คนอื่นๆ หากได้ยินเช่นนั้นคงต้องยกมือมากุมขยับด่าว่าเย่หยวน
เวลาเช่นนี้ยังจะมาเล่นเกมใดอีกเล่า?
แต่ทั้งๆ ที่เป็นอย่างนั้นหลงเสี่ยวฉุนกลับยกมือขึ้นมาปรบรับทันทีที่ได้ยินคำว่าเล่น
“เอาล่ะ เช่นนั้นจากนี้ไปเจ้าต้องฟังที่ข้าพูดทุกสิ่งอย่าง! ในเมื่อคนทั้งหลายนั้นมันกล้ามาซุ่มทำร้ายเรา มันก็ต้องเตรียมตัวจ่ายคืนด้วยความเจ็บปวด!” เย่หยวนหรี่ตาลงพูดด้วยจิตสังหารหนักแน่น
หลงเสี่ยวฉุนพยักหน้าออกมาราวกับไก่ที่กำลังหิวข้าว “ว่ามาๆ! ข้าจะฟังเจ้าสิ้น! เจ้าวางใจเถอะ เพื่อชดเชยความผิดที่ข้าทำไว้ ข้าจะไม่ยั้งมือแน่นอน! เจ้าว่ามาเลยว่าเราจะเล่นอะไรกัน?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “ซ่อนหา!”
…………………