ตอนที่ 1096: ชิ้นส่วนของทักษะการต่อสู้ระดับเซียน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1096: ชิ้นส่วนของทักษะการต่อสู้ระดับเซียน

การฆ่าเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 สำหรับรุยจินนั้นเป็นเรื่องง่าย ๆ เขาไม่ได้มองไปที่เศษซากของยามะคนก่อนแม้แต่วินาทีเดียว กลับกัน เขากลับหันไปรอบ ๆ และมองไปยังเจี้ยนเฉินที่โชกเลือดแล้วถาม “เจี้ยนเฉิน เจ้าสบายดีหรือไม่ ? “

เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าไปลึกและสงบใจลงช้า ๆ ความแข็งแกร่งที่สุดยอดของรุยจินที่เพิ่งสังหารเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 ไปนั้นทำให้เจี้ยนเฉินตกใจอย่างมาก เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 เป็นขั้นสูงสุดของเซียนราชา มันมีความแตกต่างจากขั้นสูงสุด แต่ความแตกต่างนั้นก็เล็กน้อยมาก แต่ความแตกต่างมันมากเหลือเกินในกรณีของรุยจิน มันเหมือนฟ้ากับเหว

เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 ไม่สามารถที่จะต่อต้านรุยจินและไม่สามารถทำให้เขาแม้แต่บาดเจ็บได้

เจี้ยนเฉินส่ายหน้า “ข้าขอบคุณผู้อาวุโสรุยจินที่ห่วงใย ข้ายังไหวอยู่” น้ำเสียงของเจี้ยนเฉินอ่อนแอลงเล็กน้อย อาการบาดเจ็บของเขาจากการต่อสู้กับผู้อาวุโสเงานั้นไม่ได้มีผลกระทบกับเขามากเท่าไร ในอีกมุมหนึ่ง ฝ่ามือโจมตีจากยามะคนก่อนนั้นได้ทำให้เขาเจ็บหนัก ถ้าไม่ใช่เพราะร่างบรรพกาลของเขา เขาคงแหลกสลายไปนานแล้ว

ไป๋เต๋าบินมาข้างข้างเจี้ยนเฉิน ไข่มุกของหงเหลียนได้ป้องกันเสียงคำรามที่สั่นสะเทือนของรุยจินเอาไว้ให้ไป๋เต๋า เพราะว่าไข่มุกสามารถป้องกันการโจมตีทางวิญญาณได้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้รับผลกระทบ

“เซียงเทียน ในตอนนี้หอยามะก็ถูกทำลายล้างไปแล้ว การแก้แค้นให้ตระกูลไป๋ก็เสร็จสิ้นไปเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี่เกิดได้เพราะเจ้า เจ้าบาดเจ็บสาหัสในตอนนี้ ดังนั้นเจ้าควรรีบฟื้นฟูร่างกายให้ไว เพื่อว่าอาจจะมีปัญหาที่ตามมาในอนาคต” เสียงของไป๋เต๋าเต็มไปด้วยความห่วง แม้ว่าความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินจะทำให้เขาตกใจอย่างมาก แต่ในตอนนี้ก็ไม่ใช่เลาที่จะไปพูดถึงมัน

เจี้ยนเฉินพยักหน้า จากนั้น เขาก็สั่งให้เซียนผู้คุมกฎทั้งห้าที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาให้เก็บกวาดสนามต่อสู้ หลังจากนั้น เขาก็เข้าไปในวัตถุเซียน ในขณะที่รุยจินและอีกทั้งสองคนคอยดูแลวัตถุเซียนอยู่

เจี้ยนเฉินที่โชกเลือดนั่งอยู่กลางห้องภายในโถงในวังที่ตกแต่งอย่างดี เขาถูกอาบทั้งตัวไปด้วยพลังงานดั้งเดิมเข้มข้นมากของพลังเซียนธาตุแสง ซึ่งทำให้บาดแผลของเขานั้นฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

วัตถุจิตวิญญาณในชุดสีขาวบินอยู่เงียบ ๆ ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน เขาควบคุมพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงอยู่ ในขณะที่มันเข้าไปในร่างกายของเจี้ยนเฉินอย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับพลังฟื้นฟูของร่างบรรพกาลด้วยแล้ว แผลร้ายแรงของเจี้ยนเฉินก็เริ่มหายไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ

เจี้ยนเฉินไม่ได้ใช้พลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงของตัวเอง ในตอนที่เขาพัฒนาขั้นเป็นระดับ 7 ตอนแรก เขาไม่ได้หลอมรวมพลังงานดั้งเดิมเข้ากับวิญญาณของเขาได้มากนัก ดังนั้นพลังงานดั้งเดิมจึงสามารถหมดไปได้ ทุกสายพลังจะหายไปหลังจากที่เขาใช้มัน มันยากที่จะเติมพลังเข้าไปได้มากกว่าพลังบรรพกาลเสียอีก เขาจำเป็นต้องใช้พลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงของเขาในตอนนี้เพื่อเป็นรากฐานที่ทำให้เขากลายเป็นระดับ 8 ได้ในอนาคต

บนทวีปเทียนหยวน ความสามารถของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทุกคนเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิด มันถูกตัดสินให้เป็นแบบนั้นเมื่อพวกเขาล่วงรู้ ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงหลังจากที่เกิดไปแล้ว ดังนั้น มันจึงง่ายมากกว่าสำหรับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่จะพัฒนาได้ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ทั้งหมดจำเป็นต้องหลอมรวมพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงเข้าไปในวิญญาณเพื่อที่จะเป็นระดับ 7 ได้ การพัฒนาเป็นระดับ 8 ต้องสะสมพลัง มันต้องใช้พลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงจำนวนมหาศาลเพื่อเพิ่มคุณภาพของวิญญาณ นั่นคือความลับในการไปถึงระดับ 8

อย่างไรก็ตาม มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 8 ในโบราณกาล ในตอนนี้โลกนั้นขาดพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง ดังนั้น มันจึงมีสภาพไม่เหมาะสมสำหรับการกำเนิดเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 8

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินมีวัตถุเซียนที่กลั่นพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงได้เป็นพิเศษ เขามีความได้เปรียบอย่างเหลือล้น ดังนั้นการที่จะเป็นระดับ 8 ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

เจี้ยนเฉินหายดีหลังจากนั้น 2 ชั่วยาม เขาออกจากห้องไปหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้น เขาก็ถามวัตถุวิญญาณเกี่ยวกับสมาชิกหัวกะทิของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีที่เขาส่งเข้ามาในวัตถุวิญญาณนี้

“นายท่าน พวกเขาได้ต่อสู้กับสัตว์อสูรอย่างต่อเนื่อง และสั่งสมประสบการณ์ในการต่อสู้และทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของพวกเขา มีพวกเขาส่วนน้อยที่ตัดผ่านไปเป็นเซียนสวรรค์ในตอนนี้ ส่วนที่เหลือยังเป็นเซียนปฐพี” วัตถุจิตวิญญาณรายงาน

เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างพอใจ “พวกเขาก้าวหน้าได้ไวมากจริง ๆ ข้าไม่ได้ใช้สมบัติสวรรค์ที่มากมายขนาดนั้นไปอย่างสูญเปล่าแล้ว เมื่อพวกเขาอยู่ในขั้นสูงสุดของเซียนสวรรค์ ข้าจะส่งพวกเขากลับไปที่เมืองทหารรับจ้าง และให้เสี่ยวหลิงช่วยพวกเขาในการตัดผ่านเป็นเซียนผู้คุมกฎ วัตถุจิตวิญญาณ จำไว้นะว่าจะให้พวกเขาตายในนี้ไม่ได้”

“ข้าน้อยเข้าใจ แต่นายท่าน แม้ว่าสมบัติสวรรค์จะช่วยปรับปรุงร่างกายของพวกเขา แต่ร่างกายที่ไม่ดีพอนั้นไม่สามารถที่จะเป็นเซียนผู้คุมกฎได้ พวกเขาต้องมีความเข้าใจมากกว่านี้ และข้าก็ได้สังเกตดูพวกเขาทุกคนแล้ว ข้าพบว่าพวกเขาทั้งหมดเกือบทุกคนไม่มีหวังที่จะได้เป็นเซียนผู้คุมกฎ ขีดจำกัดของพวกเขาอยู่ที่เซียนสวรรค์เท่านั้น” วัตถุจิตวิญญาณเอ่ย

“เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นไปหรอก มีของที่มหัศจรรย์มากในอาณาจักรทะเลที่เรียกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลก มันมีคุณสมบัติที่มหัศจรรย์มากต่อวิญญาณ เมื่อดื่มมันเข้าไปแล้ว มันจะสามารถชดเชยเรื่องที่พวกเขาขาดไปได้” เจี้ยนเฉินพูดอย่างมั่นใจ เขามั่นใจทุกสิ่งในเรื่องนี้ คนกลุ่มนี้ได้ติดตามเขามาก่อนหน้าทุกคน พวกเขาเป็นกลุ่มคนเดียวกันที่เข้าร่วมกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเมื่อก่อนหน้านั้น ดังนั้น เขาจึงทุ่มทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูพวกเขา เขาต้องการที่จะพัฒนาให้กลุ่มนี้เป็นแกนหลักของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี

เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเมื่อเขาคิดไปถึงเรื่องที่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะมีเซียนผู้คุมกฎหลายสิบคนเป็นแกนหลักของพวกเขาในอนาคต

แม้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีในตอนนี้จะมีคนเพียงพอที่จะอยู่ในจุดสูงสุดได้ แต่มันก็ยังขาดในด้านของจอมยุทธที่เป็นศูนย์กลางไปมาก มันไม่ได้อ่อนแอหรือแข็งแกร่ง พวกเขายังเทียบไม่ได้กับตระกูลโบราณ อย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้ไม่ได้สร้างกันได้ในเวลาอันสั้น และมันจำเป็นต้องใช้เวลา

บู้ม!

ในตอนนี้เอง เสียงระเบิดก็สั่นไหวอีกโถงใกล้ ๆ แรงกดดันที่เกิดมาจากธรรมชาติกระจายออกไปรอบ ๆ มันทรงพลังและหนักแน่นมากเหมือนนายเหนือหัวที่สุดยอดกำลังลดตัวลงมาทำให้ทุกอย่างต้องสยบ มันสามารถทำให้ทุกคนตกใจได้

เจี้ยนเฉินยืนอยู่ด้านนอกโถงของเขา ในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่โถงซึ่งมีเสียงเกิดขึ้นมา เขายังเงียบอยู่

“นายท่าน สหายของท่านกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงทักษะการต่อสู้ระดับเซียนอยู่ เขาพยายามแบบนี้มากหลายครั้งแล้วในสองสามปีที่ผ่านมา เขาเกือบจะทำลายโถงไปหลายครั้ง ข้าต้องเสริมแกร่งให้โถงของเขาเป็นพิเศษ” วัตถุจิตวิญญาณพูดอย่างมีสีหน้าช่วยไม่ได้

“จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดได้ทิ้งทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเอาไว้ มันอาจจะเหนือกว่าทักษะการต่อสู้ที่เซียนราชาสร้างเอาไว้มาก ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายถ้านูบิสต้องการที่จะเปลี่ยนทกัษะการต่อสู้ระดับเซียนของคนเผ่าพันธุ์ทะเลให้เหมาะสมกับสัตว์อสูร อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะสำเร็จบางส่วนแล้วในตอนนี้ ข้าสงสัยว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหรก่อนที่จะทำสำเร็จจริงจริง” เจี้ยนเฉินพึมพำ แววตาของเขาระลึกถึงความหลัง นูบิสได้เก็บตัวฝึกฝนมาหลายปีแล้วในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดถึงเวลาที่พวกเขาสู้และดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยกัน

เจี้ยนเฉินออกไปจากมิติของวัตถุเซียน ในตอนที่เขาออกมายังโลกภายนอก เขตแดนมังกรของรุยจินก็หายไปแล้ว รอบ ๆ กลับสู่สภาพปกติ ในขณะที่ธงใหญ่ของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีก็ปักอยู่ที่จุดสูงสุดของโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำลาย มันปลิวไสวไปในสายลม แสดงถึงชัยชนะของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี

เซียนผู้คุมกฎ 5 คนมาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินและส่งแหวนมิติให้กับเขา พวกเขาพูด “หลังจากที่เก็บกวาดสนามรบเสร็จ แหวนมิติทั้งหมดและสมบัติในโถงศักดิ์สิทธิ์ถูกเก็บเอาไว้ในนี้แล้ว”

ทันทีที่เจี้ยนเฉินรับแหวนมิติมา รุยจินก็บินออกมาจากซากปลักหักพัง เขาถือแผ่นศิลาสี่เหลี่ยม 2 แผ่นที่กว้างและยาว 1 เมตรออกมา ในขณะที่เขามาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉิน เขาก็พูดออกมา “เจี้ยนเฉิน ซิว่านี่มันอะไร” เขาโยนศิลาทั้งสองไปให้เจี้ยนเฉินในขณะที่เขายิ้ม

เจี้ยนเฉินรับศิลาทั้งสองมาด้วยมือข้างเดียวและมือเขาก็ตกลงทันที ศิลาทั้งสองที่ไม่ใหญ่นั้นหนักมาก หนักมากกว่าทองเสียอีก มีภาพสลักอยู่ที่ศิลาชัดเจน แต่มันยังไม่สมบูรณ์

เจี้ยนเฉินยกศิลาทั้งสองขึ้นมาเพื่อตรวจดูภาพอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้น สายตาของเขาก็เป็นประกาย และเขาก็ดึงเอาแผ่นศิลาที่คล้ายคล้ายกันออกมาจากแหวนมิติ แผ่นหินทั้งสามมีขนาดและสีเดียวกัน แค่สิ่งที่สลักต่างกัน

“ชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ! ” เจี้ยนเฉินอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนในครอบครองของเขาที่เขาได้มาจากหลายหลายอาณาจักรจากการรวบรวมและโจมตีอาณาจักรเกอซุน เขาได้พบมันที่คลังสมบัติของอาณาจักรฉินกาน

“ถูกต้อง นี่เป็นชิ้นส่วนของทักษะการต่อสู้ระดับเซียน เหมือนมันจะถูกแบ่งเป็น 6 ส่วน” เฮยยู่พูดอย่างเฉยเมย ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนไม่มีค่าอะไรกับเจี้ยนเฉิน แต่มันมีค่ามากมากต่อกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี

เจี้ยนเฉินเก็บชิ้นส่วนทั้งสามก่อนที่จะขอบคุณเฮยยู่ จากนั้น เขาก็จากไปพร้อมทุกคน เจี้ยนเฉินส่งไป๋เต๋าเข้าไปในวัตถุเซียนเพื่อให้เขาได้พักฟื้นร่างกายอย่างเหมาะสม

เฮยยู่เปิดประตูมิติเพื่อไปยังตระกูลเจียงหยางในเมืองลอร์ หลังจากนั้น พวกเขาก็เข้าไปพร้อมกับเจี้ยนเฉิน

รอบ ๆ ตกอยู่ในความเงียบสงัดหลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว มีเพียงซากศพกองใหญ่และโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำลายเท่านั้นที่ยังอยู่ที่นั่น ลมอ่อน ๆ พัดผ่านมาและทำให้กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้งไปทั่ว

มีเพียงซากปรักหักพังและศพของพวกหอยามะซึ่งเป็นหนึ่งในสามองค์กรลอบสังหารที่ยิ่งใหญ่ของทวีปเทียนหยวนมากว่าแสนปีเท่านั้นที่เหลืออยู่

เจี้ยนเฉินให้เซียนผู้คุมกฎทั้งห้ากลับไปที่เมืองอัคนีด้วยตัวของพวกเขาเอง หลังจากที่พวกเขามาถึงที่ตระกูลเจียงหยาง หลังจากนั้น เขาก็ไปที่ห้องของไป๋หยุนเทียนด้วยตัวเอง เขาเข้าไปเห็นแม่ของกำลังนั่งอยู่บนเตียง ในขณะที่นางกำลังเย็บผ้าด้วยไหมสีทอง

“ท่านแม่ ! ” เจี้ยนเฉินเรียกออกไป แม้ว่านางจะมีอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว แต่ไป๋หยุนเทียนก็ยังมีรูปร่างหน้าตาเหมือนหญิงอายุยี่สิบกว่าปีอยู่ กาลเวลาไม่ได้ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าของนาง แต่นางดูเป็นผู้ใหญ่และมีเกียรติมาก