บทที่ 1055 ถูกทำให้อับอาย

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1055 ถูกทำให้อับอาย

แสงดาวกับวาริชกลับมายังเมืองเอก

แต่ว่า เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก เธอไม่ได้บอกกับเส้นหมี่ ทว่ากลับมากับคนคนนี้ที่บ้านตระกูลโชคสกุลของพวกเขา

“คุณพ่อคุณแม่ พวกเรากลับมาแล้ว”

เมื่อกลับมา หลังจากที่ทั้งสองคนลงจากรถ วาริชมองเห็นพ่อกับแม่ที่ยืนอยู่ที่หน้าประตู กล่าวทักทายอย่างปีติทันที

แสงดาวก็ลงมาด้วยแล้ว

แต่ไม่นาน เธอพบว่า สองสามีภรรยาที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูนี้ หลังจากมองเห็นพวกเขากลับมาแล้ว พ่อของเขายังดี เข้ามาช่วยพวกเขาถือของทันที

แต่ว่า แม่ของเขา กลับไม่มองมาที่เธอแม้แต่น้อย ใบหน้าขุ่นเคืองพ่นลมหายใจออกมา หลังจากนั้นก็พาคนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังเดินกลับเข้าไปแล้ว

แสงดาว:“……”

วาริช:“แสงดาว ต้องขอโทษด้วย แม่ของผมเธอ……ยังโกรธผมอยู่น่ะ ไม่ได้กลับมาตั้งนาน คุณอย่าได้ใส่ใจเลย มา ผมช่วยคุณถือของ”

หลังจากนั้นคนคนนี้อธิบายไปด้วย พร้อมทั้งช่วยเธอถือกระเป๋าเข้าไปอย่างเอาใจใส่แล้ว

เกี่ยวกับลักษณะท่าทางของแม่สามีในอนาคตคนนี้ ความจริงแล้วแสงดาวไม่ได้ใส่ใจอะไร อีกทั้งเธอไม่ได้เอาเธอมาไว้ในสายตาสักนิด การมีตัวตนของเธอ สำหรับเธอแล้ว ก็เหมือนธาตุอากาศ

ดังนั้น ความกังวลของวาริช คิดมากเกินไปแล้ว

แต่ว่าก็แสดงถึง คนคนนี้เกรงว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอแม่สามีกับลูกสะใภ้จะไม่ค่อยดี หลังจากเข้ามา เห็นว่าลักษณะท่าทางของแม่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกไม่ค่อยจะดีนัก วาริชจึงรีบเข้าไปหาแล้ว

“คุณแม่……”

“จะแม่อะไรล่ะ? ตั้งนานไม่ยอมกลับมา ฉันนึกว่าคุณไม่ต้องการแม่ของคุณแล้ว? ไม่ต้องการครอบครัวอันนี้แล้ว!”

ปรากฏว่า ผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้เห็นลูกชายของตัวเองเดินเข้ามา นั่งอยู่ที่โซฟาไขว่ห้างขึ้นมาทันใดก็ด่าออกมาเสียงดังต่อหน้าทุกคน

คำพูดนี้พูดออกมา วาริชที่เข้ามาคลี่คลายสถานการณ์กลับตื่นเต้นขึ้นมาทันใด

รีบแอบเหลือบไปมองแสงดาวที่อยู่ด้านหลังของตัวเองในทันที เขารีบอธิบายออกมา:“ จะได้อย่างไร? ผมเพราะว่าแสงดาวได้ตั้งครรภ์แล้ว ผมจึงต้องดูแลเธอ ถึงไม่ได้กลับมาสักพัก”

“หึหึ……”

คาดไม่ถึง แม่ของเขาได้ฟังแล้ว กลับยิ่งเย้ยหยันมากกว่าแล้ว

“ใครจะไปรู้ว่านั่นใช่ของคุณหรือเปล่า?”

“คุณแม่!!”

“อิงอร คุณพอแล้ว นี่พูดอะไรออกมา? ไม่อยากอยู่กันอย่างสงบสุขแล้วใช่ไหม?”

พ่อของวาริชที่อยู่ด้านข้างในที่สุดก็ทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว ดวงตาของเขาจ้องเขม็งด่าออกมาอย่างโมโห

แม่ของวาริช ถึงได้ปิดปากลงอย่างอับอายแล้ว

ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ แสงดาวที่อยู่ด้านข้างมองดูอยู่อย่างเย็นชา ก้นบึ้งหัวใจไม่สงบอีกต่อไปแล้ว

“แสงดาว คุณอย่าได้คิดเล็กคิดน้อยกับคุณป้าเลย ปากของเธอก็เป็นแบบนี้ นั่งเครื่องมานานขนาดนี้ คงจะเหนื่อยแล้ว เอาแบบนี้ ให้วาริชพาคุณขึ้นไปพักผ่อนที่ข้างบนก่อนก็แล้วกัน”

พ่อของวาริชด่าภรรยาของตัวเองเสร็จแล้ว ก็เข้ามาปลอบใจแสงดาวด้วยตัวเอง

แววตาของแสงดาวขยับไปมา

ในเวลาแบบนี้ ในแววตาทั้งสองที่ปราศจากอารมณ์ใดๆ ถึงได้มองไปยังพ่อสามีในอนาคตคนนี้แวบหนึ่ง

“อืม……”

เธอตอบกลับมาอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อนว่า “อืม” คำหนึ่ง

แม่ของวาริชที่นั่งอยู่ที่โซฟาได้เห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ อดที่จะโมโหออกมาอีกครั้งไม่ได้

แต่เวลานี้ ลูกชายของเธอวาริช เหมือนกับโอบอุ้มไข่มุกอันแสนล้ำค่า พยุงแสงดาวขึ้นไปยังชั้นบนแล้ว

“ไอ้คนเนรคุณ!”

ได้เห็นสถานการณ์แล้ว ผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ทำได้เพียงด่าออกมาอย่างหยาบคายหนึ่งประโยค

แสงดาวถูกพยุงขึ้นชั้นบนมาแล้ว หลังจากเข้าห้องไป วาริชรีบอธิบายขึ้นมาทันที :“แสงดาว เมื่อสักครู่แม่ของผมเธอ……คุณอย่าได้โกรธ ประเด็นคือ……ไม่รู้ว่าเธอไปได้ยินเรื่องของพวกเราที่ย่างกุ้งมาจากที่ไหน หลังจากนั้น……”

“ไม่เป็นไร”

แสงดาวตัดบทเขาไปเบาๆ

สีหน้าของเธอในตอนนี้ สงบอย่างมาก ท่าทางสงบเสงี่ยมแบบนี้ เหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ชั้นล่าง ต่างไม่เกี่ยวอะไรกับเธอยังไงอย่างงั้น

ในที่สุดดวงใจของวาริชก็วางลงได้แล้ว

แต่ว่าต่อมา เขามองเห็นท่าทางของเธอไม่ขยับเขยื้อนสักนิด ดวงใจดวงนี้ที่เต็มไปด้วยความปีติ ก็เย็นวาบขึ้นมากลางอากาศ

“……โอเค ไม่เป็นไรก็ดี งั้นผมไปเตรียมของกินให้คุณก่อน” สุดท้ายแล้ววาริชก็ได้ออกไปแล้ว เตรียมอาหารให้กับเธอ

ตั้งแต่นั้นมา แสงดาวก็ได้พักอยู่ที่บ้านตระกูลโชคสกุลแล้ว

แต่เธอที่ตั้งแต่เริ่มแรกที่กลับมาก็ไม่ได้มีอะไรดีนัก อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ก็ไม่ได้มีความสุขนัก แม่ของวาริชคนนั้นชักสีหน้าใส่เธอทุกวัน

ทั้งที่พูดเอาไว้อย่างดิบดีว่ากลับมาก็ไปจดทะเบียนสมรส แต่ว่าแสงดาวอยู่ที่นี่มาตั้งหลายวันแล้ว เธอไม่แม้แต่จะพูดถึงเรื่องนี้

“พวกคุณพูดสิ เธอโง่จริงๆหรือว่าแกล้งโง่กันแน่? ผ่านมาหลายวันขนาดนี้ คุณนายของพวกเราต่างไม่ได้พูดถึงเรื่องการจดทะเบียนสมรสสักนิด เธอกลับไม่ถามอะไรเลย”

“ยังจะมีหน้ามาถามเหรอ? ท้องก่อนแต่ง ก่อนหน้านี้ทำตัวเองท้องโตกับผู้ชายคนอื่น ตอนนี้ตระกูลโชคสกุลของพวกเรายังต้องการเธอก็ไม่เลวแล้ว เธอยังจะกล้าเร่งรัด?”

“แต่ว่า เธอเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลหิรัญชา?”

“แล้วยังไงเหรอ? ชื่อเสียงเสียหาย คุณยังคิดว่าจะสามารถล้ำค่าได้อีกเหรอ?”

“……”

วันนี้ตอนเช้า แสงดาวที่ท้องโตลงมาที่ชั้นล่าง ในตอนที่คิดอยากจะไปเดินเล่นในสวนดอกไม้

ทันใดนั้น เธอได้ยินคนรับใช้ที่อยู่ในบ้านหลังนี้กำลังพูดคุยถกเถียงกัน

ชื่อเสียง?

ปกติแล้วสำหรับลักษณะท่าทางของคนในตระกูลโชคสกุลแห่งนี้มองมาที่เธอ ต่างไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าบ้านหรือว่าคนรับใช้ เย้ยหยันต่อเธออย่างไร เธอก็ต่างถือว่าไม่ได้ยิน

แต่ตอนนี้ คนเหล่านี้กลับเริ่มพูดถึงตระกูลหิรัญชาแล้ว พูดว่าเธอแสงดาวได้ทำลายชื่อเสียงของตระกูลหิรัญชา