แต่ทว่านี่มันคือความจริง!
หยวนเจี่ยวที่เก่งกาจดั่งพระเจ้านั้นกำลังบาดเจ็บสาหัส พลังบ่มเพาะตกร่วง!
“ล-ลุงหยวนเจี่ยว มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมท่าน… จึงมีสภาพเช่นนี้?”
ซินกล่าวถามขึ้นมาด้วยใจที่เต้นรัวราวกลองศึก
ความตื่นตะลึงของเขาในเวลานี้มันเหนือล้ำกว่าที่เคยพบเจอในชีวิต!
“ฮ่าๆๆ…”
แต่ลุงหยวนเจี่ยวของเขากลับหัวเราะขึ้นมาแทน “คุ้ม! ได้ทำลายเจ้าเด็กคนนี้ไม่ว่าจะต้องบาดเจ็บปานใดมันก็คุ้มค่า! ซิน ได้เจอเจ้าเด็กคนนี้เสียก่อนมันเป็นโชคของเผ่าเทวาเราแล้ว หากปล่อยให้มันได้เติบโตขึ้นไปวันหน้ามันคงได้กลายเป็นหายนะของเผ่าเทวาเรา!”
ซินนั้นเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
เพราะคนที่หยวนเจี่ยวนำขึ้นมาพูดนั้นมันมิใช่แค่ตัวเขาหรือซินที่โชคดี แต่เป็นเผ่าเทวาทั้งหมด!
การที่เผ่าเทวาก้าวขึ้นมาถึงจุดที่อยู่นี้ได้แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหลายย่อมจะเก่งกาจเหนือล้ำสิ้น
แต่เรื่องราวทั้งหลายนั้นมันจะเปลี่ยนแปลงไปได้ด้วยคนผู้เดียวหรือ?
หยวนเจี่ยวจะประเมินเจ้าเด็กคนนี้สูงไปหรือไม่?
แต่คิดมาได้ถึงตรงนี้ซินก็ต้องเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมาอย่างไม่อาจห้าม
หยวนเจี่ยวมีสภาพเช่นนี้แล้ว มันยังจะต้องใช้คำใดมาอธิบาย?
หยวนเจี่ยวนั้นคือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสสายเลือดลมปราณ เป็นผู้คนที่เก่งกาจล้ำคนในระดับเดียวกันไปอย่างไม่อาจเทียบเคียง
แต่ยอดคนระดับเก้าผู้อาวุโสสายเลือดลมปราณกลับบาดเจ็บสาหัสได้ปานนี้
เย่หยวนคนนั้นมันทำไปได้อย่างไรกัน?
ไม่ว่าตัวเขาจะไม่อยากยอมรับสักเท่าใด ซินก็เข้าใจดีแต่แรกว่าพรสวรรค์ของเย่หยวนนั้นเหนือล้ำหัวตัวเองขึ้นไปไม่น้อย
แต่เขาก็ไม่เคยคิดฝันว่ามันจะล้ำหน้าไปมากมายจนปานนี้!
“หยวนเจี่ยว เจ้าทำอะไรพี่หยวน? เขา… เขาอยู่ที่ใด?” เยวี่ยเมิ่งลี่จ้องมองดูหยวนเจี่ยวด้วยใบหน้าเป็นกังวล
หยวนเจี่ยวนั้นไม่ได้คิดหันกลับไปมองที่ตัวนางแต่กลับจ้องไปที่จุดหนึ่งบนฟ้า “ต้องขออภัยบุตรีเทวะ แม้ว่ากายเทวะเต๋าของเจ้ามันจะเก่งกาจเหนือล้ำกว่ากายเทวะใดๆ แต่วันนี้เจ้าเด็กคนนี้มันต้องตาย!”
เยวี่ยเมิ่งลี่หน้าซีดขาวลงในทันที
ทำพูดของหยวนเจี่ยวนี้มันชัดเจนว่าเย่หยวนยังไม่ตายลง
แต่เขาจะสังหารลงให้ได้!
ในเวลานั้นเองที่มันก็ได้ปรากฏอีกร่างหนึ่งขึ้นมากลางอากาศ
แน่นอนว่ามันย่อมเป็นเย่หยวน!
แต่สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันก็ไม่ได้ต่างจากหยวนเจี่ยว มีเลือดอาบร่างพร้อมบาดแผลอย่างสาหัส
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเวลานี้เขาไร้ซึ่งสติใดๆ ร่างกายของเขาตกร่วงลงมาเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามพลังแรงโน้มถ่วง
ฟุบ!
เยวี่ยเมิ่งลี่ที่เห็นเช่นนั้นจึงพุ่งตัวออกมาอย่างไม่คิดใดๆ
“หยุดนาง!”
หยวนเจี่ยวสั่งขึ้นและทางท่านหย่าก็ไม่คิดลังเลใดๆ ใช้พลังกดดันร่างของเยวี่ยเมิ่งลี่ไว้ทันที
แล้วพลังของม่านหย่านั้นคือระดับใด? เยวี่ยเมิ่งลี่ย่อมไม่อาจขยับได้แม้ปลายนิ้ว
พร้อมๆ กันนั้นหยวนเจี่ยวก็ได้รวบรวมพลังทั้งหมดจากร่างกายพุ่งทะยานออกมาอย่างไม่ลังเลพร้อมซัดฝ่ามือใส่ร่างที่ร่วงลงของเย่หยวน!
“พี่หยวน!” เยวี่ยเมิ่งลี่ร้องขึ้นดั่งลั่นไปทั่วเขตแดนตัดขาด
แต่หยวนเจี่ยวนั้นไม่ได้คิดจะหยุดลงแม้แต่น้อย
นี่คือฝ่ามือสังหาร!
ในเวลานั้นไม่มีใครที่จะมาช่วยเหลือเย่หยวนใดๆ ได้อีกต่อไปแล้ว
“ฮ่าๆๆ… ตายเสีย!”
แต่ก่อนที่ฝ่ามือนี้มันจะปะทะเข้ากับร่างของเย่หยวน ร่างกายของเย่หยวนมันกลับส่องแสงสีทองจ้าขึ้นมาก่อน
“โฮ่ก!”
พร้อมๆ กันนั้นก็มีเงามังกรสีทองตัวใหญ่ล้ำพุ่งทะยานออกมาจากกายของเย่หยวนพร้อมเสียงร้องคำราม
เสียงคำรามนี้มันมากพอที่จะทำให้เขตแดนตัดขาดสั่นสะท้าน
มิติเริ่มแตกแยก รอยร้าวเกิดขึ้นทั่วผนังถ้ำ
และเจ้ารอยร้าวทั้งหลายนี้มันกลับไม่ได้มีท่าทีจะปิดลง มีแต่จะขยายขึ้นหลังเสียงนั้นจางหายไป
พร้อมๆ กันนั้นเจ้ามังกรยักษ์ก็ตะปบกรงเล็บลงมายังร่างของหยวนเจี่ยว
หยวนเจี่ยวต้องหน้าซีดขาวลงทันทีแต่เวลานี้เขากำลังใช้กระบวนท่าโจมตีออกมาสุดตัวและยังไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม หากคิดจะหลบมันก็คงสายเกินไปแล้ว
“ท่านหยวนเจี่ยว!”
ในวินาทีก่อนที่กรงเล็บนั้นจะตะปบถึงทางม่านหย่าก็พุ่งตัวเข้ามากระแทกร่างของหยวนเจี่ยวลอยลิ่วออกไปจากกรงเล็บมังกรนั้น
ปัง!
กรงเล็บของเจ้ามังกรถูกตะปบลงจนทำให้พื้นดินแตกแยกออกจากกัน
ภายใต้พลังอันรุนแรงนี้ร่างของม่านหย่านั้นแหลกเละอย่างไม่อาจจดจำได้โดยไม่ทันจะได้ส่งเสียงร้องใดๆ
หยวนเจี่ยวต้องกลิ้งตัวไปอีกหลายตลบก่อนที่จะค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นมา
การเปลี่ยนแปลงนี้มันกะทันหันเกินไป ทุกผู้คนต่างไม่มีใครรับมือได้ทัน
เวลานี้ใบหน้าอาบเลือดของหยวนเจี่ยวมันได้แสดงความหวาดกลัวออกมาอย่างเต็มอก
เพราะก่อนหน้านี้หากม่านหย่าไม่ได้เข้ามาผลักตัวเขาออกแล้ว คนที่ตายกลายเป็นแค่เศษเนื้อนั่นก็คงเป็นตัวเขา!
เขานั้นไม่เคยจะนึกฝันว่าสุดท้ายแล้วเย่หยวนกลับยังจะมีวิญญาณมังกรฟ้านี้ปกป้องตัวอยู่!
เก้าผู้อาวุโสสายเลือดลมปราณอย่างเขาย่อมจะไม่เคยคิดฝันว่าตนต้องมาตายในที่แห่งนี้!
หยวนเจี่ยวนั้นซีดขาวไปทั้งกายอย่างวิตก
แต่ความตายของม่านหย่าใดๆ นี้เขาไม่ได้รู้สึกสนใจใดๆ
มารนรกในสายตาของเขานั้นมันคือทาส
การได้ตายเพื่อตัวเขานั้น มันนับว่าเป็นเกียรติแก่ม่านหย่าแล้ว
แต่เวลานี้ตัวเขากลับต้องสั่นสะท้านอย่างไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเดิน
เพราะดวงตาทั้งสองของเจ้ามังกรมันกำลังจ้องมองลงมาที่ตัวเขา
ในวินาทีนี้หยวนเจี่ยวขนลุกชันไปทั้งกาย ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
เขานั้นกลับว่าหากเขาหายใจแล้วเจ้ามังกรจะเข้ามาเหยียบซ้ำลง
หลังผ่านไปได้อึดใจหนึ่งเจ้ามังกรทองก็เอาหางพันกายเย่หยวนไว้และบินออกไปจากถ้ำนิลเพลิง
หยวนเจี่ยวนั้นร่วงลงไปนั่งกับพื้นทันทีที่เห็นได้เห็น ความรู้สึกโล่งอกที่รอดชีวิตเอ่อล้นขึ้นมาในใจ
หยวนเจี่ยวนั้นได้แต่ถอนหายใจยาวถึงโชคในครั้งนี้ เพราะหากถูกเจ้ามังกรนี้โจมตีใส่สักครั้งแล้ว… วันนี้คงได้เป็นวันตายของเขา!
ครืน!
เจ้าวิญญาณมังกรอันทรงพลังนั้นเคลื่อนตัวผ่านปากถ้ำนิลเพลิงไป ตัวปากถ้ำที่เดิมทีก็ไม่ได้เสถียรมากมายอยู่แล้วจึงเริ่มพังทลายลง
จากนั้นถ้ำนิลเพลิงมันก็ได้จางหายไปจากแผ่นดิน
มิติภายในนั้นเริ่มแตกร้าว รอยแยกใดๆ เริ่มขยายตัวออกอย่างไร้ควบคุม
การเปลี่ยนแปลงนี้มันกะทันหันจนเกินไป ไม่มีใครสามารถรับมือมันได้ทัน
เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นคิดอยากหนีแต่มันก็สายไปแล้ว
แต่ทว่าการได้รู้ว่าเย่หยวนหนีรอดออกไปได้มันย่อมทำให้นางสงบใจลงได้มาก
“พี่หยวน ข้าจะรอวันที่พี่มารับข้ากลับบ้าน!” เยวี่ยเมิ่งลี่ยิ้มส่ง
ในเวลาเดียวกันนั้นตัวหยวนเจี่ยวก็ได้เดินเข้ามาหาเยวี่ยเมิ่งลี่พร้อมกล่าว “โลกของมันนั้นถูกทำลายลงสิ้นทั้งกายเนื้อยังเสียหายหนักหน่วง การบ่มเพาะใดๆ ของมันนั้นถูกทำลายลงสิ้น! ต่อให้วันนี้มันจะไม่ตายแต่สุดท้ายมันก็คงกลายเป็นคนพิการไป! บุตรีเทวะ เจ้านั้นคือสมาชิกเผ่าเทวาเราตั้งแต่เกิด เป็นตัวตนที่สูงล้ำโลก! ในวันหน้าหากกลับมาจัดการกำราบมหาพิภพถงเทียน สั่งสอนเหล่ามนุษย์ ปีศาจ อสูรทั้งหลายให้มันรู้ซึ่งและครอบครองโลกอย่างผู้มีชัยเมื่อใด เวลานั้นเจ้าจึงจะได้กลับบ้านอย่างแท้จริง”
แต่เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นกลับยิ้มเย้ยคำพูดกล่าวนั้น
สำหรับคนอื่นๆ แล้วการล่มสลายของโลกใบน้อยภายในกายทั้งการสูญเสียพลังบ่มเพาะไปมันย่อมจะหมายถึงจุดจบของชีวิต
แต่เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นเชื่อมั่นว่าเย่หยวนจะกลับมาผงาดได้อีกครา
ไม่ว่าเส้นทางนั้นมันจะยากเย็นปานใด เย่หยวนก็มิใช่คนที่จะยอมแพ้ได้!
หากจะบอกว่าใครเข้าใจนิสัยของเย่หยวนที่สุด มันก็คงเป็นตัวเยวี่ยเมิ่งลี่นี้!
แน่นอนว่านางย่อมจะไม่คิดอธิบายใดๆ ให้หยวนเจี่ยวฟัง
“ไปเถอะ!”
ในเวลานั้นทางเยวี่ยเมิ่งลี่ได้เดินนำคนทั้งหลายกลับไปยังภายในเขตแดนตัดขาด
หยวนเจี่ยวที่เห็นก็ต้องผงะ แต่เมื่อเยวี่ยเมิ่งลี่ไม่คิดดื้อรั้นใดๆ อีกตัวเขาก็ย่อมจะไม่หาเรื่องให้ตัวเองลำบาก ได้แต่เดินตามนางไปเงียบๆ
แต่ก่อนจะไปเขาก็หันไปส่งสัญญาณให้ซินและทางซินก็เข้าใจทันที
ปัง!
คลื่นพลังรุนแรงล้ำพุ่งทำลายร่างของโม่เฉี่ยวซือจนแหลกสลาย
เยวี่ยเมิ่งลี่ได้แต่หันมาร้องอย่างไม่พอใจ “เจ้า!”
ซินจึงตอบกลับไป “กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา สมควรตาย!”
พูดจบทางซินก็เดินจากไปอย่างไม่สนใจอีก
เหล่าทัพมารนรกทั้งหลายที่เหลือเพียงน้อยนิดจึงได้ค่อยๆ เดินกลับเข้าไปสู่ห้วงลึกของความมืดมิดอีกครั้ง
เวลานี้แม้แต่เขตแดนตัดขาดเองก็ค่อยๆ แตกร้าวขึ้นมาเรื่อยๆ จนทำให้เกิดคลื่นพลังมิติแสนน่าหวาดกลัวหลั่งไหล
เส้นทางที่เผ่าเทวาใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วงสร้างขึ้นมามันได้ถูกทำลายลงเช่นนั้น
ทุกสิ่งอย่างกลับคืนสู่ความสงบ!
……………..