ฮึ่ม**!**
เมื่อลูกทรงกลมทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าก็กวาดข้ามขอบฟ้าพุ่งเข้าใส่หมัวเฮอเทียนและร่างเทพมหันต์ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าเขา
แม้ว่าลูกทรงกลมนี้จะดูไม่ทรงพลัง แต่หมัวเฮอเทียนก็สัมผัสได้ถึงความเย็นเสียดแทงทะลุกระดูกออกมาพร้อมกับความกลัวและความไม่สบายใจกวนตัวในหัวใจ
“เจ้าสามารถฝึกฝนโลกผนึกหนึ่งนิรันดร์ได้เรอะ?!”
ใบหน้าของหมัวเฮอเทียนเขียวคล้ำ ในฐานะผู้พิทักษ์ร่างมหาเทพนิรันดร์ พวกเขาเข้าใจทักษะเทห์สวรรค์นี้ได้โดยธรรมชาติและโลกผนึกหนึ่งนิรันดร์ก็เป็นหนึ่งในทักษะนั้น
เล่าลือกันว่าร่างมหาเทพนิรันดร์สามารถใช้แก่นนิรันดร์สร้างเป็นลูกทรงกลมขึ้นมาได้ ใครก็ตามที่ติดอยู่ในนั้นจะได้ตกอยู่ในกาลเวลาโบราณ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งก็จะมีช่วงเวลายากลำบากที่จะหลุดออกมาได้ พวกเขาทำได้เพียงยอมจำนนให้ร่างกายค่อยๆ สลายกลายเป็นขี้เถ้า
ในอดีตเทพจักรพรรดินิรันดร์ได้ใช้ทักษะเทห์สวรรค์นี้ในการสังหารจอมปีศาจจำนวนเท่าใดคงมีแต่เทพเซียนที่รู้
ดังนั้นในแง่ของพลังโลกผนึกหนึ่งนิรันดร์ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าวิทยายุทธระดับเสินทงขั้นสุดยอดในตำนานเลย
เพียงแค่ว่าการจะใช้ต้องมีแก่นนิรันดร์จำนวนมาก แต่มู่เฉินเพิ่งได้รับการสืบทอดร่างมหาเทพนิรันดร์มา แล้วเขามีแก่นนิรันดร์มากมายที่จะสนับสนุนมาจากไหน?
แม้ความคิดนี้จะผ่านเข้ามาในใจ แต่ใบหน้าของหมัวเฮอเทียนกลับไม่น่าดูและก็ไม่กล้าที่จะหย่อน
เขากระทืบฝ่าเท้า ร่างเทพมหันต์ก็กลายเป็นลำแสงถอยออกไป พริบตาก็อยู่ห่างออกไปหลายหมื่นลี้ เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจจะหลบหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้
ฮึ่ม!
แต่เมื่อเขาปรากฏตัวห่างออกไป ความปั่นป่วนจากมิติก็ก่อตัวที่ด้านบน ลูกทรงกลมไล่ตามมาติดๆ
ใบหน้าของหมัวเฮอเทียนไม่น่าดู ขณะที่สั่งให้ร่างเทพมหันต์ถอยห่างออกไปอีกหมื่นลี้
ทว่าความพยายามของเขาก็ไร้ผล ไม่ว่าความเร็วของเขาจากเพิ่มขึ้นมากเท่าไร ลูกทรงกลมก็เหมือนจะยึดติดเขาราวกับวิญญาณ ติดตามไปทุกหนแห่ง…
ดังนั้นสิบกว่าลมหายใจต่อมาหมัวเฮอเทียนก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือเมืองวั้นกู่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ทำไม? ไม่วิ่งต่อแล้วเหรอ?” มู่เฉินมองไปที่หมัวเฮอเทียนพลางยิ้มไม่เชิงยิ้ม
“หึ แกคิดว่าข้ากลัวทักษะเทห์สวรรค์ของร่างมหาเทพนิรันดร์จริงๆ รึ!” หมัวเฮอเทียนกราดเกรี้ยว เขาเป็นประมุขเผ่าหมัวเฮอ แต่วันนี้กลับต้องเป็นลูกไก่ในมือเด็กเหลือขอ ช่างเป็นความอัปยศอดสูสำหรับเขานัก
หมัวเฮอเทียนหายใจเข้าลึกๆ วาดตราประทับเร็วรี่กลายเป็นภาพซ้อนนับไม่ถ้วน
ในเวลาเดียวกันร่างเทพมหันต์ที่อยู่เบื้องล่างก็กำจายหมอกสีดำขาวออกมาจากศีรษะ ก่อร่างเป็นร่มขนาดใหญ่เหนือศีรษะของหมัวเฮอเทียนอย่างรวดเร็ว
“ร่มมหาอุด!”
พร้อมกับเสียงหมัวเฮอเทียน ร่มขนาดมหึมาก็หมุนไปอย่างช้าๆ ปลดปล่อยความลึกซึ้งที่ไม่สิ้นสุด ราวกับว่าการยืนอยู่ใต้ร่มนี้จะทำให้เขาปลอดภัย แม้ว่าสวรรค์และโลกจะฉีกออกจากกันก็ตาม
ฮึ่ม!
เมื่อลูกทรงกลมลดระดับลงมา รัศมีแสงก็สะท้อนบนร่ม ทันใดนั้นทั้งคู่ก็กัดกร่อนกันรุนแรง ภายใต้การปะทะกันของพลังงานสองสาย มิติก็พังทลายลงเรื่อยๆ…
ทว่าแม้คลื่นหลิงสีดำขาวจะลึกซึ้ง แต่ก็ยังขาดเมื่อเทียบกับแก่นนิรันดร์ ดังนั้นแสงสีดำขาวจึงค่อยๆ ถูกกัดกร่อนภายใต้การเผชิญหน้า
เมื่อมองภาพนี้ฝ่ามือของมู่เฉินก็เปลี่ยนไป “โลกผนึกหนึ่งนิรันดร์ ตราประทับบุพกาล!”
ฮึ่ม ฮึ่ม!
ลูกทรงกลมเริ่มขยายออกห่อหุ้มร่ม หมัวเฮอเทียนและร่างเทพมหันต์ไว้
ใบหน้าของหมัวเฮอเทียนเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำสิ้นเชิง
ซ่า ซ่า
ภายในลูกทรงกลม เสียงน้ำกระเซ็นดังก้องราวกับว่าแม่น้ำแห่งกาลเวลาอันยาวนานปรากฏขึ้น เสียงซ่าซ่าเกิดอย่างต่อเนื่อง ทุกเสียงน้ำซัดสาดจะทำให้ร่มหดตัวดูเหมือนกับว่าจะไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของกาลเวลาได้
ร่างมหาเทพนิรันดร์ไม่เพียงแต่มีความเป็นนิรันดร์เท่านั้น แต่ยังมีสิ่งที่ตรงกันข้ามซึ่งก็คือพลังแห่งการกัดกร่อน ดังนั้นร่างมหาเทพนิรันดร์สามารถใช้การกัดกร่อนของกาลเวลาเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งกีดขวางให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ในสมัยโบราณจอมปีศาจจำนวนมากถูกขังในโลกผนึกหนึ่งนิรันดร์ สุดท้ายก็สลายกลายเป็นเถ้าถ่านเมื่อเวลาผ่านไป
หมัวเฮอเทียนยืนอยู่บนร่างเทพมหันต์ด้วยสีหน้าเขียวคล้ำขณะมองไปที่ร่มที่ค่อยๆ อ่อนกำลังลง เขากระทืบเท้า ร่างเทพมหันต์ก็ส่งเสียงคำราม รัศมีสีดำขาวก่อร่างเป็นกระบี่พุ่งเข้าหาลูกทรงกลม
ฮึ่ม ฮึ่ม
แต่เมื่อกระบี่สัมผัสกับลูกทรงกลมก็สึกกร่อนอย่างรวดเร็วและหายไป แรงที่เหลือสามารถทำให้ลูกทรงกลมกระเพื่อมได้เท่านั้น
“บ้าเอ้ย!”
หมัวเฮอเทียนกัดฟัน ในที่สุดเขาก็สัมผัสได้ถึงทนทานของลูกทรงกลม มิน่าล่ะกระบวนท่านี้ถึงสามารถสังหารจอมปีศาจจำนวนมากในสมัยโบราณได้ ด้วยการใช้เวลากัดกร่อนทำให้ทุกอย่างสลายกลายเป็นอากาศธาตุ
หมัวเฮอเทียนฉายแววตาน่ากลัว ไม่คิดพยายามที่จะทำลายลูกทรงกลมอีกต่อไป ทันใดนั้นร่างเทพมหันต์ก็ระเบิดรัศมีสีดำขาวเทลงในร่ม การสนับสนุนของพลังนี้ทำให้รัศมีของร่มสีดำขาวกลับคืนมา ปกป้องหมัวเฮอเทียนและร่างเทพมหันต์เอาไว้
“มู่เฉิน โลกผนึกหนึ่งนิรันดร์ของแกทรงพลังก็จริง แต่แกคิดว่าตัวเองเป็นเทพจักรพรรดินิรันดร์เรอะ?! แกกำลังประเมินตัวเองสูงเกินไป ถ้าคิดว่าจะฆ่าข้าด้วยสิ่งนี้!” หมัวเฮอเทียนแผดเสียง
สิ่งที่เขาพูดไม่ใช่เรื่องเท็จ แม้ว่าจะเป็นปัญหามากที่จะหลบหลีก แต่โลกผนึกหนึ่งนิรันดร์ก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้
มู่เฉินหลุบตายิ้มอ่อน แต่ไม่ได้ตอบโต้ เขารู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าหมัวเฮอเทียนด้วยโลกผนึกหนึ่งนิรันดร์ แต่แค่จับอีกฝ่ายเอาไว้ เขาก็บรรลุเป้าหมายแล้ว
เมื่อทุกคนเห็นภาพนี้ ความหวาดผวาก็กวาดไปทั่วใบหน้าขณะมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาแสดงความเคารพนับถือ
ครึ่งปีก่อนช่องว่างระหว่างหมัวเฮอเทียนกับมู่เฉินเรียกว่าห่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ตอนนี้เขาสามารถต่อสู้ในระดับเดียวกับหมัวเฮอเทียนได้ มิหนำซ้ำยังผลักหมัวเฮอเทียนลงไปในกับดักได้อีกด้วย
ด้วยความสามารถดังกล่าว เขาสามารถติดอันดับหนึ่งในสุดยอดจอมยุทธ์แห่งมหาพันภพแล้ว
ผู้อาวุโสเผ่าหมัวเฮอใบหน้ามืดครึ้มโดยเฉพาะอย่างยิ่งหมัวเฮอโยว เขาขบฟันจนเกือบแตก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากยอมรับความจริงที่พี่ชายของตนเองไม่สามารถทำอะไรกับมู่เฉินได้
“หมิ่นกันเกินไปแล้ว! ไอ้สารเลวปล่อยท่านประมุขซะ!”
จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งสองคนของเผ่าหมัวเฮอร้องตะโกน ขณะมองไปที่มู่เฉินพร้อมกับคลื่นหลิงผันผวนรอบตัว
“ฮ่าๆ ใจเย็นสิ นี่เป็นการประลองระหว่างหมัวเฮอเทียนและมู่เฉิน ทำไมต้องเข้าไปยุ่งด้วยล่ะ?” ไท่หมิงสะบัดแขนเสื้อ คลื่นหลิงไร้ขอบเขตรวมตัวกันและขัดขวางผู้เฒ่าทั้งสองเอาไว้
“เรื่องในวันนี้เกิดจากเผ่าหมัวเฮอขาดความซื่อสัตย์ ทำไมต้องกัดไม่ปล่อยด้วย?” ไท่หมิงเหลือบมองไปที่หมัวเฮอเทียนที่ติดอยู่ในลูกโลก “ประมุขหมัวเฮอ ให้ตาแก่คนนี้เป็นคนกลางไหม? ทุกคนต่างถอยกันคนละก้าว ข้าจะบอกให้มู่เฉินหยุด เผ่าหมัวเฮอก็ปล่อยมือจากร่างมหาเทพนิรันดร์ ตกลงไหม?”
รากฐานของเผ่าหมัวเฮอหยั่งลึก หากเรื่องนี้เกิดขึ้นสงครามก็เป็นอะไรที่จินตนาการไม่ได้
สายตาของหมัวเฮอเทียนเย็นชาลงเมื่อกวาดมองไปที่ไท่หมิง “วาจายิ่งใหญ่จริง เผ่าไท่หลิงได้รับโอกาสและได้รับร่างมหาปราชญ์วิญญาณไปแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้วันนี้เผ่าไท่หลิงยืนยง เผ่าหมัวเฮอของข้าต่อสู้เพื่อสิ่งนี้จากรุ่นสู่รุ่น ถ้ามีร่างมหาเทพนิรันดร์ในครอบครอง เผ่าหมัวเฮอจะอยู่ในแค่จุดนี้ได้อย่างไร?!”
“ในอดีตร่างมหาเทพนิรันดร์ถูกแย่งไปจากมือบรรพบุรุษเผ่าหมัวเฮอของข้าโดยเทพจักรพรรดินิรันดร์ แล้วจะให้เผ่าหมัวเฮอยอมทิ้งโอกาสนี้ได้อย่างไร?”
“วันนี้ไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่สามารถนำร่างมหาเทพนิรันดร์ไปจากเผ่าหมัวเฮอของข้า!”
เมื่อคำพูดจบลงสายตาของหมัวเฮอเทียนก็น่าขนพองสยองเกล้าขณะที่ส่งเสียงคำราม
เขาไม่สนใจไท่หมิงอีกต่อไป หันไปจ้องมองมู่เฉินด้วยดวงตาแดงฉาน “ไอ้สารเลว แกคิดว่าเผ่าหมัวเฮอของข้าไม่มีรากฐานใดๆ เรอะ?!”
“แกไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำโอหังในดินแดนของเผ่าหมัวเฮอ!”
หมัวเฮอเทียนหัวเราะเสียงเย็นชาพร้อมกับแววเด็ดขาดพวยพุ่งในดวงตา เขาพ่นเลือดกลั่นออกมาหนึ่งคำและก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเขาเริ่มวาดตราประทับก่อนที่จะกลายเป็นอักขระสีแดงเข้ม
เมื่ออักขระสีแดงเข้มทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ก็หายไปในส่วนลึกของพื้นที่นี้
ตู้ม!
ขณะที่อักขระสีแดงเข้มหายไป ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงพื้นดินที่สั่นสะท้าน ก่อนที่แสงสีดำขาวจะพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจากส่วนลึกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าหมัวเฮอ
เสานี้เชื่อมระหว่างฟ้าดิน มิติเบื้องบนเมืองแตกออก เสาแสงสีดำขาวส่องลงมากจากในมิติ
ท่ามกลางเสาแสงนั้นทุกคนเห็นขวดหยกสีดำขาวปรากฏขึ้น
เมื่อขวดหยกเผยออกมา ทั่วบริเวณก็มีแต่สีดำและสีขาวราวกับว่าเป็นจุดตัดของหยินหยาง
แรงกดดันที่น่ากลัวก็เอิบอาบออกมาจากขวดหยกนั่น
เมื่อชิงเหยี่ยนจิ้ง ฝูถูเฉวียนและไท่หมิงเห็นขวดหยก สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปพลางร้องอุทานว่า “ขวดมหาเพลิงวารี?! หมัวเฮอเทียน เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ถึงขนาดใช้อาวุธมหสวรรค์ขั้นเซิ่งพิทักษ์เผ่า!”
โดยทั่วไปชนเผ่าโบราณจะมีอาวุธมหสวรรค์ขั้นเซิ่งอย่างเจดีย์บรรพบุรุษของเผ่าฝูถู ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องเผ่าและสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีการใช้ เว้นแต่ว่าเผ่ากำลังเผชิญกับหายนะล้างโลกเท่านั้น
ย้อนกลับไปตอนนั้นที่หมัวเฮอเทียนพ่ายแพ้เซียวเหยียน เขาก็ถูกบีบให้ต้องใช้อาวุธนี้เพื่อบังคับให้เซียวเหยียนถอยออกไป
อาวุธมหสวรรค์ขั้นเซิ่งที่เขาใช้ในตอนนั้นก็คือขวดหยกดำขาวนี่
ไม่มีใครคิดว่าเมื่อเผชิญหน้ากับมู่เฉิน หมัวเฮอเทียนจะถูกบังคับให้ใช้อีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าหมัวเฮอเทียนไม่สนใจวิธีการใดๆ แล้ว ตราบใดที่สามารถคว้าร่างมหาเทพนิรันดร์กลับคืนมาครอบครอง!
ตอนนี้มู่เฉินตกอยู่ในอันตรายแล้ว