“นี่มัน…พิฆาตมังกรทรราชเลือนหายพร้อมการตื่นที่สองกลับไม่อาจเอาชนะฝ่ามือล้ำจักรวาล?”
“เจ้าหมอนี่มันยังคงออมมือไว้ในตอนที่ปะทะกับหลงเจิงอย่างนั้นหรือ!”
“ทักษะเทวะภายในของเผ่ามังกรเรามันกลายเป็นวิชาอ่อนแอไปเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน ไม่สามารถรับได้แม้แต่กระบวนท่าเดียวอย่างนั้นเชียวหรือ?”
…
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างไม่อาจพูดจากล่าวใดๆ ได้มากกว่านั้น หรือว่าเย่หยวนนี้จะใช้ฝ่ามือล้ำจักรวาลนี้จัดการคนทั้งลานศึกหมอกลงได้?
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือความแข็งแกร่งของกระบวนท่าที่เย่หยวนใช้ออกมามันกลับรุนแรงกว่าตอนที่ปะทะหลงเจิง
หากเย่หยวนปล่อยพลังเช่นนี้ออกไปใส่หลงเจิงแล้ว หลงเจิงคงไม่ได้รอดกลับออกมาจากฝ่ามือนี้แน่
“ฮ่าๆๆ… ผู้อาวุโสเทียนยู่ ไหนว่าเย่หยวนไม่มีโอกาสชนะไงเล่า? เวลานี้ท่านจะว่าอย่างไรอีก?” หลงเสี่ยวฉุนหัวเราะลั่นขึ้น
หลงเทียนยู่นั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความอับอาย “เจ้าก็เห็นว่าอ่าวหยูยังมีหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดไม้ตายนั้นที่ยังไม่ได้ใช้ออก!”
หลงเสี่ยวฉุนยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น “หึ! ท่านคิดว่าเย่หยวนจะไม่มีไม้ตายใดๆ เลยหรือ? รอดูไปเถอะ!”
…
อ่าวหยูนั้นพยายามประคองตัวลุกขึ้นจากพื้นด้วยเลือดท่วมร่าง
ฝ่ามือล้ำจักรวาลของเย่หยวนนี้มันถูกใช้ออกมาเต็มพลัง แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บของอ่าวหยูมันย่อมจะเหนือล้ำกว่าที่หลงเจิงได้รับไป
อ่าวหยูจ้องมองดูเย่หยวนด้วยความมึนงงและโกรธเคือง
เขานั้นไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องที่เย่หยวนเอาชนะหลงเจิงใดๆ ต่างจากจักรพรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายในโลกภายนอก
เขานั้นยังคิดว่าด้วยพลังของตนในเวลานี้การขยี้เย่หยวนนั้นมันจะง่ายเหมือนปอกกล้วย
เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าเมื่อได้ปะทะกันแล้วเย่หยวนกลับจะขยี้เขาลงแทน
“โอ้ ยังยืนได้ ไม่เลว” เย่หยวนมองดูอ่าวหยูด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก
อ่าวหยูจ้องมองกลับมาด้วยดวงตาแดงก่ำ “เจ้าสัตว์ร้าย! เจ้าบังคับข้าเองแล้ว! เวลานี้จงกลายเป็นเถ้าไปเสียเถอะ!”
เขานั้นยกหมัดขึ้นมาตั้งท่าและปล่อยปราณออกมาจนเกิดเงาร่างมังกรขึ้นที่ด้านหลังอีกครั้งหนึ่ง
แต่เจ้ามังกรครั้งนี้มันกลับหนักแน่นกว่าเงาร่างมังกรก่อนหน้าอย่างไม่อาจเทียบกันได้
เขานั้นยังไม่ได้ปล่อยกระบวนท่าออกพื้นที่รอบๆ มันก็แทบจะแตกสลายลง
เมื่อเย่หยวนเห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องหรี่ตาลงมองอย่างสนใจ
ดูท่าอีกฝ่ายเองก็ไม่ได้มีดีแค่โม้
แค่กระบวนท่านี้มันก็มากพอจะช่วยให้อ่าวหยูเอาชนะเทพสวรรค์สองดาวลงได้ง่ายๆ!
“หมัดกระบวยใหญ่ไร้สุด? ต้องอย่างนี้สิ! แต่น่าเสียดายที่มันก็ยังไม่ถึงขั้นอยู่ดี!” เย่หยวนกล่าวขึ้น
อ่าวหยูยิ้มเย้ย “เลิกวางท่าเถอะ! รับหมัดนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาอวดอ้างตัว!”
เย่หยวนจึงได้แต่ยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะยกมือขึ้นมาวาดเป็นวงตรงหน้าอกอย่างลื่นไหลราวสายน้ำ
ไม่นานบนฝ่ามือของเย่หยวนมันก็ปรากฏลูกแสงพลังงานขึ้น
ไม่มีคลื่นพลังน่าหวาดหวั่น ราวกับว่ามันเป็นแค่อากาศธาตุ
กระบวนท่าทรงพลังของอ่าวหยูมันขัดกับกระบวนท่าไร้พลังของเย่หยวนนี้เป็นอย่างมาก
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านี้อ่าวหยูก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นทันที “หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์! นี่…เป็นไปได้อย่างไร! เจ้าเพิ่งบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์ขึ้นมาชัดๆ เหตุใดจึงบ่มเพาะหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์ได้รวดเร็วปานนี้?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับ “บ่มเพาะ? ไม่จำเป็น! ไม่มีใครบอกเจ้าหรือว่าข้านั้นมีฤทัยแห่งฟานจู้หลง?”
อ่าวหยูหน้าถอดสีไปทันทีที่ได้ยิน มองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนกลับมีฤทัยแห่งฟานจู้หลง!
เพราะแท้จริงแล้วยอดอัจฉริยะหลงฉินผู้นั้นได้บ่มเพาะกรงเล็บมังกรเอกภพกระบวนที่สี่อย่างหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์จนชำนาญ
หลังจากที่เย่หยวนบรรลุขึ้นระดับเจ็ดมาได้ เย่หยวนก็ย่อมจะเข้าใจมันได้อย่างไม่ต้องพยายามใดๆ
หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์นี้มันขึ้นชื่อในเผ่ามังกรว่าเป็นสิ่งที่บ่มเพาะได้ยากเย็น
เทพสวรรค์หลายต่อหลายคนได้ใช้เวลากว่าแสนๆ ปีฝึกฝนบ่มเพาะมันแต่สุดท้ายก็ทำได้แต่ครึ่งๆ กลางๆ
เพราะฉะนั้นผู้คนมากมายจึงคิดหันไปพึ่งพาทักษะเทวะภายในแทนที่จะใช้เวลากว่าแสนๆ ปีบ่มเพาะวรยุทธนี้
แต่ทว่าหลงฉินนั้นมีพรสวรรค์เหนือล้ำจนสามารถบ่มเพาะหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์นี้มาได้จนถึงขั้นสุด
เพราะฉะนั้นเมื่อเย่หยวนใช้กระบวนท่านี้ออกมามันก็จะเป็นหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์ขั้นสุดเช่นกัน
ส่วนเรื่องที่ว่าบ่มเพาะใดๆ นั้น เย่หยวนที่มีฤทัยแห่งฟานจู้หลงย่อมไม่ต้องสนใจมัน
ในเวลานี้มันเกิดความแตกตื่นมากหลายขึ้นมาในจิตใจของอ่าวหยู!
ที่ด้านนอกเองเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างก็แตกตื่นไม่น้อยไปกว่ากัน
“เจ้าเด็กคนนี้มันจะมีไม้ตายมากมายปานใด! พลังของหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์นั้นมันไม่ได้ด้อยไปกว่าทักษะเทวะภายใน!”
“มันบ่มเพาะหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์ขึ้นมาได้อย่างไรทั้งๆ ที่เพิ่งจะบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์มาได้?”
“นี่มันเป็นการปะทะของสองศัตรูที่สูสีเสียจริงๆ! หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์ปะทะกับหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุด ข้าเดาไม่ได้เลยว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ!”
…
เมื่อได้เห็นใบหน้าแตกตื่นของคนทั้งหลายหลงเสี่ยวฉุนก็ยิ้มเย้ยขึ้นมา
“หึๆ บ่มเพาะ? เพื่ออะไรเล่า? เย่หยวนนั้นไม่ต้องบ่มเพาะหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์ใดๆ ทั้งสิ้น!” หลงเสี่ยวฉุนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ทุกผู้คนต่างผงะไปเมื่อได้ยินเช่นนั้นแต่เป็นทางเฉินซิงที่นึกขึ้นมาได้เป็นคนแรก “หรือเด็กคนนี้…จะมีฤทัยแห่งฟานจู้หลง?”
หลงเสี่ยวฉุนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “บรรพบุรุษของเย่หยวนนั้นคือท่านลุงของข้า พี่ชายของแม่ข้านามหลงฉิน หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์นี้เองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ท่านลุงบ่มเพาะจนชำนาญ เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่ต้องบ่มเพาะใดๆ อีก”
อ่าวฉีที่ได้ยินต้องร้องขึ้นมาอย่างตกตะลึง “หลงฉิน! ทายาทมังกรสวรรค์ผู้ได้รับขนานนามว่าเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งปราการมังกรพิรุณในเวลานั้น?”
หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็ส่ายหัวออกมา “เรื่องนั้นข้าไม่ทราบได้”
แต่เฉินซิงกลับพยักหน้ารับขึ้นมาแทน “ข้าเองก็เคยได้ยินนามนี้ ว่ากันว่าเขานั้นมีโอกาสสูงล้ำที่จะขึ้นเขามังกรสวรรค์มาได้เพียงแค่ว่าเขานั้นกลับกล้าบ้าบิ่นลงไปยังถ้ำเนตรมังกรจนสุดท้ายก็หายตัวไปจากโลกหล้า ไม่นึกเลยว่าในหมู่ทายาทของเขานั้นจะมีอสูรร้ายเช่นนี้กำเนิดขึ้นมาได้!”
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะแสดงความสามารถออกมาได้ไม่ถึงครึ่งแต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายก็เข้าใจได้อย่างดีในเรื่องหนึ่ง
เย่หยวนนั้นก้าวล้ำบรรพบุรุษของตนไปแล้ว!
แต่ทว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้เห็นภาพนี้ไม่ได้อยู่ในลานศึกหมอกด้วย
หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์ของเย่หยวนนี้มันไม่ได้มีคลื่นพลังเหนือล้ำใดๆ ราวกับเป็นแค่ผิวน้ำที่นิ่งเงียบ
ในสายตาของอ่าวหยูนั้นมันเหมือนดั่งว่าเย่หยวนแค่อวดอ้างวิชาโดยไร้พลังใดๆ
แต่อ่าวหยูเองก็เข้าใจว่าเย่หยวนคงไม่เอาวิชาปลอมๆ ขึ้นมาปะทะในศึกชี้เป็นชี้ตาย
กลับกันในเวลานี้ขนทุกเส้นบนร่างของอ่าวหยูมันกลับตั้งชัน รู้สึกถึงความอันตรายในทุกรูขุมขน
เพียงแค่ว่าตัวเขานั้นเชื่อมั่นในพลังของการตื่นที่สองของตนอย่างมาก
“จะเป็นหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์แล้วทำไมเล่า? ข้าไม่เชื่อหรอกว่าแค่วรยุทธธรรมดามันจะเทียบกับทักษะเทวะภายในที่ได้รับพลังจากการตื่นที่สองของข้าได้! หมัดกระบวยใหญ่ไร้สุด! ตายเสียเถอะ!”
อ่าวหยูร้องลั่นพร้อมต่อยหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดออกมา
หมัดนี้มันสุดแสนรุนแรง แสดงได้ถึงความหนักหน่วงของสายเลือดมังกรอย่างชัดล้ำ
เงาวิญญาณมังกรที่ด้านหลังของเขาต่อยหมัดออกมาพร้อมๆ กับร่างตนและทำให้ฟ้าดินรอบๆ ต้องสั่นสะเทือน
อ่าวหยูได้ใช้กระบวนท่านี้เอาชนะหลงฉีมาได้!
แม้จะเจอคลื่นพลังทลายฟ้าดินเช่นนั้นเย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่สั่นไหวก่อนจะผลักฝ่ามือออกมาทำให้ก้อนแสงนั้นหายวับไปทันตา
ปัง!
ในวินาทีเดียวกันนั้นมันก็เกิดแรงระเบิดสนั่นฟ้าขึ้น
เจ้าเงามังกรใหญ่ยักษ์นั้นแตกสลายลงเป็นชิ้นๆ ในพริบตา
อ่าวหยูต้องเบิกตากว้างคิดอยากหลบก็ไม่อาจหลบพ้นแล้ว
เวลานี้รอบๆ กายเขามันถูกห้อมล้อมด้วยพลังรุนแรงก่อนที่มันจะแตกระเบิดออก
ตูม! ตูม! ตูม!
หลังจากถูกแรงระเบิดเข้าไปอ่าวหยูก็ต้องร่วงลงกับพื้นด้วยสภาพไม่ต่างจากเศษเนื้อ
เมื่อได้เห็นเย่หยวนที่ค่อยๆ เดินก้าวเข้ามาใกล้ทางอ่าวหยูก็ถามขึ้นด้วยแรงเฮือกสุดท้าย
“ท-ทำไม?”
เขาไม่คิดยอมรับ!
เดิมทีลานศึกหมอกนี้มันย่อมจะเป็นเวทีที่เขาจะได้เปิดตัวต่อโลกหล้า ใครจะไปคาดคิดว่า…มันจะกลายเป็นหลุมฝังศพของเขาไป!
เขาเอาชนะหลงฉีผู้ติดหนึ่งในสามอันดับแรกมาได้ แต่กลับพ่ายแพ้ต่อเย่หยวนอย่างราบคาบ!
…………..