ตอนที่ 1111: อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1111: อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

“เผ่าเต๋า” เจี้ยนเฉินพึมพำเบา ๆ สายตาของเขาเป็นประกาย เผ่าเต๋าเป็นเผ่าใหญ่ที่มีอำนาจเป็นที่สุด พวกเขานั้นทรงพลังมาก

ทันใดนั้นเอง เจี้ยนเฉินก็เหมือนจะสัมผัสบางอย่างได้ เขามองไปที่ด้านนอกของโถงและตาของเขาก็ฉายแววความประหลาดใจออกมา

หนึ่งในยามรักษาการณ์ที่อยู่ที่ทางเข้าหลักพุ่งเข้ามาในโถงเหมือนเขาโดนไฟลนก้นอยู่ เขาคุกเข่าลงแล้วตะโกนอย่างเร่งรีบ “ผู้คุมกฎ มีหญิงที่อ้างว่าเป็นผู้อาวุโสอาคันตุกะของโถงเทพเจ้าแห่งท้องทะเลและนางก็พุ่งเข้ามา พวกเราหยุดนางไม่ได้ไม่ว่าพวกเราจะพยายามแค่ไหนก็ตาม”

ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงเอะอะก็ดังมาจากด้านนอก หญิงในชุดสีฟ้าก้าวเข้ามาในโถงอย่างอาจหาญในขณะที่ยามรักษาการณ์ล้อมนางอยู่ พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลเปล่งรัศมีออกมาจากนาง ทำให้ยามรักษาการณ์ไม่สามารถเข้าใกล้นางได้

“เจ้ากล้าดียังไงที่มาทำตัวป่าเถื่อนที่เผ่าเต่า ! ” ผู้อาวุโสหลายคนในโถงโกรธจัด พวกเขายืนขึ้นและไปหยุดหญิงที่เข้ามา

เผ่าเต่าในตอนนี้นั้นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีการปกป้องจากผู้คุมกฎเท่านั้น พวกเขายังมีนักรบวิญญาณทะเล 16 ดาวถึง 3 คนที่นำกลุ่มเซียนผู้คุมกฎที่กล้าหาญมากกว่าเดิม

“ไม่มีปัญหาหรอก ปล่อยนางเข้ามา” เจี้ยนเฉินยกมือขึ้นอย่างสงบเพื่อหยุดความโกรธเกรี้ยวของผู้อาวุโส

ผู้อาวุโสหยุดและกลับไปที่ที่นั่งของพวกเขาทันทีที่ผู้คุมกฎของพวกเขาพูด

ฉิงยี่หยวนดูมีพลังแห่งการมีอยู่ที่เด่นมากในขณะที่นางบุกเข้ามาในเผ่าเต่าด้วยตัวของนางเอง นางเดินมาที่โถงของเผ่าโดยที่ไม่สนในผู้อาวุโสเลย นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินที่นั่งอยู่บนสุดแล้วพูดอย่างเย็นชา “ในที่สุดเจ้าก็ตัดสินใจที่จะปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่หายไปนาน”

เจี้ยนเฉินยิ้มเล็กน้อย เขามองกลับไปที่ฉิงยี่หยวนแล้วพูด “มันก็ผ่านมาหลายปีที่ข้าเห็นเจ้าครั้งล่าสุด แต่เจ้าก็ยังเหมือนเดิม เจ้าตัดผ่านชั้นสวรรค์ที่ 6 แล้ว ยินดีด้วย”

ฉิงยี่หยวนยังคงเฉยเมย “เจี้ยนเฉิน ข้าไม่ได้มาหาเจ้าเพื่อพูดถึงวันเก่าเก่านะ ข้ารู้ว่าเผ่าเต่ากำลังจะมีเรื่องกับเผ่าเต๋า ข้ามาในครั้งนี้เพราะข้าต้องการที่จะร่วมมือกับเผ่าเต่าของเจ้า ข้าอยากจะช่วยเผ่าของเจ้าในการเอาเหมืองเก่าเหล่านั้นกลับมา”

ท่าทางของผู้อาวุโสทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อได้ยินที่นางเสนอ พวกเขาตื่นเต้นขึ้นมาทันที มันจะง่ายขึ้นมากที่จะเอาเหมืองกลับมาได้ในอนาคตถ้ามีจอมยุทธ 16 ดาวอีกคนมาช่วยพวกเขา

เจี้ยนเฉินไม่ได้วอกแวกเลย เขาถาม “ฉิงยี่หยวน ข้าสงสัยอยากรู้มากว่าตระกูลเต๋ามีอะไรที่ดึงดูดเจ้าได้มากขนาดนี้ เจ้าตามหาข้าครั้งแล้วครั้งเล่า และเจ้ายังอยากที่จะหาเรื่องเผ่าใหญ่หลายเผ่าในครั้งนี้เพื่อที่จะจัดการกับเผ่าเต๋าอีก”

ฉิงยี่หยวนถอนหายใจลังเล หลังจากนั้น นางก็ยื่นนิ้วออกไปและม่านพลังโปร่งแสงก็ขยายออกมาครอบคลุมนางและเจี้ยนเฉินทันที ม่านพลังนี้สามารถตัดเสียงไม่ให้ออกไปได้ เห็นได้ชัดว่าฉิงยี่หยวนไม่ต้องการที่จะให้คนอื่นได้ยินสิ่งที่นางกำลังจะพูด

“มันไม่มีปัญหาที่จะบอกเจ้าหรอกถ้าเจ้าสงสัย เผ่าเต๋านั้นครอบครองทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของมนุษย์อยู่ พวกเขาได้มาจากบรรพชนของพวกเขาที่อยู่ที่เกาะภายนอก ถ้าพวกเราเอาทักษะการต่อสู้ระดับเซียนมาได้ พวกเราจะทำความเข้าใจด้วยกันได้” ฉิงยี่หยวนไม่ได้บิดบังอะไรและบอกความจริง

“ทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ! ” เจี้ยนเฉินฉุกสนใจขึ้นมาทันที ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ถ้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีต้องการที่จะมีพลังอำนาจจริง ๆ พวกเขาจำเป็นต้องมีทักษะการต่อสู้ระดับเซียน

“ข้าได้ยินมาว่า เผ่าเต๋านั้นมีหัวหน้าเผ่าที่ทรงพลังที่เกือบจะเป็นเซียนราชาขั้นสูงสุดคอยดูแลอยู่ ถ้าพวกเราร่วมมือกัน พวกเราก็ยังคงไม่ใช่คู่มือของเขาแม้แต่จะรวมจอมยุทธทั้งหมดของเผ่าเต่าเข้าไปด้วย” เจี้ยนเฉินพูดอีกครั้ง

“เจ้ากำลังพูดถึงเต๋าเจิ้งเทียน ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้มากมายอย่างที่เจ้าได้ยิน เขาเป็นแค่ชั้นสวรรค์ที่ 8 ในตอนนี้ เจ้ามีโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ดังนั้นเขาไม่สามารถทำอันตรายเจ้าได้ ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำคือถ่วงเวลาเขาเอาไว้” ฉิงยี่หยวนพูด

เจี้ยนเฉินเงียบไปสักพักก่อนที่จะตัดสินใจ “ข้าไม่ต้องการที่จะให้เผ่าเต๋าเป็นศัตรูตั้งแต่แรก แต่พวกเขาครอบครองเหมืองที่สุดยอดซึ่งเคยเป็นของเผ่าเต่ามาก่อน พวกเราจะต้องปะทะกับเผ่าเต๋าไม่ช้าก็เร็ว แต่ในตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา ฉิงยี่หยวน ถ้าเจ้าต้องการที่จะแบ่งสมบัติของเผ่าเต๋า ถ้างั้นก็อยู่ที่เผ่าเต่า ไปกับไทโตวและคนอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเผ่าที่อ่อนแอที่ยังไม่คืนเหมืองของพวกเรามา”

ฉิงยี่หยวนลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกไป “เอาล่ะ ข้าตกลงกับข้อเสนอของเจ้า อย่างไรก็ตาม ข้าหวังว่าข้าจะไม่ต้องรอนานขนาดนั้นนะ”

ฉิงยี่หยวนอยู่ที่เผ่าเต่าชั่วคราว และกลายเป็นอาคันตุกะที่เคารพ ด้วยการที่มีจอมยุทธที่ทรงพลังเพิ่มขึ้นมาอีกคน ทั้งเผ่านั้นปิติยินดี แม้ว่านี่จะเป็นเพียงการชั่วคราวเท่านั้น

เจี้ยนเฉินอยู่ที่เผ่าเต่าอีกวันก่อนที่จะจากไปหลังจากที่แจกจ่ายงานไปแล้ว เขามุ่งหน้าไปที่เขตที่อันตรายเขตหนึ่งของอาณาจักรทะเล

อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ที่เป็นที่รู้จักดีในอาณาจักรทะล ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นเขตที่อันตรายที่สามารถทำให้คนสั่นไปด้วยความกลัวได้ เพราะว่า มีข่าวลือว่าจักรพรรดิ 17 ดาวได้เคยหายไปครั้งหนึ่งที่นี่และไม่เคยปรากฎขึ้นมาอีกเลย ในเวลาเดียวกัน จอมยุทธ 15 และ 16 ดาวก็หายไปด้วยเช่นกัน

ไม่มีใครรู้ภูมิประเทศของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ มันโบราณมากและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในอาณาจักรทะเล มันเกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีอาณาจักรทะเล

อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์มีสมบัติหายากและสมบัติสวรรค์นับไม่ถ้วน น้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกที่เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งอาณาจักรทะเลก็ปรากฏขึ้นที่นี่ มันเป็นเพียงสถานที่เดียวที่น้ำที่วิเศษขนาดนี้สามารถเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้น แม้ว่าอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์จะอันตรายมาก มันก็ไม่ทำให้นักผจญภัยทั้งหลายหยุดที่จะมาที่นี่ได้ ยังมีคนสติดีหลายคนที่พร้อมยอมเสี่ยงและต้องการมาหาโชคที่นี่

ร้อยกิโลเมตรห่างออกไปจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์มีเมืองขนาดกลางอยู่ มันมีชื่อว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์เพราะว่ามันมีเสบียงพิเศษสำหรับนักผจญภัยที่กำลังจะเข้าไปในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นที่ที่นักผจญภัยรวมกันอยู่

มีสิ่งมีชีวิตทุกแบบในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงแต่จะมีคนของเผ่าพันธุ์ทะเลผิวสีฟ้าที่อยู่ในรูปมนุษย์เท่านั้น มันยังมีมนุษย์จากทวีปเทียนหยวนและสัตว์อสูรจากทวีปสัตว์เทวะอีกด้วย ทั้งสามเผ่าพันธุ์นั้นเห็นได้เป็นปกติที่นี่ และพวกเขาก็ไม่ถูกกัน ยังมีบางกรณีอีกด้วยที่ทั้งสามเผ่าพันธุ์ร่วมมือกันตั้งกลุ่มผจญภัยขึ้นมา

เจี้ยนเฉินเข้าไปในเมืองด้วยชุดที่รัดกุมทำให้เขาดูเหมือนมีประสบการณ์ เขาดูเหมือนคนธรรมดา ในขณะที่อยู่ในฝูงชน

“ยาแก้พิษสุดยอด ของสำคัญสำหรับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ พวกมันสามารถแก้พิษได้หลากหลาย 1 เม็ดต่อ 10 เหรียญผลึกชั้นสูง มีเหลือไม่มากแล้ว เร่เข้ามาเร็ว…”

“ขายฟ้าสะเทือนตั้งแต่ระดับ 12 ดาวถึง 14 ดาว พวกมันสามารถสร้างการโจมตีที่เทียบเท่ากับจอมยุทธ 12 – 14 ดาว พวกมันเป็นสิ่งที่ต้องมีในการรักษาชีวิต เหลือไม่มากแล้ว…”

เสียงเรียกหลายเสียงดังอยู่บนถนน แผงต่าง ๆ หลายแผงตั้งอยู่ที่สองข้างถนนเพื่อขายของต่าง ๆ มีสิ่งของมากมายหลายชนิดที่อยู่ที่นี่

เจี้ยนเฉินหยุดที่หน้าแผงที่ขายฟ้าสะเทือน ทั้งหมดที่เขาเห็นนั้นเป็นหินสีดำขนาดเท่ากำปั้นวางอยู่บนพื้นซึ่งกระเพื่อมไปด้วยพลังงานธาตุน้ำที่ทรงพลัง

เจี้ยนเฉินหยิบเอาชิ้นหนึ่งมาตรวจดูและเข้าใจความลับของมันเพียงแค่มองปราดเดียว พวกมันทำมาจากวัสดุพิเศษที่สามารถเก็บพลังงานไว้ข้างในและสามารถให้การโจมตีที่รุนแรงออกมาได้ พวกมันเหมือนกับหินทั้งสามที่เขาได้มาจากประธานของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงก่อนหน้านี้ สิ่งเดียวที่แตกต่างกันนั้นคือคุณภาพ หินทั้งสามนั้นสามารถเก็บพลังของเซียนราชาขั้นสูงสุดได้ ในขณะที่ฟ้าสะเทือนตรงหน้าเขานั้นสามารถเก็บพลังได้เพียงเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3

“ท่านนักรบ ทำไมท่านไม่ซื้อฟ้าสะเทือนไปซักหน่อยล่ะ ? มันเป็นสิ่งที่ต้องมีเพื่อใช้ในการต่อสู้กับศัตรูหรือเพื่อช่วยชีวิตของท่าน” เจ้าของแผงเริ่มอธิบายความมหัศจรรย์และการใช้งานของฟ้าสะเทือน

“ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการทำฟ้าสะเทือนนี้ได้มาจากไหนกัน ? ” เจี้ยนเฉินถาม ในขณะที่เขาตรวจดูหินสีดำ

“ฮี่ฮี่ มันคงเป็นครั้งแรกของท่านในเมืองศักดิ์สิทธิ์ท่านถึงได้ไม่รู้เรื่องนี้ วัตถุดิบมาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ พวกมันได้มาจากการฆ่าสัตว์ที่ดุร้ายและทรงพลังที่อยู่ในอาณาจักร” เจ้าของอธิบาย

เจี้ยนเฉินถามราคาของฟ้าสะเทือน แต่พวกมันก็แพงเกินไปมาก ฟ้าสะเทือนในมือของเขานั้นที่สามารถสร้างการโจมตีที่เทียบเท่ากับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 มีราคาถึง 200,000 เหรียญผลึกชั้นยอด

เจี้ยนเฉินเดินต่อไปยังถนนอย่างสบาย ๆ มีแผงจำนวนมากที่ขายของที่แม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรและใช้งานอย่างไร อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ค่อนข้างเฉพาะตัวมาก เขาหวังว่าจะพบวัตถุดิบที่ใช้ในการทำกระบี่ม่วงฟ้าที่นี่

เจี้ยนเฉินต้องผิดหวังในตอนสุดท้าย เขาไปทุกที่แต่เขาก็ไม่พบอะไร อย่างไรก็ตาม เขาก็ผ่านไปสองสามที่ที่ขายฟ้าสะเทือน

เจี้ยนเฉินมาถึงที่กลางเมืองและเข้ามาที่โรงเตี๊ยมใหญ่ เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์จากนักผจญภัยบางคนที่เข้าไปที่นั่นบ่อย ๆ

เผ่าเต๋านั้นไม่ได้ครอบครองบันทึกที่เกี่ยวกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์มากนัก พวกเขาเจอเรื่องมามากในอดีตและบันทึกโบราณหลายชิ้นก็สูญหายไป นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ปริมาณข้อมูลที่พวกเขามีนั้นน้อย

“ข้าได้ยินมาว่านักผจญภัยฟ้าครามได้เข้าไปในส่วนลึกที่อันตรายของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์และกลับมาได้สำเร็จ พวกเขาเสียนักรบ 12 ดาวไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

“หัวหน้าของนักผจญภัยฟ้าครามเป็นจอมยุทธ 13 ดาว เขาสามารถนำสมาชิกเข้าไปที่ส่วนลึกที่แม้แต่จอมยุทธ 15 ดาวยังตายได้และกลับมาได้อย่างปลอดภัย มันมหัศจรรย์จริง ๆ “

“ข้าก็ได้ยินมาด้วยว่ากลุ่มนี้เห็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกจากไกลไกลแต่พวกเขาก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะไปต่อได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องกลับมาอย่างช่วยไม่ได้ น่าเสียดายจริง ๆ “

“น้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกนั้นหายากมากในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่จอมยุทธ 16 ดาวของอาจจะไม่เจอมันถ้าเข้าไปที่ส่วนลึก นักผจญภัยฟ้าครามนั้นโชคดีจริงจริง”

“นักผจญภัยฟ้าครามในตอนนี้เป็นกลุ่มที่เข้าถึงไม่ได้เลยในเมือง ข้าได้ยินมาว่านักผจญภัยที่ทรงพลังหลายคนต้องการที่จะดึงกลุ่มของพวกเขาไปเข้าพวก เพื่อที่จะได้รู้ถึงที่ที่น้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่”

“ข้าได้ยินมาว่านักผจญภัยฟ้าครามนั้นรับสมัครจอมยุทธ 13 ดาวและกำลังเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปในส่วนลึกอีกครั้ง พวกเขาต้องการที่จะเอาน้ำนั้นมา”

นักผจญภัยในโรงเตี้ยมพูดคุยกันเกี่ยวกับข่าวล่าสุดและพวกเขาทั้งหมดก็พูดถึงนักผจญภัยฟ้าคราม

ในตอนนี้ กลุ่มคนในชุดรัดกุมเข้ามาที่โรงเตี้ยม การสนทนาหยุดเงียบลงทันทีที่พวกเขาเข้ามา

“ดู พวกเขาคือนักผจญภัยฟ้าคราม…”

“นักผจญภัยฟ้าครามปรากฏตัวขึ้นที่นี่จริง ๆ พวกเขากำลังวางแผนที่จะเข้าไปที่ส่วนลึกอีกครั้งจริง ๆ…”

คนในโรงเตี้ยมพูดคุยกันถึงการมาถึงของพวกเขา