ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 868 วันแห่งการต่อสู้ตัดสินมาถึง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ผู้วิเศษเซิงมาอย่างรวดเร็วและไปอย่างรวดเร็ว

ประกายน้ำบนม่านฟ้าหายไป เขากว่างเฉิงมองเห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้ง

แต่ว่าปราณวิญญาณที่สับสนระหว่างฟ้าดิน บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้เพิ่งเจอการต่อสู้สะท้านฟ้ามา

เขากว่างเฉิงเตรียมตัวรัดกุม ทว่าสถานการณ์ในทะเลหวงเจียก็เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าคว่ำดินอีกครั้ง

ขุมกำลังใหญ่ทั้งสี่ที่ไม่ยอมศิโรราบต่อการปกครองของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง และเป็นแกนหลักกองทัพต่อต้านต้าเสวียนมาโดยตลอด หลังจากสำนักความมืดล่มสลาย สำนักแสงสว่างถูกทำลาย หอกระบี่ทะเลเหนือกับเกาะมนุษย์สำริดก็พากันพินาศในวันเดียว

เทียบกับสำนักความมืดที่เหลือลมหายใจรวยริน กับสำนักแสงสว่างที่ยังมีคนไม่น้อยไม่อาจคิดถึงอนาคตซึ่งติดอยู่ในดินแดนสุทธทัศน์ในตอนนี้ หอกระบี่ทะเลเหนือและเกาะมนุษย์สำริดมีสภาพอเนจอนาถมากกว่า

เกาะมนุษย์สำริดที่ครอบครองชัยภูมิป้องกันอันดับหนึ่งบนทะเลหวงเจีย ไม่เคยถูกคนตีแตกมาเป็นร้อยเป็นพันปีถูกล้างสำนัก!

ในกองทัพต่อต้านต้าเสวียน หอกระบี่ทะเลเหนือที่มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนอยู่เพียงสำนักเดียวก็มุ่งสู่จุดจบเช่นกัน

ในเขากว่างเฉิง เยว่เป่าฉีที่ตอนแรกมาเยี่ยมซือคงจิงและพักอยู่หลายวัน กลับรอดพ้นภัยพิบัติมาได้ ในตอนนี้รู้สึกตึงเครียดถึงขีดสุด

ตนถึงแม้จะโชคดีรอดมาได้ แต่ว่าสำนักทั้งสำนักถูกทำลาย เทียบกับความโชคดีแล้ว เยว่เป่าฉีรู้สึกเศร้าใจยิ่งกว่า

ผู้วิเศษเซิงไม่เพียงแต่มีพลังกล้าแข็ง มิหนำซ้ำยังแสดงความโดดเด่นด้านความเร็วของตัวเองออกมาถึงขีดสุด จนกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนในทะเลหวงเจียไม่อาจขอกำลังเสริมจากกันและกันได้ทัน ถูกทำลายในที่สุด

แม้ว่าจะประสบความล้มเหลวที่เขากว่างเฉิง ทว่าผู้วิเศษเซิงก็ยังใช้สภาวะกวาดล้างที่น่ากลัวบนทะเลหวงเจียอยู่เหมือนเดิม

พวกหยวนเจิ้งเฟิงที่อยู่บนเขากว่างเฉิงทางหนึ่งดำเนินการเก็บกวาดหลังการต่อสู้ ทางหนึ่งสืบเสาะข่าวสารทางทิศใต้ของทะเลหวงเจีย

ผลลัพธ์สุดท้ายอยู่ในความคาดหมาย และอยู่เหนือความคาดหมาย

สภาวะแข็งแกร่งกว่าคน สำนักความมืดที่เผชิญกับยอดฝีมือระดับสุดยอดซึ่งไม่ด้อยไปกว่าฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อ จึงตัดสินใจยอมแพ้อย่างไม่ลังเล

หลังจากได้รับข่าวที่เกาะมนุษย์สำริดถูกตีแตก ทั่วทั้งสำนักความมืดก็ตัดสินใจตามสถานการณ์ ละทิ้งสำนักใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นได้ไม่กี่ปีและกำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่างของตน ยอมเสียดินแดนแต่รักษาผู้คนไว้ทันที

ศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่ตรงหน้า พวกโจวฮ่าวเฉิงไม่อาจสนใจความขัดแย้งและความกระอักกระอ่วนได้อีก เตรียมจะรวมตัวกับเขากว่างเฉิงและหอกระบี่ทะเลเหนือ

น่าเสียดายที่เพิ่งจะเริ่มเคลื่อนไหว ก็มีข่าวว่าหอกระบี่ทะเลเหนือถูกทำลายส่งมา

พวกโจวฮ่าวเซิงหน้ามืดในทันที

เทียบกับอาณาเขตที่สำนักความมืดเคลื่อนไหวอยู่แล้ว เขากว่างเฉิงอยู่ใกล้หอกระบี่ทะเลเหนือมากกว่า แสดงให้เห็นว่าเขากว่างเฉิงเป็นสถานที่ที่ผู้วิเศษเซิงจะบุกเป็นรายต่อไป

แม้นยอดฝีมือแห่งเขาโถงทองอย่างพวกหลินฮั่นหัวจะอยู่สุดขอบตะวันตกของทะเลหวงเจีย กำลังคุมเชิงกับยอดฝีมือจากเขตเพลิงทักษิณอยู่ แต่หากคิดจะไปที่นั่น จะต้องถูกผู้วิเศษเซิงดักทางไว้แน่

ทุกคนในสำนักความมืดได้แต่หยุดฝีเท้า วกกลับทางใต้ของทะเลหวงเจียใหม่

ลูกศิษย์ที่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำแยกย้ายกันไปหาที่หลบซ่อนเอง

ส่วนพวกโจวฮ่าวเซิงที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงของสำนักความมืด ตั้งใจจะหลบออกจากทะเลหวงเจียชั่วคราว

น่าเสียดาย ในฐานะขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนที่ผู้วิเศษเซิงตั้งใจจะเยี่ยมเยียนเป็นกลุ่มสุดท้าย ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องไม่ให้โอกาสถอยอย่างสะดวกสบายให้แก่สำนักความมืด

เป็นเพราะต้องการป้องกันไม่ให้สำนักความมืดใช้ช่องว่างของเวลาที่ผู้วิเศษเซิงกวาดล้างสามสำนักที่เหลือหนีไป ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจึงส่งกั๋วกงสองคนออกมา เป็นยอดฝีมือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก บัญชาการจอมยุทธ์ต้าเสวียนจำนวนมาก มาถึงทางใต้ของทะเลหวงเจีย ปิดล้อมและทำลายสำนักความมืด

ราชวงศ์ต้าสเวียนอ๋องครั้งนี้ตัดสินเด็ดขาด ตั้งใจกวาดล้างศัตรูบนทะเลหวงเจียให้หมดสิ้น

ไม่ปล่อยพยาน ไม่จับเชลย แม้แต่โอกาสหนีก็ไม่มีมอบให้คู่ต่อสู้!

พวกโจวฮ่าวเซิงถูกจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องรุมล้อม สู้พลางถอยพลาง ไม่อาจหนีออกมาได้

ไม่ทันไรจุดจบก็มาถึง หลังจากผู้วิเศษเซิงผละจากเขากว่างเฉิง ก็มาถึงทางทิศใต้ของทะเลหวงเจียในทันที

กระนั้นผู้วิเศษเซิงก็ยังทำไม่สำเร็จ

เขาฉวยโอกาสตอนที่ความสนใจของพวกหลินฮั่นหัวถูกเขตเพลิงทักษิณดึงดูดไว้ โจมตีอย่างฉับพลัน กวาดล้างทะเลหวงเจียด้วยการจู่โจมสายฟ้าแลบ

เยี่ยนจ้าวเกอมีความสัมพันธ์อันดีกับเขาโถงทอง กู้หงเคยช่วยเหลือเขาโถงทองในตอนจับกุมจอมยุทธ์จากเขตเพลิงทักษิณ ที่อยู่ของหลินฮั่นหัวในทะเลหวงเจียก่อนหน้านี้ก็คือหอสักการะย่อยสำนักความมืด

ถ้าหากเป็นแค่เกาะมนุษย์สำริดยังพอว่า สำนักอีกสามสำนักที่เหลือล้วนเผชิญกับการคุมคามถูกล้างสำนัก เขาโถงทองเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะสอดมือ

เทียบกับการหลีกเลี่ยงไม่ให้ขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนร่วมมือกันแล้ว ผู้วิเศษเซิงที่ครั้งนี้โจมตีด้วยวิธีการจู่โจมสายฟ้าแลบ ความจริงเป็นเพราะคิดจบการต่อสู้ก่อนที่พวกหลินฮั่นหัวจะสอดมือ

แต่หลินฮั่นหัวตัดสินใจโดยอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา หลังจากได้รับข่าวก็เคลื่อนไหวทันที แม้ว่าจะไม่ทันการต่อสู้ของเขากว่างเฉิง แต่หลังจากยืนยันได้ว่าเขากว่างเฉิงไร้อันตราย ก็มุ่งหน้าสู่น่านน้ำทางทิศใต้

ยอดฝีมือระดับสุดยอดสองคนเปิดการต่อสู้ที่ดุเดือดทางใต้ของทะเลหวงเจียชั่วสั้นๆ

สุดท้ายคนทั้งสองไม่อาจทำอะไรกันได้ หลินฮั่นหัวเผชิญการโจมตีจากผู้วิเศษเซิง ฝืนรักษาชีวิตของเจ้าสำนักความมืดโจวฮ่าวเซิงไว้ได้

ทว่าในขณะที่ต่อสู้กันอยู่ ผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือกู้หงที่สูญเสียความสามารถในการป้องกันตัวหลังจากถูกจับก็โดนลูกหลงจากพลัง เป็นเหตุให้เขาบาดเจ็บปางตาย

ผู้ฝึกกระบี่ที่ยิ่งใหญ่สองคนคุมเชิงกัน สุดท้ายหลินฮั่นหัวถอยกลับน่านน้ำทางตะวันตกก่อน

เป็นเพราะการจากมาชั่วคราวของเขา เขตเหยียนทิศใต้เริ่มเคลื่อนไหวก่อหวอด เข้าประชิดเขตแดนของเขตตะวันอาคเนย์แล้ว

พวกผู้วิเศษเซิงก็ไม่ได้โจมตีต่อ

แต่ว่าน่านน้ำทางใต้ของทะเลหวงเจียก็กลับสู่การควบคุมของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องหลังจากทะเลเหนือและทะเลตะวันออก

หยวนเจิ้งเฟิงเอ่ยว่า “ต่อจากนี้เกรงว่าเขาโถงทองจะไม่มีเวลามาสนใจเรื่องในทะเลหวงเจียแล้ว”

การต่อสู้ระหว่างเขตเพลิงทักษิณและเขตตะวันอาคเนย์อยู่ในขั้นที่พร้อมจะปะทุ และเกิดสงครามที่ใหญ่กว่าสงครามในทะเลหวงเจียได้ทุกเมื่อ

ฟางจุ่นมองร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอ “ปัญหาที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในตอนนี้ คือบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่เชื่อมไปยังโลกผืนสมุทรบนดินแดนหลวนเซียง ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของทะเลหวงเจีย บัดนี้ตกไปอยู่ในการควบคุมของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแล้ว”

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกตอบ “บอกให้จอมยุทธ์ของสำนักเราที่อยู่ในโลกผืนสมุทรถอยกลับโลกแปดพิภพให้หมดเถอะ”

“ส่วนตัวข้าไม่ต้องเป็นห่วง นอกจากพวกเราไม่กี่คนแล้ว ก็ไม่มีใครทราบว่าร่างจริงของข้าอยู่ที่ไหน รวมถึงคนของโลกผืนสมุทรด้วย”

“ต่อให้คนในโลกผืนสมุทรจะบอกพวกเขาว่าข้าปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรกที่ทะเลรางเลือน อีกฝ่ายก็หาข้าไม่เจออยู่ดี”

หากอีกฝ่ายต้องการลงไป จะต้องกดพลังฝึกหรือของตัวเองให้อยู่ต่ำกว่าระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกว่า “ข้อแรกคือไม่ทราบที่อยู่แน่ชัด การตามหาโดยไร้เบาะแสด้านในสภาพแวดล้อมของทะเลรางเลือน ขนาดจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามก็ยากจะหาข้าเจอ ตอนที่ข้าเลือกที่นี่เพื่อเข้าฌาน ก็ได้คิดเผื่อด้านนี้ไปแล้ว ความลับคือการคุ้มครองที่มีประสิทธิภาพที่สุด”

เป็นไปตามที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอและฟางจุ่นคาดไว้ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องได้ส่งคนลงไปยังโลกผืนสมุทรผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่อยู่บนดินแดนจิตคุณธรรมจริงๆ

เขากว่างเฉิงที่เตรียมตัวไว้แต่แรกไม่ได้รับความเสียหายอะไร กลับเป็นเขาหงส์วิเศษที่ประสบความลำบากเล็กน้อย ถูกกดดันให้ต้องละทิ้งสำนัก คนในสำนักแยกย้ายกันหลบหนีไปยังน่านน้ำต่างๆ เช่นทะเลตาข่ายดาวและทะเลรางเลือน

มีขุมกำลังอื่นๆ บนโลกผืนสมุทรฉวยโอกาสซ้ำเติม ทำให้เขาหงส์วิเศษประสบความลำบากไม่น้อย

จนกระทั่งหลังจากครึ่งปีของโลกซ้อนโลกผ่านไป เยี่ยนจ้าวเกอออกฌาน เขากว่างเฉิงไม่จำเป็นต้องรวบรวมคนเพื่อวางค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายอีก หยวนเจิ้งเฟิงและเฟิงอวิ๋นเซิงจึงมุ่งหน้าไปที่โลกผืนสมุทร เขาหงส์วิเศษถึงค่อยลืมตาอ้าปากได้

หลังจากเวลาผ่านไป วันที่พวกคังผิงจะหลุดจากดินแดนสุทธทัศน์ก็ใกล้เข้ามา พวกเขาพร้อมจะเห็นเดือนเห็นตะวันทุกเมื่อแล้ว

ในวันหนึ่ง ณ นครหลวงต้าเสวียน เงาร่างสายหนึ่งพลันโถมลงมาจากฟากฟ้า

ด้านในเมือง พอผู้วิเศษเซิงเห็นผู้มา บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเรียบเฉย “ศิษย์น้องสือ ยินดีต้อนรับเจ้ากลับจากมิตินอกแดน”

………………..