บทที่ 1,033 โดนแยกร่างเป็น 36 ส่วน
หลิงฟ่างหัวมองไปที่เจ้ายมโลกด้วยสีหน้าเย็นชา และถามขึ้นว่า “เจ้าจำข้าไม่ได้งั้นเหรอ?”
“ทำไมข้าต้องจำเจ้าได้? เจ้าบุกเข้ามาในตำหนักของข้าเพื่ออะไรกัน? หากเจ้าไม่อธิบายให้ชัดเจนก็อย่าหาว่าข้าไร้มารยาท!”
“เมื่อ 20,000 ปีก่อน เจ้าฆ่าข้าไปรอบหนึ่ง!” หลิงฟ่างหัวตวาดเสียงลั่น เพราะนางรู้สึกโมโหมากที่เจ้ายมโลกจำนางไม่ได้ “ตอนนั้นเมื่อประตูยมโลกที่โลกเบื้องล่างเปิดออก และเมื่อเจ้าคุยกับพ่อของข้าเสร็จ ก่อนที่เจ้าจะจากไปเมื่อเจ้าเห็นว่าข้าเหลือบมองเจ้า เจ้าก็ฆ่าข้าทันที!”
เจ้ายมโลกนึกทวนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็จำเหตุการณ์นั้นได้ อันที่จริงเขาไม่ได้ใส่ใจกับการฆ่าหลิงฟ่างหัวเท่าไหร่ แต่เนื่องจากการที่เขาเป็นจักรพรรดิเทพ ดังนั้นความทรงจำของเขาจึงเหนือล้ำจนสามารถจำได้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาไม่ว่ามันจะนานแค่ไหนก็ตาม
“อ๋อ ข้าจำได้แล้ว ๆ ว่าแต่เจ้ามาที่นี่เพราะต้องแก้แค้นงั้นสินะ?” เจ้ายมโลกแสดงสีหน้าหยอกล้อ “สาวน้อย ต่อให้เจ้าจะบรรลุเต๋ามิติระดับสูงสุด แต่ระดับการบ่มเพาะของเจ้ามันก็ยังอ่อนแอเกินไป เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถทำอะไรข้าได้ทั้ง ๆ ที่พวกเราอยู่ในยมโลกงั้นเหรอ? มันไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเจ้าหรอกนะ แต่การที่เจ้าบุ่มบ่ามมาแก้แค้นข้าแบบนี้ ข้าคิดว่ามันออกจะเป็นการคิดน้อยมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ทำร้ายเจ้าแน่นอน ดูจากพรสวรรค์และความสามารถของเจ้าในตอนนี้แล้วข้ารู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก เอาเป็นว่าเจ้ามาเป็นสนมให้ข้าดีกว่าเอาไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงฟ่างหัวโมโหจนแทบหัวระเบิด นางตวาดกลับทันที “ตอนแรกข้าวางแผนจะสั่งสอนเจ้าแค่เบาะ ๆ โดยการผนึกเจ้าสัก 20,000 ปี แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว อย่างเจ้ามันต้องสักแสนปีถึงจะสาสม!”
“ฮ่าฮ่า เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำได้อย่างที่พูดงั้นเหรอ?” เจ้ายมโลกหัวเราะเยาะเย้ย
แต่แล้วหลังจากที่สิ้นเสียงของเจ้ายมโลก หลิงฟ่างหัวตะโกนขึ้นเสียงดัง “ในนามของข้า ข้าบัญชาเต๋ามิติให้แยกร่างมันผู้นี้ออกเป็น 36 ส่วน และส่งแต่ละส่วนกระจายออกไปอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของทั้ง 5 โลก และผนึกพวกมันทั้งหมดเป็นเวลา 100,000 ปี!”
ตามคำบัญชาของหลิงฟ่างหัว จู่ ๆ ตามร่างของเจ้ายมโลกกลับมีรอยแยกมิติปรากฏขึ้น 36 จุด ซึ่งภายในพริบตาร่างของเจ้ายมโลกถูกแยกออกเป็น 36 ส่วน จากนั้นอวัยวะที่ถูกแยกทั้งหลายก็ถูกสุ่มแยกไปซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของทั้ง 5 โลก ซึ่งมีทั้งโลกเบื้องล่าง โลกเบื้องบน ช่องว่างมิติ ยมโลก ดินแดนแห่งบาป โดยที่เจ้าแห่งยมโลกไม่อาจขัดขืนได้เลย เหลือแค่เพียงศีรษะเท่านั้นที่ไม่ถูกส่งไป
แน่นอนว่าเจ้ายมโลกนั้นไม่ตาย แต่เขามองไปที่หลิงฟ่างหัวด้วยสีหน้าหวาดกลัวจับใจ
“เจ้า…”
เขาไม่กล้าพูดจาเยาะเย้ยอะไรนางอีกแล้ว เพราะเขารู้ดีว่าในตอนนี้หากนางต้องการจะฆ่าเขา เขาคงไม่รอดแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้จริง ๆ แล้วมันแย่กว่าตายซะอีก
หากเขาตาย เขาก็ไปเกิดใหม่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อถูกแยกร่างแบบนี้ มันกลายเป็นว่าเขาทำอะไรไม่ได้เลย เขากลายเป็นคนพิการอย่างสมบูรณ์ถึง 100,000 ปี!
เจ้ายมโลกไม่เข้าใจว่า เต๋ามิติระดับสูงสุดมันทรงอำนาจแบบนี้ได้ยังไง?
หลิงฟ่างหัวเดินเข้ามาลูบหัวเจ้ายมโลก จากนั้นนางพูดขึ้นด้วยสีหน้าเยาะเย้ยว่า “เจ้าโชคดีที่ข้าลืมให้พ่อของข้าสอนวิธีการสาปสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นหมา ไม่อย่างนั้นแล้วข้าจะสาปหัวของเจ้าให้กลายเป็นหมาอีกสักแสนปี เพื่อที่ทุกครั้งที่เจ้าเจอข้า เจ้าจะทำได้แต่ส่ายหางให้กับข้าเท่านั้น!”
ในตอนนี้เจ้ายมโลกรู้สึกรู้สึกขนลุกกับความอาฆาตของหญิงสาวผู้นี้เป็นอย่างมาก
เขาฆ่านางแค่เพียงครั้งเดียว แถมนางก็ไม่ได้ตายจริง ๆ ด้วยซ้ำ แต่นางกลับจำความแค้นนี้มา 20,000 ปี และอีกอย่างต่อให้เขาจะบอกว่าอยากได้นางมาเป็นนางสนม แต่เขาก็แค่ถามเฉย ๆ ไม่ใช่รึไง? เขายังไม่ได้บังคับนางด้วยซ้ำแถมเขาคือเจ้ายมโลก การที่นางได้มาเป็นสนมของเขามันจะยิ่งทำให้นางมีสถานะที่สูงขึ้นอีกต่างหาก เขาไม่คิดว่าการกระทำของเขามันควรจะได้รับโทษถึงขนาดถูกแยกร่าง 100,000 ปี!
ในตอนนี้เมื่อแก้แค้นจนพอใจแล้ว หลิงฟ่างหัวจึงเปิดใช้งานประตูมิติของนางอีกครั้งเพื่อกลับไปหาพ่อของนาง
“ท่านพ่อข้าเสร็จธุระแล้วพวกเราไปกันเถอะ!” หลิงฟ่างหัวหัวเราะด้วยสีหน้าเบิกบาน
หลิงตู้ฉิงลูบหัวนางด้วยความเอ็นดู จากนั้นเขาพยักหน้าและพูดว่า “อืม ไปกันเถอะ!”
หลิงตู้ฉิงกังวลอยู่เหมือนกันว่าในอนาคตลูกสาวของเขาคนนี้จะหาสามีได้รึเปล่า เพราะนางช่างเป็นคนที่เจ้าอารมณ์แถมยังมีนิสัยที่ไม่เหมือนกับคนปกติสักเท่าไหร่
เมื่อส่งหลิงฟ่างหัวเข้าไปในโลกของตัวเองเสร็จแล้ว หลิงตู้ฉิงบินไปยังดินแดนรกร้างทางภาคใต้ของโลกเบื้องบนทันที ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่เขากำหนดให้คนของอาณาเขตนภาขึ้นมาหลังจากกลายเป็นผู้สำเร็จเต๋า
ในทันทีที่เขาไปถึงมันก็เป็นช่วงเวลาพอดีกับที่ลำแสงหลากสีจำนวนมากพวยพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ซึ่งหลังจากนั้น หลิงเจิ้นฮุย จูเหยียน เหมยจู้ และลูก ๆ ของทั้งจูเหยียนและเหมยจู้ รวมไปถึงมี่ตั้วตั้วก็ปรากฏกายขึ้น
ในตอนก่อนที่พวกเขาจะขึ้นมาบนโลกเบื้องบน พวกเขารู้สึกประหม่ามากกลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเมื่อขึ้นมา แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าหลิงตู้ฉิงยืนรออยู่ก่อนแล้ว พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“คารวะท่านปู่! เอ๊ะท่านปู่ แล้วพ่อแม่ของข้าล่ะ?” หลิงเจิ้นฮุยทักทายก่อนเป็นคนแรก
“พวกเขาทั้งหมดอยู่ในโลกของปู่ เจ้าเข้าไปพบกับพวกเขาได้เลย!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ
หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงก็ส่งทุกคนให้เข้าไปในโลกของเขา ยกเว้นมี่ตั้วตั้วคนเดียวที่ไม่ได้ถูกส่งเข้าไป
“ท่านพ่อตา ข้าเกรงว่าท่านคงไม่สามารถเข้าไปในโลกของข้าได้!” หลิงตู้ฉิงพูดกับมี่ตั้วตั้วด้วยสีหน้าจริงจัง “โลกเบื้องบนยังไม่มีผู้ที่สำเร็จเต๋าแห่งเงินตราเช่นท่านมาก่อน และอีกอย่างท่านยังคงติดค้างเผ่าอสูรสงคราม ดังนั้นท่านจำเป็นต้องอยู่ที่นี่เพื่อชดใช้ให้กับพวกเขา”
มี่ตั้วตั้วพยักหน้า “ในตอนแรกข้าคิดว่าขอบเขตมหาจักรพรรดิคงจะเป็นจุดสูงสุดของชีวิตข้าแล้ว แต่ตอนนี้ข้ากลับได้ขึ้นมาถึงจุดนี้ ข้าคงไม่กล้าขออะไรมากไปกว่านี้อีก”
“ไม่ต้องห่วง เส้นทางในอนาคตของท่านนั้นไร้จุดจบ ในอนาคตพวกเราจะต้องพบกันอีก!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็พามี่ตั้วตั้วเดินทางไปยังแม่น้ำโลหิตเทพเจ้า
ในขณะนี้แม่น้ำโลหิตเทพเจ้านั้นกำลังตึงเครียดเป็นอย่างมาก
ด้วยความพยายามหลายพันปีของพวกอสูร ในที่สุดร่างของหลิงตู้ฉิงก็ถูกทำลายแตกสลายกลายเป็นมวลพลังเต๋าสามพันรูปแบบ และกลับคืนสู่โลกและสวรรค์
ในตอนนี้ทั้งอสูรและกองกำลังพันธมิตรต่างรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก แค่ร่างกายเพียงอย่างเดียวกว่าจะทำลายได้ต้องใช้จักรพรรดิเทพหลายสิบคนรวมไปถึงเวลา 5,000 กว่าปีถึงจะทำลายได้งั้นเหรอ?
ในตอนนี้เมื่อร่างของหลิงตู้ฉิงถูกทำลายไปแล้ว บรรดากองกำลังพันธมิตรทั้งหลายต่างก็เตรียมพร้อมจู่โจมพวกอสูรทันที
พวกเขาวางแผนเอาไว้นานแล้วว่าจะใช้โอกาสนี้ที่พวกอสูรกำลังเหนื่อยล้าจัดการพวกอสูรให้สิ้นซาก
ในเวลาเดียวกัน ยิ่งหลิงตู้ฉิงเดินทางเข้าใกล้แม่น้ำโลหิตเทพเจ้ามากเท่าไหร่ ระดับการบ่มเพาะของเขาก็ทะลวงขึ้นไปมากขึ้นเท่านั้น
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะร่างกายเดิมของเขาคือพันธะสุดท้ายที่รั้งเขาไว้ไม่ให้ก้าวหน้าต่อ แต่ตอนนี้มันได้ถูกทำลายลงแล้ว ดังนั้นเมื่อพันธะที่มีอยู่ถูกขจัดไป ระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงก็ทะลวงขึ้นไปเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงสุดทันที!