บทที่ 1032 ปวดใจเจียนตาย

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 1,032 ปวดใจเจียนตาย

หลิงตู้ฉิงปล่อยหลิวเฟ่ยเฟ่ยออกจากโลกของเขา จากนั้นเขายื่นหัวใจน้ำแข็งบรรพกาลให้กับนาง ซึ่งหลิวเฟ่ยเฟ่ยทราบทันทีว่าเขาต้องการให้นางทำอะไร

“ขอบคุณสามี!” หลิวเฟ่ยเฟ่ยหัวเราะ

“เอามันไปสร้างอาวุธเต๋าของเจ้า!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น

จากนั้นคนต่อมาที่หลิงตู้ปล่อยออกจากโลกของเขาคือ หลิงฟ่างหัว “ลูกพ่อ เจ้าเอาผลึกนี้ไปหลอมรวมเข้ากับประตูมิติของเจ้า เมื่อไหร่ที่เจ้าหลอมรวมมันเข้ากับประตูมิติของเจ้าได้สำเร็จ เจ้าจะสามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็น โลกเบื้องล่าง โลกเบื้องบน ยมโลก ดินแดนแห่งบาปหรือทุก ๆ ที่ในช่องว่างมิติได้อย่างอิสระ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงฟ่างหัวตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นางรีบรับผลึกใสทรงสี่เหลี่ยมปริศนามา จากนั้นก็เริ่มทำการหลอมรวมมันเข้ากับประตูมิติของนางทันที

แน่นอนว่าหลังจากนี้เมื่อนางหลอมรวมมันเข้ากับประตูมิติของนางสำเร็จเมื่อไหร่ ประตูมิติของนางจะกลายเป็นอาวุธเต๋าทันที

ส่วนชิ้นสุดท้าย แผ่นกระเบื้องปริศนา หลิงตู้ฉิงเรียกมี่ไลออกมาจากโลกของเขาและมอบมันให้กับนาง

จากนั้นหญิงสาวทั้งสามก็เริ่มทำการสร้างอาวุธเต๋าของตัวเองอย่างตั้งใจ ซึ่งหลิงตู้ฉิงก็นั่งรออยู่ไม่ห่างข้าง ๆ พวกนางต่อหน้าโจวหยู่

100 ปีผ่านไปในพริบตา โจวหยู่เอ่ยขึ้นทันที “เอาล่ะ ได้เวลาที่เจ้าจะทำให้ข้าปวดใจแล้ว”

“ไม่มีปัญหา!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาเรียกหลิงฟ่างหัวให้เดินเข้ามาและพูดว่า “นางคือลูกสาวของข้า ลูกพ่อเจ้าแสดงอาวุธเต๋าของเจ้าให้เขาดูที”

“รับทราบ!” หลิงฟ่างหัวพยักหน้า “ผู้อาวุโส ท่านจับตาดูมันให้ดี ๆ นะ”

เมื่อพูดจบ นางเอาประตูมิติมาตั้งไว้ตรงหน้าทันที ซึ่งตอนนี้ผลึกใสสี่เหลี่ยมที่หลอมรวมเข้ากับประตูมิติมันได้ถูกติดตั้งไว้ตรงจุดบนสุดของซุ้มประตู

เมื่อนางโคจรพลังของนางเข้าไปยังประตู ผลึกใสเปล่งประกายทันที จากนั้นมันฉายภาพภูมิประเทศของทุกโลกแบ่งแยกกันไปเพื่อให้เลือกว่าจะไปที่โลกไหนต่อหน้าทุกคน และเมื่อเลือกโลกเสร็จ มันจะฉายภาพอาณาเขตต่าง ๆ ที่จะเดินทางไปให้เลือกอีกรอบ และเมื่อเลือกอาณาเขตเสร็จ ภาพจะเจาะลึกไปที่อาณาเขตนั้น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดจุดได้อย่างละเอียดว่าจะเดินทางไปยังจุดไหนของอาณาเขตนั้น ๆ

เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวหยู่แสดงสีหน้าโง่งมพร้อมกับอุทานว่า “เจ้าเพิ่งเอาสมบัติมิติที่ล้ำค่าที่สุดของข้าไป!”

ถึงแม้ว่าหัวใจน้ำแข็งบรรพกาลจะถือว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่าจนแทบจะไม่มีเปรียบได้ แต่เมื่อโจวหยู่เห็นว่าผลึกใสทรงสี่เหลี่ยมนี้มันทำอะไรได้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าผลึกใสนี้มันล้ำค่ามากกว่าหัวใจน้ำแข็งบรรพกาลซะอีก!

ในตอนนี้โจวหยู่เริ่มจะปวดใจขึ้นมาหน่อย ๆ แล้ว

หลิงตู้ฉิงหัวเราะในลำคอ จากนั้นเขาเรียกมี่ไลเข้ามาหา

“นางคือภรรยาของข้า มี่ไล” หลิงตู้ฉิงแนะนำภรรยาของเขาเองด้วยรอยยิ้ม

มี่ไลพยักหน้าทักทายโจวหยู่ “ยินดีที่ได้พบท่านสหายเต๋า!”

ในฐานะที่ในอดีตนางเองก็เป็นจักรพรรดิเทพ ดังนั้นนางจึงมีคุณสมบัติพอที่จะเรียกโจวหยู่ว่า ‘สหายเต๋า’

“ไหนรีบแสดงให้ข้าดูหน่อยว่าไอ้กระเบื้องนั่นมันคืออะไร?” โจวหยู่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าอดรนทนไม่ไหว

มี่ไลยิ้ม จากนั้นนางหยิบอาวุธของนางออกมา ซึ่งมันมีรูปร่างเป็นเหมือนกงจักร ซึ่งมีคมอยู่ 24 แฉก

“นี่คืออาวุธเต๋าของข้า ข้าตั้งชื่อให้มันว่ากงจักรบงการเวลา!” มี่ไลเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

จากนั้นเมื่อนางโคจรพลังของนางเข้าไปยังกงจักร จู่ ๆ สภาพแวดล้อมรอบ ๆ กายของทุกคนก็เปลี่ยนไปแบบฉับพลันราวกับว่าเวลาเพิ่งผ่านไป 10,000 ปีภายในพริบตา จากนั้นจู่ ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเป็นปัจจุบันเหมือนเดิม และจากนั้นบริเวณรอบ ๆ ก็ถูกย้อนเวลากลับไปอีก 10,000 ปี และต่อมาทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง

ภายใต้เขตแดนอาวุธเต๋าของนาง มี่ไลสามารถควบคุมกาลเวลาได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเดินหน้า ถอยหลัง เร่งเวลา หน่วงเวลา ทุกอย่างที่เกี่ยวกับกาลเวลานางสามารถควบคุมได้ทั้งหมด

“แม่งเอ๊ย พวกเจ้ามันไอ้พวกหัวขโมย รีบ ๆไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวเลย ไป!” โจวหยู่ทนไม่ไหวอีกแล้วเขาตวาดขึ้นเสียงดังลั่นทันที

ในตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าสมบัติที่เขาเสียไปมันล้ำค่าแบบไม่มีอะไรเทียบได้ขนาดไหน แน่นอนว่าขณะนี้เขาปวดใจจนแทบจะกระอักเลือด!

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าควรจะยินดีมากกว่าที่ได้เห็นเต๋ามิติและเต๋าแห่งกาลเวลาระดับสูงสุดกับตาตัวเองแบบนี้ เอาล่ะตอนนี้ข้าเสร็จธุระแล้วงั้นข้าขอตัวก่อนล่ะ!”

โจวหยู่ไม่มีอารมณ์จะตอบโต้อะไรทั้งนั้น เขาโบกมือส่งสัญญาณให้พวกหลิงตู้ฉิงรีบ ๆ จากไปให้พ้นสายตาของเขาด้วยท่าทีหงุดหงิด

หลิงตู้ฉิงไม่ได้ใส่ใจอะไรกับท่าทีของโจวหยู่ เขายิ้มให้ จากนั้นก็พาครอบครัวของเขาทั้งหมดเดินทางออกจากดินแดนแห่งบาป

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หลิงตู้ฉิงจากไป โจวหยู่ก็รีบตั้งสติของตัวเองให้ใจเย็นลง จากนั้นเขาเริ่มวิเคราะห์เต๋ามิติและเต๋าแห่งกาลเวลาที่เขาเห็นเมื่อครู่รวมไปถึงเต๋าแห่งอารมณ์ที่หลิงตู้ฉิงใช้ผ่านหกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติ เพื่อเอามาปรับใช้งานกับเต๋าของเขาเอง

อีกด้านหนึ่ง มี่ไลอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น “สามี คนผู้นั้นเขาจะเป็นอะไรรึเปล่า?”

“เขาไม่เป็นอะไรหรอก เขาคือตัวตนที่เรียกได้ว่าเกือบจะแข็งแกร่งที่สุดในทุกโลก เรื่องของแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก อันที่จริงแล้วเขาเองก็ได้ประโยชน์จากเราไปไม่น้อยด้วยซ้ำ ข้ามั่นใจว่าหลังจากนี้เขาคงจะใช้ความเข้าใจจากเต๋าของพวกเราก้าวข้ามไปสู่ระดับใหม่ของตัวเขาเองได้แน่นอน!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ

มี่ไลพยักหน้า อันที่จริงตอนที่นางเห็นโจวหยู่เมื่อครู่ นางก็สัมผัสได้เช่นกันว่าโจวหยู่นั้นไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย

หลังจากคุยกันเสร็จ หลิงตู้ฉิงส่งมี่ไลกลับเข้าไปในโลกของเขา จากนั้นเขาหันไปคุยกับหลิงฟ่างหัว “ลูกพ่อ ตอนนี้เจ้าควรจะลองหาเจ้ายมโลกดูสักหน่อย”

“ข้าจะลองดูท่านพ่อ!” หลิงฟ่างหัวพยักหน้า จากนั้นนางเรียกประตูมิติออกมาและใช้มันเพื่อค้นหาเจ้ายมโลกผู้ที่เคยฆ่านางเมื่อในอดีตทันที

ภาพของยมโลกปรากฏต่อหน้านางอย่างละเอียด ซึ่งหลิงฟ่างหัวใช้เวลาสักพักจนในที่สุดนางก็ได้เจอกับเป้าหมาย

“ข้าเจอแล้ว!”

เมื่อพูดจบ หลิงฟ่างหัวพุ่งผ่านประตูมิติไปปรากฏกายตรงหน้าของเจ้ายมโลกทันที!

ก่อนหน้านี้เจ้ายมโลกรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีมาโดยตลอด ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นเพราะอะไร

ในฐานะที่เขาเป็นเจ้ายมโลกเป็นตัวตนที่เหนือล้ำที่สุดในยมโลก และยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเขาอยู่ในยมโลก เขาคือตัวตนที่ไร้เทียมทานแน่นอน แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงรู้สึกว่ามันกำลังจะมีหายนะเกิดขึ้นกับตัวเขาเองได้แบบนี้?

เขานั่งอยู่บนบัลลังก์ของตัวเองด้วยสีหน้างุนงงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

แต่แล้วพริบตาต่อมา เขาก็ต้องประหลาดใจเพราะจู่ ๆ ตรงหน้าของเขาก็มีหญิงสาวผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นจากประตูมิติปริศนา

“เจ้าเป็นใครกัน? เจ้ามาทำอะไรในยมโลกของข้า?” เจ้ายมโลกเอ่ยถามขึ้นด้วยท่าทีตื่นตัว

แน่นอนว่าเขาต้องตื่นตัว เพราะการที่จู่ ๆ ตำหนักของเขาจะถูกเจาะมิติเข้ามาได้แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติ ผู้ที่ทำได้จะต้องเป็นผู้ที่มีเต๋ามิติระดับสูงสุดเท่านั้น!

แต่แล้วเมื่อเขาสำรวจหญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างละเอียด เขาก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เพราะหญิงสาวผู้นี้เป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

เมื่อเห็นระดับการบ่มเพาะที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินของหญิงสาว เจ้ายมโลกก็โล่งใจได้ไปเปราะหนึ่ง ถึงแม้ว่าเต๋าของฝั่งตรงข้ามจะสูงส่ง แต่ด้วยระดับการบ่มเพาะที่ห่างกันขนาดนี้เขาควรจะไม่เป็นอะไรจริงไหม?