ตอนที่ 1126 แผนร้ายเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้ง + ตอนที่ 1127 มีเรื่องประกาศ โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1126 แผนร้ายเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้ง
เหมยเหมยไม่ได้กลับบ้านตระกูลจ้าว อยู่ที่นั่นคงหวาดระแวงทุกวี่วัน จะดื่มน้ำสักหน่อยก็ต้องกลัวว่าจะมีใครวางยาหรือไม่ นึกรำคาญใจเหลือเกินเลยเลือกมาอยู่บ้านเซียวเซ่อเพื่อสงบจิตสงบใจ
เธอเปิดคลิปบันทึกเสียงของหานซู่ฉินใหม่ แม้เสียงจะพร่ามัวไปหน่อยแต่พอฟังชัดอยู่บ้าง สามารถแยกแยะได้ว่าเสียงใครเป็นของใคร
“หน้าไม่อายที่สุด เธอนี่ก็ซวยจริงๆ นะ ที่คนทั้งครอบครัวมีแต่พวกไร้ศีลธรรมเห็นแก่ตัว” เซียวเซ่อพูดหยาม
สยงมู่มู่ถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ “เธออย่าเหมารวมทั้งหมดสิ!”
เซียวเซ่อแค่นเสียงพลางถามเหมยเหมยเพราะคร้านจะสนใจเขา “แล้วเธอคิดจะทำยังไงต่อ? เมื่อกี้ฉันให้แม่ฉันช่วยสืบแล้ว กำหนดเวลาที่เฮ่อเหลียนเช่อให้จ้าวอิงสยงเหลือแค่สองวัน ฉันเดาว่าผีไร้คุณธรรมสองตัวนี้ใกล้จะลงมือแล้ว”
สยงมู่มู่เอ่ยถาม “คุณตาว่ายังไง?”
เหมยเหมยส่ายศีรษะ “ไม่รู้ เขาไม่ได้พูดอะไร!”
นอกจากถามแต่สุขภาพของคุณย่า คุณปู่จ้าวก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องอื่นราวกับไม่เรื่องอะไรด้วย เหมยเหมยกลับคิดว่าคุณปู่จ้าวน่าจะยอมรับแผนของสองสามีภรรยาจ้าวอิงสยงกลายๆ เตรียมจะสละตัวเธอเพื่อรักษาตระกูลจ้าว
สยงมู่มู่มีเยื่อใยต่อคุณปู่จ้าวอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงไม่อยากเอ่ยถึงคุณปู่จ้าวต่อหน้าเขา
แต่ว่า–
เซียวเซ่อแค่นเสียงพูดเยาะเย้ย “ฉันว่าคุณปู่จ้าวแสร้งหลับตาข้างหนึ่งแกล้งโง่นั่นแหละ ฉันว่านะตระกูลจ้าวของพวกเธอมีผู้นำตระกูลที่เห็นแก่ตัวและสมองเลอะเลือนแบบนี้ จะวุ่นวายสักหน่อยเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
เหมยเหมยเห็นด้วยสุด ๆ
แม้คุณปู่จ้าวจะเป็นนักรบตัวฉกาจแต่ไม่ใช่ผู้นำตระกูลที่ดีสักเท่าไร ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นหรอก แค่ดูเรื่องที่เขาตามใจคุณย่าเกินไปก็พอจะทำลายตระกูลจ้าวได้แล้ว
ที่ตระกูลจ้าวมาถึงจุดนี้ได้คุณปู่จ้าวนั้นมีความผิดที่ปฏิเสธไม่ได้
“เอาคลิปอัดเสียงพวกนี้จะให้คุณตาฟังไหม?” สยงมู่มู่แนะนำ เขายังคงไม่เชื่อว่าคุณปู่จ้าวจะสนับสนุนสองสามีภรรยาจ้าวอิงสยง
เหมยเหมยเงียบไปอึดใจก่อนจะพยักหน้า “ให้เขาฟังได้ หลังฉันกลับไปก็จะเปิดคลิปอัดเสียงอันนี้ต่อหน้าคนตระกูลจ้าวทุกคน”
เธอไม่ฉลาดก็จริงและไม่มีแผนแยบยลพอจะต่อกรกับผู้หญิงอย่างหานซู่ฉิน ถ้าอย่างนั้นเธอจะเปิดโปงแผนร้ายให้โจ่งแจ้ง ให้ทุกคนได้เห็นกันชัด ๆ อยากจะเห็นนักว่าคนพวกนี้จะทำอย่างไรต่อ!
จ้าวอิงหัวกับเหยียนซินหย่าจับเรื่องที่เหมยเหมยตัดสินใจพลการได้ภายในวันนั้น ซึ่งทั้งรู้สึกโกรธทั้งเป็นห่วง เดิมทีจะรีบตามมาตั้งแต่วันรุ่งขึ้นแต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ก็มีงานเข้ามากองใหญ่ เขาแทบจะอยากให้มีหัวงอกอีกสักสามหัวแขนงอกอีกสักหกแขน
เหยียนซินหย่ามีเวลา เดิมทีจะตามมาก่อน แต่เหยียนหมิงซุ่นโทรมาให้สองสามีภรรยาพวกเขาอย่าเพิ่งไปเมืองหลวงชั่วคราว รอผ่านไปสักสามวันค่อยตามไป
“ยังไงพวกคุณไปก็เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น เหมยเหมยไม่เป็นอะไรหรอก ผมจะคอยปกป้องเธออยู่อย่างลับ ๆ สามวันหลังจากนี้พวกคุณค่อยไป ถึงตอนนั้นน่าจะปิดฉากลงแล้ว”
จ้าวอิงหัวเชื่อเหยียนหมิงซุ่น หากบอกว่าบนโลกนี้ใครปกป้องลูกสาวได้ดีที่สุดคงไม่พ้นเหยียนหมิงซุ่น
ในเมื่อเหยียนหมิงซุ่นมีแผนเขาก็ไม่กังวลอะไรแล้ว เล่นไปตามแผนปักหลักอยู่เมืองจินกับเหยียนซินหย่า แล้วยังจงใจโทรไปบอกคุณปู่จ้าวว่าคงอีกหลายวันถึงจะตามไปได้
ว่าแล้วก็แปลกนับตั้งแต่เหมยเหมยมาถึงเมืองเมืองหลวง คุณย่าก็เริ่มทานอาหารได้มากขึ้น สุขภาพค่อยๆ ดีขึ้นทันตา ดูท่าทางคงไม่ตายง่ายๆ
เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณปู่จ้าวบอกให้สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวไม่ต้องรีบกลับมา งานสำคัญกว่า
จนถึงตอนนี้คุณปู่จ้าวยังไม่ได้สงสัยในตัวคุณย่า หลงคิดว่าคุณย่าปลดล็อกปมในใจได้ถึงสุขภาพดีขึ้น
ช่างโง่เขลาเหลือเกิน!
ยามดึกเหมยเหมยกลับไปบ้านตระกูลจ้าวโดยที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า แม้แต่คุณย่าเองก็ลงจากเตียงภายใต้การประคองตัวของจ้าวอิงหนานกับหานซู่ฉินเพื่อเตรียมไปทานข้าวที่โต๊ะอาหาร
“คุณปู่คะ หนูมีเรื่องจะคุยด้วย” เหมยเหมยพูดเสียงดัง
………………………………………
ตอนที่ 1127 มีเรื่องประกาศ
คุณปู่จ้าวอารมณ์ดีไม่หยอกเพราะคุณย่าลงจากเตียงได้แล้ว เขาคิดว่าภรรยาตนน่าจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้คอยอยู่เคียงข้างเขาได้อีกหลายปี
“ว่ามาสิ เรื่องอะไรถึงต้องจริงจังขนาดนี้” คุณปู่จ้าวเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายและติดหยอกเย้า
เขาเชื่อในเรื่องดวง รู้สึกว่าการที่ภรรยาตนสุขภาพดีขึ้นได้ต้องเป็นเพราะบารมีจากตัวหลานสาว ห้าปีก่อนหลานสาวเพิ่งกลับตระกูลจ้าวก็ตามหาแหล่งน้ำดี ๆ ชงชาช่วยรักษาตัวเขากับภรรยา ตระกูลจ้าวเองก็ยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน ได้ดิบได้ดีเสียจนไม่รู้ว่ามีกี่คนกำลังอิจฉาตาร้อนอยู่
พอนับตั้งแต่หลานสาวทะเลาะกับภรรยาสุขภาพของเขากับภรรยาก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ต่อให้ดื่มน้ำชาดีๆ น้ำดีๆ ก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้จ้าวอิงสยงก็เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อุปสรรคทั้งนอกทั้งในประดังประเดเข้าหาจนตระกูลจ้าวมาถึงจุดวิกฤตอีกครั้ง
คุณปู่จ้าวกลับไม่ค่อยกังวลนักเพราะเขาคิดว่าทำผิดย่อมต้องได้รับโทษ จ้าวอิงสยงไม่มีทางได้อยู่ในกองทัพต่อแน่นอน
เขายิ่งไม่มีทางสยบต่อเฮ่อเหลียนเช่อ กระทำเรื่องชั่วเหมือนหนิงเฉินเซวียน
ดังนั้นเขาคิดไว้แล้วให้จ้าวอิงสยงมอบตัว เขาค่อยไปขอร้องกับนายใหญ่อีกที ใช้อำนาจเพียงนิดที่เหลืออยู่ในมือเขาขอให้ลดโทษจ้าวอิงสยง
แม้ตระกูลจ้าวจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนอย่างเคยและถอยออกจากวงการนั้นแล้ว แต่คุณปู่จ้าวไม่เสียใจ
หากไม่ใช่เพราะได้เข้าร่วมการปฏิวัติโดยบังเอิญ ตลอดชีวิตนี้ของเขาคงเป็นฃเพียงชาวไร่ชาวนาที่วันๆ เอาแต่ขุดดินหาอาหาร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองหลวงอยู่แห่งใด อาศัยอยู่ในหมู่บ้านภูเขาเล็กๆ นั่นตลอดไป ออกไปทำงานแต่เช้าตรู่กลับมานอนตอนมืดค่ำ
พอมาคิดดูแล้วชีวิตง่ายๆ แบบนั้นก็สบายอกสบายใจดีนะ!
รอจบเรื่องลูกชายคนรองเขาจะพาภรรยากลับบ้านเกิดไปปลูกผักเลี้ยงไก่ ห่างไกลจากความวุ่นวายในเมืองหลวง
คุณปู่จ้าวคิดไว้ดิบดีแต่เขากลับไม่รู้ว่าลูกชายและภรรยาของเขาไม่ยอมให้เขาได้ใช้ชีวิตชาวสวนที่เขาวาดฝันไว้แต่อย่างไร
หานซู่ฉินหัวใจหล่นวูบ เธอมีลางสังหรณ์ว่าเรื่องที่เหมยเหมยพูดต้องเกี่ยวกับเธอแน่
แต่เธอไม่กังวลมาก เมื่อวานเธอจงใจเลือกห้องเพื่อหลบหูหลบตาชาวบ้าน เมื่อนั้นมีเพียงเธอกับจ้าวเหมยสองคน ขอแค่เธอยืนกรานไม่ยอมรับ ปล่อยให้จ้าวเหมยพูดจนปากเปียกปากแฉะคุณปู่จ้าวก็คงไม่เชื่อหรอก
หานซู่ฉินกลับลืมไปว่าเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ บนโลกนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่าเครื่องอัดเสียง!
เหมยเหมยมองหานซู่ฉินแวบหนึ่งแล้วมองไปทางจ้าวอิงสยงที่ยังคงวางมาดผู้ดีอยู่ กระตุกยิ้มเย้ยหยันก่อนถาม “คุณปู่ ตระกูลจ้าวคงยังไม่ถึงขั้นขายตัวหลานสาวเพื่ออำนาจเงินทองหรอกนะ?”
ถ้อยคำที่มีอิทธิฤทธิ์ราวกับระเบิดทำให้ทุกคนต่างถอดสีหน้า
เชฟหยวนในห้องครัวสะดุ้งจนรีบปิดไฟเตาแก๊ส กับข้าวจานสุดท้ายไม่ทำมันแล้ว ขอตัวลากลับบ้านดีกว่า
ฟังให้น้อยพูดให้น้อยเหมือนคนใบ้ เขาไม่อยากแส่หาเรื่องใส่ตัวหรอกนะ
คุณย่ามีพิรุธในใจอยู่แล้วเลยตวาดเสียงตำหนิด้วยสีหน้าดุดัน “เธอพูดบ้าอะไร? เพิ่งกลับมาก็สร้างปัญหา เธอมีแผนอะไรกันแน่!”
“หนูก็ไม่อยากกลับมาหรอกแต่คุณย่าเองไม่ใช่เหรอที่ให้คุณปู่โทรเร่งหนูกลับมา? บอกว่าคุณย่าคิดถึงหนูแต่ทำไมหนูถึงรู้สึกว่าคุณย่ายังเกลียดหนูเหมือนเมื่อก่อนเลยล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้หนูกลับเมืองจินตั้งแต่พรุ่งนี้เลยดีกว่า ไม่อยู่ให้รกหูรกตาคุณย่าที่นี่แล้ว”
เหมยเหมยจงใจพูดกวนโมโหคุณย่า เธอดูออกแต่แรกแล้วว่าแม้ยายแก่จะไม่ได้มีสุขภาพที่แข็งแรงดีนักแต่ก็คงไม่ได้จะตายในเร็ววันนี้ สภาพปางตายเมื่อหลายวันก่อนคงเสแสร้งเพื่อหลอกคนทั้งนั้น
คุณย่าถลึงตาจ้องเหมยเหมยอย่างเคียดแค้น สามปีมานี้เธอแก่ลงอย่างมากจนผิวหนังบนใบหน้าเหี่ยวย่น ดวงตาเองก็กลายเป็นทรงสามเหลี่ยม เดิมทียังดูท่าทางใจดีมีเมตตาแต่ตอนนี้เหลือแค่คำว่า ‘ดุ’
นึกได้ว่าเหมยเหมยยังมีประโยชน์อยู่คุณย่าเองก็ไม่กล้าด่าหลานสาวอีก เพียงแค่ทำหน้าถมึงทึงอยู่อย่างนั้น
เหมยเหมยชี้ไปที่หานซู่ฉินแล้วกล่าวว่า “เมื่อวานป้าสะใภ้สองตั้งใจเชิญหนูไปทานข้าวเป็นพิเศษ บอกว่าตระกูลจ้าวใกล้แย่แล้ว ให้หนูสละตัวเองแต่งงานกับคนโรคจิตอย่างเฮ่อเหลียนเช่อเพื่อรักษาตระกูลจ้าวไว้ คุณปู่ คุณปู่เองก็เห็นด้วยหรือคะ?”
………………………………………