ราชันเร้นลับ 1207 : การตัดสินใจของโดเรียน

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

กรุงเบ็คลันด์ เขตเชอร์วู้ด บ้านเลขที่สองสอง ถนนปรารถนา โรงแรมแฮตทริก

โดเรียน·เกรย์·อับราฮัมเจ้าของไหล่กว้างและต้นแขนล่ำ เดินกระสับกระส่ายไปมาภายในห้องมาได้สักพัก มันกำลังรอให้ศิษย์ของตน ฟอร์ส แวะเข้ามาเยี่ยม

ไม่ว่าจะเตรียมใจไว้ดีแค่ไหน มันอดไม่ได้ที่จะประหม่าและตื่นกลัวในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับคำตอบ

ผ่านไปนานแค่ไหนก็มิอาจทราบ เสียเคาะประตูดังขึ้นเป็นชุด

โดเรียนตั้งใจฟังจังหวะสักพักก่อนจะถอนหายใจยาว มันเดินไปที่ประตู บิดด้ามจับและดึงเข้าหาตัว

ด้านนอกประตูมีสตรีเจ้าของผมสีน้ำตาลหยักศกเล็กน้อย แต่งกายในเดรสยาวสีเข้มและแว่นกันแดด

โดเรียนมองไปด้านหลังฟอร์สตามสัญชาตญาณ เมื่อยืนยันว่าไม่มีใครจ้องมาทางพวกตน มันหลีกทางให้ศิษย์ของตนผ่านเข้าไป

ขณะเดียวกัน มันชำเลืองไปทางฟอร์สและพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้พกสัมภาระมาด้วย

โดเรียนถอนสายตากลับและเดินไปยังกลางห้อง นั่งลงและชี้ไปยังโซฟาฝั่งตรงข้าม

“เชิญนั่ง”

ฟอร์สถกชายกระโปรงขึ้นอย่างเป็นกันเอง นั่งและทักทาย

“อรุณสวัสดิ์ค่ะอาจารย์”

โดเรียนไม่รีบร้อนเข้าประเด็น ไตร่ตรองสักพักก่อนจะถาม

“พวกคุณฆ่าโบทิสได้แล้วจริงหรือ”

“ค่ะ” ฟอร์สหยิบกล่องบุหรี่โลหะทรงยาวที่ดูหรูหราออกจากกระเป๋าและเปิดฝาให้เห็นด้านใน

สิ่งที่ถูกบรรจุไว้คือดวงตาคู่หนึ่งซึ่งอัดแน่นไปด้วยความกลัวเหนือพรรณนา ราวกับได้เห็นสิ่งที่น่าสะพรึงจากก้นบึ้งก่อนตาย

โดเรียนเตรียมใจไว้แล้ว เตรียมใจที่จะเผชิญชะตากรรมการถูกศิษย์ทรยศและเกิดเหตุนองเลือดเหมือนในอดีต แต่กลับต้องผิดคาดเมื่อศิษย์ของตนผู้ไม่ถือสัมภาระ ทำการหยิบกล่องบุหรี่ออกมาเพียงใบเดียว

โดเรียนเข้าใจว่าสิ่งที่อยู่ภายในกล่องคงจะเป็น ‘ข้าวของ’ ของโบทิสซึ่งเป็นตัวแทนคนตาย แต่ความเป็นจริงกลับน่าตกตะลึงยิ่งกว่านั้น

นี่คือซากศพของโบทิส แถมยังเหลือชิ้นน้อยกว่าลูอิส·เวย์นเสียอีก!

เหลือแค่ดวงตาคู่เดียว… สัมผัสวิญญาณของโหราจารย์ยืนยันว่าสิ่งนี้คือดวงตาของโบทิส

เมื่อเห็นอาจารย์เงียบไป ฟอร์สอธิบายตามที่เตรียมมา

“ร่างกายของเขาเสื่อมสลายอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงดวงตาที่ยังเป็นชิ้นเป็นอัน”

หญิงสาวเว้นวรรค

“ดวงตาคู่นี้ยังมีความหวาดกลัวของโบทิสหลงเหลืออยู่ รวมถึงการปนเปื้อนจากกล่องวันวานด้วย เรียกได้ว่าเป็นวัตถุต้องสาปที่ทรงพลัง ฉันจึงไม่กล้าส่งไปหาคุณโดยตรง ไม่อย่างนั้นอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นกับบุรุษไปรษณีย์จนเสียชีวิตโดยไม่รู้ตัว”

การกัดกร่อนจากกล่องวันวาน… โดเรียนพยักหน้ารับพลางถอนหายใจ

“ท้ายที่สุด… เจ้านั่นตายด้วยฝีมือกล่องวันวาน? โชคชะตาช่างเล่นตลก…”

สิ่งแรกที่โบทิสทำการขโมยหลังจากพาคนของชุมนุมแสงเหนือมาบุกถล่มคือกล่องวันวาน

ในชุมนุมย่อยที่มีขึ้นเพื่อแบ่งส่วนแบ่ง ฟอร์สได้ฟังรายละเอียดจากมาดามเฮอร์มิทและมิสจัสติสแล้ว ย่อมทราบถึงความอันตรายและยิ่งใหญ่ของการต่อสู้ที่ตนพลาดไป จึงไตร่ตรองสักพักก่อนจะพูด

“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ผิด… แต่ก่อนที่จะถูกกล่องวันวานกัดกร่อน โบทิสคลุ้มคลั่งเรียบร้อยแล้ว”

โดเรียนไม่ประหลาดใจ เพียงกล่าวกับศิษย์ของตน

“เก็บไว้เถอะ มันเป็นส่วนแบ่งที่คุณสมควรจะได้รับ”

หลังจากฟอร์สปิดกล่องบุหรี่โลหะและเก็บไว้ในกระเป๋า โดเรียนเอนตัวมาข้างหน้าพลางประสานมือใต้จมูก

“โบทิสเป็นผู้ฝึกหัดที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ใครจะไปคิดว่ามันจะตายในสภาพนี้…”

กล่าวจบ โดเรียนถอนหายใจพลางนึกทบทวนบางสิ่ง

ฟอร์สไม่ค่อยทราบรายละเอียดมากนัก จึงไม่กล้าพูดส่งเดช ทำได้เพียงจมอยู่กับความเงียบจนกระทั่งอารมณ์อาจารย์ของเธอกลับเป็นปรกติ

ราวสิบวินาทีถัดมา โดเรียนเอนหลังและพูด

“คุณย่อยโอสถนักบันทึกด้วยวิธีใด”

นี่ไม่ใช่เพียงการแสดงความเป็นห่วงศิษย์ แต่ยังทำไปเพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับแบ่งปันกับคนในตระกูล

สีหน้าฟอร์สพลันซับซ้อน ประหนึ่งกำลังนึกทบทวนใจสิ่งที่ไม่อยากจำ

“ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีคนคอยช่วยเหลือ… ในแง่หนึ่ง ฉันมีโอกาสได้บันทึกพลังในระดับสูงมากมาย และในอีกแง่หนึ่ง ฉันถูกพาไปยังสถานที่ต่างๆ ตลอดหลายเดือนเพื่อบันทึกวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและฉากวิวทิวทัศน์อันงดงาม…”

โดเรียนเงียบงันสักพักก่อนจะพยักหน้า

“ฟังดูไม่ง่ายเลยนะ…”

จากนั้นก็ถามต่อ

“เกอร์มัน·สแปร์โรว์?”

“ค่ะ” ฟอร์สไม่ปฏิเสธ

โดเรียนปิดปากเงียบอีกครั้ง จากนั้นก็ถามในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา

“เขาต้องการทำธุรกิจอะไรกับเรา? หรือระบุให้ชัด เขากำลังปรารถนาสิ่งใด?”

ฟอร์สรวบรวมสมาธิก่อนจะตอบกระอักกระอ่วน

“เขาต้องการสูตรโอสถของจอมเวทท่องมิติ และอยากใช้กล่องวันวานเพื่อแลกเปลี่ยนกับสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ หนึ่งในสองชิ้นที่ตระกูลของอาจารย์ครอบครอง”

เป็นข้อเสนอที่ใจกว้างมาก ฟอร์สคิดว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์จะขอแลกเปลี่ยนกับสูตรโอสถและสมบัติปิดผนึก คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะยอมใส่กล่องวันวานเข้ามาในข้อแลกเปลี่ยนด้วย

แต่แน่นอนว่านั่นคือกรณีที่ตระกูลอับราฮัมเป็นอิสระจากคำสาป ลำพัง ‘คำมั่นสัญญา’ ยังไม่ใช่สิ่งที่รับประกันผลสำเร็จ

โดเรียนไม่แปลกใจกับเรื่องที่อีกฝ่ายขอแลกเปลี่ยนกับสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ มันเตรียมใจกับเรื่องนี้ไว้แล้ว แต่โดเรียนคาดไม่ถึงกับอีกหนึ่งเงื่อนไข เพราะอันที่จริง ตระกูลอับราฮัมในปัจจุบันแทบไม่มีสิ่งใดดึงดูดสายตาครึ่งเทพได้เลย

มันขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เขาต้องการสูตรโอสถจอมเวทท่องมิติไปทำอะไร?”

“ฉันเองก็ไม่ทราบ” ฟอร์สตอบเถรตรง

โดเรียนยืนขึ้นพลางเดินวนเวียน

ทันใดนั้น มันชะงักฝีเท้าและหันมาจ้องฟอร์ส

“ผมอยากพบเขาเป็นการส่วนตัวก่อนตัดสินใจ”

“ตกลงค่ะ” ฟอร์สรับปากโดยไม่ลังเล

โดเรียนถอนหายใจโล่งอก เตรียมส่งศิษย์กลับไปและกินยาที่เตรียมไว้

มันเลือกเวลานัดพบเป็นตอนนี้เพราะคำนวณแล้วว่าคำสาปสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากมีเหตุไม่คาดฝัน ศัตรูจะหมดสิทธิ์สื่อวิญญาณของตนด้วยประการทั้งปวง

แต่เมื่อฟอร์สลุกขึ้น หญิงสาวมิได้เดินไปทางประตู แต่ยืนอยู่ในจุดเดิมพลางเหยียดแขนจับอากาศ

แขนของหญิงสาวทรุดลงทันที จากนั้นก็ดึงร่างที่แต่งกายด้วยเสื้อนอกสีดำและหมวกผ้าไหมออกมา

ร่างดังกล่าวมีผมสีดำตาสีน้ำตาล ใบหน้าชัดลึกเย็นชา ไม่ใช่ใครนอกจากเกอร์มัน·สแปร์โรว์

ดวงตาเกอร์มัน·สแปร์โรว์กลอกไปมาเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนจากท่าทีแข็งทื่อเป็นมีชีวิตชีวา

“อาจารย์ เขามาแล้ว” ฟอร์สแนะนำหน้าขรึม “นี่คือเกอร์มัน·สแปร์โรว์”

พฤติกรรมดังกล่าวทำให้โดเรียน·เกรย์·อับราฮัมอ้าปากค้าง ตอบสนองไม่ถูกไปชั่วขณะ

แม้ว่ามันจะเป็นคนของตระกูลโบราณที่ถือครองความรู้มากมาย แต่ก็ยังมีหลายสิ่งที่มันจินตนาการไม่ได้ด้วยประสบการณ์ของผู้วิเศษลำดับเจ็ด

หลังจากย้ายจิตใต้สำนึกเสร็จ ไคลน์สอดมือเข้าไปในเสื้อและหยิบนาฬิกาพกสีทองออกมา

เป๊าะ! มันเปิดฝาตรวจสอบ จากนั้นก็กล่าวกับโดเรียนอย่างไร้อารมณ์

“คุณมีเวลาสามนาที”

…ตรงตามข่าวลือไม่มีผิด เย็นชา เย่อหยิ่ง และเสียสติ… โดเรียนไม่กล้าปล่อยเวลาให้สูญเปล่า รีบเข้าประเด็นทันที

“อยากฟังเหตุผลที่ผมต้องเชื่อคำมั่นสัญญาของคุณ”

ขณะปิดนาฬิกาพก ไคลน์สอดกลับเข้าไปในเสื้อและพูด

“อันที่จริง ผมทราบรายละเอียดของพิธีกรรมที่จะทำให้มิสเตอร์ประตูกลับมาได้”

ดวงตาโดเรียนส่องประกายทันที ขณะเตรียมถามต่อ มันได้ยินเกอร์มัน·สแปร์โรว์กล่าวเสียงเย็น

“แต่ผมไม่คิดจะทำแบบนั้น”

“ทำไมกัน…?” โดเรียนและฟอร์สต่างฉงน แต่คนหนึ่งกล้าถาม ส่วนอีกคนไม่

ไคลน์มองออกไปนอกหน้าต่าง

“คุณรู้จักการกัดกร่อนจากอวกาศไหม”

เมื่อเอ่ยถึงความรู้เกี่ยวกับอวกาศ ตระกูลอับราฮัมย่อมยืนหนึ่งหากไม่นับเทพแท้จริงและเทวทูต ไคลน์เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวต้องถูกบันทึกไว้ในตำราของตระกูลไม่มากก็น้อย

โดเรียนรวบรวมความคิด

“ทราบ”

“ผมสงสัยว่ามิสเตอร์ประตูจะถูกอวกาศกัดกร่อนโดยสมบูรณ์แล้ว” ไคลน์อธิบายฉะฉาน “สำหรับคำมั่นสัญญาที่จะขจัดคำสาป… วิธีของผมสามารถลงมือได้ในทันที แต่คุณอาจไม่อยากทำก็ได้ และมันก็ไม่ได้ช่วยขจัดคำสาปโดยสมบูรณ์”

“วิธีอะไร?” โดเรียนถามพลางข่มอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

สีหน้าไคลน์แปรเปลี่ยนเป็นขึงขัง

“คุณและตระกูลต้องเปลี่ยนความศรัทธามายังเทพที่ผมนับถือ ด้วยวิธีดังกล่าว ในยามที่พระจันทร์เต็มดวงหรือจันทราโลหิตปรากฏ พวกคุณทุกคนจะได้รับพรที่ช่วยให้รอดพ้นจากคำสาป”

หลังจากย่อยโอสถปราชญ์โบราณเสร็จสมบูรณ์ ไคลน์ไม่ต้องเสียเวลาดึงคนเข้ามาในมิติหมอกเพื่อหลีกเลี่ยงเสียงเพรียกจากมิสเตอร์ประตูอีกต่อไป มันสามารถใช้ ‘อ้อมกอด’ เทวทูตกับทุกคนได้อย่างสะดวกสบาย สิ่งเดียวที่มันกังวลคือการที่ตระกูลอับราฮัมอาจมีสมาชิกมากเกินไปจนตนช่วยเหลือได้ไม่ทันเวลา หรือไม่ก็พลังวิญญาณหมดเสียก่อน

“…เทพของท่านเป็นใคร” โดเรียนเงียบไปสักพักก่อนจะถาม

ไคลน์ข่มความอายพร้อมกับกล่าวเสียงขรึม

“มหาเดอะฟูล”

“เดอะฟูล… คุณเป็นคนของตระกูลอันทีโกนัส?” โดเรียนพยายามเชื่อมต่อข้อมูล

ไคลน์ส่ายหน้า

โดเรียนเงียบไปอีกครั้ง แต่หลังจากพิจารณาว่าตนมีเวลาไม่ถึงสามนาที มันรีบถาม

“ถ้าเราเชื่อในตัวตนดังกล่าว พวกเราจะรอดพ้นจากปัญหาที่มาพร้อมคำสาปได้ใช่ไหม?”

ในฐานะสมาชิกของตระกูลเก่าแก่ มันทราบดีว่าการศรัทธาในตัวตนลึกลับเป็นเรื่องอันตรายมากเพียงใด จึงกังวลว่าพวกตนอาจหลบหลีกปัญหาจากมิสเตอร์ประตูได้ก็จริง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาใหม่แทน

ไคลน์ตอบเสียงเย็น

“นี่เป็นแค่วิธีชั่วคราว ผมจะหาวิธีที่ยั่งยืนให้พวกคุณในภายหลัง”

โดเรียนพยักหน้าก่อนจะกล่าว

“ผมจะพยายามศรัทธาในเทพของคุณ และจะมอบสูตรโอสถจอมเวทท่องมิติให้คุณ หากปัญหาถูกขจัดได้จริงแม้จะเป็นเพียงชั่วคราว พวกเราค่อยมาแลกเปลี่ยนสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์กัน”

มันคิดจะใช้ตัวเองเป็นหนูทดลองไปก่อน จึงยังไม่มีแผนจะบอกกับสมาชิกคนอื่นในระยะนี้ โดยจะรอให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์ค้นพบวิธีที่ยั่งยืนเสียก่อน หรือไม่ก็ค่อยบอกในตอนที่สถานการณ์เริ่มวิกฤติสุดขีด

“ตกลง” ไคลน์หยิบปากกาและกระดาษออกจากกระเป๋า จากนั้นก็เขียนพระนามเต็มอันทรงเกียรติของเดอะฟูล

สำหรับโดเรียน มันใช้บอลคริสตัลในการดึงความทรงจำเพื่อเขียนสูตรโอสถจอมเวทท่องมิติ

แลกเปลี่ยนเสร็จ ไคลน์ชำเลืองอ่านวัตถุดิบเสริมและพิธีกรรม

“วัตถุดิบเสริม: หนอนดวงดาวหนึ่งตัว หนอนกาลเวลาหนึ่งตัว และหนอนวิญญาณหนึ่งตัว”

“พิธีกรรมเลื่อนลำดับ สร้างตำนานไว้บนสถานที่เก้าแห่งนอกโลก”

………………………