ปัง!
คลื่นพลังรุนแรงล้ำปะทุขึ้นส่งร่างของคนทั้งสองลอยลิ่วออกไปพร้อมๆ กัน
ท้องฟ้าแตกแยก ผืนดินพลิกกลับ!
หยวนเจี่ยวนั้นได้แต่ต้องขนลุกขึ้นมาอย่างไม่อาจเชื่อ เวลานี้บนร่างของเขามีเลือดไหลท่วมไม่ได้มีท่าทางของยอดฝีมือไร้พ่ายใดๆ อีกต่อไป
เขานั้นได้แต่มองดูที่ตัวเย่หยวนพร้อมกล่าวขึ้น “เจ้าบ้าไปแล้ว! สู้กันเช่นนี้ต่อไปโลกใบน้อยของเจ้ามันจะได้พังทลายลงแน่!”
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นทางหยวนเจี่ยวก็ยังตื่นตะลึงอย่างไม่อาจจะบรรยาย
ภายในโลกใบน้อยนี้กำลังของเขาถูกกดดันผนึกลงไว้อย่างมาก ส่วนทางเย่หยวนนั้นกลับมีพลังเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล
ภายในพิภพโกลาหลนี้ เขาไม่อาจจะใช้พลังของฟ้าดินใดๆ ได้เลยแม้แต่น้อย
สิ่งเดียวที่เขาสามารถพึ่งได้ก็คือพลังจากภายในตนเองเท่านั้น!
มันเหมือนดั่งเขายืนอยู่กลางทะเลกว้าง ไม่มีสิ่งใดให้พึ่งพาได้แม้แต่น้อย
ส่วนเย่หยวนนั้นกลับมีพลังของโลกทั้งใบหนุนหลัง!
โลกใบน้อยของผู้คนทั้งหลายนั้นเดิมทีมันย่อมจะเป็นการคัดลอกเต๋าสวรรค์จากมหาพิภพถงเทียน
ปกติแล้วหยวนเจี่ยวย่อมจะไม่มามีสภาพเหมือนคนถูกมัดมือมัดเท้าไม่อาจควบคุมมันได้แม้แต่น้อยเช่นนี้
แต่พิภพโกลาหลของเย่หยวนมันแตกต่างจากโลกใบน้อยทั้งหลายทั้งปวง
ในเวลานี้พิภพโกลาหลนั้นมีแต่รูและรอยแตกไปทั่วดูท่าคงใกล้พังทลายลงเต็มที
ส่วนทางตัวเย่หยวนนั้นก็มีสภาพเหมือนคนใกล้ตาย เสื้อผ้าขาดลุ่ย เลือดอาบท่วมตัว
แต่ใบหน้าของเขานั้นมันกลับไม่ได้แสดงอารมณ์หรือท่าทางเจ็บปวดใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย
ในพิภพโกลาหลนี้ ทุกสิ่งอย่างมันอยู่ใต้การควบคุมของเขาสิ้นแม้แต่เวลาและมิติ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรหยวนเจี่ยวก็แข็งแกร่งจนเกินรับมือ!
ลายพระเจ้าบนร่างกายของคนผู้นี้เป็นดั่งอาวุธแหลมคมที่ตัดขาดได้ทุกสิ่งอย่างในพิภพโกลาหล
แค่มองดูจากเรื่องนี้มันก็แน่นอนแล้วว่าทางเผ่าเทวานั้นเป็นเผ่าที่ได้รับพรจากสวรรค์มาอย่างแท้จริง
ต่อให้เขาจะต้องใช้พลังจากภายในของตนเองเท่านั้น แต่ช่องว่างระหว่างตัวเขาและเย่หยวนมันก็ยังกว้างใหญ่อย่างไม่อาจกลบ
“แล้วทำไมเล่า? ภายใต้เต๋าสวรรค์นี้ทุกสิ่งอย่างมันเป็นแค่มดปลวก! คิดต่อต้านข้าผู้นี้… เจ้าต้องตาย!” เย่หยวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ใดๆ
ต่อหน้าเย่หยวนในเวลานี้แล้วต่อให้จะเป็นหยวนเจี่ยวที่เก่งกาจปานใดมันก็เป็นได้แค่มดปลวก
หยวนเจี่ยวเองก็หรี่ตาลงกล่าว “เจ้าหนุ่ม เจ้าคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปแล้ว! วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นถึงพลังของเผ่าเทวา!”
จู่ๆ คลื่นพลังของทางหยวนเจี่ยวก็ปะทุขึ้นมาทำให้พิภพโกลาหลทั้งหมดทั้งสิ้นต้องสั่นสะเทือนอย่างไม่อาจห้าม
เวลานี้รอบกายของเขาปรากฏลายพระเจ้าบินวนอยู่อย่างบ้าคลั่ง
คลื่นพลังของบุตรเทวะซินนั้นมันไม่อาจจะเอามาเทียบเคียงกับหยวนเจี่ยวผู้นี้ได้เลย
นี่คือพลังที่แท้ พลังที่ไร้ต้าน!
แม้จะอยู่ภายใต้การผนึกพลังจากพิภพโกลาหล คลื่นพลังของเขานี้ก็ยังรุนแรงสะท้านดวงดาวได้ง่ายๆ
“เผ่าเทวา? ต่อหน้าข้า เย่หยวนนี้ เผ่าใดมันก็เป็นแค่มดปลวก!”
เย่หยวนยกมือทั้งสองขึ้นพร้อมวาดวงหยินหยางขึ้นมาตรงหน้า
หยวนเจี่ยวต้องเบิกตากว้างสัมผัสได้ถึงพลังราวขุนเขาใหญ่มาตั้งวางอยู่ตรงหน้า
เวลานี้หัวใจของเขากำลังสั่นรัว ได้แต่ถอนหายใจยาวอย่างโลกอกขึ้นมา!
เพราะเวลานี้พลังบ่มเพาะของเย่หยวนมันยังต่ำตม หากเย่หยวนบ่มเพาะขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้แล้วการจะสังหารหยวนเจี่ยวใดๆ นี้มันคงง่ายเสียยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ!
ในเวลานี้สิ่งเดียวที่หยวนเจี่ยวยังเสียใจก็คือเสียใจที่ไม่ได้ระวังตัวให้มากกว่านี้
หากมิใช่เพราะเขาประเมินศัตรูต่ำจนเกินไปปล่อยให้ตัวเย่หยวนดึงเขาเข้ามายังพิภพโกลาหลนี้ ตัวเขาคงไม่ต้องมาสู้ด้วยเลือดท่วมกายเช่นนี้
เพียงแค่ว่าใครจะไปคิดคาดถึงได้ว่าเทพสวรรค์ผู้หนึ่งกลับจะมีโลกใบน้อยที่แปลกประหลาดได้ปานนี้?
ในเวลานี้หยวนเจี่ยวไม่ได้มีความคิดดูถูกเย่หยวนใดๆ อีก
สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความจริงจังอย่างถึงที่สุด
เขานั้นไม่รู้ว่ากระบวนท่านี้ของเย่หยวนจะรุนแรงปานใด และไม่รู้ด้วยว่าตนเองจะป้องกันมันไว้ได้หรือไม่
นี่คือการตัดสินชี้ชะตาชีวิต!
แต่ตัวเขาเองก็ไม่มีเวลาจะคิดให้มากเพราะหยวนเจี่ยวเองก็ต้องใช้พลังที่เหลือทั้งหมดออกมาทันที
พลังที่สะสมอยู่ในร่างกายของเขานั้นถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อใช้กระบวนท่านี้
แน่นอน หยวนเจี่ยวเองก็สัมผัสได้ว่าทางเย่หยวนกำลังใช้พลังของโลกทั้งใบนี้เช่นกัน
นี่คือการปะทะของเต๋าสวรรค์!
“ล้างโลกา!”
“ยอดเต๋าไร้ต้าน!”
ปัง!
สองคลื่นพลังทำลายล้างทะปะกันอย่างหนักหน่วง
คลื่นพลังจากการปะทะกันของสองฝ่ายนั้นมันได้ทำให้เกิดคลื่นพลังหมุนวนสีดำสนิทขึ้น ราวกับว่าเป็นหลุมดำ
เสียงระเบิดนั้นดั่งลั่นขึ้นทั่วทั้งพิภพโกลาหล
ราวกับว่าวันสิ้นโลกมันใกล้จะมาถึง
คนทั้งสองนั้นถูกพลังของหลุมดำดูดเข้าไปภายในอย่างไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นหรือตาย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดทุกสิ่งอย่างมันก็กลับสู่ความสงบ พิภพโกลาหลนั้นกลับสู่ความเงียบงันไร้ชีวิตใดๆ อีกครั้ง
…
“มันผ่านไปถึงสามวันสามคืนแล้ว ทำไมท่านหยวนเจี่ยวยังไม่ออกมาอีกเล่า?”
“ท่านหยวนเจี่ยวนั้นคงไม่ได้เข้าไปนั่งคุยกับเจ้าเด็กคนนั้นจริงๆ หรอกใช่หรือไม่?”
“ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย เด็กคนนั้นมันก็เก่งกาจ บางทีท่านหยวนเจี่ยวอาจจะยอมรับมันจริงๆ ก็ได้!”
…
ภายในเขตแดนตัดขาดนั้นเหล่ามารนรกทั้งหลายต่างพูดคุยกันไปต่างๆ นาๆ แต่ทางเยวี่ยเมิ่งลี่นั้นยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด นางก็ยิ่งต้องกำหมัดแน่นอย่างกังวล
เวลานี้แม้เล็บจะเริ่มจิกลงไปในเนื้อแต่ดูท่านางก็ยังไม่รู้ตัว
เวลาที่ผ่านไปสามวันสามคืนนี้มันผ่านไปในพริบตาแต่คนทั้งหลายกลับไม่อาจจะเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ ขึ้นแม้แต่น้อย
ไม่มีใครจะทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายใน!
ยิ่งผ่านไปนานเท่าใด เยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยิ่งกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่หยวน
เพราะศัตรูของเขาในครานี้มันคือตัวตนที่อันตรายที่สุดในโลกก็ว่าได้!
ซินได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ ‘ลุงหยวนเจี่ยวคงไม่ได้คิดเข้าไปคุยกับเย่หยวนมันจริงๆ หรอกใช่หรือไม่?’
เพราะหากจะบอกว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างนั้นจริง มันคงไม่มีใครเชื่อ
แต่เหตุใดแค่เทพสวรรค์อย่างเย่หยวนจึงทำให้หยวนเจี่ยวไม่อาจออกมาภายนอกได้ถึงสามวัน?
ซินรู้สึกกังวลอย่างมาก!
อย่าว่าแต่เย่หยวน แม้อีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวพวกเขาเองก็คงไม่อาจรับมือหยวนเจี่ยวได้ถึงครึ่งวัน!
หรือจะเป็นเพราะว่าโลกใบน้อยของเย่หยวนนี้มันพิเศษกว่าผู้คน?
มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่!
เจ้าเด็กคนนั้นมันคิดขังลุงหยวนเจี่ยวไว้ภายใน
โครม!
ในเวลานั้นเองที่มิติเริ่มสั่นไหวจนปรากฏเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวออกมา
ทุกผู้คนต่างต้องจ้องมองดูคนผู้นั้นราวกับได้เห็นผี
เพราะคนผู้นี้มีสีแดงไปทั้งกายจากเลือดที่ไหลท่วมอาบตัวไม่มีจุดไหนที่ไร้ซึ่งคราบเลือด เป็นภาพที่นับได้ว่าน่าสยดสยองไม่น้อย
พร้อมๆ กันนั้นเลือดที่ยังไหลไม่หยุดก็เริ่มนองลงบนพื้นดิน
คลื่นพลังของเขาผู้นี้ดูไม่เสถียรเป็นอย่างมาก มีกำลังไม่ต่างจากระดับเทพสวรรค์
“ล-ลุงหยวนเจี่ยว?” ซินได้แต่ต้องร้องถาม
“ข้าเอง!” ชายผู้นั้นร้องบอกกลับมาด้วยเสียงแหบแห้ง
แต่สายตาของเขานั้นยังคงจ้องมองดูบนท้องฟ้าอย่างหนักแน่น ไม่คิดแม้แต่จะกะพริบตา
ราวกับว่าบนท้องฟ้าในเวลานี้มันมีสัตว์ร้ายอยู่
แน่นอนว่าชายผู้มีเลือดท่วมร่างนี้ย่อมจะเป็นหยวนเจี่ยวแล้ว!
สภาพของหยวนเจี่ยวในเวลานี้บาดเจ็บอย่างสาหัสจนพลังบ่มเพาะตกมาถึงหนึ่งอาณาจักร!
ซินได้แต่ต้องเปิดปากอ้าค้างไม่คิดอยากเชื่อสายตา
ชายใกล้ตายคนนี้มันคือท่านลุงแสนเก่งกาจของเขาคนนั้นจริงๆ?
ลุงหยวนเจี่ยวของเขาผู้เป็นหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสสายเลือดลมปราณ!
ตัวตนเช่นนั้นมันคือตัวตนระดับใด? มันคือยอดฝีมือที่ทำลายล้างโลกลงได้ง่ายๆ! เป็นยอดของยอดฝีมือที่เผ่าพันธุ์ทั้งหลายได้แต่ต้องก้มหัวกราบไหว้!
แต่เวลานี้เขากลับกลายมามีสภาพเป็นเช่นนี้?
ทั้งๆ ที่ศัตรูของเขานั้นน่าจะเป็นแค่เทพสวรรค์สามดาวเท่านั้น!
ซินเริ่มมึนงงอย่างไม่อาจทำอะไรได้
เวลานี้ที่ด้านล่างเหล่ามารนรกทั้งหลายต่างแตกตื่นวุ่นวายกันอย่างไม่อาจห้าม
พวกเขานั้นได้แต่จ้องมองดูหยวนเจี่ยวอย่างตกตะลึง สายตานั้นไม่มีใครคิดอยากเชื่อภาพนี้
“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? มันเกิดอะไรขึ้นในโลกใบน้อยนั้นกันแน่?”
“นั่นมันท่านหยวนเจี่ยวนะ! ท่านหยวนเจี่ยวผู้ไร้พ่าย! ใครกันที่ทำให้ท่านต้องบาดเจ็บจวนตายได้ปานนี้?”
“บ้าน่า! นี่มันบ้าไปแล้ว! ท่านหยวนเจี่ยวนั้นเป็นดั่งพระเจ้า! มีหรือที่จะถูกทำร้ายจนสาหัสได้ปานนี้?”
…
เหล่ามารนรกทั้งหลายต่างไม่อาจเชื่อภาพตรงหน้า
ไม่มีใครคาดคิดว่าศึกที่เดาผลออกตั้งแต่ยังไม่เริ่มมันจะกลับกลายมาเป็นเช่นนี้ไปได้
…………….