ตอนที่ 1607

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ฮูหยางเฉินกวักนิ้วยุแหย่หลิงฮัน เขาได้รับหน้าที่ไล่ต้อนหลิงฮันให้จนมุมเพื่อที่ผู้ช่วยเหลือที่อยู่เบื้องหลังหลิงฮันจะได้ปรากฏตัวออกมา

เขาไม่ต้องกังวลว่าเซียนซิงฉาหรือเซียนอีกเก้าคนจะแทรกแซง เนื่องจากประมุขของเขาสามารถจัดการเซียนเหล่านั้นได้

หลิงฮันกระโดดลงมาจากแท่นผู้ชมและเผยรอยยิ้ม

“หลิงฮัน ข้าขอแนะนำให้เจ้ามอบสมบัติของราชันวารีสวรรค์มาแต่โดยดีแล้วศพของเจ้าจะครบสามสิบสอง” ฮูหยางเฉินกล่าวอย่างไม่แยแส ในสายตาของเขาการต่อสู้ครั้งนี้ไม่คู่ควรให้เขาลงมือเองเลยด้วยซ้ำ

นั่นเพราะเขาคือจอมยุทธที่ขัดเกลาดวงดาวได้เกือบจะถึงสามล้านดวง!

หลิงฮันมองไปยังฮูหยางเฉินและกล่าว “ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอแนะนำเจ้าบ้าง เจ้าอยากให้ร่างของตนเองแหลกเป็นเศษซากหรือสลายเป็นขี้เถ้า?”

“ช่างปากดี!” ฮูหยางเฉินยิ้มเย็นชาและโคจรพลังในใจ ทันใดนั้นวงโคจรวิถีดาราจักรของเขาก็ปรากฏออกมา ดวงดาวนับไม่ถ้วนภายในวงโคจรวิถีดาราจักรระเบิดแสงสว่างเจิดจ้าไร้ที่สิ้นสุด

พรวด!

ศิษย์ทุกคนสำลัก ปากของพวกเขาแต่ละคนกระตุกไปมาราวกับทำใจเชื่อสิ่งที่สายตาตัวเองเห็นไม่ได้

ดวงดาวเกือบสามล้านดวง!

นั่นไม่ใช่พลังที่เทียบเท่าเซียนแล้วหรอกรึ?

แข็งแกร่งเกินไป…

หลิงฮันไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของฮูหยางเฉินได้แน่นอน

“ศิษย์พี่หลิง อีกฝ่ายมีพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์ส่วนท่านมีพลังอยู่ที่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูง การต่อสู้นี้ไม่มีความยุติธรรมแม้แต่น้อย”

“ใช่แล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องฝืนสู้ก็ได้”

ศิษย์หลายคนกล่าวกับหลิงฮัน หากยังฝืนสู้ต่อไปหลิงฮันอาจจะตายขึ้นมาจริงๆ

“เริ่มคิดอยากหนีแล้วรึ?” ฮูหยางเฉินแสยะยิ้มและปล่อยฝ่ามือออกไป อำนาจของวงโคจรวิถีดาราจักรระเบิดออกและควบแน่นกันเป็นเหยี่ยวครามขนาดมหึมาพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน

แววตาของหลิงฮันส่องประกายเย็นชา ใต้ฝ่าเท้าของเขาระเบิดพลังออกมาเพื่อส่งร่างพุ่งทะยานเข้าหาฮูหยางเฉิน

ส่วนเหยี่ยวครามที่อยู่ตรงหน้านั้น หลิงฮันไม่มีความคิดที่จะหลบ

‘นี่หลิงฮันรนหาที่ตายรึ?’

ฮูหยางเฉินแสยะยิ้มในขณะที่ศิษย์คนอื่นรู้สึกหวาดผวา

“มิติเอกเทศ!” หลิงฮันกล่าวเบาๆ ‘พรึบ’ เมื่อเหยี่ยวคราวมาถึงด้านหน้าเขาจู่ๆมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยที่หลิงฮันไม่ได้ตอบโต้ใดๆแม้แต่น้อย ร่างของเขาพุ่งทะยานไปปรากฏด้านหน้าฮูหยางเฉินอย่างรวดเร็ว

เป็นไปได้อย่างไร!

ดวงตาฮูหยางเฉินเปิดกว้างด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ จู่ๆการโจมตีของเขาก็หายไปอย่างสมบูรณ์! หากหลิงฮันลงมือตอบโต้เขาก็ยังพอยอมรับได้และมีเวลาเตรียมตัวรับมือต่อได้ทัน

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนทำให้ตัวเขาอยู่ในสภาพไร้การป้องกันอย่างสิ้นเชิง

‘ตูม’ หมัดของหลิงฮันถูกปล่อยออกไป

“ฮึ่ม!” ฮูหยางเฉินไม่ตื่นตัว ถึงแม้เขาจะไม่ได้เตรียมพร้อมแต่พลังต่อสู้ของเขาก็เหนือกว่าหลิงฮันไม่รู้กี่เท่า ต่อให้ไม่ต้องควบแน่นพลังทั้งหมดและใช้ออกด้วยพลังเพียงหนึ่งในสิบเขาก็ยังสามารถบดขยี้หลิงฮันได้อยู่ดี

หากวัดเพียงแค่พลังต่อสู้อย่างเดียวแล้วล่ะก็ ตัวเขาสามารถเทียบเท่ากับได้กับเซียน!

หมัดของหลิงฮันพุ่งออกไปอย่างรุนแรง ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง รูปแบบอาคมสังหารทั้งยี่สิบเจ็ดก็ถูกกระตุ้นใช้งานส่งผลให้พลังต่อสู้ของหลิงฮันเพิ่มขึ้นราวกับไม่มีขีดจำกัด

เขาตั้งใจสังหารฮูหยางเฉินให้จบในพริบตาเพื่อที่ตระกูลฮูจะได้ไม่มีโอกาสแทรกแซงช่วยเหลือได้ทัน!

เหล่าเซียนมองออกอย่างรวดเร็วว่าภายในร่างกายของหลิงฮันมีรูปแบบอาคมสังหารจำนวนมากสลักเอาไว้ แต่นอกจากเซียนหมิงซินแล้วไม่มีใครเลยที่สามารถมองเห็นจำนวนของรูปแบบอาคมสังหารได้อย่างชัดเจนจากการมองเพียงแวบเดียว

หากรูปแบบอาคมสังหารถูกกระตุ้นใช้งานก่อนปล่อยหมัด เหล่าเซียนจะสามารถมองออกแน่นอนว่าพลังของมันนั้นน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน แต่หากรูปแบบอาคมสังหารถูกกระตุ้นหลังปล่อยหมัด ต่อให้เป็นเซียนของตระกูลฮูก็ไม่อาจแทรกแซงได้ทัน

ตูม!

ทันทีที่หมัดเข้าปะทะ ร่างของฮูหยางเฉินก็ระเบิดออกอย่างไม่อาจต้านทานและกลายเป็นฝนโลหิต

‘พรึบ’ ในเวลาเดียวกัน เหยี่ยวครามที่ฮูหยางเฉินปลดปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ก็ปรากฏกลับออกมาและสลายหายไป

เหล่าคนที่มองดูอยู่ตกตะลึงนิ่งเงียบไร้คำพูด

ใครจะไปคิดว่าปรมาจารย์ที่ควบแน่นดวงดาวได้เกือบสามล้านดวงจะตายด้วยเงื้อมมือของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูง!

ฮูลั่วชะงักไปชั่วครู่ ความเกรี้ยวกราดของเขาปะทุออกมาจนส่งผลให้ชั้นอากาศสั่นสะเทือน เซียนซิงฉาที่อยู่ใกล้ๆร่างสั่นสะท้านและแทบจะทรุดตัวลงไปกับพื้น

ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเซียนซิงฉาหวาดกลัวหรือไม่ ที่เซียนซิงฉาตกอยู่ในสภาพนี้เป็นเพราะแรงกดดันจากระดับพลังที่เหนือกว่า

ฮูลั่ววางแผนต้อนหลิงฮันให้จนมุมเพื่อที่ขุมอำนาจเบื้องหลังหลิงฮันจะได้โผล่หัวออกมาและเขาจะตัดสินใจลงมืออย่างไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับสถานะการ เรื่องนี้อาจจะจบลงอย่างสันติหรือไม่ก็นองเลือด

แต่ที่ไม่คาดคิดคือ ขุมอำนาจเบื้องหลังหลิงฮันยังไม่ทันปรากฏตัวเลยแท้ๆ ทายาทที่โดดเด่นคนหนึ่งของตระกูลฮูกลับถูกสังหารเสียแล้ว

อารมณ์อันบูดบึ้งของเขาส่งผลให้ผมขาวโพลนสยายชี้ฟ้าและมีเปลวเพลิงปรากฏออกมารอบเส้นผม นี่แสดงให้เห็นว่าฮูลั่วในตอนนี้กำลังเกรี้ยวกราดขนาดไหน

“ตงผิง เจ้าไปจัดการเจ้าหนูนั่น!” ฮูลั่วกล่าวเสียงต่ำออกคำสั่งเซียนตระกูลฮูผู้หนึ่ง

“น้อมรับคำสั่งท่านประมุข!” เซียนผู้นั้นเอ่ยรับคำสั่ง เขาคือเซียนลำที่ห้าของตระกูลฮู ชื่อของเขาคือฮูตงผิงเป็นเซียนระดับกลาง

“ผู้อาวุโส!” เซียนซิงฉาลุกขึ้นและคิดจะห้าม แต่เมื่อถูกฮูลั่วจ้องมองด้วยแววตาโหดเหี้ยม เขาก็ต้องกลับมานั่งลงเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว

ต่อหน้าราชาเซียน ต่อให้เขาจะเป็นเซียนระดับสูงก็ไม่มีคุณสมบัติต่อต้าน

เซียนหมิงซินและเซียนคนอื่นๆขมวดคิ้ว หากเซียนระดับกลางลงมือเอง ต่อให้เป็นพวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ แล้วหลิงฮันจะต้านทานไหวได้อย่างไร?

“เจ้าหนู ใครอยู่เบื้องหลังเจ้ากันแน่เจ้าถึงได้กล้าเป็นศัตรูกับตระกูลฮูของข้า?” ฮูตงผิงเอ่ยถามอย่างเย็นชา

หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย “เจ้าหวาดกลัวรึ? เกรงว่าหากข้าบอกไปเจ้าจะกลัวหัวหดจนต้องคุกเข่าอ้อนวอนร้องขอชีวิตที่ต่ำช้าราวกับสุนัขของเจ้าน่ะสิ”

“สุนัขน้องสาวเจ้าน่ะสิ! รับฝ่าเท้าของข้าไป!” ‘พรึบ’ เงาดำร่างหนึ่งพุ่งทะยานเข้ามาและใช้เท้าถีบเข้าใส่หลิงฮัน

เป็นเจ้าสุนัขตัวดำ!

หลิงฮันสะบัดมือ ทันใดนั้นร่างของสุนัขตัวดำก็หายไป เขาขยับถอยหลังหลบมาจากจุดเดิม ‘พรึบ’ ร่างของสุนัขตัวดำปรากฏอีกครั้งโดยที่เท้าของมันสัมผัสโดนเพียงอากาศที่ว่างเปล่าและร่วงกระแทกพื้น

“ฮึ่ม เจ้าหนูตัวเหม็น นี่เจ้าไปเรียนรู้ทักษะแปลกประหลาดอันใดมา?” สุนัขตัวดำยกขาหลังขึ้นมาเกาคอ

“ถ้าเจ้าไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนก็ไม่ต้องถูกสวรรค์ลงโทษแบบนั้น” หลิงฮันยิ้ม

ฮูตงผิงที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้ารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก นี่หลิงฮันกับสุนัขตนนั้นต้องดูถูกเขาขนาดไหนกันถึงขนาดกล้าพูดคุยกันโดยไม่เห็นหัวเขาที่ยืนอยู่ต่อหน้า?

“ตาย!” เขาปล่อยฝ่ามือขวาออกไปเพื่อกำราบหลิงฮันและสุนัขตัวดำ