เรื่องราวทั้งหลายมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราบรื่น
ตั้งแต่ที่เริ่มใช้เคลื่อนมิติออกมาพร้อมด้วยวิชาห้วงมิติเปล่าติดๆ กันจนมาถึงที่หมายมันใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยวพริบตา
เย่หยวนนั้นวางแผนการทุกสิ่งอย่างไว้สิ้น กว่าม่านหย่าจะทำลายเวลาชะงักลงได้ ตัวเขาก็คงหนีออกไปจนสุดทางแล้ว
เพราะอย่างไรเสียม่านหย่าก็ยังเป็นเพียงแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาว ไม่ว่าจะมีฝีมือเก่งกาจเหนือเผ่ามนุษย์ไปปานใดมันก็ยังไม่อาจหลบพ้นจากเวลาชะงักได้เต็มร้อย
และสิ่งที่เย่หยวนต้องการมันก็แค่เวลาเสี้ยวพริบตานี้เท่านั้น!
เมื่อกลับมาถึงแดนของโม่เฉี่ยวซือเย่หยวนก็เริ่มใช้วิชาเคลื่อนมิติอีกครั้งพุ่งทะยานตัวพาคนทั้งสามออกไปยังปากถ้ำโดยไม่ปล่อยให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ตามติดมาได้!
ตราบเท่าที่เขาสามารถจะหนีออกไปถึงปากถ้ำนิลเพลิงได้ เจ้ามารนรกทั้งหลายก็ย่อมไม่อาจจะทำอะไรพวกเขานี้ได้อีก!
“ไป!”
เมื่อก้าวลงถึงพื้นเย่หยวนก็ไม่ลังเลพุ่งพาคนทั้งสามมุ่งหน้าไปยังทางออกด้วยวิชาเคลื่อนมิติ
แม้ว่าถ้ำนิลเพลิงนี้มันจะกว้างใหญ่ปานใด แต่ด้วยความเข้าใจในแนวคิดแห่งห้วงมิติของเย่หยวนนี้การจะออกไปให้ถึงทางเข้ามันก็คงใช้เวลาแค่อึดใจ
คนทั้งสามพุ่งทะยานผ่านความมืดมิดมาอย่างรวดเร็วจนได้เห็นปากถ้ำนิบเพลิงอยู่ตรงหน้าไม่ไกล
เมื่อได้เห็นฟ้าครามที่ด้านนอกนั้นลี่เอ๋อก็ได้แต่ต้องเบิกตาขึ้นกว้างเพราะความตื่นเต้นดีใจ
นางเองก็ไม่คิดฝันว่าตนจะได้กลับมายังมหาพิภพถงเทียนอีก!
แต่ทางเย่หยวนนั้นยังกังวลไม่มีหาย ใช้พลังแนวคิดแห่งห้วงมิติออกอย่างสุดตัว
เขานั้นไม่ได้กังวลว่าม่านหย่าจะตามมาทัน แต่เขากังวลเรื่องของเผ่าเทวาผู้นั้น!
เขานั้นไม่เคยเห็นเผ่าเทวาที่ว่านี้มาก่อนและไม่ได้ทราบด้วยว่าเผ่าเทวาที่อยู่ในถ้ำนี้มีพลังฝีมือมากมายปานใด
เพราะฉะนั้นหากจะมีตัวแปรที่เขาไม่อาจวัดได้ในแผนการนี้ มันก็คงต้องเป็นเหล่าเผ่าเทวานี้แล้ว
ทางเข้าถ้ำเริ่มใกล้คนทั้งสามเข้ามาเรื่อยๆ แต่ลมหายใจของเย่หยวนก็เริ่มหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
สิบกิโลเมตร!
ห้ากิโลเมตร!
หนึ่งกิโลเมตร!
ห้าร้อยเมตร!
หนึ่งร้อยเมตร!
จนสุดท้ายแล้วทางเข้าปากถ้ำมันได้มาอยู่ตรงหน้าแค่เอื้อม
พวกเย่หยวนทั้งสามคนนั้นเห็นถึงท้องแม่น้ำโกรธาต่ำที่ด้านนอกแล้ว
แต่ในเวลานั้นเองที่กลับเกิดความผิดปกติขึ้น!
เพราะมันได้มีหมัดหนักหน่วงพุ่งผ่านห้วงมิติเข้ามาถึงพวกเขาในทันที!
ปัง!
มิติสั่นไหวทำให้วิชาเคลื่อนมิติของเย่หยวนต้องพังทลายลงพร้อมๆ กัน
คนทั้งสามร่วงลงไถไปกับพื้นในทันที!
เย่หยวนรีบเงยหน้าขึ้นมองถึงเงาร่างที่ดักรออยู่ที่ปากทางเข้าถ้ำทันที
แต่เพราะด้วยแสงจากด้านนอกทำให้ตัวเขาไม่อาจมองเห็นใบหน้านั้นได้ชัดนัก
ร่างนั้นยืนมือไขว้หลังอยู่กลางอากาศด้วยท่าทางราวกับเทพเจ้าที่ก้มหน้าลงมองผืนดินต่ำต้อย
เย่หยวนพยายามหรี่ตาลงมองและเริ่มได้เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นมีรูปร่างหน้าตาไม่ได้แตกต่างไปจากมนุษย์แม้แต่น้อย
แต่คลื่นพลังที่ปล่อยออกมาจากร่างของพวกเขานั้นมันกลับเหมือนเต๋าสวรรค์อย่างยิ่ง!
พร้อมๆ กันนั้นบนร่างของเขาก็มีเส้นสายฟ้าหมุนวนอยู่โดยรอบ
ลายพระเจ้า!
เย่หยวนจ้องมองดูอีกฝ่ายนั้นด้วยสีหน้าหนักใจ
แข็งแกร่ง!
มันเป็นความแข็งแกร่งที่ทำให้ผู้คนแทบลืมหายใจ!
พลังของเขาผู้นี้มันคือพลังที่ทำให้เย่หยวนรู้สึกได้ทันทีว่าตนเองคงไม่อาจเอาชนะอีกฝ่ายได้
เมื่อได้เห็นเขาผู้นี้ดวงตาของลี่เอ๋อก็ต้องเบิกกว้างขึ้นอย่างสิ้นหวัง
“หยวนเจี่ยว!”
คนผู้นี้คือยอดฝีมือเผ่าเทวา หยวนเจี่ยวผู้นั้น!
“บุตรีเทวะ ตามหยวนเจี่ยวกลับไปด้วย! บ้านของเจ้าคือเผ่าเทวาเรา!” หยวนเจี่ยวร้องบอกอย่างไร้อารมณ์
ทางเยวี่ยเมิ่งลี่เองก็ได้แต่ต้องกัดฟันแน่นร้องบอกไป “ข้าไม่กลับ!”
หยวนเจี่ยวจึงถอนหายใจออกมาพร้อมหันไปหาที่เย่หยวน “นี่คือเย่หยวนที่บุตรีเทวะกล่าวถึงแล้ว?”
เย่หยวนขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมบอก “ใช่แล้ว! ข้าเอง!”
หยวนเจี่ยวจึงพยักหน้ารับ “เข้าไปถึงเมืองหลวงเทวาด้วยตนเองและยังพาตัวบุตรีเทวะออกมาได้ภายใต้สายตาของยอดคนทั้งหลาย ข้าต้องพูดเลยว่าเจ้านั้นเก่งกาจไม่น้อย! หากข้าไม่อยู่แล้วเรื่องราวมันคงสำเร็จเป็นแน่ น่าเสียดาย… ที่วันนี้เจ้าต้องตาย!”
เยวี่ยเมิ่งลี่จึงรีบพูดแทรกขัดขึ้น “หากพี่หยวนตายข้าก็จะไม่ขอมีชีวิตอยู่ต่อไป!”
หยวนเจี่ยวจึงได้แต่ต้องยิ้มขึ้น “ไม่ฆ่าก็ย่อมได้ แต่เจ้าต้องกลับนรกไปกับข้า”
เยวี่ยเมิ่งลี่จึงร้องบอกไปอย่างไม่ลังเล “ได้ ข้าจะไปกับพวกเจ้า!”
พูดไปคลื่นพลังรุนแรงหลายต่อหลายสายก็ได้เข้ามาล้อมรอบพวกเย่หยวนทั้งสามไว้สิ้น
ม่านหย่าเองก็รีบพุ่งตัวลงมาคุกเข่าต่อหน้าหยวนเจี่ยวด้วยความหวาดกลัว “ท่านทหาปราชญ์หยวนเจี่ยว ม่านหย่าสมควรตาย!”
หยวนเจี่ยวจึงตอบกลับไป “ลองบอกเหตุผลที่จะทำให้ข้าจะไม่ฆ่าเจ้ามา”
ม่านหย่าสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะเล่าเรื่องราวก่อนหน้าให้ฟัง
เมื่อหยวนเจี่ยวได้ยินเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่น
เพราะเดิมทีก่อนหน้านี้เขากำลังปรับปรุงความเสถียรของเส้นทางสองโลกอยู่แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงสั่นไหวรุนแรงในห้วงมิติเขาจึงได้รีบออกมาดู
หากมิใช่เพราะเช่นนั้นแล้วเย่หยวนคงได้พาลี่เอ๋อออกไปยังโลกภายนอกได้แล้ว
เพราะฉะนั้นหยวนเจี่ยวจึงไม่พอใจกับการเฝ้าดูของม่านหย่าอย่างมาก
เพียงแค่ว่าเมื่อได้ยินเรื่องราวแล้วเขาก็ต้องตกตะลึงไม่น้อยถึงวิธีการของเย่หยวนที่สามารถลอบเข้าไปพาบุตรีเทวะออกมาจากถ้ำเสือได้เช่นนี้
ต่อให้จะเป็นตัวหยวนเจี่ยวเอง เขาก็ได้แต่ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก
เพราะหากข้าไปกว่านี้เพียงน้อย เย่หยวนคงได้หนีออกไปแล้ว
“ลุงหยวนเจี่ยว มันเกิดเรื่องใดขึ้นหรือ?” ในเวลานั้นเองที่มีชายหนุ่มอีกคนเดินออกมาจากห้วงมิติพร้อมหยุดลงตรงหน้าหยวนเจี่ยว
เย่หยวนที่ได้เห็นต้องเบิกตากว้างเพราะว่าชายหนุ่มคนนี้เองก็มีคลื่นพลังประเภทเดียวกันกับหยวนเจี่ยว เป็นเผ่าเทวา
หยวนเจี่ยวนั้นพยักหน้ารับ “ซินหรือ? มันมีคนคิดจะพาบุตรีเทวะออกไป ดีที่ข้ามาหยุดไว้ทัน”
ซินจึงได้แต่ต้องหันไปมองที่เย่หยวนด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น “เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำนี้?”
หยวนเจี่ยวจึงพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว”
ซินกล่าวออกมาอย่างไม่คิดแยแส “มนุษย์ชั้นต่ำมันสมควรตายให้สิ้น! การลักพาตัวบุตรีเทวะนั้นเป็นโทษร้ายแรง! ม่านหย่า เหตุใดเจ้ายังไม่ลงมืออีก?”
ม่านหย่าเองก็ได้แต่ก้มหัวรับด้วยใบหน้าแดงก่ำ ความโกรธแค้นที่เขามีต่อเย่หยวนมันย่อมจะมากล้ำ
จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่นเขานั้นกลับถูกเด็กมนุษย์มาปั่นหัวเล่น
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอกว่าเขาไปมาก!
“ขอรับท่านบุตรเทวะ!” ม่านหย่ารับคำและกำลังจะก้าวเท้าออกไปลงมือ
แต่ทางหยวนเจี่ยวกลับร้องบอกขึ้นก่อน “บุตรีเทวะนั้นกล่าวยอมจะกลับไปกับเราแล้ว ให้มันอยู่ไปเถิด บุตรีเทวะ เจ้าจะไปได้หรือยัง?”
เยวี่ยเมิ่งลี่หันมามองเย่หยวนด้วยความเศร้าโศก
แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!
หากนางไม่ไป ด้วยฝีมือของเย่หยวนในเวลานี้มันคงไม่อาจจะรอดกลับออกไปได้
เพียงแค่ก้าวเดียวสู่อิสระนี้มันช่างห่างไกล!
เยวี่ยเมิ่งลี่ยิ้มออกมาด้วยความขมขื่นเต็มอก
“พี่หยวน รักษาตัวด้วย!” น้ำตาหลั่งไหลลงมาจากเบ้าตาของเยวี่ยเมิ่งลี่
แต่ทว่าก่อนที่นางจะได้เดินจากไป มันกลับมีมือหนึ่งมาจับแขนนางไว้
“พี่หยวน?” เยวี่ยเมิ่งลี่หันกลับมามอง
เย่หยวนนั้นกำลังยิ้ม
ยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเห็น!
แต่ดวงตาของเขานั้นมันกลับเปี่ยมไปด้วยความเศร้าและอาจหาญ!
จิตใจของเย่หยวนและลี่เอ๋อนั้นเชื่อมถึงกันได้ มีหรือที่เวลานี้แล้วนางจะไม่เข้าใจว่าเย่หยวนคิดทำการใด?
ใช่แล้ว ด้วยนิสัยของเย่หยวนนี้มีหรือที่จะปล่อยให้คนที่รักถูกพรากไปต่อหน้าเช่นนี้?
เย่หยวนนั้นมองดูหยวนเจี่ยวด้วยรอยยิ้ม “จะเป็นเผ่าเทวาแล้วทำไม? วันนี้ข้าจะขอเปิดศึกกับเผ่าเทวาพวกเจ้าเอง! คิดอยากพาตัวลี่เอ๋อไปนั้นมันก็ย่อมได้! แต่เจ้าต้องฆ่าสังหารข้าลงให้ได้ก่อน! มีหรือที่เย่หยวนผู้นี้จะยืนมองดูนางผู้เป็นที่รักต้องแยกจากไปต่อหน้าอย่างไม่คิดทำอะไร?”
หยวนเจี่ยวได้แต่หันมามองอย่างไม่คิดพูดจากล่าวใดๆ
แต่ทางซินนั้นกลับยิ้มเย้ยขึ้น “เจ้าเองก็กล้าไม่เบา แต่ขยะเช่นเจ้ามีสิทธิพูดเช่นนั้นหรือ? คนอย่างเจ้ามันทำได้แต่ต้องปล่อยให้หญิงอันเป็นที่รักถูกพรากไปต่อหน้าอย่างไม่อาจทำอะไรได้เท่านั้น! บุตรเทวะคนนี้อยากจะรู้เหลือเกินว่าเจ้าจะเอาอะไรมาห้าม!”
พูดจบซินก็หันไปมองม่านหย่าเป็นการส่งสัญญาณ
ม่านอย่าจึงได้ยกมือขึ้นบอกทำให้เหล่ามารนรกระดับเทพสวรรค์นับร้อยๆ ก้าวออกมาล้อมรอบตัวคนทั้งสามไว้
เย่หยวนยกมือขึ้นเป็นสัญญาณบอก “ลี่เอ๋อ เจ้าไปก่อน!”
เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นย่อมจะรู้ได้ว่าวันนี้เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้สู้ศึกที่ไร้ทางชนะเช่นนี้!
ตอนให้จะเป็นตอนที่ปะทะกับข่านนั่วครานั้น เย่หยวนก็ยังพอจะมีหวังอยู่บ้าง
แต่คนที่เย่หยวนจะปะทะด้วยในวันนี้มันคือหยวนเจี่ยว สุดยอดของยอดฝีมืออย่างแท้จริง!
“พี่หยวน พี่… พี่ระวังตัวด้วย!”
เยวี่ยเมิ่งลี่พยายามกดน้ำตาไว้พร้อมวิ่งหนีออกไปจากสนามรบนี้
เห็นเช่นนั้นทางเย่หยวนก็ปลดปล่อยพลังที่มีทั้งหมดออกมาพร้อมกล่าวบอก “จงเข้ามา!”
…………