หม่าหลันที่ถูกตบตีจนบอบช้ำไปทั้งตัว ในตอนนี้ก็หิวจนท้องแห้ง

เมื่อตอนกลางวัน เย่เฉินเพิ่งทำกับข้าว เธอยังไม่ได้กินสักคำ ก็ถูกตำรวจจับตัวมาแล้ว

ลำบากลำบนตั้งแต่บ่ายถึงตอนนี้ แถมยังถูกตบตีอีก ร่างกายหมดแรง ดังนั้นยิ่งหิวกว่าเดิม

ดังนั้นเธอก็เลยค่อยคลานเข้ามา เพื่อหยิบกล่องข้าวในถังพลาสติก กำลังจะไปกินที่มุมห้อง จางกุ้ยเฟินก็พูดขึ้นว่า “หม่าหลัน มึงทำอะไร?”

หม่าหลันรีบพูดว่า “พี่…….พี่สาว ฉันอยากจะกินข้าวเสียหน่อย……..”

“กินข้าวงั้นรึ?” จางกุ้ยเฟินตะโกนว่า “อีคนอกตัญญูกับแม่ผัวอย่างมึง ยังมีหน้ามากินข้าวอีกรึไง?!”

“ฉัน…..ฉัน…….” หม่าหลันก็สะอึก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบจางกุ้ยเฟินไปว่าอย่างไร

ตอนนี้จางกุ้ยเฟินก็ต่อว่าอย่างไม่พอใจว่า “ฉันอะไรของมึง? มานี่!”

หม่าหลันก็ได้แต่เดินโซเซไปตรงหน้าเธอ แล้วก็ก้มหัวพูดว่า “พี่สาว มีอะไรจะสั่งหรือเปล่า…….”

จางกุ้ยเฟินก็แย่งกล่องข้าวในมือหม่าหลันไป แล้วพูดเสียงเย็นว่า “คนอย่างมึงไม่สมควรได้กินข้าว ไสหัวไป”

หม่าหลันได้ยินดังนั้น ก็ร้องไห้ “พี่สาว วันนี้ทั้งวันได้กินอะไรตอนเช้านิดหน่อย ตอนนี้หิวมากเลย พี่ก็สงสารฉันเถอะ ให้ฉันกินสักหน่อยเถอะนะ…….”

“จะกินงั้นหรือ?” จางกุ้ยเฟินพูดยิ้ม “มึงอยู่ที่Tomson Riviera กินข้าวพวกนี้มันดูลดตัวต่ำลงไปหน่อยมั้ง?”

หม่าหลันร้องไห้พูดว่า “พี่สาว ฉันหิวไม่ไหวแล้ว ขอร้องล่ะ ได้โปรดเมตตาฉันด้วยเถอะ ให้ฉันได้กินสักคำสองคำ คงจะไม่ยอมทนเห็นฉันหิวตายไปหรอกนะ…..”

จางกุ้ยเฟินพูดเสียงเย็นว่า “มึงวางใจเถอะ ไม่ได้กิน2-3วัน มึงก็ไม่ตายหรอก”

หม่าหลันขอร้องว่า “แต่ฉันหิวไม่ไหวแล้วจริงๆ นะ…….”

จางกุ้ยเฟินก็ถามอย่างรำคาญว่า “มึงจะพอได้รึยัง? กูจะบอกให้นะ ทางที่ดีมึงไสหัวไปทางนู้นเลย ถ้ายังมาปากมากอีกคำเดียว กูจะตบมึงให้ตายเลย”

หม่าหลันเห็นจางกุ้ยเฟินทำท่าทางน่ากลัว ใจก็สั่น หงอยจนน้ำตาไหลพราก

เธอกลัวว่าจางกุ้ยเฟินจะตบตีเธออีก ดังนั้นก็เลยได้แต่หลบที่มุมห้อง มองจางกุ้ยเฟินกินข้าวในกล่องตนเองไปทีละช้อนๆ ……..

……

ในตอนนี้ เย่เฉินก็กำลังเตรียมอาหารอยู่ในห้องครัวที่Tomson Riviera

เซียวชูหรันกับต่งรั่งหลินก็กลับมาพร้อมกัน พอต่งรั่งหลินกลับมาถึงบ้าน ก็รีบวิ่งเข้าครัว ปากก็พูดว่า “ฉันมาอยู่บ้านพวกคุณ มาสร้างความลำบากให้ งั้นก็ให้ฉันช่วยทำงานบ้านแล้วกันนะ!”

พูดจบ ก็วิ่งเข้าไปยังห้องครัว แล้วถามเย่เฉินอย่างเขินอายว่า “มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า?”

เย่เฉินตอบ “ไม่ต้องให้คุณช่วยหรอก ออกไปดูทีวีกับเซียวชูหรันเถอะ”

“แต่ฉันไม่อยากดูทีวีนี่นา!” ต่งรั่งหลินตอบอย่างเขินๆ “ฉันอยากช่วยคุณ เป็นลูกมือให้ก็ยังดี”

เย่เฉินมีหรือจะไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร ก็เลยรีบถามว่า “ไม่ต้องจริงๆ ผมทำคนเดียวจนชินแล้ว คุณออกไปนั่งรอกินข้าวเถอะ”

ตอนกำลังพูด เซียวชูหรันก็เดินเข้าห้องครัวมา แล้วถามเย่เฉินว่า “เย่เฉิน คุณเห็นแม่ฉันไหม?”