ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 878 มีความสามารถก็มาสู้ ไร้ความสามารถก็อย่าร้อง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอฟาดกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าใส่กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน จากนั้นก็ทิ่มกระบี่ใส่คอหอยของคังผิง

คังผิงบนร่างมีแสงวิเศษสว่างขึ้น เสื้อคลุมซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางชิ้นหนึ่ง สะท้อนตราอาคมหลายสาย กลายเป็นสิ่งกีดขวางที่ดูเหมือนคลื่นน้ำด้านหน้าเขา

คลื่นน้ำมองดูอ่อนแอ แต่พลังป้องกันกลับไม่ธรรมดา เมื่อสวมอยู่บนร่างของยอดฝีมือที่มีพลังฝึกปรือระดับคังผิง ก็ยิ่งมีอานุภาพเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

ทว่าคลื่นน้ำกลับแตกสลายอย่างไร้สุ้มไร้เสียง เพราะการฟาดลงของกระบองไม้ไผ่

แม้แต่ระลอกคลื่นก็ไม่กระเพื่อมขึ้นมา

เสื้อคลุมบนร่างคังผิงกลายเป็นลำแสง ค่อยๆ พังทลายลงทีละนิด

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางถูกเยี่ยนจ้าวเกอส่งสู่ความพินาศในการฟาดเพียงครั้งเดียว!

เยี่ยนจ้าวเกอถามอย่างไม่รีบร้อน “บนตัวท่านยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางอีกกี่ชิ้น”

คังผิงไม่ตอบ พลันบิดหมุนร่าง วิชากระบี่ของตัวเองถูกกระตุ้นถึงขีดสุด ประกายกระบี่ครอบคลุมเยี่ยนจ้าวเกอไว้

แสงสว่างพอไปถึง การเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอก็คล้ายกับเชื่องช้าลง คังผิงความเร็วพลันเพิ่มขึ้น

เขากลายเป็นลำแสง บรรลุถึงด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอในชั่วพริบตา ก่อนจะใช้นิ้วต่างกระบี่ ทิ่มใส่ขมับของเยี่ยนจ้าวเกอ

กระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าสู้กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงและของวิเศษได้อย่างดุดันเหลือประมาณ แต่ว่าหากเอามาใช้กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนอย่างเขา อานุภาพกลับเกิดอย่างจำกัด เทียบกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงไม่ได้

คังผิงจิตใจแน่วแน่ ไม่มีความหงุดหงิดใด พอมองเรื่องนี้ออก ก็โต้กลับด้วยความยากเย็นทันที

พอไม่มีกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนอยู่ในมือ เขาก็คิดจะอาศัยพลังที่อยู่เหนือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดจำนวนมากของตน จัดการกับเยี่ยนจ้าวเกอ!

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบองไม้ไผ่ต่างกระบี่ โบกเพียงเบาๆ ประกายสีแดงกะพริบวูบ

ประกายกระบี่จากกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยที่ครอบคลุมเขาไว้พลันถูกทำลาย

เยี่ยนจ้าวเกอทิ่มกระบองไม้ไผ่เบาๆ ใช้ปลายกระบี่ปะทะปลายกระบี่ ปลายกระบองไม้ไผ่ทิ่มใส่นิ้วของคังผิงอย่างแม่นยำ

แสงสีแดงกะพริบผ่าน จิตทำลายล้างมิติระเบิดออกมา นิ้วชี้และนิ้วกลางที่เหมือนกับคมกระบี่ของคังผิงพลันมีละอองเลือดสาดกระเซ็น!

แสงจากโลหิตส่องสะท้อน ประกายกระบี่สีแดงของกระบี่ลวงเซียนยิ่งสว่างไสวและดุดัน เคลื่อนตัวไปด้านหน้า!

หลังจากนั้น ก็เป็นการทำลายแขนทั้งข้าของคังผิง ตั้งแต่ปลายนิ้ว ไปถึงฝ่ามือ ไปถึงข้อมือ ไปถึงข้อศอก และไปถึงไหล่!

ละอองเลือดที่กระเด็น ลอยอยู่กลางอากาศ ความเร็วของมันลดต่ำลง ราวกับเวลาและมิติถูกผ่อนให้ช้า จนเกือบผนึกแข็งตัว

คังผิงครางหนักๆ คำหนึ่ง กระเด็นถอยหลัง

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเฉื่อยชา “ความคิดไม่เร็ว แต่พวกเราสองคนใช้มือเปล่าสู้มือเปล่า ท่านก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี”

ยามนี้ที่ฟ้าดินไกลออกไปพลันเกิดการสั่นสะเทือน แสงสว่างขมุกขมัวที่ไร้ขอบเขตเหมือนกับแม่น้ำ แผ่ขยายอย่างรวดเร็ว มาถึงในชั่วพริบตา

“เจ้าคือเยี่ยนจ้าวเกอ?”

สุ้มเสียงอันแก่ชราดังขึ้น กลับเป็นผู้วิเศษเซิง อาจารย์ปู่ของคังผิง!

เขาเดิมทีระวังป้องกันหลินฮั่นหัวกับจอมยุทธ์เขาโถงทองสอดมือกลางคัน จึงเตรียมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เฝ้าอยู่บนทะเลหวงเจีย พร้อมสนับสนุนดินแดนจิตคุณธรรมหรือทางคังผิงทุกเวลา

สำหรับเขาแล้ว มาตรแม้นว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะหลอมจุดลมปราณเป็นเทวะ ก้าวสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ อีกทั้งยังมีตราประทับตะวันอยู่ในมือ ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของคังผิง

ถึงอย่างไรพลังของคังผิงในขั้นสะพานเซียน ก็ยังทดลองต่อสู้ข้ามระดับได้ อีกทั้งยังอยู่เหนือยอดฝีมือในระดับเดียวกัน

ต่อให้อยู่ในระดับพลังฝึกปรือที่เท่ากัน แม้ว่าเขาผู้วิเศษเซิงคิดเอาชนะศิษย์หลานที่น่าชื่นชมที่สุดผู้นี้ ยังไม่ง่าย

กระนั้นผู้วิเศษเซิงกลับคิดไม่ถึงเลยว่า คังผิงเกือบจะตายด้วยกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอในชั่วเวลาสั้นๆ ไปแล้ว!

ผู้วิเศษเซิงที่ตกใจรีบร้อนมาช่วยเหลือ

เขาสังเกตเห็นกระบองไม้ไผ่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ และเห็นกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนที่แสงสว่างริบหรี่ หล่นไปอยู่ด้านข้างเช่นกัน

หลังจากความคิดทำงานอย่างรวดเร็ว ผู้วิเศษเซิงก็พอจะคาดการณ์ออกคร่าวๆ แล้ว

แม้ว่าจะตกตะลึง อีกทั้งยังกระวนกระวาย แต่ผู้วิเศษเซิงก็ยังใจเย็น ไม่ได้ใช้ตรากระบี่กาลเวลา เพียงอาศัยพลังฝึกปรือของตัวเองกระตุ้นกระบี่กาลเวลาเท่านั้น

แม้จะเป็นเช่นนั้น พลังอันน่ากลัวที่แทบจะเทียบเท่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าของเขา ก็ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี

“เยี่ยนจ้าวเกอ เจ้าทำให้งานใหญ่ของเราล้มเหลว สังหารผู้สืบทอดของข้าไปมากมาย ทำตัวโอหังมานานแล้ว!”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็แค่นเสียง เอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ ท่านมาเหยียบที่อยู่ของเขากว่างเฉิง ไปมาอย่างอิสระ ทำให้ท่านรู้สึกดีมากกระมัง”

ยามเผชิญหน้ากับประกายกระบี่อันน่าพรั่นพรึ่งที่ครอบฟ้าคลุมดินนั้น เยี่ยนจ้าวเกอกลับหัวเราะเหอะๆ อย่างเย็นชา บนศีรษะพลันปรากฏประกายแสงเจิดจ้า

ตราประทับสีทองชิ้นหนึ่งลอยขึ้นมา อานุภาพที่บ้าคลั่งราวกับดวงอาทิตย์ที่แท้จริงร่วงตกใส่โลก

ในดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอเกิดแสงอาทิตย์สีทองพรั่งพรู ราวกับดวงอาทิตย์สองดวง

ตราประทับตะวันที่แข็งแกร่ง ระเบิดแสงสว่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปะทะกับผู้วิเศษเซิง

ตัวเยี่ยนจ้าวเกอเลื่อนเป็นระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ยามกระตุ้นตราประทับตะวันขึ้นมา จึงแข็งแกร่งกว่าการกระตุ้นผ่านร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมากมายนัก!

แม้ว่าจะยังไม่อาจแสดงอานุภาพทั้งหมดของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นนี้ออกมาได้ ทว่าพลังของตราประทับตะวันก็เหนือกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงส่วนใหญ่!

นี่เป็นหนึ่งในตัวตนที่อยู่ในระดับสุดยอดของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่อยู่ในจุดสูงสุด มันสามารถกระแทกยอดฝีมืออย่างผู้วิเศษเซิงให้ตายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

พลังในตอนนี้ไม่อาจแสดงออกมาได้โดยสมบูรณ์ แต่ก็บ้าคลั่งถึงขีดสุดอยู่ดี

แสงอาทิตย์สีทองสาดส่อง มันปะทะกับประกายกระบี่ทั่วฟากฟ้า ทั้งสองสู้กันอย่างสูสี

กาลเวลาไหลผ่าน ต้องการทำให้ดวงอาทิตย์ลาลับฟ้า

แสงสีทองส่องสว่าง ดวงอาทิตย์เสมือนลอยอยู่กลางฟ้าไกลแสนไกล

เยี่ยนจ้าวเกอที่มีพลังฝึกปรือในปัจจุบัน กระตุ้นตราประทับตะวันถึงขั้นนี้ได้ไม่นานนัก

กระนั้นก็มากพอให้เยี่ยนจ้าวเกอทำการเคลื่อนไหวอย่างอื่น

หลังจากอาศัยตราประทับตะวันสะกดผู้วิเศษเซิงไว้ชั่วคราว เยี่ยนจ้าวเกอก็ทิ่มนิ้วออก หยินหยางผสมผสาน เคลื่อนย้ายทิศทาง

ประกายกระบี่ของผู้วิเศษเซิง มีอยู่ส่วนหนึ่งที่ฟันใส่คังผิง

แม้ว่าจะเป็นกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยที่มีพลังฝึกปรือในระดับเดียวกัน ทว่าประกายกระบี่ในตอนนี้สามารถส่งผลคุกคามต่อคังผิงที่ได้รับบาดเจ็บหนักถึงชีวิตได้

คังผิงสีหน้าแปรเปลี่ยนกลับกลาย รีบร้อนหลบหลีก กระนั้นเพราะอาการบาดเจ็บ ความเร็วกลับช้ากว่าประกายกระบี่

ผู้วิเศษเซิงเห็นดังนั้นก็หน้านิ่วคิ้วขมวด

สุดท้าย ตรากระบี่กาลเวลาก็ถูกเขาหยิบออกมา จากนั้นก็กดใส่ผิวของตราประทับตะวัน

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นนี้ของเขามีความสามารถพิเศษ คนหรือสิ่งของที่ถูกตรากระบี่ทิ้งรอยตราไว้ เวลาจะถูกผนึกไว้ชั่วคราว พลังเองก็จะถูกพันธนาการไว้ด้วยเช่นกัน

ถึงจะเป็นสิ่งที่แข้งแกร่งอย่างตราประทับตะวันก็ยังถูกควบคุมไว้ในชั่วพริบตาอยู่ดี

ผู้วิเศษเซิงขอแค่พริบตานี้ก็พอแล้ว

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอรออยู่แล้ว ชายหนุ่มยกกระบองไม้ไผ่ในมือขึ้น ประกายสีแดงปรากฏแวบเดียว

วินาทีถัดมา เยี่ยนจ้าวเกอก็บรรลุถึงด้านหน้าผู้วิเศษเซิง ฟาดใส่ตรากระบี่กาลเวลา

ผู้วิเศษเซิงสายตาสาดประกาย รีบเก็บตรากระบี่กาลเวลา จากนั้นก็ใช้นิ้วต่างกระบี่ ทิ่มแทงใส่เยี่ยนจ้าวเกอในทันที

เขาเร็วยิ่งกว่าคังผิง แต่กระบี่ลวงเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอกดข่มกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยซึ่งเป็นการสืบทอดของพวกเขาโดยเฉพาะ

มาตรแม้นว่าผู้วิเศษเซิงจะมีพลังแกร่งกว่า แต่ก็ยังคงถูกสะกด

เยี่ยนจ้าวเกอแก้ไขประกายกระบี่ของผู้วิเศษเซิง จากนั้นก็ใช้ดัชนีหยินหยาง เบี่ยงประกายกระบี่ส่วนหนึ่งของผู้วิเศษเซิงไปยังคังผิงอีกครั้ง

คังผิงฝืนรับกระบี้นี้

“เจ้าโจรชั่วบังอาจ!” ผู้วิเศษเซิงเดือดดาล กระตุ้นพลังทั้งหมด กระแทกตราประทับตะวันออกไป!

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะร่า “มีอะไรไม่กล้า”

เขาหมุนตัวอย่างฉับพลัน แล้วโจมตีใส่คังผิง!

กระบี่ลวงเซียนบรรลุความน่าอัศจรรย์ของเวลาและมิติ เร็วยิ่งกว่าประกายกระบี่กาลเคลื่อนคล้อย เยี่ยนจ้าวเกอบรรลุถึงด้านหน้าคังผิงในชั่วอึดใจเดียว!

“คนที่ฆ่าคน สุดท้ายย่อมถูกฆ่า ประโยคนี้ใช้ได้กับทุกคน” กระบี่หนึ่งแทงออก ทะลุร่างของคังผิง “สำหรับข้า สำหรับฮูหยินของท่าน สำหรับท่าน ล้วนไม่มีความแตกต่างใด”

คังผิงดิ้นรน หมายใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายโต้ตอบ

เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ยกฝ่ามือขึ้น

ผู้วิเศษเซิงตวาดขึ้น “เยี่ยนจ้าวเกอ!”

“มีความสามารถก็มาสู้ ไร้ความสามารถก็อย่าร้อง” เยี่ยนจ้าวเกอฟาดฝ่ามือลงอย่างไม่ลังเล ฝ่ามือเดียวกระแทกกระโหลกศีรษะของคังผิงแตก เลือดและไขสมองกระจัดกระจาย!