บทที่ 1054 เหรียญเกียรติยศ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1054 เหรียญเกียรติยศ

แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงคือ ไม่นาน แสงดาวก็ส่งข้อความตอบกลับมา อย่างสงบมาก

【แสงดาว:ไม่เป็นไร คุณไม่มาก็ได้】

【เส้นหมี่:……】

【เส้นหมี่:นี่คุณพูดอะไรกัน? จะไม่ไปได้อย่างไร? คุณวางใจเถอะ ก่อนที่คุณจะขึ้นเครื่องส่งข้อความมาหาฉัน ฉันจะออกเดินทางจากเมืองA】

【……】

ในที่สุด แสงดาวก็ไม่ได้ส่งข้อความตอบกลับมาอีก

เส้นหมี่ได้เห็นแล้ว ถึงแม้ว่าจะผิดหวังนิดหน่อย แต่ว่าเพราะว่ายุ่งมาก เธอยังต้องไปจัดการเรื่องอื่นอีก

ทว่าสิ่งที่เธอไม่รู้คือ บนเกาะเดรกที่ห่างไกลออกไป ผู้หญิงท้องโตคนนี้ กำลังก้มลงหยิบประแจ เคาะอะไรบางอย่าง“ปักปักปักปัก”บนรถมอเตอร์ไซค์ที่ล้มจนพังยับเยิน

“แสงดาว คุณมาทำเรื่องนี้อีกแล้ว? คุณรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่นะ?”

วาริชที่พึ่งจะกลับมาจากออกไปซื้อผัก ตกใจจนทิ้งตะกร้า เขาวิ่งเข้ามาแล้ว

แย่งประแจออกมาจากในมือของหญิงสาวคนนี้กลับมา

แสงดาว:“……”

อดที่จะจ้องมาที่อยู่ชายคนนี้แวบหนึ่งไม่ได้ เธอถึงได้เบนสายตากลับมาอย่างเขินอาย

ตอนนี้เธออ้วนขึ้นนิดหน่อย มองจากด้านหลัง เพราะว่าเอวที่อวบขึ้นมา ทำให้เธอมองดูแล้วไม่ได้เซ็กซี่อรชรเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

แต่ว่า เธอยังคงค่อนข้างแต่งตัวเป็น

เสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหญ่ยาว ที่เท้าเป็นถุงเท้ายาวสีดำสีเดียวกันขอบสีขาวที่ยาวมาถึงเข่า เผยให้เห็นขาเรียวสวยครึ่งท่อนที่เรียวขาว มองจากด้านหลัง ถ้าไม่สังเกตละก็ คงจะไม่รู้ว่าเธอนั้นตั้งครรภ์

วาริชมองดูเธอสีหน้าไม่ค่อยดีเดินกลับห้องไป จึงรีบวิ่งเข้ามาแล้ว

“ผมไม่ได้ว่าคุณ ผมแค่กังวลว่าคุณจะไม่ระวังแล้วทำให้ตัวเองบาดเจ็บ เคาะๆตีๆอยู่แบบนั้น อีกทั้งยังเป็นเหล็ก ถ้าไม่ระวังแล้วเกิดเคาะโดนคุณขึ้นมาจะทำอย่างไร?”

“พอแล้ว ไปทำกับข้าวเถอะ”

ได้ยินคนคนนี้พูดอะไรอุบอิบขึ้นมา ในที่สุดแสงดาวก็พูดออกมาอย่างหงุดหงิดหนึ่งประโยค

หลังจากนั้น เธอก็หยิบผลไม้ที่โต๊ะน้ำชาไปหนึ่งกล่องเล็ก เดินไปที่โซฟาในห้องรับแขกแล้วก็นั่งลง

วาริชได้เห็นแล้ว ถึงได้วางใจลงได้ ถือผักเข้าไปในห้องครัวแล้ว

ทำอยู่ประมาณสี่สิบกว่านาที อาหารก็ได้ทำเสร็จแล้ว ทั้งสองจึงนั่งลงที่หน้าโต๊ะอาหารได้เริ่มทานข้าว

“เอ่อคือว่า……แม่ของผมโทรศัพท์มาแล้ว ถามว่าพวกเราอยากจะแต่งงานไหม? แสงดาว คุณคิดว่าพวกเรา……?”

“แล้วแต่คุณเลย อยากจะแต่งก็แต่ง ไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง”

ทั้งๆที่ หลายวันมานี้คนครอบครัวติดต่อมาบ่อยๆคือผู้หญิงคนนี้แท้ๆ

แต่ว่า เธอที่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะอาหาร ได้ยินวาริชพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ลักษณะท่าทางของเธอยังคงสงบดี พูดว่าเขาอยากแต่งก็แต่ง เขาไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง

วาริช:“……”

แววตามืดมัวลง

วินาทีนี้ เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ได้ยินคำตอบอันนี้แล้ว เขาผิดหวังเป็นอย่างมาก

แต่ไม่นาน เมื่อเขามองมาที่หน้าท้องของเธอที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำคนนี้ ความโกรธต่างๆก็ได้หายไปแล้ว เปลี่ยนมาเป็นใบหน้ายิ้มแย้มอีกครั้ง

“ผมอยากแต่ง ทั้งชีวิตนี้ของผมแม้แต่ในความฝันก็ยังอยากจะแต่งงานกับคุณ งั้นพรุ่งนี้พวกเรากลับกันนะ พ่อของผมบอกว่า กลับไปก็จะจัดงานแต่งงานให้พวกเราทันที ถึงเวลานั้น พวกเราสามารถพักอยู่ที่เมืองเอกรอคลอดได้”

ทั้งดวงใจและแววตาของเขา ทั้งหมดต่างเต็มไปด้วยความใฝ่ฝันและใฝ่หาว่าครอบครัวในอนาคตจะใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข

แสงดาวที่กำลังคีบเม็ดข้าวเข้าปากในที่สุดก็ได้วางตะเกียบลงแล้ว

เธอเงยหน้าขึ้นมา มองไปยังเจ้าคนผอมบางคนนี้

ครึ่งปีมานี้ที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ ความจริงแล้วไม่ง่ายเลย ช่วงที่เธอพึ่งจะมานั้น อารมณ์แปรปรวนอย่างมาก ไม่อนุญาตให้จ้างคนรับใช้ และก็ไม่ยินยอมเห็นสิ่งต่างๆที่ส่งมาจากด้านนอก

รวมทั้งเงิน

จากนั้นช่วงสองสามเดือนแรก คนคนนี้ลำบากมากจริงๆ

เขาไม่เพียงต้องดูแลเธอ ยังต้องไปหางานทำในเกาะแห่งนี้ หาเงินมาเลี้ยงดูพวกเขาทั้งสอง

เมื่อเวลาผ่านไป รอให้เธออารมณ์ฟื้นคืนกลับมา พบว่าคุณชายรูปหล่อคนนี้จากที่อ่อนแอ ลำบากตรากตรำไม่ต่างอะไรคนงานที่อยู่บนเกาะเลย

ทว่าเวลานี้ เขายังไม่ทันได้กลับมาเป็นอย่างที่พึ่งจะออกมาจากบ้านตระกูลโชคสกุลเลย

แสงดาวเบนสายตากลับมา วินาทีนี้ ในที่สุดเธอก็พยักหน้าแล้ว:“โอเค”

คำเดียว เหมือนกับว่าเป็นการเติมเต็มให้กับการพูดคุยของพวกเขาทั้งสอง

ค่ำคืนนี้ปรากฏว่าวาริชดีใจเป็นอย่างมาก เขาจัดเก็บสิ่งของพวกเขาทั้งสองในคืนนั้นจนเสร็จรีบร้อย จัดของไปด้วย พร้อมทั้งฮัมเพลงที่เขาชอบไปด้วย

แสงดาวที่อยู่ชั้นบนได้ยินแล้ว เธอเปิดลิ้นชักออกมา หยิบซองเอกสารออกมาแล้ว เปิดออกมา

นั่นเป็นโฉนดบ้าน ด้านบนเขียนว่าเรือนทหารแห่งหนึ่งในเมืองหลวง

เรือนทหาร……

หึหึ

เธอกระตุกที่มุมปาก นำสิ่งนี้วางลงบนโต๊ะ เป็นอีกครั้ง วัตถุโลหะที่มีสีแดงพราวในความมืดก็หล่นลงในมือของเธอ มีน้ำหนักอย่างมาก

นี่คือเหรียญเกียรติยศ

เธอก้มหน้าลงมามองสิ่งนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ว่าครั้งนี้ นิ้วมือของเธอก็ยังคงสั่นเทาเล็กน้อย

สีแดงอันร้อนแรง โลหะที่มีความเย็น

เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน วันหนึ่ง ตัวเองจะยังสามารถเอามันมาได้

ได้ยินว่า เหรียญเกียรติยศเป็นความภูมิใจอันสูงสุดของทหารคนหนึ่ง นั่นเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากกว่าชีวิตของพวกเขาเสียอีก ตอนนั้น น้าของเธอภารานินถือเอาไว้ในมือ เป็นเหรียญเกียรติยศที่สามีของเธอขุนนายให้มาตอนที่จะเสียชีวิต

งั้นตอนนี้เขานำสิ่งนี้มาให้เธอหมายความว่าอย่างไร?

บอกกับเธอ ความจริงแล้วเขามองว่าเธอนั้นสำคัญ? แม้แต่สิ่งที่สำคัญกว่าชีวิตของเขายังมอบให้กับเธอแล้ว?

หึหึ

ที่มุมปากของเธอยิ้มเยาะออกมามากกว่าเดิม

ไม่ได้มองต่อไปอีก ทว่านำสิ่งนี้ใส่กลับไปในซองเอกสารอีกครั้ง นำโฉนดอันนั้นใส่ลงไปด้วยกัน เธอปิดผนึกให้สนิท แล้วหยิบปากกาขึ้นมาแล้ว

「ผู้รับ:ไชยันต์

ที่อยู่ผู้รับ:เมืองหลวง ถนนxxx เดอะวิวซี。」