ทันทีที่คำพูดนี้ถูกเปล่งเสียงออกไป นักปรุงยาหน้าดำคล้ำผู้นี้ก็ทำให้ทุกคนมองเขาด้วยสายตาราวกับพร้อมจะฉีกทึ้งเนื้อหนังของเขาให้ขาดวิ่นทันที

“ท่านหัวหน้าหุบเขาจางเชิญพวกเรามามากมายถึงเพียงนี้ ท่านคิดอยากจะได้สูตรยาไปคนเดียวได้ยังไงกัน”

นักปรุงยาหน้าดำคล้ำผู้นั้นกล่าวว่า “ความแข็งแกร่งของพลังจิตสามารถมองออกถึงความระดับพลังความแข็งแกร่งของนักปรุงยา พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์จะมาแย่งชิงสูตรยากับข้าด้วยซ้ำ”

กล่าวจบ นักปรุงยาหน้าดำคล้ำผู้นี้ก็แผ่ซ่านพลังจิตอันแข็งแกร่งออกมาขู่ ข่ม ทำให้นักปรุงยาไม่น้อยหวาดกลัวจนสีหน้าซีดเผือดไป

พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าพลังจิตของนักปรุงยาหน้าดำคล้ำผู้นี้จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

แต่มู่เฉียนซีที่ยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มคนเหล่านี้กลับมีสีหน้าที่เรียบนิ่งเป็นปกติ

เนื่องจากก่อนหน้านี้นางได้เปิดอ่านคัมภีร์หมื่นคำสาป ภายใต้การกดขี่ข่มเหงของคัมภีร์หมื่นคำสาปนั้นทำให้พลังจิตของนางเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง การข่มขู่ด้วยพลังจิตของนักปรุงยาหน้าดำคล้ำผู้นี้ สำหรับนางแล้วเป็นเพียงพลังจิตเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

นักปรุงยาหน้าดำคล้ำผู้นั้นเผยสีหน้าภาคภูมิใจออกมา “พวกเจ้าก็คงจะรู้ถึงความห่างชั้นดีแล้วกระมัง คิดจะแย่งชิงกับข้า พวกเจ้าฝันไปเถอะ!”

“ท่านหัวหน้าหุบเขาจาง ให้ข้าดูสูตรยาได้หรือยัง?”

เมื่อท่านหัวหน้าหุบเขาจางได้รู้ว่าพลังจิตของนักปรุงยาหน้าดำคล้ำแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เขาก็ดีอกดีใจขึ้นทันที

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะให้ปรมาจารย์เฮยดูสูตรยาก่อน หากปรมาจารย์เฮยหลอมยาออกมาไม่สำเร็จ ข้าก็จะให้นักปรุงยาท่านต่อไปหลอม”

ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจ แต่ใครใช้ให้พวกเขาอ่อนด้อยกว่ากันเล่า ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่หวังว่าปรมาจารย์เฮยจะหลอมยาล้มเหลว เช่นนี้พวกเขาถึงจะมีโอกาส

ท่านหัวหน้าหุบเขาจางมอบสูตรยานั้นให้กับปรมาจารย์เฮย เมื่อปรมาจารย์เฮยดูสูตรยานั้นแล้วก็พึมพำเสียงเบาว่า “ยาฟื้นคืนชีพ นี่มันยาลูกกลอนอะไรกัน”

ทุกคนต่างพยายามผึ่งหูฟัง ยาฟื้นคืนชีพ ยาลูกกลอนชนิดนี้พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มันคงไม่ง่ายแน่นอน

เดิมที ต่อให้พวกเขาคว้าผลวิญญาณหัวใจซ่อนเร้นมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถจำสูตรยานี้มาได้ แต่สุดท้ายกลับถูกตาเฒ่าผู้นี้ทำให้เสียการจนได้

พวกเขายิ่งมองปรมาจารย์เฮยด้วยสายตาโกรธแค้นชิงชังมากขึ้น!

ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกายขึ้น ยาฟื้นคืนชีพก็เป็นแค่ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับหนึ่งเท่านั้น นักปรุงยาที่อยู่นี่ทุกคนก็สามารถหลอมออกมาได้

แต่สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกคาดไม่ถึงก็คือ ยาลูกกลอนชนิดนี้กลับไม่มีประโยชน์ต่อการรักษาของนายน้อยหุบเขาผู้นั้นแม้แต่น้อย

เพียงแค่ผันเปลี่ยนดวงชะตาก็เท่านั้น ยาลูกกลอนนี้ถูกเรียกให้เป็นหนึ่งในยาลูกกลอนกระจอก ๆ ในมรดกตกทอดของนิรันดร์ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านักปรุงยาใดเป็นคนสร้างมันขึ้นมา

ยาลูกกลอนกระจอก ๆ เช่นนี้ นักปรุงยาเหล่านี้ต่างก็คิดว่ามันเป็นยาลูกกลอนระดับสูง เมื่อเห็นท่าทางการตั้งหน้าตั้งตารอคอยของพวกเขาเช่นนี้แล้ว มู่เฉียนซีก็รู้สึกหมดคำพูดจริง ๆ

มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าตกลงแล้วท่านหัวหน้าหุบเขาจางผู้นี้คิดจะทำสิ่งใดอยู่กันแน่

อย่างไรเสียยาลูกกลอนชนิดนี้มันก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นไม่มีใครสามารถรักษาอาการนายน้อยหุบเขาได้สำเร็จ และไม่ได้สามารถคว้าผลวิญญาณหัวใจซ่อนเร้นไปได้ ส่วนนางก็รอดูสถานการณ์ไปก่อน

ปรมาจารย์เฮยผู้นั้นกล่าว “ข้าจะเริ่มหลอมยาแล้ว ข้าเห็นพวกเจ้าแล้วช่างน่าสงสารยิ่งนัก พวกเจ้าไม่ต้องออกไปหรอก รอดูอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน อย่างไรเสีย ต่อให้พวกเจ้าดู พวกเจ้าก็ไม่รู้หรอกว่าต้องหลอมเช่นไร”

ทันทีที่ปรมาจารย์เฮยโบกมือ หม้อยาของเขาก็ปรากฏขึ้น เตรียมพร้อมที่จะแสดงฝีมือแล้ว

ในตอนนี้เอง ท่านหัวหน้าหุบเขาจางกล่าวขึ้นว่า “ปรมาจารย์เฮย การหลอมยาฟื้นคืนชีพนี้ต้องใช้หม้อหลอมยาวิเศษถึงจะสามารถหลอมออกมาได้ และข้าก็เจอหม้อยานี้อยู่ข้างสูตรยาใบนี้”

ท่านหัวหน้าหุบเขาจางเอาหม้อยาสีดำขลับออกมา และเมื่อเห็นกับหม้อยานี้ แสงสลัวก็วาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซีทันที

หม้อยานี้ไม่ธรรมดา!

ทันทีที่หม้อยาทั้งสองถูกวางอยู่ด้วยกัน ทุกคนก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าหม้อยาสีดำนั้นไม่เลวเลย

เมื่อเปรียบเทียบกับหม้อยาสีดำขลับนั้นแล้ว หม้อยาของปรมาจารย์เฮยเปรียบเสมือนเศษเหล็กไปโดยปริยาย

ดวงตาของปรมาจารย์เฮยเปล่งประกายขึ้น เห็นหม้อยาใบนี้แล้ว เขาก็รู้สึกชื่นชอบมันเป็นอย่างยิ่ง “นี่ต้องเป็นของล้ำค่าอย่างแน่นอน! อย่างน้อยก็เป็นหม้อวิญญาณขั้นสวรรค์ ท่านหัวหน้าหุบเขาจางได้ของล้ำค่าเช่นนี้มา ช่างโชคดียิ่งนัก!”

ท่านหัวหน้าหุบเขาจางกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “ช่างน่าเสียดายที่บุตรชายของข้าต้องมากลายเป็นเช่นนี้ ของล้ำค่าเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของนอกกาย ตอนนี้ข้าแค่ต้องการให้บุตรชายของข้าหายเป็นปกติเท่านั้น! หากปรมาจารย์เฮยสามารถรักษาบุตรชายของข้าให้หายได้ อย่าว่าแต่ผลวิญญาณหัวใจซ่อนเร้นเลย แม้แต่หม้อยานี้ก็เป็นของแทนคำขอบคุณได้”

ทุกคนล้วนแต่ตกตะลึงพรึงเพริดกับความใจกว้างนี้ของท่านหัวหน้าหุบเขาจาง ดูท่าท่านหัวหน้าหุบเขาจางท่านนี้จะรักบุตรชายของตนเองยิ่งนัก!

ของดีทั้งสองล้วนแต่ตกอยู่ในกำมือของตาเฒ่าผู้นี้แล้ว นักปรุงยาคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

มู่เฉียนซีมองดูการแสดงนี้อยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางเกียจคร้าน ความใจกว้างของท่านหัวหน้าหุบเขาจางท่านนี้ดูเหมือนจะมีมากเกินไปแล้ว จะต้องมีแผนการอะไรบางอย่างอยู่เป็นแน่

ท่านหัวหน้าหุบเขาจางเตรียมสมุนไพรวิญญาณครบครันแล้ว อีกทั้งยังมีหม้อยาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้อีกด้วย ปรมาจารย์เฮยไม่ปล่อยให้โอกาสดีเช่นนี้หลุดมือไปแน่นอน

เขาต้องทำให้สำเร็จให้จงได้!

มู่เฉียนซีเองก็คิดว่าเขาจะหลอมออกมาได้สำเร็จเช่นกัน อย่างไรเสียยาลูกกลอนนี้ก็เป็นเพียงแค่ยาขั้นสวรรค์ระดับหนึ่งเท่านั้น

นางคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป ปรมาจารย์เฮยผู้นี้ก็ยิ่งเหน็ดเหนื่อยและเสียพลังไปมากขึ้นเรื่อย ๆ

ปรมาจารย์เฮยที่กำลังควบคุมสมุนไพรในหม้อยาอยู่ในตอนนี้ก็ได้มีเหงื่อเย็นผุดพรายขึ้นไปทั่วทั้งหน้าผากของเขาแล้ว

ยาลูกกลอนชนิดนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ! นึกไม่ถึงเลยว่าจะต้องใช้พลังจิตไปมากถึงเพียงนี้

“อวดเก่งดีนัก ดูท่าคงจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่แล้วกระมัง!”

“ดูท่าพวกเราจะมีโอกาสแล้ว! พลังจิตแข็งแกร่งแล้วคิดว่าจะเจ๋งนักรึไง หลอมยาไม่ได้มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดีนั่นแหละ”

“……”

พวกเขาล้วนเห็นถึงท่าทางอันเหน็ดเหนื่อยของปรมาจารย์เฮยแล้วเช่นกัน และเริ่มสะใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เรียกได้ว่ามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเลยทีเดียว

มู่เฉียนซีเห็นเม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มหน้าปรมาจารย์เฮยเช่นนี้ นางก็แอบคิดในใจว่า ‘ก็แค่ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับหนึ่ง เป็นถึงเพียงนี้เลยเหรอ’

ไม่สิ! ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ยาลูกกลอนแน่นอน แต่อยู่ที่…

พลังจิตของมู่เฉียนซีแผ่ซ่านออกไป และในที่สุดนางก็รู้ว่าปัญหามันอยู่ที่ใด

การหลอมยาลูกกลอนชนิดนี้ไม่มีทางทำให้ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาระดับสูงสูญเสียพลังจิตไปมากถึงเพียงนี้ได้แน่นอน แต่มันเป็นเพราะหม้อยาที่แปลกประหลาดนี่ต่างหาก

หม้อยานี้กำลังกลืนกินพลังจิตของปรมาจารย์เฮยอยู่

กลืนกินอย่างละโมบโลภมากราวกับสัตว์ร้ายผู้หิวโหยตัวหนึ่งก็มิปาน ต่อให้พลังจิตของปรมาจารย์เฮยแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ไม่เพียงพอต่อการกลืนกินอย่างหิวโหยของมัน

ช่างเป็นหม้อยาที่ชั่วร้ายเสียจริง!

ปัง! เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น สมุนไพรที่อยู่ในหม้อยานั้นระเบิดขึ้นแล้ว

ควันดำพุ่งออกมา และกลิ่นไหม้ก็โชยออกมาเช่นกัน

ยาระเบิดแล้ว!

ล้มเหลวแล้ว!

สีหน้าของชายชราหน้าดำคล้ำตอนนี้ดำเปื้อนไปราวกับถ่าน เขากล่าว “ก็แค่ล้มเหลวเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ข้าสามารถหลอมสำเร็จได้! ข้าจะหลอม…”

อ๊า! ยังกล่าวไม่ทันจบ ปรมาจารย์เฮยที่มีพลังจิตเหลืออยู่น้อยนิดก็รู้สึกปวดหัวเหมือนจะระเบิดขึ้นทันใด จากนั้นเขาก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ตุบ! หลังจากความเจ็บปวดทรมานผ่านพ้น ปรมาจารย์เฮยก็หมดสติไป

“นี่คือจุดจบของคนที่ไม่รู้จักประมาณตน”

“ข้าก็นึกว่าเจ้านี่จะเก่งกาจมาก! ที่ไหนได้ ที่แท้ก็แค่คุยโวโอ้อวด!”

“ความสามารถเพียงน้อยนิดเช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าคิดครอบครองสูตรยากับหม้อขั้นสวรรค์ไว้คนเดียว”

ท่านหัวหน้าหุบเขาจางเผยสีหน้าผิดหวังออกมา และกล่าวว่า “เด็ก ๆ! พาปรมาจารย์เฮยไปพักผ่อน ดูแลเขาให้ดี และใช้สมุนไพรวิญญาณที่ดีที่สุดรักษาเขา”

“ท่านหัวหน้าหุบเขาจางช่างเป็นคนที่ซื่อสัตย์และจริงใจมากจริง ๆ!” นักปรุงยาทุกท่านกล่าวชื่นชม

ท่านหัวหน้าหุบเขาจางกล่าว “ยาฟื้นคืนชีพนี้ช่างหลอมยากจริง ๆ หรือบุตรชายของข้าจะไม่มีโอกาสกลับมาหายดีได้แล้วจริง ๆ เหรอ”

“เจ้านั่นหลอมไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะหลอมออกมาไม่ได้!”

“ท่านหัวหน้าหุบเขาวางใจได้ ข้าต้องหลอมสำเร็จได้แน่นอน”

“……”

ทว่า พวกเขาทุกคนล้วนแต่ต้องการครอบครองสูตรยากันทั้งนั้น

หนึ่งในนักปรุงยาคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “เช่นนั้นการหลอมยาครั้งนี้พวกเราก็มาเรียงลำดับตามความแข็งแกร่งของพลังจิตกัน นักปรุงยาทุกท่านคิดเช่นไร?”

“ความเห็นนี้ไม่เลวเลย เช่นนั้นเรามาแข่งพลังจิตกัน!”

.

.