“มาแล้ว!”
เย่หยวนที่นั่งหลับตาอยู่กล่าวขึ้นมาโดยไม่สนเสียงร้องว่าที่ข้างหูของหลงเสี่ยวฉุน
เพราะเวลานี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในห้วงมิติ
หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปก่อนจะร้องตอบกลับมา “นี่ เจ้ายังจะใช้วิธีเช่นนี้มาหลอกข้าหรือ เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อ?”
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจและลุกขึ้นเดินออกไปมองดูยังป่าทึบตรงข้ามด้วยสีหน้าหนักใจ
ห่างออกไปนั้นเขาสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังกลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้ามา!
พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีเสียงเบาๆ ลอยมาตามลมเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกำลังพุ่งผ่านใบไม้มาด้วยความเร็วสูง
คนที่นำหน้ากลุ่มมานั้นมีคิ้วหนาดวงตาที่แหลมเฉียบดั่งเหยี่ยว แผลเป็นที่หางตาของเขานั้นมันลากยาวลงมาถึงคางเป็นใบหน้าที่ดุดันน่ากลัวมาก
ชายผู้นั้นร้องกล่าวขึ้นมา “ทุกคนไปล้อมตำแหน่งไว้ให้ดี เจ้าเด็กคนนี้มันรู้แนวคิดแห่งห้วงมิติ อย่าให้มันหนีไปได้!”
“ขอรับท่านหลงเสี่ยว!” ผู้คนทั้งหลายร้องตอบ
เมื่อคนทั้งหลายนี้ปรากฏออกมาต่อหน้าหลงเสี่ยวฉุน นางก็ถึงกับต้องยืนนิ่ง
เพราะพวกเขาทั้งหลายนี้มีคลื่นพลังรุนแรงไม่น้อย แต่ละคนต่างล้วนเป็นเทพสวรรค์สิ้น!
โดยที่ชายผู้นำมานั้นเป็นถึงเทพสวรรค์ขั้นกลาง!
เย่หยวนนั้นเตรียมใจรับการโจมตีมานานจึงไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตกใจใดๆ และกล่าว “เจ้าอ่าวซู่ส่งเจ้ามา?”
หลงเสี่ยวหัวเราะลั่นขึ้น “เจ้าเด็กน้อยคิดอยากล้วงข้อมูลหรือ? แต่…ช่างมันสิ เพราะว่าอย่างไรเสียวันนี้เจ้าก็ตายแน่! ใช่แล้วเป็นท่านซู่ที่ส่งเรามา! ดูท่าเจ้าแล้ว เจ้าไม่ตื่นตกใจใดๆ เลย?”
ในความคิดของหลงเสี่ยวนั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นแค่หนูติดจั่นไม่มีทางจะรอดชีวิตออกไป
แม้ว่าเหยื่อคนนี้จะเก่งกาจในแนวคิดแห่งห้วงมิติปานใดแต่หากพวกเขาวางกำลังปิดทางหนีไว้เป็น มันก็ย่อมจะไม่มีทางหนีรอดออกไปได้
และคนทั้งหลายนั้นเวลานี้มันก็อยู่ห่างเย่หยวนไปแค่ไม่กี่ร้อยเมตร
ในระยะเช่นนี้แล้วเย่หยวนย่อมจะไม่มีโอกาสใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติหลบหนีใดๆ!
แต่เรื่องการตอบรับของเย่หยวนนี้มันก็ทำให้หลงเสี่ยวประหลาดใจไม่น้อย
เพราะในเมื่อเย่หยวนมานั่งรอเช่นนี้ ตัวเขาก็น่าจะไม่รู้ได้ว่านี่คือแผนของอ่าวซู่ แต่ทำไมเย่หยวนคนนี้กลับทำหน้าตาเฉยราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่เขาคาดการณ์มาก่อนแล้ว?
เรื่องนั้นมันไม่อาจหาคำอธิบายได้!
หากหลงเสี่ยวนั้นได้รู้ว่าคนที่ช่วยรั้งเหยื่อไว้มันก็คือตัวเหยื่ออย่างหลงเสี่ยวฉุนเอง ตัวเขาคงร้องไห้น้ำตาซึม
ได้ยินคำของหลงเสี่ยว ทางหลงเสี่ยวฉุนก็เงียบปากไปทันที
หลงเสี่ยวฉุนนั้นไม่คิดเชื่อง่ายๆ จึงได้พยายามพูดขัดขึ้น “ไม่มีทางล่ะ! นี่มัน…มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ท่านอ่าวซู่นั้นเป็นคนดี พวกเจ้าแหละใส่ร้ายท่าน!”
เย่หยวนนั้นถึงกับต้องส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “เฒ่าคนนั้นมันอยู่มานับล้านๆ ปี แค่ทำตัวเป็นลุงใจดีหลอกเด็กน้อยอย่างเจ้ามันจะไปยากอะไรเล่า?”
หลงเสี่ยวฉุนไม่อาจจะรับความเป็นจริงได้ นางหันหน้ามามองดูเย่หยวนด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เวลานี้นางได้รู้แล้วว่าใครกันแน่ที่เป็นคนผิด
“ขอโทษ ข้า…ข้าผิดไปแล้ว! เจ้า…เจ้าหนีไปเถอะ! อย่าได้กังวลเรื่องข้าเลย!” หลงเสี่ยวฉุนร้องบอก นางนั้นใสซื่อแต่ก็ไม่ได้โง่เง่า
นางนั้นเข้าใจแล้วว่าตัวนางทำผิดต่อเย่หยวน
อ่าวซู่นั่นเป็นแค่คนเจ้าเล่ห์จอมโกหก!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “จะบ้าหรืออย่างไร เจ้านั้นคือน้องข้า มีหรือที่ข้าจะทิ้งเจ้าลงไว้และหนีไปเองได้?”
หลงเสี่ยวหัวเราะลั่นขึ้นมา “หนี? เด็กน้อย เจ้าคงยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตนเองใช่หรือไม่! ต่อหน้าเทพสวรรค์ผู้นี้เจ้าคิดจะหนีก็หนีได้หรือ?”
หลงเสี่ยวฉุนทำหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมมองดูที่แผลเป็นบนหน้าชายคนนี้ “ตาเหยี่ยว แผลยาว เจ้า…เจ้าคือหลงเสี่ยว!”
หลงเสี่ยวหัวเราะลั่นขึ้นมา “ดูท่านามของเทพสวรรค์ผู้นี้จะโด่งดังไม่เบา!”
หลงเสี่ยวฉุนร้องบอกขึ้น “เย่หยวน หนีเร็ว! มันผู้นี้มีชื่อว่าฆ่าสังหารคนอย่างไม่กะพริบตา! ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเก่งกาจมากล้ำเหนือกว่าคนระดับเดียวกันมหาศาล! มันนั้นสร้างเรื่องราวชั่วช้าไว้มากมายในปราการมังกรม่วงทั้งยังถูกคนจากปราการนิลต่างๆ มากมายไล่ล่า หลังจากนั้นมันยังไปทำเรื่องในปราการปฐพีอีกไม่ถ้วน ว่ากันว่าตอนที่มันเป็นเทพสวรรค์สามดาวนั้นตัวมันเคยหนีการไล่ล่าจากห้าเทพสวรรค์สามดาว แต่เทพสวรรค์สามดาวทั้งห้าที่ไล่ล่ามันกลับต้องตายลงสิ้น!”
หากหลงเสี่ยวนั้นเป็นแค่เทพสวรรค์หรือสามดาว หลงเสี่ยวฉุนเองก็คงไม่แสดงหน้าตาแตกตื่นเช่นนี้ออกมา นางรู้ถึงฝีมือของเย่หยวนดี
ต่อให้เขาจะไม่ชนะ มันก็ยังพอหาทางหนีได้
แต่หลงเสี่ยวนั้นเป็นถึงยอดฝีมือเทพสวรรค์สี่ดาว ที่สำคัญเขายังขึ้นชื่อว่าเก่งกาจเหลือล้นนางจึงไม่อาจจะเชื่อมั่นใจตัวเย่หยวนได้อีก
หลงเสี่ยวฉุนนั้นมักจะไปขอร้องอ้อนหลงฉือให้เล่าเรื่องราวของเมืองบูรพาโลกเสมือนและโลกภายนอกให้ฟังอยู่เสมอๆ
หลงเสี่ยวนั้นมีชื่อเสียงชั่วร้ายในเขตแดนของปราการมังกรม่วงอย่างมาก หลงฉือเองก็เคยได้พูดถึงมาทำให้นางรู้
“หึๆ ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเทพสวรรค์ผู้นี้เคยผ่านอะไรมาบ้าง เจ้าก็คงรู้ใช่หรือไม่ว่าวันนี้คงตายแน่แล้ว? เพื่อจัดการกับเจ้านี้พ่อเจ้าผู้นี้ได้พายอดคนมาด้วยมากมาย!” หลงเสี่ยวหัวเราะลั่น
ในหมู่เทพสวรรค์ทั้งหลายที่ล้อมคนทั้งสองไว้นั้นมันมีเทพสวรรค์สามดาวอยู่ถึงสามคน!
ส่วนเทพสวรรค์สองดาวนั้นมีราวเจ็ดถึงแปดคน เทพสวรรค์หนึ่งดาวเองก็มีราวเจ็ดถึงแปดคนเช่นกัน
เมื่อรวมกับตัวหลงเสี่ยว เทพสวรรค์สี่ดาวผู้นี้แล้วกองกำลังที่ออกมาล่าในครั้งนี้มันก็นับได้ว่ายิ่งใหญ่จนเกินพอดี
นั่นจึงทำให้เย่หยวนต้องหรี่ตาลงอย่างหนักใจ
กำลังของเขาในเวลานี้มันสามารถจัดการเทพสวรรค์หนึ่งดาวลงได้อย่างง่ายดาย
แม้อีกฝ่ายจะเป็นเทพสวรรค์สองดาวเขาก็คงสู้เอาชนะได้
แต่เมื่อเจอกับเทพสวรรค์สามดาวแล้วมันคงเป็นเรื่องที่หนักหนาเอาเรื่อง
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียแต่ละดาวของอาณาจักรเทพสวรรค์นั้นมันก็ห่างกันอย่างยิ่งใหญ่ เกินกว่าที่จะข้ามได้ง่ายๆ
เย่หยวนนั้นบรรลุขึ้นอาณาจักรพิภพโกลาหล ผสานปราณ กายและจิตเข้าด้วยกันพร้อมๆ กับฝีมือการต่อสู้ที่เหนือคนเขาจึงพอที่จะก้าวข้ามต่อสู้ในอาณาจักรนี้ได้
แต่หากต้องรับมือกับเทพสวรรค์มากมายปานนี้พร้อมๆ กัน ทั้งเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้ยังมีพลังบ่มเพาะสูงส่งกว่าเขา มันคงไม่เป็นเรื่องง่ายๆ อีกต่อไป
ส่วนดาบชั่วลมปราณถงเทียนนั้นมันเป็นสุดยอดไม้ตายของเขาในเวลานี้
แต่กระบวนท่านี้จะสังหารเทพสวรรค์สี่ดาวอย่างหลงเสี่ยวลงได้หรือไม่มันก็ไม่แน่นัก
หากพลาดไปแล้วผลที่ตามมามันคงเกินรับ
เพราะกระบวนท่าเช่นนั้นตัวเขาเองก็ไม่อาจจะใช้มันออกมาสุ่มๆ ได้
“ดูท่าอ่าวซู่จะลงมือหนักเพื่อคิดจัดการข้าเสียแล้ว! แต่ว่า…เจ้าคิดหรือว่าการสังหารข้ามันจะง่ายดายปานนั้น?” เย่หยวนยิ้มบอก
หลงเสี่ยวยิ้มตอบกลับมา “แน่นอนว่าเทพสวรรค์ผู้นี้รู้ว่ามันไม่ง่าย! ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะพาเทพสวรรค์มากมายปานนี้มาจัดการเทพสวรรค์หนึ่งดาวอย่างเจ้าหรือ? ในเมื่อเทพสวรรค์ผู้นี้ลงมือแล้วข้าก็ย่อมจะทำอย่างสุดความสามารถ! พี่น้องทั้งหลาย จัดการมัน!”
ภายใต้คำสั่งนี้เทพสวรรค์ทั้งหมดทั้งสิ้นเกือบยี่สิบคนก็ได้พุ่งเข้ามาโจมตีพร้อมๆ กัน!
แน่นอนว่าคลื่นพลังที่ออกมามันย่อมสะเทือนแผ่นดิน
เทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างเป็นยอดฝีมือที่ระเบิดภูเขา เผาทะเลได้ง่ายๆ ด้วยความร่วมมือของคนระดับนั้นเกือบยี่สิบคนมันย่อมจะทำให้เกิดคลื่นพลังเหนือล้ำจินตนาการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพสวรรค์สามดาวทั้งสามคนนั้นที่ตัดดาบผ่านมิติมาถึงตัวเย่หยวนแทบจะในทันที
“ระวัง!”
เย่หยวนร้องบอกก่อนจะลากตัวหลงเสี่ยวฉุนหายเจ้าไปในห้วงมิติ หลบดาบของทั้งสามอย่างหวุดหวิด
อันตราย!
เย่หยวนนั้นตื่นตะลึงอย่างมากเช่นกัน เพราะดาบของทั้งสามเทพสวรรค์นี้มันรุนแรงเก่งกาจกว่าที่เห็นมาก
แม้แนวคิดของพวกเขาจะไม่ได้สูงล้ำแต่คนทั้งสามนี้ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ล้วนแล้วแต่เป็นทหารที่ผ่านศึกมานับไม่ถ้วน การใช้แนวคิดของพวกเขานั้นมันอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ
ผสานกับพลังบ่มเพาะที่เหนือกว่าและการรวมมือของคนทั้งสามที่ลงตัวมันจึงได้กลายเป็นความอันตรายอย่างถึงที่สุด!
ดูท่าคนทั้งหลายนี้จะฝึกฝนฝีมือจากการตามล่าของเหล่ามังกรแทน
และมันมิใช่แค่คนทั้งสามนี้ เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็มิใช่มือสมัครเล่นกันสักคน!
เย่หยวนได้แต่ต้องนึกว่าเหล่าคนที่เรียกตัวเองว่ายอดอัจฉริยะหากมาเจอคนทั้งหลายนี้พวกเขาคงได้ตายอย่างไม่รู้ว่าโดนอะไรเข้าไป!
เย่หยวนนั้นตื่นตกใจ แต่ทางหลงเสี่ยวเองก็ตื่นตกใจไม่น้อยไปกว่าเย่หยวนเช่นกัน!
เพราะภายใต้การผสานงานของพี่น้องทั้งหลายนี้รวมไปถึงเทพสวรรค์สามดาวทั้งสามนั้น หากพูดตามสามัญสำนึกปกติคนทั้งสองย่อมไม่อาจอยู่รอดได้เกินสามกระบวนท่า
แต่เย่หยวนกลับใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาได้อย่างน่ากลัว
เวลานี้มันผ่านไปกว่าสิบกระบวนท่าแล้วแต่คนทั้งหลายก็ยังไม่อาจทำได้แม้แต่แตะชายเสื้อของเย่หยวน!
ไหนจะเรื่องที่เย่หยวนต้องแบกหลงเสี่ยวฉุนที่เป็นภาระนั้นหลบไปหลบมาอีก
…………………