ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1053 ว่าที่ภรรยาตั้งท้องก่อนไม่ใช่เรื่องดีอะไร
“หา?”
ดวงตาทั้งสองข้างของเส้นหมี่เบิกกว้างขึ้นมา
เขาจัดการเอง?
ทุกวันงานในบริษัทของเขาก็ตั้งมากมาย ยังต้องให้เขามาเตรียมงานแต่งงานด้วยตัวเอง? เธอฟังผิดไปแล้วหรือเปล่า?
เส้นหมี่รู้สึกว่าไม่ค่อยจะน่าเชื่อเท่าไหร่
แต่มองดูสีหน้าของเขาแล้วก็ไม่เหมือนกับกำลังล้อเล่น สุดท้าย ทำได้เพียงรับภารกิจสองอย่างอันนี้มาก็ออกไปแล้ว
ทว่าเธอไม่รู้เลยว่า เธอเดินออกไป ผู้ชายที่อยู่ในออฟฟิศคนนี้ก็เรียกเคมีเข้ามาแล้ว
“การจัดเตรียมงานแต่งงานต้องทำอย่างไรบ้าง?”
“หา?”เคมีเองก็นิ่งอึ้งไปสักพักเหมือนกัน “ท่านประธานต้องการจะเตรียมงานแต่งงานให้กับคุณหนูใหญ่กับตระกูลโชคสกุลเหรอ? งั้นก็มอบให้บริษัทรับจัดงานแต่งงานไปเลยก็ได้นะ?”
“บริษัทรับจัดงานแต่งงาน? ทำไมผมต้องมอบให้บริษัทรับจัดงานแต่งงาน?”
“หา?”
“จะหาอะไรล่ะ? คุณไปทำความเข้าใจสักหน่อย หลังจากนั้นบอกกับผมว่าทำอย่างไร โดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวกับเจ้าสาว ต่างทำความเข้าใจให้ชัดเจน หลังจากนั้นบอกกับผม”
ชายหนุ่มที่นั่งที่อยู่โต๊ะทำงานมองมาที่เขา ปรากฏว่าลำดับการแต่งงานทั้งหมดในครั้งนี้กลับร้องขอให้เขายื่นมือเข้ามา
เคมีรู้สึกเสียสติไปแล้ว
เขาจินตนาการไปเองหรือเปล่า? ประธานใหญ่แห่งหิรัญชากรุ๊ปที่แต่ละวันยุ่งเหยิงทั้งวัน กลับยังจะดูแลงานแต่งงานของพี่สาวด้วยตัวเอง? นี่เป็นสิ่งที่ฟังดูแล้วไม่อยากจะเชื่อเป็นอย่างมาก
หรือว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองพี่น้องมาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ?
ในตอนที่เคมีออกไป ก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันไป
จนถึง สองวันให้หลัง เมื่อเขาได้จัดเตรียมการเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนของเจ้าสาวเรียบร้อยแล้ว อันดับแรก พูดถึงแหวนแต่งงานที่ต้องใช้ในงานแต่งงาน คนคนนี้ก็พูดออกมาว่า :“บลูไดมอนด์อันนั้นของผมล่ะ?”
“หา?”
เคมีถูกตัดบทลงแล้ว นิ่งไปสักพัก :“บลูไดมอนด์……ท่านประธานเก็บเอาไว้ที่ธนาคารที่สวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่เหรอ?”
แสนรักพยักหน้า:“ไปเอากลับมา เจียระไน ส่งไปที่W&Dสั่งทำแหวนแต่งงานออกมา”
เคมี:“……”
“!!!!”
โอ้!
คำพูดของคนคนนี้?
บลูไดมอนด์ อย่างน้อยสิบกว่ากะรัต เขากลับพูดว่าเจียระไน!!
เพียงเพื่อทำแหวนแต่งงานสองอัน อีกทั้ง แหวนของผู้ชายคงไม่ต้องการเพชร งั้นคงต้องฝังลงที่แหวนของผู้หญิง นี่ไม่ใช่ว่าเขาสิ้นเปลืองเกินไปเหรอ? นิ้วมือนิ้วหนึ่งของหญิงสาวคนหนึ่งสามารถแขวน “หิน”ได้ขนาดใหญ่เท่าไหร่กัน?!!
ยังมี W&D นั่นไม่ใช่แบรนด์จิวเวอร์รี่ของเขากับภรรยาก่อตั้งขึ้นมาเองเหรอ?
เขาจะนำสมบัติล้ำค่าที่ราคานับไม่ได้อันนั้น ส่งไปสั่งทำที่นั่น? หาร้านจิวเวอร์รี่ที่ดีสักหน่อยไม่ได้เหรอ? แตกนิดหน่อยต่างก็เป็นพันล้านแล้ว!!
เคมีรู้สึกว่าตัวเองจะเสียสติไปแล้ว
แต่ความจริงก็คือความจริง ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ใส่ใจอะไร
บอกกล่าวเรื่องแหวนแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เขากำลังฟังเรื่องลำดับการของงานแต่งงานจากผู้ช่วยคนนี้ ก็ต่าง—-จดจำเอาไว้ในสมอง ท่าทาง อย่าได้พูดถึงว่าจริงจังขนาดไหน
ทว่าทางด้านเส้นหมี่ ก็กำลังจัดการเรื่องสถานที่จัดงานแต่งงานที่อยู่ในมือ
“คุณนายโชคสกุล งั้นถ้าจะจัดงานแต่งงานแล้ว ฉันต้องจัดวางแผนให้พวกเขาไปจดทะเบียนสมรสที่ที่ว่าการก่อนหรือไม่?”
“เรื่องเรื่องนี้ รอให้พวกเขากลับมาก่อนค่อยว่ากัน”
แม่ของวาริชคนนี้ หลังจากได้รับสายโทรศัพท์จากเส้นหมี่ ก็ยังคงเป็นสีหน้าท่าทางแบบนี้
เส้นหมี่ได้ยินแล้ว ตอนนี้โมโหจนหงุดหงิดออกมาแล้ว
แสงดาวกับวาริชทั้งสองคน ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันจริงๆ พวกเขาอาศัยอยู่ที่เกาะเดรกมาโดยตลอด ตอนนี้กำลังจะจัดงานแต่งงานแล้ว งั้นก็คงต้องจดทะเบียนสมรสก่อนแล้ว
เส้นหมี่สุดลมหายใจเข้าลึกๆ อดทนเอาไว้ต่อ
“งั้นก็ได้ การจดทะเบียนเดิมทีก็ต้องรอให้พวกเขากลับมาถึงจะทำได้ งั้นถึงเวลานั้นก็ให้ลูกชายของคุณถือทะเบียนบ้านมาหาพวกเราที่นี่นะ”
“มีสิทธิ์อะไรที่จะให้ลูกชายของฉันถือทะเบียนบ้านไปหาพวกคุณ? คุณผู้หญิงหิรัญชา ตระกูลโชคสกุลของพวกเราสู่ขอลูกสะใภ้ ไม่ใช่ว่าแต่งลูกสาวออกไป การจดทะเบียนสมรสทำไมยังต้องไปหาพวกคุณที่นั่น?”
ผู้หญิงคนนี้ได้ยินความคิดเห็นของเส้นหมี่ ก็ตะโกนออกมาในสายโทรศัพท์ทันที
เส้นหมี่ได้ยินสิ่งนี้แล้ว ในที่สุดความเดือดดาลก็ได้พุ่งขึ้นมาแล้ว
“คุณนายโชคสกุล ก็แค่จดทะเบียน ไม่ใช่ว่าจะให้ลูกชายของคุณย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ที่นี่ ฉันพิจารณาถึงพี่สาวของฉันได้ตั้งท้องแล้ว ไม่สะดวกที่จะวิ่งไปวิ่งมา”
“จะไม่สะดวกได้อย่างไร? ถ้าคุณกลัวนัก สามารถให้เธอมาพักอยู่ที่ตระกูลโชคสกุลก่อนก็ได้”
“คุณ—-”
เส้นหมี่เกือบจะด่าคนออกมาแล้ว
โชคดี ที่ในตอนนี้พี่ภาอยู่ด้านข้างเธอ มองเห็นว่าเธอโมโหจนเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว เธอรีบยื่นมือออกมาจับเธอเอาไว้
“คุณผู้หญิง คนแบบนี้พวกเราอย่าได้เก็บเอามาใส่ใจเลย อดทนเอาไว้ ขอเพียงงานแต่งงานของคุณหนูใหญ่ในครั้งนี้เป็นไปด้วยดีก็พอแล้ว”
“……”
เส้นหมี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง เก็บกดความรู้สึกเอาไว้
จากนั้นในที่สุด เธอก็ยินยอมให้แสงดาวกับวาริชหลังจากกลับมาจากเกาะเดรก ก็เข้าไปพักอยู่ที่เมืองเอกบ้านตระกูลโชคสกุล หลังจากนั้นค่อยนำทะเบียนของตระกูลหิรัญชาส่งไปให้
ให้พวกเขาทั้งสองคนไปจดทะเบียนสมรสที่เมืองเอก
ผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ได้ฟังแล้ว ถึงได้พอใจแล้ว หลังจากนั้น ก็วางสายไป
เส้นหมี่เองก็ได้วางสายโทรศัพท์ลง เพราะว่าได้ยอมถอยหนึ่งก้าว ภายในใจจึงยากที่จะไม่อัดอั้นตันใจ
【เส้นหมี่:พี่สาว ต้องขอโทษด้วย พวกคุณทั้งสองหลังจากกลับมาครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าคงจะต้องกลับไปที่ตระกูลโชคสกุลเลย แต่ว่าคุณวางใจเถอะ พวกคุณถึงแล้ว ฉันก็จะไปหา】
ในตอนที่เธอส่งข้อความอันนี้ออกไป เกรงว่าผู้หญิงคนนี้จะโกรธและไม่ยินยอม
จากนั้น เธอจึงส่งข้อความไปอีกหนึ่งประโยค พูดว่าตัวเองก็จะไปหาด้วย