“ทำไมมันเป็นเช่นนี้ไปได้? ต่อให้จะเป็นหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์มันก็คงไม่มีทางจะรุนแรงได้ปานนี้ใช่หรือไม่? เจ้าเด็กคนนี้มันใช้วิธีการลึกลับใดกันแน่?”
หลงเทียนยู่มองดูเย่หยวนบนจอนั้นด้วยความมึนงงสงสัยอย่างสุดใจ
ก็จริงที่ว่าหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์มันรุนแรง
แต่จะอย่างไรหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดก็ย่อมจะเหนือกว่า!
ต่อให้เย่หยวนจะมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดมันก็คงไม่มีทางจะเอาชนะอ่าวหยูลงอย่างเด็ดขาดเช่นนี้มิใช่หรือ?
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้เห็นภาพนั้นต่างก็รู้สึกสงสัยกับผลลัพธ์นี้ไม่ต่างกัน
พวกเขาทั้งหลายนั้นไม่ได้สนใจว่าอ่าวหยูจะตายหรือรอด สิ่งที่พวกเขาสนใจนั้นมันคือความเก่งกาจของเย่หยวน
“ใครจะสนเล่าว่าเขามีวิธีการลึกลับใด? ชนะก็คือชนะ! ท่านบอกไว้มิใช่หรือว่าเย่หยวนนั้นไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย?” หลงเสี่ยวฉุนถือโอกาสพูดฉีกหน้าหลงเทียนยู่ทันทีที่ได้โอกาส
หลงเทียนยู่เองก็ได้แต่นั่งหน้าแดงก่ำอย่างอับอายไม่กล้าพูดกล่าวใดๆ สวนกลับไปอีก
แต่เฉินซิงกลับเป็นฝ่ายที่กล่าวพูดขึ้นมา “หากข้าดูไม่ผิดสิ่งที่เย่หยวนทำมันน่าจะเป็นการกักพลัง! วิธีการเช่นนี้มันจะทำให้วรยุทธไม่สูญเสียพลังก่อนจะปล่อยออกทำให้มันดูสุดแสนธรรมดาก่อนจะปล่อยแต่เมื่อปล่อยออกมาแล้วมันจะเกิดคลื่นพลังที่รุนแรงกว่าเก่าอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้! ทำเช่นนี้ได้มันก็จะทำให้วรยุทธนั้นรุนแรงกว่าเก่าได้เป็นเท่าตัวหรือหลายเท่าตัวจากพลังเดิม!”
“หะ? มันมีวิธีการเช่นนั้นอยู่ด้วย!”
“นี่มันจะบ้าเกินฟ้าดินไปแล้ว! วิธีการเช่นนั้นมันย่อมจะทำให้วรยุทธแสดงพลังออกมาได้อย่างถึงที่สุดเป็นแน่! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดมันถึงได้ดูอ่อนแอเสียเหลือเกินเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา!”
“ทำไมข้าจึงไม่เคยได้ยินวิธีการเช่นนั้นมาก่อนเลยเล่า?”
…
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นมีชีวิตมาอย่างยาวนาน หากพูดตามสามัญสำนึกแล้วความรู้ความเข้าใจที่พวกเขาทั้งหลายมีต่อโลกหล้ามันย่อมจะเหนือล้ำผู้คนทั่วไป
แต่วิธีการปล่อยวรยุทธของเย่หยวนนี้มันไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน
เจ้าเด็กคนนี้มันต้องมีโชคดีล้ำปานใดจึงไปเจอเรื่องราวเช่นนั้นได้?
เฉินซิงได้แต่ส่ายหัวออกมา “วิธีการเช่นนี้ในยุคก่อนมันนับว่าเป็นเรื่องแสนธรรมดา แต่เวลาผ่านไปมันก็จางหายไปตามกาลเวลา จักรพรรดิผู้นี้เองก็แค่ได้เห็นมันสลักอยู่ในบันทึกโบราณของเขามังกรสวรรค์และวิธีการที่เย่หยวนใช้ออกมานี้มันก็ตรงกับที่บันทึกไว้อย่างน่าเหลือเชื่อ”
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหันมามองหน้ากันพร้อมสูดหายใจเข้าลึก
หลังจากไม้ตายแล้วไม้ตายเล่าของเย่หยวนถูกเปิดเผยออกสู่สายตาพวกเขา เวลานี้ความตื่นตกใจที่พวกเขามีมันจึงยิ่งเพิ่มพูน
…
ภายในลานศึกหมอกเวลานี้เย่หยวนก้มลงมองดูอ่าวหยูที่อยู่ใต้เท้าก่อนกล่าวขึ้น “มันไม่มีทำไม เหตุผลเดียวนั้น…เพราะว่าเจ้าอ่อนแอ! ปลุกตรามังกรสวรรค์ครั้งที่สองแล้วทำไมเล่า? สุดท้ายเจ้าก็ไม่อาจจะทำให้ข้าต้องเอาจริงได้ด้วยซ้ำ ฝีมือเพียงเท่านี้ก็คิดอยากฆ่าสังหารข้าแล้วหรือ?”
อ่าวหยูจ้องมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อาจทำใจเชื่อ แต่เวลานี้ม่านตาของเขามันก็เริ่มเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากต่อสู้กันปานนี้แล้วเย่หยวนกลับยังไม่ได้เอาจริง?
เจ้าหมอนี่…มันมีขีดจำกัดหรือไม่?
แต่ทว่าเรื่องราวจากนี้มันมิใช่สิ่งที่เขาต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
เย่หยวนเหยียบเท้าลงจบชีวิตอันน่าสมเพชของอ่าวหยู
หลงเจิงนั้นไม่ได้มีความแค้นใดๆ กับเย่หยวน เย่หยวนจึงไม่ได้ถึงขั้นฆ่าสังหารใดๆ
แต่อ่าวหยูนี้คิดอยากฆ่าสังหารเขา แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่ปล่อยเสือเข้าป่า
ได้เห็นเช่นนั้นอ่าวฉีเองก็ได้แต่ส่ายหัวออกมาอย่างหนักใจ
เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าปราการมังกรม่วงของเขานั้นจะให้กำเนิดยอดอัจฉริยะขึ้นมาถึงสองคนเช่นนี้ แต่สุดท้ายคนทั้งสองกลับต้องมาเอาชีวิตกันเอง
เย่หยวนเก็บผลึกต้นมังกรขึ้นมาและเดินทางต่อไปในลานศึกหมอก
เขานั้นเดินไปอย่างสบายใจไม่คิดกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
ในลานศึกหมอกนี้คนที่จะสามารถทำร้ายเขาได้นั้นมันยังไม่ปรากฏตัวขึ้น
หากเขาไม่อาจจัดการคนในระดับเดียวกันได้แล้วมันก็คงจะอ่อนแอจนเกินไป
แต่ไม่ว่าอย่างไรเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายนั้นก็เก่งกาจเหนือล้ำ ต่อสู้ข้ามดาวได้อย่างไม่ยากเย็น
หากเอาอ่าวหยูออกไปจากลานศึกหมอกนี้ ตัวเขาคงบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์สามดาวได้ในไม่ช้า
ด้วยพลังการต่อสู้ของเขาแล้วต่อให้จะต้องเจอเทพสวรรค์สี่ดาวตัวเขาก็คงพอปกป้องตัวเองได้
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียสำหรับคนทั่วๆ ไปการที่เทพสวรรค์สี่ดาวสู้กับเทพสวรรค์สามดาวนั้นมันก็เท่ากับความตายอย่างไม่อาจเลี่ยง
แต่ในระดับเดียวกันแล้วใครก็คงไม่อาจจะโค่นเย่หยวนลงได้ง่ายๆ
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเข้าเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ที่ยังอยู่ในลานศึกหมอกมันก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
เวลานี้เหล่าคนเหลืออยู่ย่อมเป็นยอดของยอดคน ทำให้การต่อสู้ใดๆ ก็ยิ่งจะรุนแรงมากขึ้น
หลังจากที่เย่หยวนจัดการทายาทมังกรสวรรค์ลงอีกสองคนเขาก็ได้มาเจอหลงฉีอย่างไม่คาดฝัน
หลงฉีนั้นแม้จะพ่ายแพ้แก่อ่าวหยูแต่เขาก็ไม่ได้ถอนตัวออกจากลานศึกหมอกและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มากมาย
หลังจากหลบหนีมาได้ตัวเขาก็เริ่มออกล่าหาผลึกต้นมังกรอีกครั้ง
เมื่อหลบงฉีเห็นเย่หยวนเขาก็หรี่ตาลงก่อนร้องบอก “เป็นเจ้าจอมโอหังนี่เองหรือ? ไปให้พ้น ไม่เช่นนั้นเจ้าตาย!”
เมื่อเย่หยวนได้ยินคำพูดนั้นเขาก็แทบจะอดหัวเราะขึ้นไม่ได้
เหล่าคนทั้งหลายนี้ต่างเดินเข้ามาข่มขู่เขาด้วยคำพูดอวดตัว พูดจาในทำนองเดียวกันนี้สิ้น
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจเขาและเดินเข้าไปหาผลึกต้นมังกรอย่างไม่แยแส
หลงฉีที่ได้เห็นต้องเบิกตากว้างขึ้น “ข้าพูดกับเจ้า เจ้าหูหนวกหรือ? เข้าไปใกล้กว่านี้ข้าจะให้เจ้าได้ตายลงแล้ว!”
หลงฉีนั้นไม่ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่หลงจื่อเฟิงที่ด้านนอกนั้นได้แต่นั่งคอตก
ในลานศึกหมอกนี้ไม่ว่าจะต่อสู้กันดุเดือดรุนแรงปานใด คนที่ไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ก็จะไม่รู้ถึงเรื่องราวอย่างสิ้นเชิง
หลงฉีนั้นไม่ได้รู้เลยว่าอ่าวหยูที่ชนะเขาไปได้นั้นกลับต้องตายลงใต้เท้าของเย่หยวน
เวลานี้เมื่อหลงฉีเดินเข้ามาหาเรื่องเย่หยวนด้วยท่าทางอวดดีเช่นนี้ มันจะไม่เป็นการรนหาที่ตายอย่างใช่เหตุหรือ?
เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ด้านนอกเห็นภาพนี้พวกเขาก็อดหัวเราะกันขึ้นไม่ได้
เวลานี้แม้แต่อ่าวฉีที่นั่งหนักใจในทีแรกยังต้องกล่าวเย้ยขึ้น “หลงจื่อเฟิง หลงฉีนั้นจะติดหนึ่งในสามมิใช่หรือ? หากเขาเอาชนะเย่หยวนลงได้แล้วเขาคงติดหนึ่งในสามได้แน่ อ่า จริงด้วยสิ เจ้าบอกว่าเจ้ามีปัญญาพอจะอวดอ้างตนต่อหน้าปราการมังกรม่วงเรามิใช่หรือ? เอาสิๆ อวดอ้างตัวเองให้เต็มที่เลย”
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้ยินต่างหัวเราะลั่นขึ้นตามๆ กัน
เวลานี้หลงจื่อเฟิงจะยังอวดอ้างใดๆ ได้?
เขานั้นแค่พ่นลมตอบกลับมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่สายตาของเขานั้นยังมีความหวัง หวังว่าหลงฉีจะไม่ลงมือกับเย่หยวนจริงๆ
แต่น่าเสียดายที่หลงฉีกลับทำลายความหวังนั้นลง
เมื่อได้เห็นเย่หยวนไม่คิดสนใจเขาแม้แต่น้อยยังคงเดินเข้าไปหาผลึกต้นมังกร หลงฉีก็ร้องขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “คนเขาอุตส่าห์ไว้หน้ากลับไม่รับ เจ้าคิดว่าตนเองนั้นเก่งกาจมากมายหรือ? ในเมื่อเจ้าคิดรนหาที่ตายเองก็อย่าได้มาโทษข้าเลย! พิฆาตมังกรทรราชเลือนหาย!”
หลงฉีเองก็ปลุกทักษะเทวะภายในที่สองขึ้นมาได้แต่ตรามังกรสวรรค์ของเขานั้นยังไม่ได้ตื่นครั้งที่สองทำให้พลังของมันไม่อาจเทียบกับอ่าวหยูได้
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจพูดกล่าวใดๆ และปล่อยฝ่ามือล้ำจักรวาลออกมาส่งร่างของหลงฉีลอยลิ่วไป
หลงฉีร่วงตกลงพื้นด้วยความมึนงงสุดหัวใจ
“บ้าน่า! ฝ่ามือล้ำจักรวาลกลับทำลายพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายข้าลงได้?” หลงฉีได้แต่เบิกตากว้าง
คำพูดที่เย่หยวนกล่าวก่อนเข้ามานี้หลงฉีย่อมไม่คิดสนใจใดๆ
เจ้าคนที่ยังไม่อาจปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้มันจะเก่งกาจสักเท่าใด?
แต่เวลานี้เขาได้รู้แล้วว่าตนนั้นคิดผิด!
ผิดอย่างมหันต์!
เย่หยวนนั้นเก่งกาจอย่างที่โม้ไว้จริงๆ!
เย่หยวนก้มลงเก็บผลึกต้นมังกรนั้นและหันไปกล่าวบอก “เจ้าเองก็น่าจะปลุกหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดได้ใช่ไหมเล่า? หากยังไม่ยอมรับจะใช้มันออกมาก็ได้”
ท้าทาย!
ดูถูกอย่างชัดเจน!
หลงฉีนั้นเป็นคนมากเกียรติศักดิ์ศรี มีหรือที่จะทนการท้าทายนี้ได้?
“เด็กน้อย ในเมื่อเจ้าอยากตายจริงๆ ก็ตายไปเสียเถอะ!”
หลงฉีหรี่ตาลงพร้อมก่อร่างมังกรขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นพลังของหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุด!
แต่เขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าที่โลกด้านนอกเวลานี้หลงจื่อเฟิงได้แต่นั่งหลับตาไม่อาจจะทนมองดูภาพตรงหน้าได้อีกต่อไป
แน่นอนว่าเมื่อปะทะหลงฉีก็ถูกซัดลอยลิ่วไปจนไม่เหลือแรงจะลุกขึ้นใดๆ อีก
แต่ทว่าครั้งนี้เย่หยวนไม่ได้คิดลงมือสังหารใดๆ เขาจึงได้ปล่อยให้หลงฉีได้ถอนตัวออกจากลานศึกหมอกไป
……………….