เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
ตัวตนที่มีพลังระดับเซียนหกสิบคนกำลังเข้าห้ำหั่นกัน แถมทั้งหกสิบคนนั่นยังมีพลังต่อสู้เทียบเท่าเซียนระดับสูงด้วย ไม่ใช่แค่เซียนระดับต้นทั้งเก้าที่ตกตะลึงแต่เซียนซิงฉาเองก็เช่นกัน หากเขาพัวพันเข้าไปอยู่ในการต่อสู้ด้วยเกรงว่าเขาคงหนีไม่พ้นความตาย!
กล่าวคือเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดินี!
เหลือเชื่อ!
ต่อให้เขาจะเป็นเพียงเซียนระดับสูงขั้นต้น แต่จักรพรรดินีนั้นเพิ่งจะทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับต้น เป็นไปได้อย่างไรที่ความต่างของเขากับนางจะห่างไกลกันขนาดนี้?
มีเพียงหลิงฮันเท่านั้นที่รู้ว่าที่จักรพรรดินีมีพลังต่อน่าสะพรึงเช่นนี้เป็นเพราะนางขัดเกลาพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์จนบรรลุถึงขีดจำกัดแท้จริงอย่างดวงดาวสิบล้านดวงได้สำเร็จ
หากไม่สามารถมีพลังต่อสู้ขนาดนี้ได้ ใครจะมัวเสียเวลาขัดเกลาพลังให้บรรลุขีดจำกัดกัน?
ร่างทั้งสิบของจักรพรรดินีไม่เพียงสามารถช่วยกันโจมตีแต่ยังช่วยแบ่งเบาความเสียหายที่ได้รับให้กับร่างแยกได้ด้วย หรือก็คือความเสียหายที่นางได้รับจากการถูกโจมตีนั้นจะลดลงถึงสิบเท่า
ด้วยเหตุนั้นทำให้นางกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบทันที
ครึ่งวันต่อมาในที่สุดทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ก็สลายไป ร่างของจักรพรรดิยืนตระหง่านแหงนมองสวรรค์เบื้องบนด้วยท่าทีเหยียดหยาม
แต่หลังจากนั้นเมื่อนางขยับมายืนใกล้หลิงฮัน จู่ๆใบหน้าก็กลายเป็นประดับเอาไว้ด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์
“ยินดีกับสหายด้วย!” เซียนซิงฉาเป็นคนกล่าวยินดีคนแรก
การที่เซียนซิงฉาเรียกนางว่าสหายเป็นเพราะเขายอมรับว่าจักรพรรดินีมีพลังต่อสู้ที่ทัดเทียมกับเขา แม้ความจริงแล้วเป็นนางต่างหากที่แข็งแกร่งกว่า
“ขอแสดงความยินดีกับผู้อาวุโส!” เซียนระดับต้นทั้งเก้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพ พวกเขาผสานมือและโค้งตัวเล็กน้อย
ใบหน้าของจักรพรรดินีเผยรอยยิ้มหยิ่งผยอง คิดว่าคำกล่าวยินของคนเหล่านี้จะทำให้นางรู้สึกภูมิใจ? โลกของนางมีคนเพียงคนเดียวก็พอแล้ว นางไม่ไปยังทุกคนด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ฮ่าๆ ขอขอบคุณทุกคนมาก” หลิงฮันกล่าวขอบคุณแทนจักรพรรดินีและสตรีนกอมตะ
เซียนทั้งสิบรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก เด็กหนุ่มผูนี้ไม่ใช่มีเซียนเป็นภรรยาแค่คนเดียวแต่มีถึงสองคน!
ความจริงไม่ใช่สองแต่เป็นสาม ฮูหนิวนั้นบรรลุเป็นเซียนก่อนตั้งนานแล้ว แถมในดินแดนแห่งเซียนจูเสวียนเอ๋อกับพวกหลิวอวี๋ตงก็มีโอกาสจะบรรลุเป็นเซียนได้เช่นกัน
หลิงฮันกับภรรยาทั้งสองกลับลงไปที่ดาวมู่ถู เมื่อจักรพรรดิพิรุณและคนอื่นๆรู้ว่าจักรพรรดินีกับสตรีนกอมตะทะลวงผ่านเป็นเซียนได้สำเร็จพวกเขาก็ทั้งดีใจและรู้สึกกดดัน บุรุษเช่นพวกเขาจะถูกสตรีก้าวข้ามได้อย่างไร แถมนี่ยังมีถึงสองคน
ทั่วทั้งสำนักละอองดาราได้ทำการจัดงานเลี้ยงฉลอง
มีเซียนถือกำเนิดถึงสองคน ไม่ใช่เรื่องน่าอัศจรรย์รึอย่างไร?
ซื่อเฉินเฟิง เทียนเซี่ยตี้เอ้อ หงหม่าและสุดยอดอัจฉริยะคนอื่นถอนหายใจ แต่เดิมพวกเขาคิดว่าตนเองยังสามารถไล่ตามหลิงฮันได้ แต่ตอนนี้ภรรยาของหลิงฮันทั้งสองกลับนำกลายเป็นเซียนไปก่อนแล้ว แถมก่อนหน้านี้หลิงฮันยังสังหารราชาเซียนไปถึงสองคน ความต่างชั้นขนาดนี้มันอะไรกัน!
ในขณะที่ความต่างยังมีไม่มาก พวกเขาก็ยังมีแรงกระตุ้นให้ไล่ตาม แต่เมื่อความต่างเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสุดท้ายพวกเขาก็ทำได้เพียงแหงนมองและหมดความมั่นใจที่จะไล่ตามเพื่อก้าวข้าม
งานเลี้ยงถูกจัดนานถึงครึ่งเดือนกว่าจะสิ้นสุด หลิงฮันรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยและตั้งใจว่าในตอนที่ตนเองทะลวงผ่านเป็นเซียนเขาจะไม่ทำตัวเป็นที่สนใจ
แต่เมื่อนึกถึงเสน่ห์ที่น่าเย้ายวนของจักรพรรดินีที่รอคอยเขาอยู่ ความเหนื่อยของเขาหายเป็นปลิดทิ้งและเข้าไปยังห้องของจักรพรรดินี
จักรพรรดินีแต่งชุดอยู่ด้านหน้ากระจก แต่ด้วยการที่นางดงามอย่างถึงที่สุดอยู่แล้วทำให้ต่อให้แต่งกายอย่างไรก็ไม่อาจงดงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หลิงฮันกลืนน้ำลาย เขาเข้าไปโอบกอดเอวอันเรียวบางของจักรพรรดินีและกล่าว “ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขเอง!”
จักรพรรดินียิ้มให้เขาผ่านกระจกด้วยเสน่ห์ที่ราวกับุปผานับพันเบ่งบาน ต่อให้ไม่ได้ดื่มสุราหลิงฮันก็ยังมึนเมาไปกับความเย้ายวนของจักรพรรดินี
ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม พวกเขาถอดเสื้อผ้าให้กันก่อนจะร่วมรักกันอย่างร้อนแรง
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิงฮันลืมตาตื่นอย่างมีความสุขโดยมีจักรพรรดินีนอนขดตัวอยู่ในอ้อมแขนเขาราวกับลูกแมว เขาเผลอหัวเราะเนื่องจากไม่เคยคิดว่าจักรพรรดินีจะหลับด้วยท่าทางเช่นนี้
แม้พวกเขาทั้งสองจะเป็นคู่รักกันมานานแต่ก็ไม่เคยมีแม้แต่ค่ำคืนเดียวที่พวกเขาหลับนอนด้วยกันจริงๆ
ผ่านไปหนึ่งวัน สองวัน สามวัน หลิงฮันกับจักรพรรดินีไม่ลุกออกจากเตียงเลยแม้แต่ก้าวเดียวราวกับว่าพวกจะอยู่ด้วยกันไปแบบนี้แม้เวลาจะผ่านไปกว่าร้อยปี
จนกระทั่งผ่านไปครึ่งเดือน สตรีนกอมตะก็ทนไม่ไหวจนต้องมาเรียกให้พวกเขาออกจากเตียง เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็นว่านางถูกจับให้ลงไปนอนอยู่บนเตียงรวมกับพวกหลิงฮันแทน
นางอับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีในขณะที่จักรพรรดินีไม่ใส่ใจอะไร ตราบใดที่หลิงฮันต้องการไม่ว่าเรื่องไหนนางก็จะสนับสนุน
เพียงแต่ว่าพวกเขาก็เสียเวลามากเกินไปแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการบ่มเพาะพลัง ในโลกบรรพกาลพวกเขายังไม่ใช่ตัวตนที่ทรงพลังที่สุด ราชาเซียนยังคงเป็นภูเขาสูงตระหง่านมีพวกเขาไม่อาจข้ามผ่านไปได้ในตอนนี้ ทั้งจักพรรดินีและสตรีนกอมตะเข้าหอคอยทมิฬไปบ่มเพาะพลังต่อ พวกนางจำเป็นต้องขัดเกลารากฐานให้มั่นคง ส่วนหลิงฮันนั้นสิ่งที่เขาต้องทำคือบรรลุขั้นสมบูรณ์แท้จริงของระดับวารีนิรันดร์ให้ได้และทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่ง
อำนาจอันทรงพลังของดวงดาวสิบล้านดวงภายจากร่างกายจักรพรรดิทำให้เขารู้สึกกดดันและต้องการยกระดับตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น