ราชันเร้นลับ 1202 : ชุมนุมทาโรต์

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

บรรดาครึ่งเทพและผู้วิเศษในห้องต่างพากันพยักหน้าให้เลียวนาร์ด เป็นนัยว่าพวกมันเข้าใจสิ่งที่หน่วยหน้าหน่วยถุงมือแดงกำลังสื่อ

หนึ่งในทูตพิพากษายกมือขึ้นตั้งคำถาม

“กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ที่ทิ้งไพ่ไว้ในจุดเกิดเหตุคือสมาชิกที่ลงมือ?”

“น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ” เลียวนาร์ดไม่ฟันธง

ทูตพิพากษาคนเดิมพูดต่อ

“ถ้าอย่างนั้น ไพ่ทาโรต์ที่กองสุมบนตัวลาเนวุสหมายความว่าอย่างไร? ทำไมถึงไม่มีการเจาะจงผู้ลงมือ”

เลียวนาร์ดหยิบชอล์กขาวขึ้นมาเขียนชื่อลาเนวุสบนกระดานดำ จากนั้นก็วาดวงกลม

“ดังที่ผมเคยกล่าวไป ในช่วงไม่กี่ปีหลัง คดีเกี่ยวกับไพ่ทาโรต์เพิ่งเริ่มดึงดูดความสนใจของเรานับตั้งแต่การตายของลาเนวุส… หมายความว่าคดีนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง… ดังนั้น การที่ไม่เจาะจงผู้ลงมืออาจสื่อได้ว่าเป็นฝีมือของสมาชิกทุกคน… หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือการประกาศตัวตนอย่างเป็นทางการและประทับรอยเท้าแรกขององค์กรที่ใช้ไพ่ทาโรต์ลงบนหน้าประวัติศาสตร์… หึหึ ต้องขออภัยที่ผมต้องพูดเป็นภาษากวี”

“สมเหตุสมผล” ทูตพิพากษาหลายคนเห็นพ้องกับเลียวนาร์ด

เลียวนาร์ดมองไปรอบตัวและกล่าวต่อ

“ผมขอใช้ชุมนุมแสงเหนือที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นตัวเปรียบเทียบ… พวกเราทราบดีว่าชุมนุมแสงเหนือมีผู้ส่งสารทั้งสิ้นยี่สิบสองคน แต่ละคนรับหน้าที่ดูแลแต่ละท้องถิ่น… มีความเป็นไปได้ว่าชุมนุมที่ใช้ไพ่ทาโรต์เป็นรหัสอาจมีโครงสร้างคล้ายคลึงกัน สมาชิกอย่างจัดจ์เมนต์ ดิเอ็มเพอเรอร์ และเฮอร์มิทอาจมีกองกำลังและพื้นที่ในความรับผิดชอบของตัวเอง”

ฟังถึงตรงนี้ สมาชิกคนหนึ่งของจิตแห่งจักรกลครุ่นคิดสักพักก่อนจะถาม

“แต่ในกรุงเบ็คลันด์กลับมีสมาชิกหลักอย่างจัดจ์เมนต์ ดิเอ็มเพอเรอร์ และเฮอร์มิทปรากฏตัวมากถึงสามคน… หากพิจารณาจากสิ่งที่คุณพูด อาจหมายความว่าชุมนุมที่ใช้ไพ่ทาโรต์แทนรหัสคงมีขนาดไม่ใหญ่นัก สมาชิกอาจกระจุกตัวภายในโลเอ็น หรืออาจแค่กรุงเบ็คลันด์? เพราะเทียบกับชุมนุมแสงเหนือ คนที่ดูแลกรุงเบ็คลันด์มีเพียงผู้ส่งสารหนึ่งคน ส่วนทั้งอาณาจักรโลเอ็นจะอยู่ภายใต้ความดูแลของนักบุญมืด”

เลียวนาร์ดพยักหน้าเชื่องช้า เป็นนัยว่าเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

มันเรียบเรียงคำพูดสักพัก

“นั่นก็เป็นไปได้ เพราะองค์กรที่ว่าเพิ่งมีชื่อครั้งแรกในช่วงไม่กี่ปีหลัง… แต่ก็อาจเป็นเพราะเหตุผลอื่น… เช่นว่า องค์กรดังกล่าวมิได้แบ่งขอบเขตการดูแลตามภูมิภาค แต่แบ่งตามขอบเขตความสามารถของตัวเอง และจะร่วมมือกันในบางสถานการณ์ เช่นคดีของคาพิน”

เมื่อเห็นว่าผู้วิเศษของสามโบสถ์หลักและกองทัพไม่ตั้งคำถาม เลียวนาร์ดเรียบเรียงคำพูดสักพักและกล่าวต่อ

“หลังจากนี้จะเป็นการคาดเดาของผม อาจมีบางจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่จะใช้เป็นแนวทางการสืบสวนในอนาคต… คำถามแรก องค์กรนี้มีจุดประสงค์อะไร? หากพวกเขาเป็นเหมือนกับชุมนุมแสงเหนือที่พยายามเผยแพร่ความเชื่อให้เทพมาร ทำไมทางเราถึงยังไม่เคยพบตัวสาวกของลัทธินอกรีตนี้แม้แต่คนเดียว? หรือต่อให้มี แต่การสืบสวนเชิงลึกก็ยืนยันว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นแค่นักต้มตุ๋นที่แอบอ้างเดอะฟูล… คำถามที่สอง แต่ละภารกิจของพวกเขามีสิ่งใดร่วมกัน? สำหรับเรื่องนี้ ผมยังหาจุดเชื่อมโยงไม่ได้… ข้อสงสัยที่สามของผมก็คือ สมาชิกระดับสูงของชุมนุมที่ใช้ไพ่ทาโรต์เป็นรหัสซึ่งน่าจะมีกองกำลังและขอบเขตในความดูแล ทำไมพวกเขาถึงไม่เคยมีชื่อเสียงในโลกผู้วิเศษเลย? เรื่องนี้ผิดปรกติอย่างมาก เพราะต่อให้ยี่สิบสองนักบุญของชุมนุมแสงเหนือพยายามปกปิดตัวตนสักเพียง แต่พวกมันก็เคยปะทะกับเราบ่อยครั้ง… บางคนเลื่อนลำดับจากลำดับต่ำเป็นลำดับกลางภายใต้ ‘สายตา’ ของพวกเรา จนกระทั่งรับตำแหน่งแทนผู้ส่งสารคนเก่าที่ตายไปหรือเลื่อนตำแหน่ง เกือบทั้งหมดของพวกมันอยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังของเรามานานแล้ว”

กล่าวถึงตรงนี้ เลียวนาร์ดเว้นวรรคก่อนจะเล่าต่อ

“ถ้าองค์กรที่ใช้ไพ่ทาโรต์เป็นรหัสศรัทธาในเดอะฟูลจริง… มีหนึ่งคนที่สามารถตอบคำถามที่สามของผมได้… นักผจญภัยเสียสติ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ มีข่าวลือหนาหูว่าเขาศรัทธาในเดอะฟูล”

ชื่อดังกล่าวทำให้เหล่าผู้วิเศษจากสามโบสถ์หลักและกองทัพปิดปากเงียบ ราวกับกำลังเค้นสมองทบทวนข้อมูล

พวกมันทราบมานานแล้วว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์มีปูมหลังลึกลับและเชื่อในเดอะฟูล ทุกหน่วยมีข้อมูลในมือไม่มากก็น้อย แต่ไม่มีใครเคยจับมาเชื่อมโยงอย่างจริงจังเหมือนกับเลียวนาร์ด

“…เกอร์มัน·สแปร์โรว์ถูกสงสัยว่ามีความสนิทสนมกับกงสุลมรณะแห่งไบลัมผู้เป็นเทวทูตที่ยังโลดแล่นบนพื้นดิน” อาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์รัตติกาล แอนโทนี·สตีเวนสัน กล่าวหลังจากนั่งฟังอย่างเงียบงันมานาน

คำพูดดังกล่าวทำให้ผู้วิเศษที่ยังมีระดับไม่ถึงครึ่งเทพต่างพากันสั่นกลัวและนั่งหลังตรงโดยไม่รู้ตัว

พวกมันอาจรู้จักพลเรือเอกขุมนรก แต่เนื่องจากยังขาดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล หลายคนจึงไม่ทราบว่ากงสุลมรณะคือเทวทูตเดินดิน

“…กงสุลมรณะคนนั้นดูไม่เหมือนสมาชิกฝ่ายใดของนิกายวิญญาณ” สมาชิก MI9 คนหนึ่งกล่าวอย่างไม่มั่นใจ

เลียวนาร์ดพยักหน้าเคร่งขรึม

“บางทีท่านอาจเป็นสมาชิกองค์กรลับที่ใช้ไพ่ทาโรต์เป็นรหัส… ไพ่เดธ!”

ห้องประชุมเงียบงันอีกครั้ง เหล่าครึ่งเทพต่างมองว่าข้อสันนิษฐานนี้มีมูล

องค์กรลับที่ใช้ไพ่ทาโรต์เป็นรหัส มีระดับสูงขึ้นในสายตาทุกคนทันที ทัดเทียมกับองค์กรใหญ่อย่างชุมนุมแสงเหนือ

“สรุปโดยสั้น เกอร์มัน·สแปร์โรว์คือเบาะแสสำคัญ” เลียวนาร์ดสูดลมหายใจยาวและพูดต่อ “ท่านเจ้าคุณ ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ผมขอจบการรายงาน”

นักบุญแอนโทนีพยักหน้าแผ่วเบาและยืนขึ้น มองไปรอบตัวก่อนจะกล่าว

“จวบจนปัจจุบัน องค์กรลับที่ใช้ไพ่ทาโรต์เป็นรหัสยังไม่เคยมุ่งเป้ามาหาพวกเราแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังมีท่าทีค่อนข้างเป็นมิตร… ตอนนี้ภาวะสงครามกำลังคุกรุ่น ทุกหน่วยขาดกำลังพลอย่างหนัก พวกเราไม่สามารถแบ่งกำลังไปจัดการกับพวกเขาได้อย่างจริงจัง… คำแนะนำของผมก็คือ อย่าหลีกเลี่ยงการปะทะอย่างรุนแรงกับพวกเขาไปสักระยะ… แต่แน่นอน เรายังต้องทำในสิ่งควรทำ องค์กรลับที่มีเทวทูตเดินดินเป็นสมาชิกคือตัวอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย หากเราไม่มีข้อมูลของอีกฝ่ายมากพอ การตอบสนองอาจเชื่องช้าเกินไปในยามที่พวกเขาตัดสินใจลงมือ”

ฮารามิคและครึ่งเทพที่เหลือไตร่ตรองสักพักก่อนจะพยักหน้า

แอนโทนี·สตีเวนสันมองไปรอบตัวก่อนจะหยุดสายตาที่เลียวนาร์ด

“การสืบสวนพวกเขาคือหน้าที่ของคุณ… พยายามประสานงานกับทุกหน่วยให้ดี”

“…” เลียวนาร์ดผงกศีรษะรับด้วยท่าทีเคร่งขรึม

ทันใดนั้น เจ้าพิธีกรรมสีคราม เรดาลล์·วาเลนไทน์กล่าวกับเลียวนาร์ดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

“ตั้งชื่อให้พวกมันซะ… เราไม่ควรมัวเรียกว่า ‘องค์กรที่ใช้ไพ่ทาโรต์แทนรหัส’ แบบนั้นเวิ่นเว้อเกินไป… คุณมีความเห็นอะไรไหม?”

เลียวนาร์ดทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบ

“ชุมนุมทาโรต์?”

“เข้าท่า” เรดาลล์·วาเลนไทน์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเปล่งเสียงกึกก้อง “เราจะเรียกมันว่าชุมนุมทาโรต์!”

กลางดึกสงัด ถนนราชินี ในคฤหาสน์ของตระกูลฮอลล์

ทิม หัวหน้าพ่อครัวของหวาน ตื่นจากนิทรากะทันหันพลางลืมตามองเพดาน

มันเพิ่งฝันว่าตนกำลังเพลิดเพลินไปกับไอศกรีมจนกระทั่งตื่น

ยิ่งทิมคิดเรื่องนี้ ท้องมันก็ยิ่งหิว ลงเอยด้วยมันตัดสินใจลุกออกจากเตียงและเตรียมดับกระหาย ทิมสวมชุดนอนตัวหนาก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องทำขนมที่อยู่ไม่ไกล

ในฐานะพ่อครัวขนมหวานที่ค่อนข้างโด่งดังในแวดวงชนชั้นสูง ทิมได้รับสิทธิพิเศษจากเอิร์ลฮอลล์ให้เข้าออกห้องทำขนมได้ทุกเวลาและใช้วัตถุดิบได้อย่างอิสระเพื่อทดสอบเมนูใหม่

และทิมก็ตอบแทนความไว้ใจของเอิร์ลฮอลล์ด้วยของว่างชั้นเลิศเสมอ

แน่นอนว่าทิมเคยแอบเข้าไปในห้องทำขนมกลางดึกบ่อยครั้ง เฉกเช่นในตอนนี้

หลังจากลงแรงอย่างสุดฝีมือ ทิมใช้วัตถุดิบที่เหลือรังสรรค์ไอศกรีมจำนวนหนึ่งก่อนจะกินอย่างเพลิดเพลินไปกว่าครึ่ง

จากนั้นมันก็ลูบท้อง ลุกขึ้นทำความสะอาดเครื่องครัวและเดินออกจากห้องทำขนม

ถ้วยไอศกรีมที่ยังเหลือถูกทิ้งไว้ตรงมุมห้อง ราวกับทิมหลงลืมพวกมันโดยสมบูรณ์

เขตเชอร์วู้ดริมฝั่งแม่น้ำทัสซอค กระท่อมหลังเล็กริมตลิ่งที่ไม่มีคนพักอาศัย

แต่งกายในเสื้อคลุมสีเข้ม ออเดรย์ท่องความฝันมายังตำแหน่งใกล้เคียงก่อนจะเดินเท้ามาถึงที่นี่

เธอประกอบพิธีกรรมสังเวยอย่างชำนาญและสวดวิงวอนถึงเดอะฟูล

เพียงไม่นาน กล่องอัญมณีสีเงินทึบที่เลี่ยมด้วยเพชรพลอยลอยผ่านประตูมายามาตกลงด้านหน้าออเดรย์

หญิงสาวสางเส้นผมสีทองทัดหูก่อนจะรีบหยิบกล่องวันวานรหัส 0-61 ขึ้นมา สายตาเล็งไปทางหินก้อนหนึ่งพร้อมกับเปิดฝาชั้นบนสุด

โต๊ะยาวและเก้าอี้ปรากฏขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเงียบงัน เหล่าผู้วิเศษจำนวนหนึ่งซึ่งพยายามปกปิดตัวตนโผล่ขึ้นจากความว่างเปล่า หนึ่งในนั้นคือฟอร์สที่กำลังสวมชุดคลุมหัว

ผิวหนังแปรเปลี่ยนจากของเล่นเป็นมนุษย์ ดวงตากลับมากลอกไปมาอีกครั้ง

ฟอร์สซึ่งมีลำดับสูงสุดย่อมฟื้นตัวได้เร็วที่สุด หลังจากมองไปรอบตัว เธอตกตะลึงอย่างมากเมื่อพบว่าตนถูกย้ายตำแหน่งจากหอพักทรุดโทรมมายังกระท่อมริมตลิ่งโดยไม่รู้ตัว

นอกจากนั้น สิ่งที่เปลี่ยนมีเพียงสภาพแวดล้อม แต่เครื่องเรือนรอบตัวยังคงเหมือนเดิม

เราอยู่ที่ไหน… เกิดอะไรขึ้น… ฟอร์สจ้องไปยังแท่นบูชาว่างเปล่า หลังจากครุ่นคิดสักพัก คล้ายกับเธอฉุกคิดบางสิ่ง จึงโพล่งถามด้วยความสงสัย

“จัดการเสร็จแล้ว?”

“ใช่” ออเดรย์ที่ใช้พลังล่องหนทางใจตอบ

จบแล้ว… ทุกสิ่งจบลงแล้ว… ฟอร์สยังคงถามต่อด้วยท่าทีไม่สงบ

“เป้าหมายเป็นยังไง?”

“ตาย” เนื่องจากออเดรย์กำลังทำหลายสิ่ง รวมถึงการควบคุมผู้วิเศษอีกหกคน จึงทำได้เพียงตอบห้วนๆ

ตาย… นักบุญเร้นลับ โบทิส ตายแล้ว… เราไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ ไม่ต้องอัญเชิญภาพฉายของเกอร์มัน·สแปร์โรว์… ฟอร์สอ้าปากค้างเล็กน้อยด้วยความทึ่งประหนึ่งกำลังฝันไป

เท่าที่เธอจำความได้ ตนเพียงมึนงงและตะลึงไปเล็กน้อย พอรู้ตัวอีกครั้งภารกิจก็สำเร็จแล้ว

ขณะเดียวกัน ฟอร์สเริ่มสังเกตเห็นผู้วิเศษคนอื่นทยอย ‘กลับมามีชีวิต’ แต่ก็ไม่มีใครเลยที่ประหลาดใจกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ราวกับชุมนุมลับถูกจัดขึ้นที่นี่มาตั้งแต่ต้น

ทุกคนทำลายโต๊ะและเก้าอี้อย่างชำนาญก่อนจะโยนลงแม่น้ำทัสซอค จากนั้นก็ทยอยเดินออกจากกระท่อมและตรงกลับบ้านด้วยความช่วยเหลือจากโคมไฟถนน

…นี่คือจอมบงการ… น่ากลัวมาก… ฟอร์สผงะเล็กน้อยก่อนจะได้สติตื่น

“คุณกลับไปก่อน” ออเดรย์ไม่มีเวลาอธิบายมากนัก หญิงสาวหันหลังกลับและเดินไปทางแท่นบูชาอันเดิม เตรียมสังเวยกล่องวันวานกลับไปยังมิติเหนือสายหมอก

ฟอร์สแอบชำเลืองด้วยหางตา แต่ก็มิได้ไต่ถามสิ่งใด เพียงเปลี่ยนให้ร่างกายตัวเองโปร่งใสและเลือนหายไป

…………………………