บทที่ 1540 แกะรอยปีศาจและแปดเนตร

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

สามปีผ่านไปนับตั้งแต่มหาพันภพโจมตีมิติปีศาจ

ในช่วงสามปีที่ผ่านมากองทัพสมาพันธ์มหาพันภพทำลายล้างแปดในสามสิบสองเผ่าใหญ่และเผ่ารองลงมาหลายสิบเผ่า พวกเขาถือว่าทำให้กองทัพจักรวรรดิปีศาจอ่อนแอลงได้ถึงหนึ่งในสี่ส่วนเลยทีเดียว

ทว่าเซียวเหยียนกับหลินต้งไม่ได้ยินดีกับชัยชนะเหล่านี้เลย ใบหน้าของพวกเขากลับดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป

นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่พบร่องรอยของเทพปีศาจจักรพรรดิในช่วงสามปีครึ่งที่ผ่านมานี้เลย แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันทรงพลังที่ก่อตัวขึ้นอย่างคลุมเครือ เห็นได้ชัดว่าเทพปีศาจซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อฟื้นคืนกำลัง…

พวกเขาจินตนาการได้เลยว่าจักรวรรดิปีศาจจะเปิดฉากการโจมตีรุนแรงอย่างไรเมื่อเทพปีศาจฟื้นคืนสู่ร่างเก้าเนตรและชำระหนี้แค้นคืนมหาศาลให้กับสิ่งที่พวกเขาทำมาตลอดสามปี

ในเวลานั้นพายุเลือดจะกวาดล้างมหาพันภพแน่นอน

ในมิติปีศาจที่ตั้งอยู่ในทวีปรกร้าง การสั่นไหวของคลื่นหลิงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าทำให้ทวีปมีชีวิตชีวาขึ้น

ร่างเงาเหล่านี้ก็คือกองทัพสมาพันธ์มหาพันภพ

หลินต้งและเซียวเหยียนยืนอยู่บนภูเขาสูงตระหง่าน สองตาปิดลงเปิดประสาทสัมผัสการรับรู้โยงใยผ่านมิติเพื่อตรวจจับพิภพเขตล่างที่มีความผันผวนแปลกประหลาด

กระบวนการนี้ใช้เวลาครึ่งวัน แต่ก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ดูเหมือนว่าเผ่าปีศาจจะถอนทัพออกไปไกลแล้ว

ความคิดนี้วูบผ่านในใจ ทั้งสองเตรียมจะถอนการค้นหา ทว่าทันใดนั้นหัวใจก็สั่นสะท้านเมื่อพวกเขาดึงรับรู้และเพ็งเข้าไปยังจุดพิกัดหนึ่ง

เมื่อสักครู่พวกเขารู้สึกได้ถึงความผันผวนคุ้นเคย

นั่นเป็นของเทพปีศาจจักรพรรดิ!

“พบแล้ว!”

ขณะนี้แม้แต่เซียวเหยียนและหลินต้งก็อดไม่ได้ที่จะเกิดคลื่นในใจ พวกเขาส่งพลังยิ่งใหญ่ออกมาทันทีเพื่อฉีกพิกัดมิติออกจากกัน

หลุมดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า คลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายที่บรรจุคลื่นจิตของเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

พอมาถึงระดับของพวกเขา ต่อให้เจ้าตัวไม่อยู่ก็สามารถส่งการโจมตีออกไปได้อย่างรวดเร็วตราบใดที่อยู่ในระยะการรับรู้

คลื่นหลิงทรงพลังสองสายพุ่งเข้าไปในหลุมดำ ซัดเข้าใส่วังที่ลอยอยู่ในความมืดมิด ที่ภายนอกพวกเขาเห็นจอมปีศาจเซิ่งเทียนฉายสีหน้าเคร่งขรึมอยู่

ทว่าหลินต้งและเซียวเหยียนไม่ได้สนใจจอมปีศาจเซิ่งเทียนสักเล็กน้อย แต่เล็งไปที่ส่วนลึกที่พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนที่น่ากลัวที่กำลังก่อตัวขึ้น

“เทพปีศาจจักรพรรดิ!”

คลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายปลดปล่อยเสียงคำรามดังก้องขณะที่ครางกระหึ่มไม่หยุด

ความมืดที่ครอบงำถูกฉีกออกจากกัน มองเห็นร่างปีศาจร่างหนึ่งนั่งอยู่ นี่คือเทพปีศาจจักรพรรดิที่สัมผัสได้ถึงการโจมตีที่เข้ามา ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น

ดวงตาดำสนิทราวกับว่าสามารถกลืนกินแสงใดๆ ได้

“แกสองคนน่ารำคาญจริงๆ…” เทพปีศาจจักรพรรดิมองคลื่นหลิงขนาดมหึมาสองสายอย่างไม่แยแสพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยันผุดที่ริมฝีปาก

“แต่พวกแกสองคนมาช้าเกินไป!”

เมื่อเทพปีศาจพูดจบ นอกจากดวงตาปกติสองดวงและสามดวงบนหน้าผาก ดวงตาบนฝ่ามือและหน้าอกก็เปิดออกด้วย

แปดตา!

เมื่อดวงตาชั่วร้ายทั้งแปดเปิดออกรัศมีปีศาจไร้ขอบเขตก็แผ่กระจายไปทั่วมิติสร้างกลุ่มควันขึ้นก่อนที่จะรวมตัวเป็นวงล้อมหึมาฉีกผ่านสวรรค์ในเส้นทางที่พุ่งผ่าน

ตู้ม!

เมื่อวงล้อปะทะคลื่นหลิงที่ลงมาจากฟากฟ้า พิภพเขตล่างแห่งนี้ก็สั่นสะเทือนใกล้จะพังทลายลง

“แค่คลื่นหลิงที่ซัดเข้ามายังคิดจะสู้กับแปดตาของข้าเรอะ? ฝันหวานไปแล้ว!”

เทพปีศาจหัวเราะร่าขณะวงล้อเร่งความเร็วขึ้น พิภพเขตล่างนี้ถูกฉีกออกจากกัน ในเวลาเดียวกันคลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายก็ถูกบดขยี้

หลังจากทำลายคลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสาย วงล้อก็ไม่ได้สลายไปแต่เกาะเข้ากับบางสิ่งและหายไป

ในอีกมิติหนึ่ง หลินต้งและเซียวเหยียนลืมตาขึ้นพร้อมกับสีหน้าเปลี่ยนไปรุนแรง จากนั้นเมื่อเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นวงล้อปีศาจมหึมาฉีกผ่านท้องฟ้าเคลื่อนลงมาราวกับว่ากำลังพยายามแบ่งดินแดนออกเป็นสองส่วน

การโจมตีกะทันหันดูดความสนใจของเหล่าจอมยุทธ์สมาพันธ์มหาพันภพทันที ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อรู้สึกถึงพลังน่ากลัวที่บรรจุอยู่ในวงล้อ

ใบหน้าของเซียวเหยียนเย็นชาลงขณะมือประสานเข้าด้วยกัน เสื้อคลุมพลิ้วสะบัดพร้อมกับเพลิงจักรพรรดิลุกโชนพุ่งออกมาก่อร่างเป็นมังกรปะทะกับวงล้อปีศาจ

ตู้ม!

เมื่อพลังทั้งสองปะทะกัน มังกรเพลิงก็ขาดออกจากกันแต่วงล้อปีศาจจางลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลินต้งชกกำปั้นออกไปจากระยะไกล ทำให้มิติแตกร้าวในเส้นทางที่ผ่าน สุดท้ายวงล้อปีศาจก็แตกเป็นเสี่ยงๆ

“ไม่เลว ไม่เลว เจ้าสองคนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่เราจะปะทะกัน รออีกหน่อยนะ รอให้ดวงตาที่เก้าของข้าฟื้นฟูซะก่อน แล้วข้าจะไปหาพวกเจ้าถึงบ้านเลย”

“ฮ่าๆ พวกแกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจของข้าอย่างป่าเถื่อน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาข้าจะจ่ายคืนให้เป็นร้อยเท่า!”

วงล้อปีศาจพังลง แต่เสียงหัวเราะเทพปีศาจกลับดังก้องไปทั่วขอบฟ้า

จอมยุทธ์จากมหาพันภพต่างมีสีหน้าไม่น่าดู ความกลัวและความโกรธพล่านในดวงตาพวกเขา

หลินต้งและเซียวเหยียนแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาสามารถมองเห็นความเคร่งขรึมในดวงตาของกันและกัน ในการเผชิญหน้าช่วงสั้นๆ พวกเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเทพปีศาจจักรพรรดิที่เพิ่มขึ้น

ถ้าในอดีตเมื่อพวกเขาร่วมมือกันแล้วได้เปรียบ มิหนำซ้ำยังสามารถหาจุดอ่อนของเทพปีศาจและปราบปรามได้ ในตอนนี้พวกเขาไม่มีข้อได้เปรียบอีกต่อไปแล้วถึงจะร่วมมือกันก็ตาม

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่ได้ผ่อนคลาย พลังมีการเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่าเทพปีศาจเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งรวดเร็วกว่า

วาบ!

ฉิงเทียน ชิงซันและจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งทั้งหมดมาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของเทพจักรพรรดิทั้งสองพร้อมกับท่าทางเคร่งเครียดรุนแรง “ท่านเทพจักรพรรดิอัคคี ท่านเทพจักรพรรดิสงคราม พวกเจ้าพบร่องรอยของเทพปีศาจหรือไม่?”

หลินต้งและเซียวเหยียนพยักหน้าตอบว่า “เจอแล้ว แต่ข้าเกรงว่าตอนนี้เทพปีศาจเปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว ปีศาจตัวนี้ระวังตัวแจ ดูเหมือนว่าก่อนที่เขาจะอยู่ในสภาพพร้อมรบสูงสุด เขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับพวกข้าสองคน”

“จากคำบอกของไอ้เทพปีศาจ ตอนนี้มันเปิดดวงตาดวงที่แปดได้แล้ว” สีหน้าของฉิงเทียนน่าเกลียดลง

หลินต้งและเซียวเหยียนถอนหายใจกับคำพูดเหล่านั้น

“แล้วตอนนี้เราควรทำอย่างไร? เราควรจะติดตามต่อไปหรือไม่?” จักรพรรดิมังกรแท้จริงถามขึ้น

หลินต้งและเซียวเหยียนส่ายหัวตอบว่า “เตรียมเถอะ กองทัพของเราเหนื่อยล้าตลอดสามปีมานี้ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ไอ้เทพปีศาจจะฟื้นตัวขึ้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้เราควรจะฟื้นฟูพลังเต็มที่เตรียมพร้อมสำหรับศึกใหญ่ดีกว่า”

นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อเทพปีศาจได้อีกต่อไป แม้ว่าจะหาเจอก็ตาม ใครจะรู้พวกเขาอาจถูกลากเข้าสู่สงครามยาวนานและกองทัพสมาพันธ์มหาพันภพอาจได้รับการตอบโต้กลับจากเผ่าปีศาจต่างๆ

ทุกคนตกอยู่ในความเงียบหลังจากได้ยินคำพูดของเทพจักรพรรดิทั้งสอง ในช่วงสามปีที่ผ่านมานอกเหนือจากการกำจัดเผ่าปีศาจบางส่วน พวกเขาก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายสุดท้ายได้

อีกก้าวเดียวเทพปีศาจก็จะเปิดดวงตาที่เก้าได้แล้ว

แต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้วันนั้นมาถึง

“ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ผู้อาวุโสปู้สื่อเพิ่งส่งข่าวมาว่ามู่เฉินบรรลุขั้นสามพิสุทธิ์ได้แล้ว ตอนนี้เขากำลังฝึกฝนร่างมหารัศมีอนันด์และร่างมหาปราชญ์วิญญาณ หากเขาทำสำเร็จก็จะมีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นเป็นจอมยุทธ์คนที่สามบนทำเนียบ ถึงเวลานั้นเราอาจจะสามารถต่อสู้กับเทพปีศาจเก้าเนตรได้” เมื่อเห็นทุกคนไม่สบายใจเซียวเหยียนก็เอ่ยปลอบใจ

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ท่าทางของทุกคนก็คลายลง สายตาเต็มไปด้วยความหวัง

“ออกคำสั่งให้ทุกคนถอยทัพ”

ทุกคนประสานมือรับคำสั่งก่อนที่จะทะยานออกไป ร่างแสงนับไม่ถ้วนบินออกไปอย่างรวดเร็ว กองทัพสมาพันธ์มหาพันเริ่มถอยออกจากมิติปีศาจ

หลินต้งและเซียวเหยียนยืนอยู่บนภูเขาพลางถอนหายใจขณะมองไปที่ร่างเงาผู้คน จากนั้นสีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เนื่องจากพวกเขารู้ว่าความทุกข์ยากกำลังจะมาถึงในไม่ช้า

หากพวกเขาประมาทในเวลานั้น มหาพันภพก็จะถูกทำลาย…

“เวลานี้ก็ได้แต่ฝากความหวังไว้กับมู่เฉินแล้ว…”