ตอนที่ 2156 ฝ่าวงล้อม

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“เย่หยวน ปล่อยข้าไปเถอะ! หากเจ้ายังพาข้าไปด้วยเช่นนี้ตัวเจ้าก็คงไม่อาจหนีรอดไปได้ด้วย!” หลงเสี่ยวฉุนร้องบอกอย่างกังวล

นางเองก็ได้เห็นว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่หลงเสี่ยวพามามันมีมากมายปานใด แต่ละคนนั้นเก่งกาจสักแค่ไหน พลังฝีมือของพวกเขาทั้งหลายนี้มันเหนือล้ำกว่าคนระดับเดียวกันไปมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการผสานงานที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะดูอย่างไรพวกเขานั้นก็เข้าใจและคงทดลองการปิดล้อมนี้มาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน

“เลิกพูดจาไรสาระเสียที! ทำเช่นนี้มันมีแต่จะเสียสมาธิ! เจ้าเลิกคิดอะไรยุ่งยากและตามข้ามาก็พอ!” เย่หยวนร้องบอก

หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็ต้องสั่นสะท้านเงียบปากลงรอฟังคำสั่งเย่หยวน

เวลานั้นเองหนึ่งในสามเทพสวรรค์สามดาวก็ได้ร้องบอกขึ้น “พี่ใหญ่ ท่านช่วยเสนอแผนใดมาหน่อยเถอะ!”

หลงเสี่ยวร้องบอกกลับมา “อย่าได้วิตกไป! ให้มันหนี ให้มันหลบ! ไม่ว่ามันจะมีวรยุทธการเคลื่อนไหวที่เหนือล้ำปานใดมันก็ย่อมจะหมดแรงได้สักวัน! หากวัดกันที่แรงใจแล้วพวกเราย่อมจะไม่พ่ายแพ้แก่ผู้ใด!”

“หึๆ พูดมามันก็ถูก!”

เมื่อเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้ยินคำของหลงเสี่ยวพวกเขาก็เริ่มลงมือหนักหน่วงขึ้นมา

แต่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้ไม่ได้รีบร้อนใดๆ พวกเขานั้นวางท่าเหมือนแมวที่ดักจับหนู ค่อยๆ ไล่ปล่อยให้เหยื่อเหนื่อยไปเอง

เย่หยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมา คำพูดเดียวของหลงเสี่ยวนี้มันกลับเพิ่มพลังให้คนทั้งหลายนี้ได้มหาศาล!

แต่มันมิใช่การเพิ่มพลังฝีมือต่อสู้ใดๆ มันเป็นการเพิ่มความหนักแน่นทางจิตใจ

ในการต่อสู้นั้นยิ่งมีจิตใจหนักแน่นมากเท่าใด พวกเขาก็จะยิ่งแสดงฝีมือที่มีออกมาได้มากเท่านั้น

เหล่าเทพสวรรค์สามดาวทั้งสามคนนั้นย่อมจะเป็นหัวหอกเข้าโจมตีโดยมีคนอื่นๆ คอยปิดช่องว่างทางหนีอยู่ไม่ห่าง

แต่ว่าแต่ละผู้คนที่โจมตีเข้ามานี้ แม้จะเป็นแค่เทพสวรรค์หนึ่งดาวเองก็เก่งกาจจนไม่อาจประมาณได้

เพราะแต่ละดาบของพวกเขานั้นมันทำร้ายผู้คนจนถึงตายได้ง่ายๆ

คนทั้งหลายนี้ผสานงานกันได้อย่างลงตัวจนเหลือเชื่อว่าจะเป็นแค่กองโจรทั่วไป!

การปิดล้อมเช่นนี้มันย่อมจะเป็นสิ่งที่เย่หยวนต้องรีบหนีออกไปให้ได้

ไม่เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์มันอาจจะถึงตายเข้าจริงๆ

และยังมีตัวหลงเสี่ยวเองที่จนถึงเวลานี้เขาก็ยังไม่ได้ลงมือใดๆ ออกมา!

“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดท่านอ่าวซู่จึงได้กังวลเรื่องของเจ้านัก ด้วยฝีมือของเจ้านี้ต่อให้จะเป็นในศึกทายาทมังกรเองก็คงอยู่ระดับสูงล้ำ ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือตัวเจ้ายังเป็นแค่เทพสวรรค์หนึ่งดาว! หึๆ แต่ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจปานใด วันนี้ก็คงต้องตายลงแล้วเด็กน้อย อย่าได้ขัดขืนให้เปลืองแรงอีกเลย!” หลงเสี่ยวหัวเราะบอก

การที่เขาพูดขึ้นมาข้างๆ เช่นนี้มันเป็นการรบกวนสมาธิของเย่หยวนที่ต้องหลบดาบรอบกายไม่น้อย

และแน่นอนว่ามันยิ่งจะทำให้สถานการณ์ของเย่หยวนลำบากหนักขึ้นไปอีกขั้น

จังหวะนั้นเองที่เทพสวรรค์หนึ่งดาวผู้หนึ่งได้เห็นถึงช่องว่างจากมุมของตนเอง ใช้ดาบยาวในมือแทงเข้ามาใส่หลงเสี่ยวฉุน

หลงเสี่ยวฉุนที่เห็นต้องหน้าถอนสี แต่มันก็สายเกินกว่าที่จะคิดตอบโต้ใดๆ แล้ว

ในวินาทีนั้นเย่หยวนได้พุ่งร่างเข้ามาบังหน้าหลงเสี่ยวฉุนไว้

ฉัวะ!

ดาบนั้นมันแทงเข้าไปยังกลางอกของเย่หยวน

“เย่หยวน!” หลงเสี่ยวฉุนร้องขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่เห็นต้องเบิกตากว้างอย่างดีใจเหมือนดั่งฉลามที่ได้กลิ่นเลือด ดาบแสงต่างๆ รอบด้านพุ่งแทงเข้ามาหาเย่หยวน

“ดีมาก!” เมื่อหลงเสี่ยวเห็นเช่นนั้นตัวเขาย่อมจะร้องบอกขึ้นมาด้วยความดีใจบ้าง

แต่ในเวลานั้นเองที่มันกลับเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมา!

เย่หยวนที่ถูกดาบนี้แทงเข้าไปกลับไม่ได้แสดงท่าทีใกล้ตายดั่งที่ทุกคนคิดใดๆ กลับกัน ตัวเขากลับยกมือขึ้นมาแทงดาบสวนออกมา

“ดาบสลักกลวงแท้!”

เสียงของเย่หยวนดังขึ้นมาพร้อมด้วยพลังของดาบอันรุนแรงพุ่งทำลายเทพสวรรค์หนึ่งดาวผู้นั้นจนแหลกหายไป

“ไป!”

และเย่หยวนก็ไม่ได้คิดจะหยุดแม้แต่เสี้ยววินาที เขารีบดึงตัวหลงเสี่ยวฉุนพุ่งทะยานออกไปจากวงล้อมด้วยช่องว่างที่เกิดขึ้นจากความตายของเทพสวรรค์ผู้นั้น

ภาพตรงหน้านี้มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครสามารถรับมือได้ทัน ต้องปล่อยให้เย่หยวนหลุดจากวงล้อมไปในที่สุด

“เย่หยวน จ-เจ้าไม่เป็นไรหรือ?”

หลงเสี่ยวฉุนนั้นมองดูดาบที่ปักอยู่กลางอกของเย่หยวนพร้อมถามขึ้นด้วยน้ำตาเอ่อ

เย่หยวนนั้นต้องเจ็บตัวเพื่อปกป้องนาง

ที่ถูกตีล้อมปิดทางหนีแต่ทีแรกมันก็เพราะว่าความดื้อด้านของนางเองด้วย

หลงเสี่ยวฉุนนั้นรู้สึกผิดอย่างมากอยู่ในใจ

แต่เย่หยวนกลับหัวเราะขึ้นพร้อมยกมือมาดึงดาบนั้นออก

เจ้าดาบนั้นมันไม่มีแม้แต่รอยเลือดใดๆ

เมื่อหลงเสี่ยวและพวกเห็นเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างก็ต้องเบิกตากว้าง

“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไร?” หลงเสี่ยวร้องบอก

เทพสวรรค์หนึ่งดาวแทงเทพสวรรค์หนึ่งดาวด้วยกันอย่างแรง เหตุใดเขาจึงกลับไร้บาดแผลใดๆ ได้เช่นนั้น?

หลงเสี่ยวฉุนเปิดปากอ้าค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

“หึๆ เจ้าคงลืมไปว่าร่างกายของข้านั้นมันสุดแกร่ง! มีหรือที่การโจมตีเพียงแค่นี้จะทำร้ายข้าได้?” เย่หยวนร้องบอกพร้อมเสียงหัวเราะ

หลงเสี่ยวหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ตัวเขานึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จนต้องร้องขึ้น “กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด! มัน…มันกลับมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้”

“อะไรนะ? บนโลกนี้มันยังจะมีใครที่บรรลุสำเร็จกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้ด้วยหรือ?”

“ข้าได้ยินมาว่ากายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนั้นมันทนทานหอกดาบใดๆ ได้สิ้น มีการป้องกันที่สมบูรณ์! หากไม่ได้มีพลังบ่มเพาะเหนือล้ำกว่าไปมากมายแล้วผู้คนก็คงไม่อาจจะทำร้ายผู้มีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้ ไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง!”

“ทุกขจุติระดับเจ็ดนั้นมันสุดแสนน่ากลัว! มันผ่านมาได้อย่างไรกัน?”

เสียงร้องของเหล่าเทพสวรรค์ดังขึ้นตามๆ กัน ดูท่าแล้วพวกเขาคงตกตะลึงกับคำว่ากายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนี้มาก

เผ่ามังกรนั้นมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งสุดล้ำเป็นทุน นั่นยิ่งทำให้พวกเขาทั้งหลายหลงใหลในพลังกายอย่างกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดอย่างมากล้ำ

ยอดคนมากมายปานใดคิดท้าทายมัน แต่ไม่เคยจะมีใครรอดไปได้

แต่วันนี้มันกลับมีผู้ครอบครองกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดมายืนตรงหน้า มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตื่นตะลึง?

หลงเสี่ยวต้องกัดฟันแน่น “ที่แท้นี่คือไม้ตายของเจ้าสินะเด็กน้อย! แต่มันก็จบกันเท่านี้แหละ!”

ปัง!

คลื่นพลังรุนแรงล้ำพุ่งทะยาน พลังของเทพสวรรค์สี่ดาวนั้นมันทำให้มิติรอบๆ เกิดความสั่นไหวขึ้นได้ไม่ยาก

แต่เย่หยวนเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีกังวลใดๆ ออกมาและยิ้มตอบไป “ไม้ตายของข้านั้นมีมากมาย! จากวินาทีนี้ไปข้าจะให้เจ้าได้เห็นพวกมันเอง รอลิ้มรสมันให้ดี…รสชาติของความเจ็บปวดน่ะ!”

ฟุบ!

เย่หยวนขยับร่างหายไปกับตาผู้คน

เวลาพูดคุยทั้งหลายนี้แท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่เย่หยวนตั้งใจถ่วงไว้

ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นมันก็เพื่อจะหนีจากวงล้อมของคนทั้งหลายให้พ้น

ตราบเท่าที่ตัวเขาบรรลุขึ้นมาได้ ด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติของของเขาแล้วคนทั้งหลายคงไม่อาจจะติดตามตัวเขาได้ทันอีกต่อไป

“เจ้าคิดอยากไป? มีหรือมันจะง่ายดายปานนั้น? รับดาบนี้ไป!”

ดาบสั้นๆ ในมือของหลงเสี่ยวถูกง้างขึ้นก่อนจะผสานพลังสายเลือดหนักหน่วงพุ่งทะยานตามหลังเย่หยวนมาติดๆ

แต่ในเวลานั้นเองร่างของเย่หยวนมันก็ได้หายไปอีกครั้ง!

ดาบอันรุนแรงสะเทือนฟ้าของหลงเสี่ยวนี้มันจึงไม่อาจทิ่มแทงสิ่งใดได้!

“ไม่ได้การแล้ว! เจ้าเด็กคนนี้มันคิดหลบหนีเข้าไปในร่องมิติ! ตามไปเร็ว!” หลงเสี่ยวร้องบอกด้วยสีหน้าหนักใจ

ภายในร่องมิตินั้นหลงเสี่ยวฉุนกำลังยิ้มหน้าบานออกมา

ก่อนหน้านี้ตอนที่เย่หยวนถูกทำร้ายนั้นตัวนางสั่นสะท้านไปทั้งกาย

แต่ในเวลานี้ท้องไส้ของนางมันได้อัดแน่นไปด้วยความปีติยินดีเหนือล้ำ

“ฮ่าๆๆ…ตื่นเต้นเสียจริง! เย่หยวน มันน่าตื่นเต้นจนเกินไปแล้ว!” หลงเสี่ยวฉุนร้องบอกขึ้นมาด้วยใบหน้าตื่นเต้นดีใจราวกับว่าลืมความกังวลใบหน้านองน้ำตาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนไปสิ้น

เมื่อเห็นท่าทางของสาวน้อยผู้นี้เย่หยวนเองก็ไม่รู้จะต้องตอบไปว่าอย่างไร

“เสี่ยวฉุน เจ้าอยากเล่นเกมหรือไม่?” เย่หยวนยิ้มถามขึ้น

“อยากๆ! จะเล่นอะไรดีเล่าเย่หยวน?” หลงเสี่ยวฉุนรีบตอบรับพร้อมยกมือขึ้นมาปรบรับ

ความคิดของสาวน้อยผู้นี้มันแตกต่างไปจากผู้คนอย่างมาก คนอื่นๆ หากได้ยินเช่นนั้นคงต้องยกมือมากุมขยับด่าว่าเย่หยวน

เวลาเช่นนี้ยังจะมาเล่นเกมใดอีกเล่า?

แต่ทั้งๆ ที่เป็นอย่างนั้นหลงเสี่ยวฉุนกลับยกมือขึ้นมาปรบรับทันทีที่ได้ยินคำว่าเล่น

“เอาล่ะ เช่นนั้นจากนี้ไปเจ้าต้องฟังที่ข้าพูดทุกสิ่งอย่าง! ในเมื่อคนทั้งหลายนั้นมันกล้ามาซุ่มทำร้ายเรา มันก็ต้องเตรียมตัวจ่ายคืนด้วยความเจ็บปวด!” เย่หยวนหรี่ตาลงพูดด้วยจิตสังหารหนักแน่น

หลงเสี่ยวฉุนพยักหน้าออกมาราวกับไก่ที่กำลังหิวข้าว “ว่ามาๆ! ข้าจะฟังเจ้าสิ้น! เจ้าวางใจเถอะ เพื่อชดเชยความผิดที่ข้าทำไว้ ข้าจะไม่ยั้งมือแน่นอน! เจ้าว่ามาเลยว่าเราจะเล่นอะไรกัน?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “ซ่อนหา!”

…………………