“ผนึก!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมปล่อยพลังออกไปผนึกผลึกมารดำของจ่าฝูงมารนรกลง
เร็วล้ำกว่าคำพูดใดๆ
การกระทำทั้งหลายนี้มันสำเร็จลงในเวลาไม่ถึงหนึ่งอึดใจ
เมื่อเสร็จสิ้นเรื่องราวเวลาชะงักก็ได้คลายลง
ทุกสิ่งอย่างกลับสู่ความปกติ
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้แต่จ้องมองดูเย่หยวนราวกับเห็นผี
เพราะเมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งหลายหยุดชะงักลงพร้อมๆ กัน!
แม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่อึดใจแต่คนทั้งหลายก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เลยในวินาทีนั้น!
“เจ้า… เจ้าหมอนี่มันกลับควบคุมห้วงเวลาได้? มันคืออะไรกัน? คำบัญชาเต๋าสวรรค์หรือ?” หลี่เยว่มองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง
แม้ว่าเข็มของเย่หยวนนี้จะเปลี่ยนสถานการณ์การต่อสู้ลงแต่ความไม่พอใจของหลี่เยว่มันก็ยังไม่จางหาย
เขานั้นรู้ว่าเย่หยวนต้องการอะไรจึงได้คิดเปลี่ยนไม่ให้เรื่องราวเป็นไปตามแผนการของเย่หยวน
ขาคิดจะฆ่าปิดปากเจ้ามารนรกตัวนี้เพื่อดับความหวังของเย่หยวน!
แต่เย่หยวนกลัใช้วิชาประหลาดนี้ชิงตัวจ่าฝูงมารนรกไปจากหน้าเขา
มีหรือที่ตัวเขาจะไม่ตื่นตกใจ?
เจ้าเด็กคนนี้มันจะมีไม้ตายอีกสักกี่อย่าง?
จบเรื่องราวแล้วเย่หยวนก็หันกลับมามองด้วยจิตสังหารรุนแรง
หลี่เยว่นั้นได้ทำการล้ำเส้นเสียแล้ว!
“อย่าได้ลืมไปว่าหลังจากเข็มทองนี้หมดฤทธิ์ลงมันจะมีเวลาที่เจ้าจะแสนสุดอ่อนแอ! ถึงเวลานั้นแล้วความเป็นตายใดๆ ของเจ้าจะขึ้นอยู่กับมือข้านี้!”
คำพูดของเย่หยวนมันเย็นเยือกถึงกระดูก
นั่นทำให้สีหน้าของหลี่เยว่เปลี่ยนสีไป ดูท่าก่อนหน้านี้เขาแค่จะระบายอารมณ์ไม่ได้คิดถึงเรื่องราวหลังจากนั้นใดๆ
แต่เวลานี้เมื่อได้ยินคำของเย่หยวน หลี่เยว่จึงได้สะดุ้งตัวขึ้น
เข็มทองทั้งหลายนี้มันทำให้คนมีพลังรุนแรงเหนือล้ำขึ้นได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเล่า?
แต่จู่ๆ หลี่เยว่ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าว “แล้ว? เทพสวรรค์ผู้นี้มีพลัง มันยังไม่ถึงเวลานั้น!”
เจิ้นหยูเฟิงที่ได้ยินก็ร้องขึ้นมาขัดทันที “หลี่เยว่ เจ้ายังมีความละอายบ้างหรือไม่? หากมิใช่เพราะเย่หยวนนี้แล้วเราคงถูกมารนรกมันฆ่ากันสิ้น! แต่นี่เจ้ากลับคิดตอบแทนบุญคุณด้วยความชั่วช้าเช่นนี้หรือ?”
หลี่เยว่ที่ได้ยินก็ยิ้มตอบขึ้น “แล้ว? เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังอวดดีเกินรับ! เทพสวรรค์ผู้นี้เบื่อหน้ามันเต็มทน! เวลานี้เมื่อความวิบัติผ่านพ้นไป เราก็สามารถกลับไปรายงานโลกด้านนอกอย่างไม่ต้องอับอายแล้ว เจ้าเด็กคนนี้มันไร้ประโยชน์ใดๆ กับเราอีกอต่อไปแล้วเช่นกัน!”
เจิ้งหยูเฟิงจึงได้แต่หรี่ตาลงอย่างเย็นเยือก “เจ้าเคยได้ถามข้าหรือไม่ว่าข้าคิดอย่างไรเรื่องสังหารเย่หยวน? เจ้าคิดว่าข้าจะยืนดูอยู่เฉยๆ หรือ?”
หลี่เยว่ที่ได้ยินก็ยกมือขึ้นมาทันที
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ปรากฏร่มคันใหญ่ขึ้นปกคลุมฟ้าดิน ครอบคลุมเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายไว้สิ้น
เจิ้งหยูเฟิงที่ได้เห็นต้องร่ำร้องออกมา “ร่มวิญญาณต้องห้ามสิบทิศ! เจ้ากลับเอาของเช่นนี้ออกมาด้วยหรือ!”
ร่มวิญญาณต้องห้ามสิบทิศนั้นเป็นสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ขั้นสุดของวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงลั่วที่หลี่เยว่อยู่
ว่ากันว่ามันนั้นมีพลังเทียบเคียงสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ทีเดียว!
และเจ้าสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนี้มันก็มีชื่อเสียงลือลั่นไปทั่วทั้งเจ็ดค่ายสำนักรอบๆ ดินแดนนี้
เพราะว่าเจ้าสมบัติวิญญาณชิ้นนี้มันสามารถจะดูดกลืนพลังงานปราณเทวะของเหล่านักยุทธในรัศมีให้ไปสู่ผู้ใช้งานมันได้
มันเท่ากับว่าสมบัติชิ้นนี้มีพลังที่จะลดความสามารถคู่ต่อสู้และเพิ่มพลังให้กับผู้ใช้งานไปพร้อมๆ กัน
หากเป็นสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างมีฝีมือเท่าเทียม สมบัติชิ้นนี้มันย่อมจะเป็นไม้ตายอันน่าหวาดกลัว!
และสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนี้จะแสดงความสามารถออกมาได้สูงสุดก็เมื่อได้อยู่ในสนามรบ
อย่างเช่นในเวลานี้!
พร้อมๆ กันนั้นเองทุกผู้คนต่างก็สัมผัสได้ว่าปราณเทวะในร่างถูกดูดออกไปภายนอกอย่างไม่อาจควบคุม
ส่วนคลื่นพลังบนกายของหลี่เยว่นั้นกลับพุ่งทะยานสูงล้ำ
จนในที่สุดเขาก็ก้าวขึ้นมาถึงระดับของเทพสวรรค์เจ็ดดาวอย่างแท้จริง!
แม้ว่ามันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ชั่วคราวแต่เวลานี้เขาก็มีพลังมากถึงระดับของเทพสวรรค์เจ็ดดาวอย่างแท้จริงแล้ว!
“ฮ่าๆๆ… เอาล่ะ มันจะยังมีใครโผล่หน้าออกมาปกป้องเจ้าเด็กคนนี้อีกหรือไม่?” หลี่เยว่หันไปมองดูรอบๆ พร้อมเสียงหัวเราะลั่น
แล้วมีหรือที่คนทั้งหลายจะยังเทียบเคียงหลี่เยว่ที่ดูดกลืนพลังปราณเทวะของผู้คนไปได้?
นั่นทำให้แม้แต่ตัวเจิ้งหยูเฟิงเองก็ยังต้องเงียบปากลง
เพราะพูดจากล่าวใดๆ ขึ้นมาในเวลานี้มันอาจจะถึงตายได้ง่ายๆ!
แต่หลี่เยว่นั้นได้แต่ต้องหันไปมองเย่หยวนด้วยความกังวลเต็มใบหน้า
เพราะก่อนหน้านี้พลังของสมบัติชิ้นนี้มันได้พุ่งทะยานเข้าหาตัวเย่หยวนเช่นกัน มันเป็นพลังที่พยายามจะดึงปราณเทวะของเย่หยวนออกมา
แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่สมบัติชิ้นนี้ก็ไม่อาจจะดึงปราณเทวะโกลาหลของเย่หยวนออกมาได้
สุดท้ายมันจึงได้แต่ต้องกลับมาหาหลี่เยว่มือเปล่า
เย่หยวนมองดูหลี่เยว่ด้วยสายตาไร้อารมณ์ “สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนี้ดูดี ข้าขอรับมันไปล่ะ”
หลี่เยว่ได้แต่ต้องหรี่ตามอง “เจ้าโง่เง่า! ที่พึ่งของเจ้านั้นคือคำบัญชาเต๋าสวรรค์? ด้วยกำลังของข้านี้อย่างมากเจ้าก็ทำได้แค่ให้ข้าชะงัก! แต่ต่อให้ข้าจะยืนให้เจ้าโจมตี มีหรือที่เจ้าจะทำอะไรข้าได้? แล้วเจ้าคิดว่าตนเองจะใช้มันออกมาได้สักกี่ครั้ง?”
เทพสวรรค์เจ็ดดาวปะทะเทพสวรรค์สองดาว ความแตกต่างมันย่อมมากมายราวฟ้ากับเหว
ต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจปานใดมันก็ย่อมจะไม่อาจสังหารหลี่เยว่ลงได้ด้วยเวลาสั้นๆ นั้น
เพราะฉะนั้นหลี่เยว่จึงไม่กลัว!
เย่หยวนเบิกตามองดู “หากเจ้ายังพูดจาเหลวไหลอยู่อีกพลังของเข็มทองมันจะหมดเอาก่อนแล้ว!”
หลี่เยว่ที่ได้ยินจึงร้องร่ำขึ้น “รนหาที่ตาย!”
ภายใต้ความโกรธเคืองของเขานี้หลี่เยว่ได้ใช้พลังของเทพสวรรค์เจ็ดดาวที่มีออกมาจนทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายต้องซีดขาวลง
ความแตกต่างของเทพสวรรค์หกดาวและเทพสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมันมากมายล้น
เวลานี้เมื่อหลี่เยว่ก้าวข้ามมันไปได้แล้วมันย่อมจะหมายความว่าพลังของเขานั้นเพิ่มพูนขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลี่เยว่ยังได้รับพลังเสริมจากเข็มทองอยู่ ทำให้ยิ่งมีพลังฝีมือเก่งกาจเหนือล้ำฟ้าดิน!
“ดาบจันทร์แดงแสงคราม!”
หนึ่งดาบนี้ถูกฟันออกมาพร้อมสีแดงครามพุ่งทะยานใส่เย่หยวนทันที
ไม่อาจหลบเลี่ยง!
ปัง!
หลังจากแรงปะทะราวระเบิดนั้นมันก็เกิดหลุมกว้างขึ้นแทนที่ที่เย่หยวนเคยอยู่
เวลานี้แม้แต่มิติรอบๆ ยังเกิดรอยร้าวขึ้นมา ร่างกายของเย่หยวนใดๆ หายไปสิ้น
หลี่เยว่จึงได้แต่หัวเราะ “จะมีไม้ตายมากล้นแล้วทำไมเล่า? มีวิชาฝังเข็มทองแม่นยำแล้วทำไมเล่า? สุดท้ายก็ยังตายด้วยมือเทพสวรรค์ผู้นี้มิใช่หรือ?”
“กระบวนท่านี้มันยังขาดพลังไปมาก! ข้าขอเตือนอีกครั้ง ผลของเข็มทองมันอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังของทุกผู้คน
ทุกผู้คนได้แต่ต้องหันไปมองดูเย่หยวนที่ยืนสง่าอยู่บนยอดไม้
บนร่างกายของเขานั้นมันไร้ซึ่งรอยแผลใดๆ
หลี่เยว่ได้แต่ต้องหรี่ตาลงมองดูเย่หยวนอย่างไม่คิดอยากเชื่อ “บ้าน่า! ดาบจันทร์แดงแสงครามของข้านั้นมันน่าจะกักขังห้วงมิติไว้แท้ๆ! ทำไมเจ้ายังหนีรอดไปได้?”
เย่หยวนจึงตอบกลับมาด้วยสีหน้าเฉยเมย “อ่า ลืมบอกไปว่าแนวคิดแห่งห้วงมิติของข้านั้นมันอยู่ในระดับหกดาว เกรงว่าคนอย่างเจ้าคงไม่อาจจะทำร้ายอันตรายใดๆ ข้าได้แล้ว”
หลี่เยว่สั่นสะท้านไปทั้งกาย ดวงตาทั้งสองข้างแทบจะถลนออกจากเบ้า
แนวคิดแห่งห้วงมิติบรรลุระดับหกดาว มันคือเรื่องราวยิ่งใหญ่ปานใด?
มันหมายความว่าหากมิใช่จักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว การจะคิดสังหารเย่หยวนคงเป็นเรื่องยากล้ำ!
เว้นเสียแต่ว่าจะเตรียมการมาอย่างดีอย่างที่หลงเสี่ยวทำ ปิดช่องทางไว้สิ้น
ไม่เช่นนั้นแล้วมันย่อมจะไม่มีทางจับตัวเขาคนนี้ไว้ได้!
แต่หลี่เยว่นั้นจะเอาเวลาที่ไหนไปเตรียมการใดๆ?
ความสิ้นหลังจึงเริ่มคุกคามเข้าสู่ใจจิตของหลี่เยว่ทันที
หากไม่อาจฆ่าเย่หยวนได้แล้ว สุดท้ายเขาก็คงถูกเย่หยวนฆ่าลง!
ตุบ!
หลี่เยว่คุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวนทันทีที่คิดได้เช่นนั้น
“พ-พี่เย่ ข้า… ข้าหลี่เยว่มีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักเขาใหญ่ตรงหน้า! ว-ไว้ชีวิตข้าด้วย!”
………………..