อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1270 พวกเขาเป็นพี่น้องกัน
“คนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ทำไมเลือดของพวกเขาถึงสามารถผสานเข้ากันได้?”
“เจ้าหมายถึงใคร?”
เย่จิ่งหานเงยหน้าขึ้นมามองดูกู้ชูหน่วนอย่างสับสน ถามกู้ชูหน่วนครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนถ้าไม่ได้คำตอบ เขาก็จะถามอยู่แบบนี้ตลอดไป
“ข้ารู้จักยาสมุนไพรหลายชนิด หากนำมารวมกัน เลือดของคนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ก็สามารถผสานเข้ากันได้”
“ไม่มี ไม่มี….”
นั่นคือน้ำเปล่า ไม่ได้มียาสมุนไพรใดๆ
เขาไม่ใช่บุตรชายของพระชายายู่ และก็ไม่ใช่บุตรของเสด็จพ่อ
พ่อแท้ของเขาไม่รู้เป็นผู้ใด
แม่ก็คือฮัวอิ่ง เงาของหัวหน้าเผ่าหยกคนก่อน เป็นคนร้ายที่ทำให้แม่ของอาหน่วนตายด้วย
หรือพ่อของเขาคือหัวหน้าเผ่าคนก่อนของเผ่าเทียนเฟิ่น
เขาเป็นพี่น้องกับเวินเส้าหยี?
แต่เผ่าหยกกับเผ่าเทียนเฟิ่นไม่ถูกกัน จะร่วมมือกันได้อย่างไร?
แม่ของเวินเส้าหยีก็ไม่ใช่ฮัวอิ่ง
คิดว่าตนเองอาจจะเป็นคนของเผ่าเทียนเฟิ่น เย่จิ่งหานไม่สามารถที่จะทนรับได้
“ไม่มีอะไร? หรือเจ้าพบกับญาติพี่น้องของเจ้าที่นี่หรือ?”
กู้ชูหน่วนนึกว่าเขาจะบอกความลับสำคัญอะไรให้นางฟัง กลับเย่จิ่งหานไม่พูดอะไรเลย เพียงแค่หลับตาอย่างเหนื่อยล้า ไม่ว่านางจะถามอะไรเขาก็ไม่สนใจอีก
“ข้าดูสีหน้าของเจ้าย่ำแย่มาก หรือไม่ เจ้าพักผ่อนก่อน อีกหลายวันข้าค่อยมาเยี่ยมเจ้าอีก”
ยังคงไม่มีคำตอบใดๆ กู้ชูหน่วนหันเดินออกไป ในใจคาดเดาอยู่ตลอดเวลาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเย่จิ่งหานกันแน่
ตำหนักเฟิ่งหยี
ตอนที่กู้ชูหน่วนก้าวเดินเข้าไป ต่อให้เวินเส้าหยีไม่คิดทำอะไรนางภายหลัง ก็จะต้องพูดตำหนินางอย่างแน่นอน
คิดไม่ถึงว่าสภาพเวินเส้าหยีเป็นเหมือนเย่จิ่งหานเลย จ้องมองด้านบนเตียงอยู่อย่างเหม่อลอย
“เจ้าผีเสื้อ ยินดีด้วยที่เจ้าไม่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงเฒ่าคนนั้น อืม….ถึงแม้ตอนนี้เจ้าก็เป็นฮองเฮา แต่ถ้าหากว่าเจ้าไม่ชอบ เราก็มาทำสัญญาข้อตกลงกัน ข้าไม่แตะต้องเจ้า เจ้าก็ไม่แตะต้องข้า เราต่างคนต่างอยู่?”
เงียบ
เงียบจนแม้แต่เสียงลมหายใจก็ยังเป็นจังหวะเดียวกัน
“คือ ไม่ใช่ข้าที่ยกเย่จิ่งหานกับอาโม่ให้เป็นกุ้ยเหริน เพื่อตั้งใจเหยียบหยามเจ้า เจ้าต้องการเอาคืนก็ให้ไปหาอ๋องเสวี่ยฉิน ข้าเองก็เป็นผู้ถูกกระทำ”
“เว้ย เจ้าคิดอะไรอยู่ เหม่อลอยอะไรขนาดนั้น?”
กู้ชูหน่วนยื่นมือ โบกไปมาตรงหน้าเขา เวินเส้าหยีเป็นเหมือนอย่างรูปปั้น ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นหมื่นปี ไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
“หรือว่าเจ้าก็ถูกทำร้ายจนโง่ไปแล้ว”
กู้ชูหน่วนกำลังตรวจชีพจรให้กับเขา ก็เห็นเวินเส้าหยีหันหน้ามา มองดูนางด้วยสายตาไม่กะพริบ พร้อมถามขึ้นมาว่า
“เจ้าว่าคนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ทำไมเลือดของพวกเขาถึงสามารถผสานรวมกันได้?”
“หา….”
ทำไมถึงยังเป็นคำถามนี้?
“ทำไม?”
“เรื่องนี้….บางทีอาจใส่ยาสมุนไพรอะไรลงไป จึงทำให้เลือดผสานรวมกันขึ้นมา”
“หากไม่ได้ใส่ยาล่ะ?”
“นี่….”
“งั้นก็แสดงว่าเป็นสายเลือดเดียวกันใช่ไหม?”
“ก็….ก็ไม่แน่ สามารถตรวจDNA”
“DNAคืออะไร?”
“เรื่องนี้…ข้าก็บอกไม่ถูก แต่ในหัวสมองผุดคำนี้ขึ้นมา แต่หากเจ้าอยากตรวจ ข้าคิดว่าข้าสามารถช่วยเจ้าได้”
เวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหานเป็นพี่น้องกัน?
นี่เป็นไปได้อย่างไร…..
พวกเขาเป็นคู่อริกันไม่ใช่หรือ แทบอยากที่จะฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย แล้วจะเป็นพี่น้องกันได้อย่างไร?
หากใช่ พวกเขาจะสามารถยอมรับได้อย่างไร
เวินเส้าหยีกระวนกระวายใจขึ้นมา เขายื่นมือออกไปจับหัวใจที่เต้นแรงของเขาไว้แน่น บีบบังคับให้ตนเองสงบ
“ไม่….ไม่ต้อง”
เขาไม่กล้าตรวจ
เขากลัวผลที่ออกมา เขาไม่เชื่อ
“ก็…ก็ได้ ถ้าเจ้าไม่อยากตรวจ งั้นเราก็ไม่ตรวจ เจ้าเหนื่อยมากแล้ว นอนลงพักผ่อนให้หายดีก่อน”
กู้ชูหน่วนคิดว่าเวินเส้าหยีจะไม่เชื่อฟังนาง
คิดไม่ถึงว่า เวินเส้าหยีก็หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า เหมือนแรงกำลังในร่างกายสูญสิ้นไปหมดแล้ว
กู้ชูหน่วนรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา
ดูจากปฏิกิริยาของพวกเขาทั้งสองคน ไม่จำเป็นจะต้องตรวจอะไรแล้ว
พวกเขาเป็นพี่น้องกัน
เป็นพี่น้องกันอย่างแท้จริง
แต่ไม่รู้ว่าเป็นพ่อแม่เดียวกัน หรือพ่อเดียวกันคนละแม่ หรือแม่เดียวกันคนละพ่อ