ตอนที่ 2198 ความภาคภูมิแห่งเต๋าสวรรค์!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ปัง!

คลื่นพลังรุนแรงล้ำปะทุขึ้นส่งร่างของคนทั้งสองลอยลิ่วออกไปพร้อมๆ กัน

ท้องฟ้าแตกแยก ผืนดินพลิกกลับ!

หยวนเจี่ยวนั้นได้แต่ต้องขนลุกขึ้นมาอย่างไม่อาจเชื่อ เวลานี้บนร่างของเขามีเลือดไหลท่วมไม่ได้มีท่าทางของยอดฝีมือไร้พ่ายใดๆ อีกต่อไป

เขานั้นได้แต่มองดูที่ตัวเย่หยวนพร้อมกล่าวขึ้น “เจ้าบ้าไปแล้ว! สู้กันเช่นนี้ต่อไปโลกใบน้อยของเจ้ามันจะได้พังทลายลงแน่!”

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นทางหยวนเจี่ยวก็ยังตื่นตะลึงอย่างไม่อาจจะบรรยาย

ภายในโลกใบน้อยนี้กำลังของเขาถูกกดดันผนึกลงไว้อย่างมาก ส่วนทางเย่หยวนนั้นกลับมีพลังเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล

ภายในพิภพโกลาหลนี้ เขาไม่อาจจะใช้พลังของฟ้าดินใดๆ ได้เลยแม้แต่น้อย

สิ่งเดียวที่เขาสามารถพึ่งได้ก็คือพลังจากภายในตนเองเท่านั้น!

มันเหมือนดั่งเขายืนอยู่กลางทะเลกว้าง ไม่มีสิ่งใดให้พึ่งพาได้แม้แต่น้อย

ส่วนเย่หยวนนั้นกลับมีพลังของโลกทั้งใบหนุนหลัง!

โลกใบน้อยของผู้คนทั้งหลายนั้นเดิมทีมันย่อมจะเป็นการคัดลอกเต๋าสวรรค์จากมหาพิภพถงเทียน

ปกติแล้วหยวนเจี่ยวย่อมจะไม่มามีสภาพเหมือนคนถูกมัดมือมัดเท้าไม่อาจควบคุมมันได้แม้แต่น้อยเช่นนี้

แต่พิภพโกลาหลของเย่หยวนมันแตกต่างจากโลกใบน้อยทั้งหลายทั้งปวง

ในเวลานี้พิภพโกลาหลนั้นมีแต่รูและรอยแตกไปทั่วดูท่าคงใกล้พังทลายลงเต็มที

ส่วนทางตัวเย่หยวนนั้นก็มีสภาพเหมือนคนใกล้ตาย เสื้อผ้าขาดลุ่ย เลือดอาบท่วมตัว

แต่ใบหน้าของเขานั้นมันกลับไม่ได้แสดงอารมณ์หรือท่าทางเจ็บปวดใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย

ในพิภพโกลาหลนี้ ทุกสิ่งอย่างมันอยู่ใต้การควบคุมของเขาสิ้นแม้แต่เวลาและมิติ

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรหยวนเจี่ยวก็แข็งแกร่งจนเกินรับมือ!

ลายพระเจ้าบนร่างกายของคนผู้นี้เป็นดั่งอาวุธแหลมคมที่ตัดขาดได้ทุกสิ่งอย่างในพิภพโกลาหล

แค่มองดูจากเรื่องนี้มันก็แน่นอนแล้วว่าทางเผ่าเทวานั้นเป็นเผ่าที่ได้รับพรจากสวรรค์มาอย่างแท้จริง

ต่อให้เขาจะต้องใช้พลังจากภายในของตนเองเท่านั้น แต่ช่องว่างระหว่างตัวเขาและเย่หยวนมันก็ยังกว้างใหญ่อย่างไม่อาจกลบ

“แล้วทำไมเล่า?  ภายใต้เต๋าสวรรค์นี้ทุกสิ่งอย่างมันเป็นแค่มดปลวก! คิดต่อต้านข้าผู้นี้… เจ้าต้องตาย!” เย่หยวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ใดๆ

ต่อหน้าเย่หยวนในเวลานี้แล้วต่อให้จะเป็นหยวนเจี่ยวที่เก่งกาจปานใดมันก็เป็นได้แค่มดปลวก

หยวนเจี่ยวเองก็หรี่ตาลงกล่าว “เจ้าหนุ่ม เจ้าคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปแล้ว! วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นถึงพลังของเผ่าเทวา!”

จู่ๆ คลื่นพลังของทางหยวนเจี่ยวก็ปะทุขึ้นมาทำให้พิภพโกลาหลทั้งหมดทั้งสิ้นต้องสั่นสะเทือนอย่างไม่อาจห้าม

เวลานี้รอบกายของเขาปรากฏลายพระเจ้าบินวนอยู่อย่างบ้าคลั่ง

คลื่นพลังของบุตรเทวะซินนั้นมันไม่อาจจะเอามาเทียบเคียงกับหยวนเจี่ยวผู้นี้ได้เลย

นี่คือพลังที่แท้ พลังที่ไร้ต้าน!

แม้จะอยู่ภายใต้การผนึกพลังจากพิภพโกลาหล คลื่นพลังของเขานี้ก็ยังรุนแรงสะท้านดวงดาวได้ง่ายๆ

“เผ่าเทวา? ต่อหน้าข้า เย่หยวนนี้ เผ่าใดมันก็เป็นแค่มดปลวก!”

เย่หยวนยกมือทั้งสองขึ้นพร้อมวาดวงหยินหยางขึ้นมาตรงหน้า

หยวนเจี่ยวต้องเบิกตากว้างสัมผัสได้ถึงพลังราวขุนเขาใหญ่มาตั้งวางอยู่ตรงหน้า

เวลานี้หัวใจของเขากำลังสั่นรัว ได้แต่ถอนหายใจยาวอย่างโลกอกขึ้นมา!

เพราะเวลานี้พลังบ่มเพาะของเย่หยวนมันยังต่ำตม หากเย่หยวนบ่มเพาะขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้แล้วการจะสังหารหยวนเจี่ยวใดๆ นี้มันคงง่ายเสียยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ!

ในเวลานี้สิ่งเดียวที่หยวนเจี่ยวยังเสียใจก็คือเสียใจที่ไม่ได้ระวังตัวให้มากกว่านี้

หากมิใช่เพราะเขาประเมินศัตรูต่ำจนเกินไปปล่อยให้ตัวเย่หยวนดึงเขาเข้ามายังพิภพโกลาหลนี้ ตัวเขาคงไม่ต้องมาสู้ด้วยเลือดท่วมกายเช่นนี้

เพียงแค่ว่าใครจะไปคิดคาดถึงได้ว่าเทพสวรรค์ผู้หนึ่งกลับจะมีโลกใบน้อยที่แปลกประหลาดได้ปานนี้?

ในเวลานี้หยวนเจี่ยวไม่ได้มีความคิดดูถูกเย่หยวนใดๆ อีก

สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความจริงจังอย่างถึงที่สุด

เขานั้นไม่รู้ว่ากระบวนท่านี้ของเย่หยวนจะรุนแรงปานใด และไม่รู้ด้วยว่าตนเองจะป้องกันมันไว้ได้หรือไม่

นี่คือการตัดสินชี้ชะตาชีวิต!

แต่ตัวเขาเองก็ไม่มีเวลาจะคิดให้มากเพราะหยวนเจี่ยวเองก็ต้องใช้พลังที่เหลือทั้งหมดออกมาทันที

พลังที่สะสมอยู่ในร่างกายของเขานั้นถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อใช้กระบวนท่านี้

แน่นอน หยวนเจี่ยวเองก็สัมผัสได้ว่าทางเย่หยวนกำลังใช้พลังของโลกทั้งใบนี้เช่นกัน

นี่คือการปะทะของเต๋าสวรรค์!

“ล้างโลกา!”

“ยอดเต๋าไร้ต้าน!”

ปัง!

สองคลื่นพลังทำลายล้างทะปะกันอย่างหนักหน่วง

คลื่นพลังจากการปะทะกันของสองฝ่ายนั้นมันได้ทำให้เกิดคลื่นพลังหมุนวนสีดำสนิทขึ้น ราวกับว่าเป็นหลุมดำ

เสียงระเบิดนั้นดั่งลั่นขึ้นทั่วทั้งพิภพโกลาหล

ราวกับว่าวันสิ้นโลกมันใกล้จะมาถึง

คนทั้งสองนั้นถูกพลังของหลุมดำดูดเข้าไปภายในอย่างไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นหรือตาย

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดทุกสิ่งอย่างมันก็กลับสู่ความสงบ พิภพโกลาหลนั้นกลับสู่ความเงียบงันไร้ชีวิตใดๆ อีกครั้ง

“มันผ่านไปถึงสามวันสามคืนแล้ว ทำไมท่านหยวนเจี่ยวยังไม่ออกมาอีกเล่า?”

“ท่านหยวนเจี่ยวนั้นคงไม่ได้เข้าไปนั่งคุยกับเจ้าเด็กคนนั้นจริงๆ หรอกใช่หรือไม่?”

“ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย เด็กคนนั้นมันก็เก่งกาจ บางทีท่านหยวนเจี่ยวอาจจะยอมรับมันจริงๆ ก็ได้!”

ภายในเขตแดนตัดขาดนั้นเหล่ามารนรกทั้งหลายต่างพูดคุยกันไปต่างๆ นาๆ แต่ทางเยวี่ยเมิ่งลี่นั้นยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด นางก็ยิ่งต้องกำหมัดแน่นอย่างกังวล

เวลานี้แม้เล็บจะเริ่มจิกลงไปในเนื้อแต่ดูท่านางก็ยังไม่รู้ตัว

เวลาที่ผ่านไปสามวันสามคืนนี้มันผ่านไปในพริบตาแต่คนทั้งหลายกลับไม่อาจจะเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ ขึ้นแม้แต่น้อย

ไม่มีใครจะทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายใน!

ยิ่งผ่านไปนานเท่าใด เยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยิ่งกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่หยวน

เพราะศัตรูของเขาในครานี้มันคือตัวตนที่อันตรายที่สุดในโลกก็ว่าได้!

ซินได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ ‘ลุงหยวนเจี่ยวคงไม่ได้คิดเข้าไปคุยกับเย่หยวนมันจริงๆ หรอกใช่หรือไม่?’

เพราะหากจะบอกว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างนั้นจริง มันคงไม่มีใครเชื่อ

แต่เหตุใดแค่เทพสวรรค์อย่างเย่หยวนจึงทำให้หยวนเจี่ยวไม่อาจออกมาภายนอกได้ถึงสามวัน?

ซินรู้สึกกังวลอย่างมาก!

อย่าว่าแต่เย่หยวน แม้อีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวพวกเขาเองก็คงไม่อาจรับมือหยวนเจี่ยวได้ถึงครึ่งวัน!

หรือจะเป็นเพราะว่าโลกใบน้อยของเย่หยวนนี้มันพิเศษกว่าผู้คน?

มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่!

เจ้าเด็กคนนั้นมันคิดขังลุงหยวนเจี่ยวไว้ภายใน

โครม!

ในเวลานั้นเองที่มิติเริ่มสั่นไหวจนปรากฏเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวออกมา

ทุกผู้คนต่างต้องจ้องมองดูคนผู้นั้นราวกับได้เห็นผี

เพราะคนผู้นี้มีสีแดงไปทั้งกายจากเลือดที่ไหลท่วมอาบตัวไม่มีจุดไหนที่ไร้ซึ่งคราบเลือด เป็นภาพที่นับได้ว่าน่าสยดสยองไม่น้อย

พร้อมๆ กันนั้นเลือดที่ยังไหลไม่หยุดก็เริ่มนองลงบนพื้นดิน

คลื่นพลังของเขาผู้นี้ดูไม่เสถียรเป็นอย่างมาก มีกำลังไม่ต่างจากระดับเทพสวรรค์

“ล-ลุงหยวนเจี่ยว?” ซินได้แต่ต้องร้องถาม

“ข้าเอง!” ชายผู้นั้นร้องบอกกลับมาด้วยเสียงแหบแห้ง

แต่สายตาของเขานั้นยังคงจ้องมองดูบนท้องฟ้าอย่างหนักแน่น ไม่คิดแม้แต่จะกะพริบตา

ราวกับว่าบนท้องฟ้าในเวลานี้มันมีสัตว์ร้ายอยู่

แน่นอนว่าชายผู้มีเลือดท่วมร่างนี้ย่อมจะเป็นหยวนเจี่ยวแล้ว!

สภาพของหยวนเจี่ยวในเวลานี้บาดเจ็บอย่างสาหัสจนพลังบ่มเพาะตกมาถึงหนึ่งอาณาจักร!

ซินได้แต่ต้องเปิดปากอ้าค้างไม่คิดอยากเชื่อสายตา

ชายใกล้ตายคนนี้มันคือท่านลุงแสนเก่งกาจของเขาคนนั้นจริงๆ?

ลุงหยวนเจี่ยวของเขาผู้เป็นหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสสายเลือดลมปราณ!

ตัวตนเช่นนั้นมันคือตัวตนระดับใด? มันคือยอดฝีมือที่ทำลายล้างโลกลงได้ง่ายๆ! เป็นยอดของยอดฝีมือที่เผ่าพันธุ์ทั้งหลายได้แต่ต้องก้มหัวกราบไหว้!

แต่เวลานี้เขากลับกลายมามีสภาพเป็นเช่นนี้?

ทั้งๆ ที่ศัตรูของเขานั้นน่าจะเป็นแค่เทพสวรรค์สามดาวเท่านั้น!

ซินเริ่มมึนงงอย่างไม่อาจทำอะไรได้

เวลานี้ที่ด้านล่างเหล่ามารนรกทั้งหลายต่างแตกตื่นวุ่นวายกันอย่างไม่อาจห้าม

พวกเขานั้นได้แต่จ้องมองดูหยวนเจี่ยวอย่างตกตะลึง สายตานั้นไม่มีใครคิดอยากเชื่อภาพนี้

“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? มันเกิดอะไรขึ้นในโลกใบน้อยนั้นกันแน่?”

“นั่นมันท่านหยวนเจี่ยวนะ! ท่านหยวนเจี่ยวผู้ไร้พ่าย! ใครกันที่ทำให้ท่านต้องบาดเจ็บจวนตายได้ปานนี้?”

“บ้าน่า! นี่มันบ้าไปแล้ว! ท่านหยวนเจี่ยวนั้นเป็นดั่งพระเจ้า! มีหรือที่จะถูกทำร้ายจนสาหัสได้ปานนี้?”

เหล่ามารนรกทั้งหลายต่างไม่อาจเชื่อภาพตรงหน้า

ไม่มีใครคาดคิดว่าศึกที่เดาผลออกตั้งแต่ยังไม่เริ่มมันจะกลับกลายมาเป็นเช่นนี้ไปได้

…………….