อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1258 เย่จิ่งหานมาแล้ว

“ในเมื่อพวกเจ้าอยากตายขนาดนั้น งั้นข้าก็จะทำให้พวกเจ้าสมปรารถนา เริ่มจากเจ้าเป็นคนแรก”

ฮัวอิ่งพูดพร้อมกับรัศมีสังหารในตัวเพิ่มสูงขึ้น บนฟ้าปรากฏรอยฝ่ามือเลือด

ฝ่ามือเลือดใหญ่โตจนแทบจะปกคลุมสถานที่ทำพิธีบวงสรวงเทวดาฟ้าดินกว่าครึ่ง

ตรงที่ฝ่ามือเลือดปกคลุม สิ่งมีชีวิตทุกอย่างล้วนตายจนสิ้น

นางกำนัลขันทีล้วนกลายเป็นโครงกระดูก

ทหารองครักษ์ถูกดูดวิทยายุทธ์จนหมดสิ้น ล้มลงพื้นอย่างระเนระนาด สุดท้ายเหลือเพียงโครงกระดูก

“เคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจ นี่คือเคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจ ทุกคนออกห่างจากนาง” กู้ชูหน่วนตะโกนพูดขึ้นมา อดทนกับความเจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บสาหัส พร้อมบังคับรวบรวมกำลังภายในไปด้วย สร้างม่านป้องกันขึ้นมา ปิดกั้นจากรอบฝ่ามือเลือด

ฝ่ามือเลือดตรงมาหาเวินเส้าหยี พยายามที่จะเอาชีวิตของเขา

เวินเส้าหยีต่อสู้ด้วยมือเปล่า วาดเขียนยันต์อยู่อย่างสง่างามอันแล้วอันเล่า อ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือด คลิก คลิก กัดรอยฝ่ามือที่เปื้อนเลือด ตั้งใจที่จะระเบิดรอยฝ่ามือนั้น

ฮัวอิ่งจะยอมให้เขาสมปรารถนาได้อย่างไร ทุกครั้งที่รอยฝ่ามือเลือดกำลังจะถูกทำลาย นางก็ส่งพลังเข้าไป โจมตีจนเวินเส้าหยีก้าวถอยหลัง จนแทบจะไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง

รองหัวหน้าเผ่าเห็นแล้ว เอาทวนวงเดือนกรีดนภาออกมา รวมเป็นหนึ่งเดียว พุ่งไปฆ่าฮัวอิ่ง

ฮัวอิ่งหลบอย่างรวดเร็ว ด้านหนึ่งก็ยังคงส่งพลังไปยังฝ่ามือเลือดอย่างต่อเนื่อง

ด้านหนึ่งก็ถ่วงเวลารองหัวหน้าเผ่า

“ตูมๆ ตูม…..”

หัวใจพวกเหล่าขุนนางย่ำแย่อย่างที่สุด

พวกเขารู้สึกเหมือน สถานที่ทำพิธีบวงสรวงเทวดาฟ้าดินนี้ จะถูกทำลายจนกลายเป็นผงแล้ว

รองหัวหน้าเผ่ามีวิทยายุทธ์สูงส่ง ทุกการเคลื่อนไหวทำให้ทั่วทั้งขอบฟ้าสั่นสะเทือนหลายที แต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮัวอิ่ง

ได้ยินเพียงเสียงปังดังขึ้น

รองหัวหน้าเผ่าถูกฮัวอิ่งฟาดด้วยฝ่ามืออย่างแรง อวัยวะภายในทั้งหมดเปลี่ยนตำแหน่งทันที แรงกำลังก็แทบจะทุกนางทำลายจนหมด

รองหัวหน้าเผ่ากระอักออกมาเป็นเลือด นานสักพักก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ ความรู้สึกของเขาค่อยๆจางหาย การมองเห็นก็ค่อยๆเลือนราง แต่เขากัดฟันไว้แน่น บีบบังคับให้ตนเองฟื้นตื่นขึ้นมา

ฮัวอิ่งดูดด้วยฝ่ามือใหญ่ ฝ่ามือเลือดอีกข้างหนึ่งปกคลุมรองหัวหน้าเผ่าไว้ หวังที่จะดูดเอาพลังของเขาจนหมด

สายตาเวินเส้าหยีเยือกเย็นลง ไม่สนใจความปลอดภัยของตนเอง ยอมที่จะพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย เสียงพิณหิมะดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กลายเปลี่ยนเป็นกริชสั้นอันแหลมคม พุ่งลงมาจากฟ้ามุ่งไปแทงฮัวอิ่ง

ในขณะเดียวกันก็มีพลังอันแข็งแกร่งรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเวินเส้าหยี พุ่งไปหาฮัวอิ่งอย่างรุนแรง

“พลั่ก….”

เวินเส้าหยีกระอักออกมาเป็นเลือด

เมื่อกี้เพื่อช่วยประชาชนพวกนั้นแล้ว เขาสูญเสียกำลังภายในไปเยอะมาก

ตอนนี้ก็ใช้วิธียอมบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายเพื่อมารับมือกับราชินีตัวปลอม ทำให้เขาบาดเจ็บภายในอย่างยิ่งรุนแรง กระทั่งรู้สึกได้ถึงอวัยวะต่างๆในร่างกายของเขาที่กำลังเหี่ยวเฉา

การต่อสู้ในครั้งนี้รุนแรงมาก

ไม่เพียงทำลายฝ่ามือเลือด

ยังทำให้ฮัวอิ่งก้าวถอยหลังไปสามก้าว มุมปากมีเลือดไหลออกมา

ฮัวอิ่งเช็ดเลือดตรงมุมปาก รอยยิ้มยิ่งอยู่ก็ยิ่งน่าหวาดกลัว

“ขั้นสูงสุดระดับหก….. การโจมตีครั้งนี้ มีความแข็งแกร่งถึงขั้นระดับเจ็ดแล้วมั้ง เวินเส้าหยีเอยเวินเส้าหยี เจ้าว่าทำไมเจ้าถึงได้โดดเด่นขนาดนี้ เจ้าแข็งแกร่งกว่าพ่อของเจ้าที่สมควรตายคนนั้นไม่รู้หลายเท่า”

“พ่อของข้าไม่ใช่คนที่เจ้าสามารถสบประมาทได้”

“คนคนหนึ่งที่แม้แต่ศพก็มีไม่ครบถ้วน ยังจะมีอะไรสบประมาทไม่ได้”

คำพูดประโยคนี้ แทงใจเวินเส้าหยี ผมลงมือต่อสู้ต่อเนื่องอย่างไม่พูดอะไร

รองหัวหน้าเผ่าร้อนใจอย่างมาก อยากที่จะไปช่วย แต่เมื่อเขาขยับร่างกายก็อ่อนแรงกองอยู่บนพื้น ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะสามารถลุกขึ้นมาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรวบรวมกำลังภายใน

ทำได้เพียงนั่งลงสงบสติ ปรับลมปราณ ใช้กำลังภายในรักษาบาดแผล

กู้ชูหน่วนก็อยากช่วย แต่นางช่วยไม่ได้

หากนางปล่อยมือ รอยฝ่ามือเลือดอันใหม่ของราชินีตัวปลอม ก็จะปกคลุมไปทั่วร่างกายประชาชน

ด้านหนึ่งเป็นเวินเส้าหยี ด้านหนึ่งเป็นประชาชนมากมาย

กู้ชูหน่วนอยากที่จะแบ่งเป็นสองร่าง

“พัฟๆ พัฟ….”

“อ้าก….”

คนในวังยังคงตายอย่างอนาถ กลุ่มประชาชนที่ถูกครอบงำ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งแข็งแกร่ง

ทุกคนเหมือนตกอยู่ในนรก ไม่มีความคาดหวังอะไรเลย

ทันใดนั้น จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า “ใช้ไฟโจมตี พวกเขากลัวไฟ”

เย่จิ่งหาน

เย่จิ่งหานมาแล้ว

ในใจกู้ชูหน่วนรู้สึกดีใจขึ้นมา เพิ่มขวัญกำลังใจมากขึ้น