บทที่ 1269 ทำไมถึงรวมตัวกันได้

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1269 ทำไมถึงรวมตัวกันได้

“งั้นกระหม่อมไปติดประกาศ ตามหาหมอพื้นบ้านมีชื่อเสียง”

“ไม่ต้อง มันสามารถหายเองได้ คนเข้าไปยุ่งมากเกินไปจะไม่เป็นผลดีต่อมัน ปล่อยไว้แบบนี้แหละ”

“ขอรับ”

กู้ชูหน่วนลูบหังน้อยๆของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมพูดพึมพำขึ้นมาว่า “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ หากเจ้าตื่นขึ้นมา ถ้าจะย่างหมูให้เจ้ากินเก้าสิบเก้าตัว เจ้าต้องรีบหายดีนะ”

ตัวงูของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กระตุกเล็กน้อยไม่นานก็สงบนิ่งเหมือนเดิม ไม่รู้ว่ามันได้ยินหรือไม่

“ฝ่าบาท เย่กุ้ยเหรินฟื้นแล้ว”

“ฝ่าบาท ฮองเฮาก็ฟื้นแล้ว”

บ่าวใช้สองคนมารายงานอย่างระแวดระวัง ส่วนอ๋องเสวี่ยฉินดีใจอย่างมาก

“ฝ่าบาท ยาชั้นเลิศของท่านนี้ดีจริงๆ”

กู้ชูหน่วนเงียบไปสักพักแล้ว ก็พูดขึ้นว่า “ไป ไปเยี่ยมเย่จิ่งหาน”

“ฝ่าบาท ฮองเฮาเป็นประมุขวังหลัง ท่านควรที่จะไปเยี่ยมเขาก่อน”

“ทำไม เจ้าว่างมากใช่ไหม? แม้แต่เรื่องเล็กแค่นี้ก็จะต้องยุ่ง”

“คือ…. กระหม่อมกลัวว่าฮองเฮาจะไม่พอใจ เพราะยังไงเขาต่างหากที่เป็นสามีของท่าน”

“อ๋องเสวี่ยฉิน ข้าเป็นแคว้นน้ำแข็งราชินีใช่ไหม?”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

“ในเมื่อข้าเป็นกษัตริย์ งั้น…คำพูดของข้าเจ้าเชื่อฟังไหม?”

“ขอเพียงเป็นคำสั่งของจักรพรรดินี กระหม่อมทำได้ทุกอย่าง ฝ่าบาทอยากให้กระหม่อมทำอะไร ก็รับสั่งมาได้เลย”

“ดีมาก งั้นเจ้าไปล้างห้องน้ำ”

“อ๋า….”

“อ๋าอะไร ข้าเป็นถึงราชินี สั่งเจ้าที่เป็นเพียงอ๋องไม่ได้เลยหรือ”

“กระหม่อมไม่กล้า”

“งั้นก็ไป ห้องน้ำทั่วทั้งวังล้างให้ข้าหนึ่งรอบ หากล้างไม่สะอาด ข้าจะลงโทษให้เจ้าล้างส้วมทั่วทั้งพระนคร”

อ๋องเสวี่ยฉินอยากจะพูดแต่ก็หยุด

เขาอยากถามว่าเพราะอะไร

แต่….

นี่คือคำสั่งแรกหลังจากที่จักรพรรดินีขึ้นครองราชย์ หากเขาไม่ทำตาม ต่อไปยังจะมีขุนนางคนไหนยอมรับ

ต่อให้อ๋องเสวี่ยฉินไม่อยากทำขนาดไหน แต่ก็ทำได้เพียงไปทำตามคำสั่ง

เมื่อได้ยินเสียงกู้ชูหน่วนหยุดฝีเท้า

อ๋องเสวี่ยฉินหันมามองอย่างดีใจ นึกว่าจักรพรรดินีจะเปลี่ยนใจ คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเพียงประโยคที่นางพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “เจ้าต้องทำเองคนเดียวเท่านั้น ห้ามให้คนอื่นช่วย เข้าใจไหม”

“เข้าใจขอรับ กระหม่อมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

สาวใช้หลิงเอ๋อร์แทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง

“ฝะ….ฝ่าบาท อย่างน้อยอ๋องเสวี่ยฉินก็เป็นถึงผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ยังเป็นถึงท่านอ๋องคนหนึ่ง ท่านได้ขึ้นครองราชย์ เขาเป็นผู้สนับสนุน ให้เขาไปล้างส้วมจะไม่ค่อยดีหรือเปล่า?”

“ข้าว่าดีอย่างมาก ส้วมยังเหม็นไม่เท่าปากของเขา ไป ไปดูเย่จิ่งหาน”

“อ๋า…เราไม่ไปดูฮองเฮาก่อนจริงๆหรือ?”

“ทำไม เจ้าก็อยากไปล้างส้วมหรือ?”

“บ่าวไม่กล้า บ่าวผิดไปแล้ว ขอฝ่าบาทโปรดให้อภัย”

“ไป”

กู้ชูหน่วนคว้าดึงหลิงเอ๋อร์ ให้นางนำทางไป

นิสัยเย่จิ่งหานแย่กว่าเวินเส้าหยีอย่างมาก

เวินเส้าหยีรูปงามใจดีนิสัยดี หากพูดกล่อม ยังสามารถผ่านไปได้

แต่เย่จิ่งหาน……

คิดถึงหลังจากเย่จิ่งหานฟื้นขึ้นมาแล้ว รู้ว่าตนเองถูกบังคับให้แต่งงานกับนาง และยังได้เป็นแค่สนมคนหนึ่ง นางยังคิดไม่ออกว่าเย่จิ่งหานจะโกรธโมโหถึงระดับไหน

ภายในตำหนัก เย่จิ่งหานนอนนิ่งมองดูด้านบนบนเตียงอยู่อย่างเหม่อลอย แม้แต่นางเข้ามาแล้ว ยังร้องเรียกเขาอยู่หลายที เย่จิ่งหานก็ไม่ตอบสนอง

กู้ชูหน่วนลูบดูบนหน้าผากของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “คงไม่ถูกทำร้ายจนโง่ไปแล้วมั้ง?”

จับดูชีพจรของเขา ถึงแม้จะวุ่นวาย อาการบาดเจ็บภายในค่อนข้างสาหัส แต่ก็ไม่มีร่องรอยของความโง่

กู้ชูหน่วนนึกว่าเขาสงบนิ่งก่อนที่จะบันดาลโทสะออกมา จึงอดไม่ได้ที่จะพูดอธิบายขึ้นมาว่า “ข้าไม่อยากเป็นราชินี และก็ไม่อยากยกให้เวินเส้าหยีเป็นฮองเฮา ยิ่งไม่อยากยกให้เจ้าเป็นสนม ใครทำอะไรก็ควรได้รับสิ่งนั้น ใครเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมาเจ้าก็ไปหาคนนั้น ข้าก็เป็นผู้ถูกกระทำ”

เย่จิ่งหานไม่ตอบสนอง

กู้ชูหน่วนพูดขึ้นมาอย่างระมัดระวังว่า “หรือไม่ ข้าปลดตำแหน่งกุ้ยเหรินของเจ้าตอนนี้เลย?”

เย่จิ่งหานยังคงไม่ตอบสนองใดๆ

กู้ชูหน่วนยิ่งกระวนกระวายใจขึ้นมา

ในขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่ว่า จะทำให้เขาหายโกรธยังไง

กลับได้ยินเสียงเย่จิ่งหานเหมือนถามนาง และก็เหมือนพูดกับตัวเองว่า

“เจ้าว่าคนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ทำไมเลือดของพวกเขาถึงรวมผสานกันได้?”

“อ๋า….”

นี่มันอะไรกัน?