ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 863 ไม่คิดจับเชลย ไม่ยอมรับการยอมแพ้

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ณ ดินแดนเพิงหินโม่ ทางเหนือของทะเลหวงเจีย

ที่อยู่ของหอกระบี่ทะเลเหนือ ข่ายกระบี่ที่หอกระบี่ทะเลเหนือสืบทอดมามากกว่าพันปี ในตอนนี้ถูกกระตุ้นโดยสมบูรณ์ ทำงานอย่างเต็มกำลัง

เห็นแต่เพียงมีปราณกระบี่พุ่งสู่หมู่เมฆ ครอบคลุมดินแดนเพิงหินโม่ทั้งผืน

แต่ว่าปราณกระบี่เหล่านี้ในปัจจุบันกลับถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ เสื่อมสลายลง

เหมือนกับอาวุธคมศาสตราเทพมากมาย ที่สุดท้ายไม่อาจทนการกัดกร่อนจากกาลเวลาอันยาวนาน มีรอยสนิมขึ้นเต็มไปหมด

เงาร่างสายหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศ กระตุ้นประกายกระบี่ ชี้นำปราณกระบี่จากข่ายกระบี่ พัดเป็นคลื่นคลั่งหลายกลุ่ม

เป็นกู้หง ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น ผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือ

พูดกันถึงด้านระดับ ในขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนบนทะเลหวงเจีย เขาเป็นผู้ที่มีระดับพลังสูงที่สุด

ตอนนี้เขาควบคุมชัยภูมิของข่ายกระบี่บนดินแดนเพิงหินโม่ แสดงพลังของตัวเองออกมา อานุภาพมหาศาลจนแทบจะพลิกคว่ำท้องสมุทรได้ทีเดียว

ทว่ากระบี่เทพสมุทรที่น่าอัศจรรย์นี้กลับดูซีดเซียวไร้กำลัง เนื่องจากการสาดส่องจากประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำซึ่งครอบคลุมฟ้าดินอยู่

ประกายกระบี่ที่ดูสงบนิ่งเหมือนกับมีขนาดเล็กน้อยจนไม่อาจสังเกต ทว่ากลับมีสภาวะทำลายไม้ไผ่ แหวกคลื่นทะเลสูงเทียมฟ้า โจมตีใส่หอกระบี่ทะเลเหนือบนเกาะเพิงหินโม่โดยตรง

กู้หงใบหน้าไร้ความกลัวเกรง แต่สายตาฉายแววสิ้นหวัง

วันนี้ ข่ายกระบี่บนดินแดนเพิงหินโม่ถูกทำลาย หอกระบี่ทะเลเหนือพินาศ

ณ ยอดเขานภากาศของเขากว่างเฉิง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกนั่งหันหน้าเข้าหาพวกหยวนเจิ้งเฟิง ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด

“แน่ใจหรือว่าเป็นผู้วิเศษเซิง” หยวนเจิ้งเฟิงถามเสียงทุ้ม

ฟางจุ่นพยักหน้า “ข่าวที่ได้มาบอกเช่นนั้นขอรับ”

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเอ่ยว่า “คิดทำลายเกาะมนุษย์สำริดโดยอาศัยแค่หนึ่งม้าหนึ่งหอก ต่อให้คังผิงใช้กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนก็ไม่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม มีแต่ต้องเป็นผู้วิเศษเซิงที่มีพลังฝึกปรือสูงกว่าเท่านั้น”

“ถึงแม้ว่าคังผิงจะเคยเรียกเขาว่า ‘ผู้วิเศษเซิง อาจารย์ผู้ล่วงลับ’ จึงอาจจะเป็นยอดฝีมือในสำนักที่เป็นคนรุ่นเดียวกันกับผู้วิเศษเซิง กระนั้นข้าเชื่อว่าผู้วิเศษเซิงยังไม่ตาย แต่ได้มายังทะเลหวงเจียมากกว่า ไม่เช่นนั้นคงไม่ผ่านด่านเขาโถงทองง่ายดายเพียงนี้”

หนึ่งร้อยกว่าปีก่อนหน้านี้ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องได้เข้ามาในทะเลหวงเจียเป็นครั้งแรก คนที่มีระดับพลังฝึกปรือสูงที่สุดก็คือเสวียนเหวิงอ๋อง ไท่จู่แห่งต้าต้าเสวียนที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง

ในตอนนั้นผู้วิเศษเซิงกับนักพรตสือต่างอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น

ในบรรดาคนทั้งสามคน ผู้วิเศษเซิงไม่เพียงแค่ฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลาอันเป็นการสืบทอดสายหยกพิสุทธิ์เท่านั้น เขายังมีพรสวรรค์ล้ำเลิศ มีพลังเหนือกว่าจอมยุทธ์ในระดับเดียวกัน

เมื่อพูดถึงการต่อสู้โรมรันในอดีต ผู้วิเศษเซิงที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดไม่แน่ว่าจะด้อยกว่าเสวียนเหวินอ๋อง ที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด

ในปัจจุบันผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว ดูจากความเหี้ยมหาญของผู้วิเศษเซิงที่ตีเกาะมนุษย์สำริดแตกได้ไวขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเขาจะมีพลังเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง

นอกจากนี้ การมาในครั้งนี้ของเขาจะต้องมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงด้วยแน่นอน!

หยวนเจิ้งเฟิงมองร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก “อีกฝ่ายโจมตีทันทีโดยไม่ป่าวประกาศ ต้องการทำลายพวกเราทีละคน”

ร่างแยกสมุทรสุดขอบนวดขมับของตัวเองเบาๆ “แรกง่ายหลังยาก ฆ่าทิ้งให้หมดสิ้น นอกจากนี้ยังไม่สนความแค้น สยบสภาวะของทะเลหวงเจีย”

เทียบกันแล้ว ตอนนี้เขากว่างเฉิงมีความแค้นกับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องและผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงล้ำลึกที่สุด

คังฮูหยินเป็นผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงเหมือนกับพวกคังผิง เฮ่อตงเฉิง และกู้จาง

เป็นเพราะการตายของนาง หอกระบี่ทะเลเหนือกับสำนักแสงสว่างจึงได้รับการแก้แค้น

และความขัดแย้งระหว่างเกาะมนุษย์สำริดกับราชวงศ์ต้าสเวียนอ๋อง ดูจะน้อยกว่ามาก

หากกล่าวกันตรงๆ ยามที่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมีสภาวะยิ่งใหญ่ไม่อาจต้านทาน เกาะมนุษย์สำริดใช่ว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่จะขอยอมแพ้

แต่ว่าครั้งนี้ผู้วิเศษเซิงกลับเลือกเกาะมนุษย์สำริดก่อน!

เหมือนกับเป็นการประกาศที่ไร้เสียง ว่าข้าไม่ต้องการจับเชลย ไม่ยอมรับการยอมแพ้ แต่จะสยบทะเลหวงเจีย!

ไม่ใช่คนที่ทำตามข้ารอด คนขัดขืนข้าตายอีกแล้ว แต่ถ้าหากเคยเป็นศัตรูกับข้า ล้วนต้องถูกฆ่าไม่มีละเว้น

สวีเฟยขมวดคิ้ว “โอหังเกินหน่อยกระมัง คนนอกอย่างเขาต้องการสร้างสภาวะครอบครองฝ่ายเดียวบนทะเลหวงเจีย ประมุขอาคเนย์กับเขาโถงทองไหนเลยจะยินยอม เขาโถงทองในตอนนี้ไม่ได้มีแค่ราชากระบี่ภูผาเงาซึ่งเป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดเพียงคนเดียวที่อยู่ที่ทะเลหวงเจีย”

ฟางจุ่นว่า “หมายความว่าบุคคลที่อยู่ด้านหลังพวกผู้วิเศษเซิงออกแรงแล้ว”

คนที่กดดันประมุขทั้งสิบบนโลกซ้อนโลกได้ มีแค่สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเอ่ยว่า “หากคิดสะกดจริงๆ ย่อมไม่ง่ายดายปานนั้น ประมุขอาคเนย์ไม่ได้หัวเดียวกระเทียบลีบ”

“สาเหตุที่สำคัญกว่า คือในความขัดแย้งระหว่างเขาโถงทองและเขตเพลิงทักษิณในตอนนี้รุนแรงขึ้นมาแล้ว เขตเพลิงทักษิณใช้กองทัพใหญ่กดดันอยู่ทางตะวันตกด้านนอกทะเลหวงเจีย สมาธิของพวกหลินฮั่นหัวในตอนนี้ต่างรวมอยู่ด้านนอก”

พวกเยี่ยนจ้าวเกอให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวทางด้านนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน

ดังนั้นหลังจากที่หลินฮั่นหัวมุ่งความสนใจไปที่เขตเพลิงทักษิณเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเขากว่างเฉิง หอกระบี่ทะเลเหนือ เกาะมนุษย์สำริด หรือสำนักความมืด ล้วนเพิ่มความระวังตัว ป้องกันไม่ให้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสร้างความลำบาก

เขากว่างเฉิงเคยเสนอให้ทั้งสามฝ่ายโยกย้ายกองกำลังมาอยู่ด้วยกัน แต่หอกระบี่ทะเลเหนือกับเกาะมนุษย์สำริดไม่ต้องการละทิ้งรากฐานของตัวเองเปล่าๆ เช่นนี้

ไม่ว่าจะเป็นเกาะมนุษย์สำริดที่มีมนุษย์สำริดสามตัวเฝ้าอยู่ หรือข่ายกระบี่บนดินแดนเพิงหินโม่ ก็เป็นความได้เปรียบด้านชัยภูมิที่มีพลังป้องกันแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

แต่ว่าครั้งนี้คู่ต่อสู้โจมตีดุดันเกินไป แม้จะมีแค่คนคนเดียว ก็เหี้ยมหาญถึงขีดสุด

เป็นเพราะการลอบโจมตี เกาะมนุษย์สำริดที่เคยมีชัยภูมิในด้านการป้องกันเป็นอันดับหนึ่งของทะเลหวงเจียจึงถูกตีแตก

ตัวเยี่ยนจ้าวเกอเข้าฌานอยู่ในโลกผืนสมุทร เยี่ยนตี๋เข้าฌานอยู่บนโลกซ้อนโลก

ถึงแม้ว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายเหมือนจะเป็นการเริ่มจากง่ายแล้วจบที่ยาก แต่ผู้ใดจะทราบว่ามีความตั้งใจวางแผนลวงหรือไม่

ถ้าหากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกออกไปสนับสนุนหอกระบี่ทะเลเหนือ แล้วอีกฝ่ายบ่ายหน้ามาโจมตีที่อยู่ของเขากว่างเฉิง เช่นนั้นผลลัพธ์ก็ยากจะคาดคิดแล้ว

ดังนั้นหลังจากได้รับข่าว เขากว่างเฉิงก็เพิ่มการเตรียมตัวและการป้องกันของตัวเอง ในขณะที่ภายในปรึกษาอย่างเร่งด่วน ก็ติดต่อกับหอกระบี่ทะเลเหนือ ให้พวกกู้หงละทิ้งข่ายกระบี่บนดินแดนเพิงหินโม่ รีบมารวมตัวกันที่ดินแดนจิตคุณธรรม

แต่ว่าจะทันหรือไม่ อีกฝ่ายจะยินยอมหรือไม่ ยังบอกไม่ได้

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกว่า “ตอนนี้ดูเหมือนว่า น่าจะเป็นการยินยอมอย่างหนึ่ง เขาโถงทองไม่ลงมือ ปล่อยให้ขุมกำลังด้านในทะเลหวงเจียต่อสู้กับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

“ทางฝ่ายราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแม้ว่าจะมีคนจากด้านนอกเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ในทะเลหวงเจีย ไม่อาจใช้ยอดฝีมือคนใหม่ ดังนั้นข้าคาดว่าคนที่ตีเกาะมนุษย์สำริดแตกผู้นี้ คือผู้วิเศษเซิงที่เคยจากไป แล้วกลับมายังทะเลหวงเจียอีกครั้ง”

ทุกคนด้านในวิหารใหญ่มีสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย

ในตอนนั้นเอง พลันมีการแจ้งข่าวเร่งด่วนจากการทำงานของวิชาพิเศษของสำนักส่งมา

“ข้ายังไม่ทันถึงเขตแดนของดินแดนเพิงหินโม่ แม้แต่คนของหอกระบี่ทะเลเหนือก็ยังไม่ทันเจอตัว กลับเห็นทางทะเลเหนือเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่แล้ว!”

พวกหยวนเจิ้งเฟิงได้ยินข่าวต่างกลั้นหายใจ

ผู้วิเศษเซิงหลังจากตีเกาะมนุษย์สำริดแตกแล้วก็ไม่ได้หยุดพัก โจมตีหอกระบี่ทะเลเหนือทันที!

เขามีพลังฝึกปรือล้ำเลิศ ความเร็วสูงส่ง อีกทั้งยังไร้คนขัดขวาง แค่เวลาสั้นๆ ก็เดินทางจากทางตะวันออกของทะเลหวงเจียไปถึงทางเหนือได้แล้ว

การส่งข่าวระหว่างเขากว่างเฉิง หอกระบี่ทะเลเหนือ เกาะมนุษย์สำริดช้ากว่าอย่างเห็นได้ชัด

ฟางจุ่นเงียบลงชั่วพริบตาหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “ไม่รู้ว่าหอกระบี่ทะเลเหนือจะทนได้นานเท่าไร ถ้าหากว่าถูกตีแตกในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน เช่นนั้นในช่วงที่ลูกศิษย์สำนักเราส่งข่าวไปมานี้ เกรงว่าเขาจะมาถึงดินแดนจิตคุณธรรมของพวกเราแล้ว”

หยวนเจิ้งเฟิงผุดกายขึ้นจากที่นั่ง “เกาะมนุษย์สำริดตีแตกได้ยากกว่าหอกระบี่ทะเลเหนือ แต่ก็ไม่อาจทนได้นานนัก ในตอนนี้ส่งกำลังเสริมไปก็ไม่ทันแล้ว ได้แต่หวังให้ฟ้าช่วยคุ้มครองพวกกู้หงแห่งหอกระบี่ทะเลเหนือหนีรอดได้”

“คู่ต่อสู้ในครั้งนี้เหนือกว่าอดีตที่ผ่านมามาก”

ในขณะที่ทุกคนคุยกัน ประกายน้ำที่พร่าเลือนชั้นหนึ่งก็ครอบคลุมขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของดินแดนจิตคุณธรรมแล้ว ม้วนพัดมาชนิดครอบฟ้าครอบดิน!