ราชันเร้นลับ 1203 : ส่วนแบ่ง

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

เหนือสายหมอกสีเทา ภายในวังโบราณ

เสาลำแสงสีแดงสว่างขึ้นก่อนจะก่อตัวเป็นร่างจำนวนหนึ่ง

เดอะสตาร์ เลียวนาร์ดชำเลืองไปรอบตัว จากนั้นก็หยุดสายตาที่กล่องอัญมณีสีเงินทึบเลี่ยมเพชรพลอยบนโต๊ะทองแดง

ถ้ามันจำไม่ผิด สิ่งนี้น่าจะเป็นสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ กล่องวันวานที่เดอะเวิร์ล ไคลน์·โมเร็ตติเน้นย้ำหลายครั้งในการชุมนุมย่อยคราวก่อน

นักบุญเร้นลับ โบทิส ได้รับมอบหมายให้ดูแลสมบัติปิดผนึกลำดับศูนย์ จริงๆ? แถมยังพกพามาด้วย? และถึงอย่างนั้น มาดามเฮอร์มิทกับมิสจัสติสก็ยังทำงานสำเร็จ? รูม่านตาเลียวนาร์ดเบิกกว้างเล็กน้อยด้วยความไม่เชื่อ

ในฐานะผู้วิเศษของทางการและหัวหน้าหน่วยหัวกะทิแห่งโบสถ์รัตติกาล มันคุ้นเคยกับสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ เป็นอย่างดี และทราบว่าสมบัติระดับนี้สามารถทำลายเมืองได้ทั้งเมือง หรือทำให้ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตอย่างมิอาจขัดขืน หากต้องเผชิญหน้า ไม่ใช่แค่ห้ามสัมผัส แต่ยังห้ามทำความเข้าใจ

เดิมทีเลียวนาร์ดเข้าใจว่า มาดามเฮอร์มิทกับมิสจัสติสจะทำการล่าถอยทันทีที่พบว่าอีกฝ่ายพกพาสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ จากนั้นค่อยคิดหาวิธีช่วยเหลือมิสเมจิกเชี่ยนในภายหลัง แต่กลับกลายเป็นว่า พวกเธอทำงานสำเร็จ แถมยังช่วงชิงสมบัติปิดผนึกดังกล่าวมาได้ด้วย!

พลัง ‘สำแดงความรู้’ ของมาดามเฮอร์มิทยอดเยี่ยมขนาดนั้นเชียว? หรือว่า ‘งานเลี้ยงแห่งการทรยศ’ ที่เธอเคยเล่าให้ฟังจะทำให้สมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ ทรยศเจ้าของได้จริง? หรือมิสเตอร์ฟูลยื่นมือเข้าไปแทรกแซงในระดับหนึ่ง? เลียวนาร์ดพึมพำกับตัวเองก่อนจะชำเลืองหาไคลน์·โมเร็ตติที่สุดขอบโต๊ะทองแดงยาวอีกฝั่ง มันพบว่าอดีตเพื่อนร่วมงานของตนค่อนข้างใจเย็น

ไคลน์มองไปรอบตัวและพูด

“ขอบแสดงความยินดีกับทุกคน การล่าประสบความสำเร็จเกิดคาด… นี่คือส่วนแบ่งทั้งหมด”

มันยกมือขวาขณะกล่าว ทำการควบแน่นข้อมูลศาสตร์เร้นลับให้กลายเป็นจุดแสงสีขาวซีด ภายในนั้นยังบรรจุความรู้จากทวีปตะวันไว้ด้วยเล็กน้อย รวมถึงตำนานนำพุสวนดอกท้อและหมากกระดานแห่งลั่นเกอ มันต้องการให้มาดามเฮอร์มิทช่วยยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความรู้ในเชิงศาสตร์เร้นลับหรือไม่ เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงไหม

“มาดาม… นี่คือรางวัลของคุณ” เดอะเวิร์ล ไคลน์ผลักแสงสีขาวลอยไปหามาดามเฮอร์มิท จากนั้นก็ชี้ไปทางกล่องวันวาน ตะกอนพลังจอมเวทลึกลับ กระเป๋าสัมภาระของนักท่องเที่ยว ดวงตาโบทิส หนอนดวงดาวเก้าตัว และอัญมณีกับวัสดุวิญญาณจำนวนหนึ่งบนโต๊ะ “นอกจากนั้นคุณยังจะได้สิทธิ์เลือกเป็นคนแรก”

หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือดกับนักบุญเร้นลับ โบทิส และเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แคทลียามีความมั่นใจและฮึกเหิมที่สมฐานะนักบุญ อันดับแรก หญิงสาวรับก้อนแสงความรู้และหลับตาลงเพื่อย่อยพวกมันในหัว

ในยุคสมัยที่สอง เทพบรรพกาลเชื่อว่าพระผู้สร้างต้นกำเนิดได้ทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลัง อาจเป็นอาณาจักรซึ่งเกิดจากบางส่วนของพระองค์ หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้นด้วยตัวเอง…

สิ่งเหล่านี้มีทั้งหมดเก้าชนิด ประกอบด้วยทะเลแห่งความโกลาหล ปราสาทต้นกำเนิด แม่น้ำอันธการนิรันดร์ ดินแดนรกร้างแห่งความรู้ โลกเงามืด รังมารดา แคว้นแห่งความยุ่งเหยิง เมืองแห่งหายนะ และกุญแจแห่งแสง…

เทพสุริยันบรรพกาลมาจากสถานที่ที่เชื่อว่าเชอร์โนบิล…

ลำดับศูนย์ ของเส้นทางนักจารกรรมคือข้อผิดพลาด…

นิทานปรับปรามของจักรพรรดิโรซายล์อาจจะมาจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นจริง…

“…”

ขณะความรู้ศาสตร์เร้นลับกำลังคำรามในหัว เฮอร์มิท แคทลียา อดไม่ได้ที่จะมองไปทางเกอร์มัน·สแปร์โรว์

มีหลายสิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึง ทั้งหมดช่วยให้แคทลียาเปิดประตูก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่โดยสิ้นเชิง!

เมื่อก่อนเราไม่เคยคิดถึงที่มาของมิสเตอร์ฟูล… แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว… แคทลียาคาดเดาขณะปล่อยความคิดล่องลอย

เธอรีบควบคุมตัวเอง ไม่อยากครุ่นคิดกับมันมากนัก รวมถึงไม่อยากส่องความลับเข้าไปลึก

ด้วยกังวลว่าคำตอบที่ได้จะรุนแรงพอที่จะทำให้เธอคลุ้มคลั่งคาที่:

มิติเหนือสายหมอกคือหนึ่งในเก้าต้นกำเนิด และจุดประสงค์ของมิสเตอร์ฟูลคือการรวบรวมทั้งหมด…

หญิงสาวยกมือขวาขึ้นมาขยับแว่นบนสันจมูก บังคับให้สมองหันเหกลับมาสนใจ ‘เรื่องราว’ เล็กๆ ที่มิสเตอร์เวิร์ลถ่ายทอด พลางตัดสินใจว่า เธอจะย่อยโอสถให้เสร็จและลองสร้างเวทมนตร์ขึ้นจากพวกมันด้วยพลัง ‘สำแดงความรู้’

แต่แน่นอน แคทลียาเชื่อว่าไม่ใช่ทุกเรื่องราวจะประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งอาจเป็นสิ่งที่มนุษย์แต่งขึ้น ต้องไม่ลืมว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงของแถมจากมิสเตอร์เวิร์ลที่อีกฝ่ายไม่รับประกันผล เพราะแม้แต่นิทานกล่อมเด็กจำนวนมากที่จักรพรรดิโรซายล์เล่าให้ราชินีเงื่อนงำฟัง ก็ยังมีแค่ส่วนน้อยที่สามารถนำมาใช้สร้างเวทมนตร์ได้จริง

หญิงสาวใช้เวลาสักพักก่อนจะดึงสติกลับมา จากนั้นก็กวาดสายตาไปบนโต๊ะทองแดงยาวเพื่อเตรียมเลือกส่วนแบ่งของตัวเอง

สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดย่อมต้องเป็นกล่องวันวานรหัสศูนย์-61 อย่างไม่ต้องสงสัย ลำพังรูปลักษณ์ของกล่องอัญมณีสีเงินทึบเลี่ยมเพชรพลอยก็มากพอจะดึงดูดความสนใจไปจากทุกสิ่ง

สมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ ไม่ใช่ของแปลกหน้าสำหรับแคทลียา เพราะราชินีเงื่อนงำเองก็มีในครอบครองไม่ต่ำกว่าหนึ่ง และเป็นเพราะพวกมัน องค์กร ‘แก่นรุ่งอรุณ’ ของราชินีถึงได้กลายเป็นองค์กรลับที่ทัดเทียมนิกายมอสส์ซึ่งถือกำเนิดในช่วงต้นยุคสมัยที่สี่

ช่องว่างระหว่างนักบุญกับเทวทูตคือสิ่งที่มิอาจชดเชยได้ด้วยเวทมนตร์จากนิทานกล่อมเด็กเพียงอย่างเดียว

หากต้องการเป็นใหญ่เป็นโตในโลกผู้วิเศษ ถ้าเป็นเลื่อนลำดับเป็นเทวทูตลำดับ 2 ก็ต้องถือครองสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เพราะแคทลียาไม่ปรารถนากล่องวันวาน แต่เธอเป็นกังวลเกี่ยวกับคำบอกใบ้ที่มิสเตอร์ฟูลตักเตือนผ่านเดอะเวิร์ลตักเตือน ไม่ว่าจะผลข้างเคียงของมัน ความอันตรายในการเปิดกล่องชั้นที่สาม หรือการที่พลังพิเศษเป็นแบบเดาสุ่ม ทั้งหมดทำให้แคทลียาหวาดกลัว

แม้เธอจะมี ‘โชคชั่วคราว’ แต่ก็ยังขาดวิธีผนึกกล่องวันวานอย่างมีประสิทธิภาพ

หลังจากเค้นสมองขบคิดเป็นเวลานาน เฮอร์มิท แคทลียาชี้ไปทางผลึกชวนฝันและกล่าว

“ฉันเลือกตะกอนพลังจอมเวทลึกลับ”

ถ้าหาช่างฝีมือที่เก่งกาจได้ มันจะกลายเป็นสมบัติปิดผนึกชั้นเยี่ยมชนิดที่เธอสามารถทนรับผลข้างเคียงไหว และดูเหมือนว่าราชินีเงื่อนงำก็จะมีช่างฝีมือในระดับดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่คำขอร้องของแคทลียาจะไม่ถูกตอบรับ

ขอแค่ได้พลังเทเลพอร์ตมาก็คุ้มค่าแล้ว… แต่เป็นถึงระดับจอมเวทลึกลับ คงไม่ได้มีดีแค่เทเลพอร์ตแน่… ต่อให้ผลข้างเคียงรุนแรง แต่เราก็สามารถขอร้องให้ราชินีป่นมันและสร้างใหม่ หรือแม้กระทั่งขายตะกอนพลังต่อให้มิสเมจิกเชี่ยน… ไม่สิ อาจารย์ของเธอบอกว่าจะเตรียมวัตถุดิบไว้ให้… แคทลียาหันไปพักหน้าให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์เพื่อยืนยันคำตัดสินใจ

เลือกตะกอนพลังจอมเวทลึกลับ? ทันทีที่ได้ฟังคำตอบของเฮอร์มิท ฉากหนึ่งผุดขึ้นในหัวไคลน์

สตรีในชุดคลุมหัวสีดำลายม่วงใช้พลัง ‘บลิงค์’ อย่างต่อเนื่องจนเกิดภาพตกค้าง จากนั้นทั้งหมดก็จุดไม้ขีดไฟพร้อมกัน

หนูน้อยขายไม้ขีดไฟจะกลายเป็นกองทัพแม่มดขายไม้ขีดไฟทันที… เป็นนิทานกล่อมเด็กที่สยองขวัญชะมัด… เดอะเวิร์ล ไคลน์อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับทราบ

“ตกลง… คุณได้สิทธิ์นั้น”

จากนั้นก็จ้องไปทางมิสเมจิกเชี่ยน

“ตาคุณเลือก”

“ต…แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย” ฟอร์สกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

ไคลน์พ่นลมหายใจเยือกเย็น

“คุณเป็นเหยื่อที่สมบูรณ์แบบ”

“…” ฟอร์สตอบสนองไม่ถูกไปสักพัก แต่เธอสัมผัสได้ว่าเดอะสตาร์กำลังขำ

หญิงสาวเข้าใจเข้าเชื่องช้าก่อนจะสำรวจส่วนแบ่งบนโต๊ะทองแดงยาว

ว่ากันตามตรง เธอต้องการเลือกกล่องวันวาน เพราะมันคือสิ่งที่ถูกขโมยไปจากตระกูลของอาจารย์

เธอไม่คิดจะใช้เอง แต่จะคืนให้อาจารย์ทันที

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาว่าตนทำหน้าที่เป็นแค่เหยื่อล่อ ฟอร์สตระหนักว่าตัวเองไม่คู่ควรกับสมบัติชิ้นดังกล่าว

สมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ คือวัตถุหายากโดยแท้จริง แถมยังมีมูลค่าสูงและอันตรายมาก เธอตระหนักถึงความน่าสะพรึงของมันได้จากคำอธิบายของมิสเตอร์สตาร์ ฟอร์สค่อนข้างมั่นใจว่ากล่องวันวานมีมูลค่าสูงลิบชนิดที่ตะกอนพลังของนักบุญเทียบไม่ติด

ด้วยความคิดดังกล่าว เธอตัดสินใจหนักแน่นท่ามกลางสายตาจ้องมองจากเดอะเวิร์ล ฟอร์สสลัดความคิดฟุ้งซ่านและเลือกดวงตาของโบทิส

“พวกมัน”

เธอคิดจะนำดวงตาคู่นี้ไปให้อาจารย์เพื่อแจ้งข่าวว่าโบทิสตายแล้ว เป็นการสิ้นสุดความเคียดแค้นอันยาวนาน

นอกจากนั้น ดวงตาของโบทิสยังมีสรรพคุณในการเป็นสื่อกลางสร้างวัตถุต้องสาปหรือใช้คำสาปโดยตรง เรียกได้ว่าไม่แย่นัก

ไคลน์พยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่พยายามเปลี่ยนใจอีกฝ่าย เพียงจ้องไปทางกองอัญมณี วัตถุวิญญาณ และหนอนดวงดาวก่อนจะพูดเสียงเย็น

“คุณเสียกระดาษคนจันทราไปหนึ่งใบ เลือกหนึ่งในนี้เพื่อชดเชยความเสียหาย”

“ตกลง” ฟอร์สรับคำทันที

เนื่องจากยันต์และพิธีกรรมจำนวนมากของเส้นทางผู้ฝึกหัดล้วนเกี่ยวข้องกับอัญมณี ฟอร์สตัดสินใจเลือกอัญมณีไปบางส่วนและวัตถุดิบประกอบพิธีกรรมอีกเล็กน้อย

เสร็จจากนั้น ไคลน์หันไปมองมิสจัดจ์เมนต์

“ตาคุณ”

จัดจ์เมนต์ซิลเองก็ทราบดีว่าเธอไม่ได้ทำประโยชน์มากนัก และทราบดีว่าตนไม่มีปัญญาจะผนึกหรือทนรับผลข้างเคียงของกล่องวันวาน สายตาจึงมองผ่านศูนย์-61 หนึ่งไปยังกระเป๋าสีดำ

“ขอเลือกกระเป๋าสัมภาระของนักท่องเที่ยว”

ด้วยสิ่งนี้ เธอสามารถพกพาวัตถุขนาดใหญ่ไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่นการควักปืนใหญ่ออกมายิงในช่วงเวลาวิกฤติ

สำหรับปัญหาเกี่ยวกับการ ‘บำรุงรักษา’ มิติซ่อนเร้น เธอคิดเผื่อไว้แล้ว อย่างน้อยเธอจะยังใช้กระเป๋าใบนี้ไปได้อีกหนึ่งปี และในอนาคตก็ยังอาจยืมสมบัติปิดผนึกเส้นทางผู้ฝึกหัดจากมาดามเฮอร์มิท หรือไม่ก็รอให้ฟอร์สกลายเป็นจอมเวทลึกลับ

ไคลน์พยักหน้ารับก่อนจะมองเลียวนาร์ด

“ตาคุณ”

เลียวนาร์ดไม่มากพิธี กวาดสายตาหนึ่งรอบพร้อมกับเคาะโต๊ะ

“หนอนดวงดาวสามตัว อัญมณียี่สิบเม็ด และวัตถุวิญญาณจำนวนหนึ่ง”

ทำไมเราถึงรู้สึกเหมือนกับถูกตำรวจ ‘รีดไถค่าคุ้มครอง’ … หลังจากรำพันจิกกัดเพื่อนรักนักกวี ไคลน์หันไปพูดกับมิสจัสติส

“ภารกิจคราวนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและผมก็พอใจมาก แม้คุณจะได้รับค่าตอบแทนไปแล้ว แต่ผมจะให้สิทธิ์คุณเลือกเพิ่ม”

จัสติสออเดรย์มองเห็นความจริงใจจากคำพูดเดอะเวิร์ล โดยไม่เล่นตัว เธอเลือกหนอนดวงดาวหนึ่งตัวและวัตถุวิญญาณอีกจำนวนหนึ่ง

ถึงตรงนี้ ในฐานะผู้จ้างงาน เดอะเวิร์ล เกอร์มัน สแปร์โรว์ได้รับหนอนดวงดาวห้าตัว สมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ วัตถุวิญญาณหนึ่งในสาม และอัญมณีคุณภาพสูงอีกสามสิบเม็ด

มันยิ้มพลางหันไปจ้องฟอร์ส

“อย่าลืมบอกอาจารย์ของคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย จะถือว่าเป็นความปรารถนาดีจากผมก็ได้ ผมแค่ต้องการทำธุรกิจกับพวกเขา”

……………………