นี่มันคือศึกที่ไร้ซึ่งความหวังใดๆ แต่เย่หยวนกลับยังคงยืนมั่นอย่างอาจหาญไม่กลัวฟ้าดิน!
ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือระดับหยวนเจี่ยวเองความดูถูกใดๆ ก็ยังค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้าของเขา
สิ่งที่เข้ามาแทนที่นั้นมันคือความชื่นชม!
เย่หยวนนั้นมิใช่เทพมาจากที่ใด แน่นอนว่าด้วยการรุมโจมตีของเทพสวรรค์นับร้อยๆ นี้แม้ตัวเขาจะมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เก่งกาจเหนือล้ำมันก็ยังต้องได้รับบาดเจ็บไปทั่วร่างกาย
แต่ความบาดเจ็บใดๆ นี้มันไม่ได้ทำให้ท่าทางของเขาดูน่าสมเพชลง
“สังหารมัน! เจ้าพวกโง่ พวกเจ้าคิดอยากให้จักรพรรดิผู้นี้อกแตกตายแล้วหรือ? มันแค่คนผู้เดียว! แค่คนเดียวเท่านั้น!”
ม่านหย่านั้นร้องร่ำขึ้นมาพร้อมตะโกนร้องสั่งเหล่าลูกน้องทั้งหลาย
เมื่อเหล่ามารนรกระดับเทพสวรรค์ห้าและหกดาวที่เหลือได้ยินพวกมันก็แสดงสีหน้าอับอายรีบพุ่งเข้าไปหาตัวเย่หยวนอีกครั้งในทันที
ในเวลานี้เหล่ามารนรกทั้งหลายถูกฆ่าสังหารลงไปมากจนเหลือจำนวนแค่น้อยนิด แต่จำนวนแค่น้อยนิดนี้มันกลับเต็มไปด้วยระดับหัวหน้าจ่าฝูงสิ้น
เวลานี้ไม่มีเหล่าเทพสวรรค์ขั้นต้นทั้งหลายมาถ่วงแข้งถ่วงขา ทั้งเหล่ามารนรกทั้งหลายยังได้กำลังเสริมจากมารนรกเทพสวรรค์หกดาวอีกด้วย!
กำลังของกองทัพนี้มันต้องเหนือล้ำมากปานใด?
เงาร่างสีดำสนิทของพวกมันนั้นพุ่งเข้ามาจากรอบทิศโดยไม่เปิดช่องว่างให้ได้หลบเลี่ยง
เวลานี้คลื่นพลังรุนแรงของพวกมันปิดล้อมมิติโดยรอบไว้สิ้น!
เป็นการโจมตีที่ไม่มีช่องว่าง!
ทางซินที่ได้เห็นจึงต้องเผยยิ้มออกมา
“ตาย! ไม่ว่ามันจะมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เก่งกาจปานใดมันก็คงไม่อาจรอดชีวิตจากการโจมตีนี้ได้!” ซินยิ้มขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน
เพราะเขานั้นลองคิดดูว่าหากตนเป็นเย่หยวนนั้น ภายใต้การล้อมโจมตีที่ไร้ช่องโหว่ระดับนี้แล้วมันย่อมจะไม่มีโอกาสรอดพ้นใดๆ ได้
“หยุด!”
แต่คำพูดเดียวนี้มันกลับหยุดทุกสิ่งอย่างลง!
ทุกผู้คนได้แต่ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่!
เหล่ามารนรกคลั่งทั้งหลายที่พุ่งล้อมเข้ามาจากรอบด้านในเวลานี้กลับต้องชะงักร่างลงกลางอากาศ
ไม่ว่าจะเก่งกาจมากความสามารถปานใด ไม่ว่าจะมีจำนวนเหนือล้ำเท่าไหร่ภายใต้คำบัญชาเต๋าสวรรค์นี้มันย่อมไม่มีสิ่งใดรอดพ้น!
ซินต้องเบิกตากว้างขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าราวกับว่าได้เห็นผี
เวลานี้แม้แต่หยวนเจี่ยวเองก็ยังต้องหรี่ตาลงอย่างตกตะลึง
เขาย่อมรู้ดีถึงเรื่องนี้จากรายงานของม่านหย่าแต่ถึงจะอย่างไรมันก็ยากที่จะเชื่อ
คำบัญชาเต๋าสวรรค์ เวลาชะงัก!
เรื่องราวเช่นนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อาจทำได้!
แม้แต่เผ่าเทวาเองก็ยังไม่อาจทำได้!
แต่เจ้ามนุษย์เทพสวรรค์สามดาวนี้กลับสามารถทำมันได้?
ในวินาทีนี้หยวนเจี่ยวได้เข้าใจอย่างแท้จริงว่าเหตุใดเย่หยวนจึงพาตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ออกมาได้ถึงตรงนี้!
“มังกรนอกรีตครองมิติ!”
เย่หยวนร้องตะโกนลั่นฟ้าจนทำให้ปรากฏเงาร่างของมังกรฟ้าขึ้นมาอีกครา!
เมื่อร่างนั้นเหยียบเท้าลงเหล่ามารนรกเทพสวรรค์ห้าดาวทั้งหลายก็สิ้นใจลงทันทีไม่มีพวกมันตนใดเหลือรอดชีวิต
ส่วนเหล่ามารนรกเทพสวรรค์หกดาวนั้นต่างถูกแรงกระทืบนี้ซัดจนร่างลอยลิ่วไปพร้อมอาการบาดเจ็บสาหัส!
การผสานสองทักษะเทวะภายในของเผ่ามังกรนี้เข้าด้วยกันมันทำให้การโจมตีนี้เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน!
หากมิใช่เพราะเย่หยวนมีพลังบ่มเพาะที่ต่ำจนเกินไปแล้วเหล่ามารนรกทั้งหลายนี้คงถูกฆ่าตายไม่ต่างจากหมูจากหมา
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นการกระทืบเท้าลงนี้มันก็ทำให้เหล่ามารนรกเทพสวรรค์หกดาวทั้งหลายบาดเจ็บหนักกันถ้วนหน้า!
ในเวลานี้ทุกผู้คนต่างได้เข้าใจถึงความเก่งกาจของเย่หยวนอีกครั้ง!
แม้ว่าในที่แห่งนี้มันจะมีมารนรกเทพสวรรค์ขั้นปลายอยู่อีกไม่น้อย ทั้งยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างม่านหย่าและยอดฝีมืออย่างตัวหยวนเสี่ยว
แต่เย่หยวน เทพสวรรค์สามดาวผู้นี้กลับทำให้คนทั้งหลายต้องตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจได้!
มารนรกทั้งหลายนั้นอ่อนแอหรือ?
ย่อมมิใช่!
มันเพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นเก่งกาจจนเกินไป!
แต่ทว่าเย่หยวนก็ไม่ได้หยุดมือลงใดๆ เขารีบฟันดาบตามออกไปพุ่งทะยานใส่ร่างที่นอนเจ็บของเหล่ามารนรกเทพสวรรค์หกดาวทั้งหลาย
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ…
เหล่ามารนรกทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องร้องร่ำไม่เหลือแรงจะต่อสู้ใดๆ อีก
นั่นจึงทำให้ความเงียบงันเข้าปกคลุมพื้นที่อีกครั้ง
การปะทะเดียวนี้เหล่ามารนรกเทพสวรรค์ห้าดาวทั้งหลายต่างตายลงสิ้น ทั้งเหล่ามารนรกเทพสวรรค์หกดาวทั้งหลายเองก็ยังอยู่ในสภาพใกล้ตามเต็มที!
เย่หยวนยกมือขึ้นมาหยิบผลึกมารดำนั้นขึ้นและดูดซับพลังงานของมันเข้าสู่ร่างกายไปอีกครั้ง
ด้วยวรยุทธบ่มเพาะที่ทำงานอย่างหนักหน่วงนั้นคลื่นพลังงานสีดำสนิทก็ได้ถูกร่างกายของเย่หยวนดูดซึมเข้าไปอีกครา
“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน? มนุษย์มันเก่งกาจปานนี้ได้ด้วยหรือ?”
“เจ้ามนุษย์คนนี้มันเป็นใครกันแน่?!”
“ระหว่างเจ้ามนุษย์คนนี้กับท่านบุตรเทวะ พวกเจ้าคิดว่าใครจะเหนือล้ำกว่ากัน?”
…
เหล่ามารนรกที่เหลือทั้งหลายต่างหันไปพูดคุยกันอย่างไม่อาจห้าม
และราวกับว่าเขานั้นต้องการจะพิสูจน์ถึงข้อสงสัยนี้ เย่หยวนได้ยกดาบขึ้นมาชี้ยังตัวซินพร้อมร้องเรียก “บุตรเทวะแห่งเผ่าเทวาใช่หรือไม่? พวกเจ้ากล่าวอ้างว่าตนเองเป็นสุดยอดเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมิใช่หรือ? เจ้ากลับมาสู้กับข้าหรือไม่?”
เย่หยวนในเวลานี้มีเลือดแดงสดไหลท่วมตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ท่าทางของเขานั้นกลับเป็นดั่งผู้ชนะองอาจอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบ ทำให้แม้แต่ซินเองก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่หนักหน่วง
คำพูดนี้ทำให้ซินหรี่ตาลงด้วยสีหน้าเย็นเยือก
มนุษย์อันต่ำต้อยมันกลับกล้าท้าทายเผ่าเทวา!
ช่างโง่เง่าสิ้นดี
“หึ! มดปลวกอย่างเจ้ามีสิทธิใดมาท้าทายข้าหรือ?” ซินร้องตอบไป
เย่หยวนจึงได้แต่ยิ้มรับ “ไม่มีสิทธิหรือแค่เจ้าไม่กล้า? หรือว่าสิ่งที่พวกเจ้ามั่นใจมากล้นนั้นมันคือเหล่าลูกน้องอันเก่งกาจนี้หรือ?”
คำพูดของเขานี้เปี่ยมล้นไปด้วยความเย้ยหยัน
นั่นทำให้สีหน้าของซินเปลี่ยนสีไป ดวงตานั้นแทบจะลุกกลายเป็นไฟ
แต่หยวนเจี่ยวกลับหันหน้ามาพร้อมเปิดปากบอก “ซิน เด็กคนนี้มันมีค่าพอให้เจ้าลงมือ!”
ซินจึงได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น “ลุงหยวนเจี่ยว ซินผู้นี้ตั้งแต่เกิดจนโตได้ผ่านศึกมานับพันนับหมื่นแต่ข้าไม่เคยจะต่อสู้กับผู้มีอาณาจักรต่ำกว่า! เจ้าเด็กคนนี้มันเพิ่งจะอยู่ระดับเทพสวรรค์สามดาว มีหรือที่มันจะมีค่าพอให้ข้าลงมือได้?”
หยวนเจี่ยวจึงร้องบอก “เจ้าก็ได้เห็นกำลังฝีมือของมันแล้ว เจ้าลองถามตนเองดูว่าตอนที่อยู่ในระดับเดียวกับมันนี้เจ้าทำได้เหนือกว่ามันหรือไม่?”
ซินแทบสำลักออกมาเมื่อได้ยินเพราะคำพูดของหยวนเจี่ยวนี้จี้ใจดำเขาอย่างแรง
จากนั้นหยวนเจี่ยวก็กล่าวขึ้นต่อ “ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าเด็กคนนี้มันยังไม่ได้เอาจริงเสียด้วยซ้ำ!”
คำพูดนี้ทำให้ซินต้องหันมามองด้วยสายตาไม่คิดอยากเชื่อ
จะบอกว่าแม้แต่คำบัญชาเต๋าสวรรค์นี้เองก็ยังมิใช่การเอาจริง?
ซินได้แต่ต้องหันกลับมามองที่เย่หยวน “ได้! เช่นนั้นบุตรเทวะนี้จะขอดูเสียหน่อยว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเก่งกาจได้ปานใด!”
พูดจบซินก็พุ่งตัวลงมาถึงหน้าเย่หยวนในพริบตา
เขามองดูเย่หยวนด้วยสายตาดูถูก “เด็กน้อย เจ้ารนหาที่ตายเอง อย่าได้มาโทษข้า! เจ้าจงแสดงฝีมือที่มีออกมาให้หมดเถิด ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคงไม่ได้มีโอกาสใช้มันอีก!”
เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “ข้าจะเอาจริงได้หรือไม่นั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามีปัญญาหรือไม่!”
ซินหัวเราะขึ้นมาพร้อมปลดปล่อยคลื่นพลังจากร่างกายจนทำให้กระแสลมเริ่มพัดอย่างบ้าคลั่ง
บนกล้ามเนื้อที้หนักแน่นของเขานั้นมันปรากฏลายสีฟ้าแปดสายขึ้นทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความลึกลับอย่างยากจะหยั่ง
เย่หยวนที่ได้เห็นต้องเบิกตากว้างพร้อมมองดูมันอย่างตื่นตะลึง
“เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าเจ้ากำลังจะตายเพราะอะไร! สิ่งที่มนุษย์เจ้าบ่มเพาะนั้นมันคือเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ส่วนสิ่งที่เผ่าเทวาเราบ่มเพาะมันคือเต๋าสวรรค์! เราไม่ต้องรอให้ถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ใดๆ ตราบเท่าที่เราเริ่มบ่มเพาะเต๋าสวรรค์ลงบนร่างกายเราก็จะใช้พลังของเต๋าสวรรค์ได้ทันที! และบุตรเทวะผู้นี้ก็กำลังอยู่ในอาณาจักรเต๋าสวรรค์เจ็ดลายขั้นกลาง หรือก็คงเทียบได้กับอาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นกลางของพวกเจ้า! ด้วยกำลังของเจ้านี้มันย่อมจะไม่มีค่าพอให้ข้าต้องลงมือจัดการใดๆ!”
ซินยิ้มขึ้นมาพร้อมบอกต่อ “เจ้าคิดหรือว่าคำบัญชาเต๋าสวรรค์นั้นเก่งกาจ? หึๆ ข้าจะบอกให้ว่าหมัดแต่ละหมัดที่เราปล่อยออกมานั้นมันมีพลังของเต๋าสวรรค์อยู่สิ้น! คำบัญชาเต๋าสวรรค์มันจะมีค่าใดต่อหน้าพลังนั้น?”
แต่เย่หยวนกลับยิ้มเย้ยตอบซินไป “พูดมากปากเหม็นจริงๆ! พูดจามาทั้งหลายนี้เพราะคิดจะอวดดีเท่านั้นหรือ? ความเหนือล้ำที่แท้จริงนั้นมันไม่ได้วัดกันที่คำพูด เขาวัดกันที่หมัดนี้!”
ซินจึงร้องตอบกลับมา “รนหาที่ตาย!”
ฟุบ!
ในพริบตาเดียวเงาร่างของซินก็หายไปจากที่ที่เคยอยู่
เย่หยวนต้องเบิกตากว้างพร้อมรู้สึกได้ถึงภัยอันตรายมหาศาลที่ใกล้เข้ามาถึงตัว
แต่เมื่อไม่เหลือเวลาให้คิดใดๆ เขาจึงได้แต่ต้องต่อยหมัดสวนออก
ปัง!
คลื่นอากาศหนักหน่วงซัดร่างของเย่หยวนจนลอยปลิวออกไปไกล
………………..