บทที่ 1047 รอเธอหายดีแล้วส่งเธอเข้าเรือนหอ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1047 รอเธอหายดีแล้วส่งเธอเข้าเรือนหอ

เมื่อไม่มีลูกแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ต้องจบลงจริงๆ

แต่แสนรักกลับเงียบไม่พูดไปพักใหญ่

เขาขมวดคิ้ว นั่งที่โต๊ะในห้องแพทย์ และพลิกดูธนาคารไขกระดูกที่พวกเขาส่งมาจากทั่วโลกนานกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ก็ไม่เจอใครที่เหมาะสมกับเขาเลยด้วยซ้ำ

แล้วจะให้เขาตอบว่าอะไร?

——

สองวันต่อมา ทางโรงพยาบาลอนุญาตให้แสงดาวสามารถบริจาคได้

ในวันนี้เองแสงดาวได้รับข่าวนี้ จึงแต่งหน้าอ่อนๆหล่อนไม่ได้แต่งหน้าสไตล์กอธิคและเครื่องสำอางยอดนิยม

“พี่สาวคะ พี่…”

เส้นหมี่บังเอิญเห็นหล่อนออกมาจากร้านเหล้า เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง

เธอไม่เคยเห็นหล่อนเป็นแบบนี้มาก่อน

แท้จริงแล้วเมื่อหล่อนลบหน้าที่แต่งอย่างหนาออก หล่อนสวยเหมือนดอกกล้วยไม้ในหุบเขา สวยจนไม่มีใครละสายตาไปจากหล่อนได้

จริงอยู่ที่ภารานินเป็นคนสวย แล้วใยบัวพี่สาวของเธอจะไม่สวยได้อย่างไรล่ะ?

“ปะ ไปกันเถอะ”

แต่แสงดาวราวกับมองไม่เห็นสีหน้าของเธอ หล่อนเหลือบไปมองเธอเล็กน้อยแล้วหล่อนก็ออกไปก่อน

เส้นหมี่รีบตามไปอย่างร้อนใจ

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งสองก็มาถึงโรงพยาบาล เส้นหมี่ไปแผนกสูตินรีเวชวิทยาเป็นเพื่อนหล่อนก่อน

การบริจาคสเต็มเซลล์เป็นอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้นเมื่อหญิงตั้งครรภ์ต้องการบริจาค ทางที่ดีที่สุดคือควรเอาเด็กออกมาก่อน แล้วจึงพักฟื้นช่วงระยะหนึ่งก่อนถึงจะบริจาคสเต็มเซลล์ได้

เส้นหมี่เดินนำไปด้านหน้า เดิมทีเธออยากรีบไปหาหมอโดยเร็วที่สุด

แต่เมื่อเธอก้าวเท้าเข้าไปในแผนกสูตินรีเวชวิทยา เธอก็รู้สึกได้ว่าหล่อนไม่ได้เดินตามเธอเข้ามา

พี่สาวคะ?

“……”

เวลาผ่านไปสักพัก ผู้หญิงคนนี้ที่ยืนแข็งทื่ออยู่หน้าห้องแผนกสูตินารีเวชถึงได้หันไปมองทางอื่นทั้งน้ำตา

“ฉัน…ฉันรู้สึกกังวลนิดหน่อย เธอเข้าไปหาหมอก่อนเลยนะ ฉันทำใจอีกหน่อยเดี๋ยวตามเข้าไป”

“…ได้”

เส้นหมี่พยักหน้าตอบตกลง

หลังจากนั้นหล่อนก็เข้าไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก

ในฐานะแม่คนหนึ่ง ทำไมเธอจะไม่เข้าใจอารมณ์ตอนนี้ของผู้หญิงคนนี้? แม้ว่าเธอจะพูดว่าไม่ต้องอย่างหนักแน่น แต่ในใจของเธอก็ยังต่อต้านอย่างแรง

เส้นหมี่เข้าไปหาหมอแล้ว

แต่แสงดาวยังอยู่ด้านนอก

“คุณแสงดาวคุณอยู่ที่นี่นี่เอง ผู้ป่วยห้องไอซียูชั้นบนจู่ๆก็ฟื้นและอยากพบคุณ”

ทันใดนั้นในห้องผู้ป่วยชั้น3ก็มีพยาบาลคนหนึ่งลงมาพบหล่อน

คณาธิปฟื้นแล้วเหรอ?

แสงดาวตะลึงนิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อรู้สึกตัวก็รีบตามพยาบาลคนนั้นขึ้นไปทันที

ใช่แล้ว คณาธิปฟื้นแล้วจริงๆ

เขานอนอยู่ในห้องไอซียูหลายวัน จู่ๆก็ฟื้นขึ้นในเวลาแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นการสนองตอบคลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือเปล่า?

พวกเขามีพ่อคนเดียวกัน

พยาบาลพาแสงดาวไปที่ห้องไอซียู

ทันทีที่หล่อนเข้าไป หล่อนก็เห็นคนป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจนอนอยู่บนเตียง เขากำลังตะเกียกตะกายหาอะไรบางอย่าง และเมื่อเขาเห็นเงามัวๆของหล่อนที่เดินเข้ามา

สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หล่อน

“พี่…เข้ามานี่สิ…”

เขาสลบไปตั้งนานทำให้พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง มีเพียงมือที่วางราบอยู่ข้างเตียงที่กระดิกช้าๆเรียกให้หล่อนเข้าไปหา

แสงดาวก็เดินเข้าไป

และไปยืนอยู่หน้าเตียงของเขา

“นาย…กำลังทำอะไร?”

เมื่อเข้าไปใกล้ หล่อนเห็นความโกรธจากแววตาของเขา

ทำไมต้องโกรธด้วย?

เป็นเพราะว่าหล่อนจะบริจาคเต็มเซลล์ให้เขางั้นเหรอ?

แสงดาวเปิดตาออกเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “ฉันกำลังช่วยนายอยู่นะ”

“……”

“เหอะๆ…”

ทันใดนั้นเขาก็ไออย่างรุนแรงในเครื่องช่วยหายใจ ดูเหมือนว่าคำพูดที่ฟังดูแปลกๆของหล่อนจะทำให้เขาหงุดหงิด

ทำให้แสงดาวรู้สึกตกใจ

เธอกดเขาลงทันที ทั้งตกใจและโกรธจึงพูดออกมาว่า: “นายจะหงุดหงิดอะไร? ฉันควรช่วยนายก็สมควรแล้ว? นายเป็นน้องชายของฉัน ถ้าฉันไม่ช่วยนายแล้วจะให้ไปช่วยใคร?”

“ติด…ติดติด…”

ในที่สุดเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่อยู่ข้างๆเขาก็ค่อยๆ กลับมาเดินเป็นปกติอีกครั้ง

น้องชาย?

หล่อนพูดว่า…เขาเป็นน้องของหล่อนงั้นเหรอ?

ตาของคณาธิปก็แดง เขานอนอยู่บนเตียงไม่สามารถขยับตัวได้และอารมณ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นจนถึงที่สุด เหลือเพียงดวงตาของเขาที่ปิดลงอย่างกะทันหัน

“ไม่…คู่…ควร”

“จะมีอะไรคู่ควรไม่คู่ควร? หลังจากที่นายหายดีและจัดการเรื่องของตระกูลหิรัญชาได้แล้วนั้นจะเป็นการตอบแทนฉันอย่างใหญ่หลวง”

สุดท้ายแสงดาวก็พูดคำที่ลำบากใจมากที่สุดออกมาและเขาก็สงบขึ้นมาก คำพูดเหล่านี้หล่อนพูดออกมาได้อย่างง่ายดาย

คณาธิปเบ้ปาก

แต่สุดท้ายเขาก็พูดอะไรไม่ออก เขาแสดงสีหน้าห่วงใยและถามว่า: “งั้น…ลูกล่ะ?”

แสงดาว:“ไม่เอาแล้ว”

คณาธิป:“……”

แสงดาว: “นายหาเจ้าบ่าวให้ฉันแล้วไม่ใช่เหรอ? คุณชายตระกูลโชคสกุลไง ฉันว่าเขาโอเคอยู่นะ รอนายหายดีแล้วกลับไปจัดงานแต่งให้ฉันใหญ่โตมโหฬารเลยนะ”

หล่อนยืนอยู่ข้างเตียงแล้วมองไปหาคนที่หล่อนจะช่วยแล้วยิ้มทั้งน้ำตา