บทที่ 1095 อาวุธอีกชิ้นหนึ่งของเซียวปิง

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,095 อาวุธอีกชิ้นหนึ่งของเซียวปิง

เต๋อถิงย่อมมีพลังอยู่ในขั้นเซียน

นางมาจากสำนักกระบี่เงาปีศาจ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสำนักใหญ่ประจำเผ่ามนุษย์ปักษาขนแดง

ว่ากันว่ากระบี่ของนางหนึ่งเล่มสามารถแยกได้เป็นพันเงาและเงาเหล่านั้นย่อมสังหารผู้คน

นั่นออกจะฟังดูน่าเหลือเชื่อเกินไปสักหน่อย

แต่เมื่อมนุษย์ปักษาสตรีเหินร่างขึ้นไปในอากาศ กระบี่ในมือของนางก็แยกเงาออกเป็น 16 เล่มและเงากระบี่เหล่านั้นก็แผ่ปกคลุมทั่วยอดเขาหลุนเจี๋ยนเฟิง

เงากระบี่เหล่านั้นมีความน่ากลัวไม่ต่างไปจากกระบี่จริง ๆ

ใบหน้าอ้วนกลมของเซียวปิงปรากฏความเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย

เขาอาศัยสัญชาตญาณของนักแม่นปืน ยกมือขึ้น แล้วเหนี่ยวไกยิง

เปรี้ยง!

ลูกกระสุนลมปราณพุ่งทะยานออกไปข้างหน้า

เงากระบี่ประมาณห้าเล่มแตกสลาย

ปรากฏว่าพวกมันกลับเป็นเงาหลอก

ที่นั่งของกลุ่มมนุษย์ปักษาขนแดงเกิดเสียงร้องตะโกนด้วยความสะใจดังออกมาไม่ขาดสาย

สำเร็จแล้ว!

ในที่สุด เต๋อถิงก็สามารถทิ้งตัวลงไปยืนอยู่บนสังเวียนประลองได้สำเร็จ

ในที่สุด ตัวแทนของพวกมันก็ไม่ต้องตายโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว

หลังจากนี้คือช่วงเวลาแห่งการแก้แค้น

ดวงตาทุกคู่จ้องมองไปที่สังเวียนประลอง

บางคนถึงกับต้องเอานิ้วถ่างตาของตนเองไม่กล้ากะพริบตาเพราะกลัวจะพลาดฉากสำคัญ

บนสังเวียนประลอง

เซียวปิงขมวดคิ้วหน้ายุ่ง

ปืนไรเฟิล 98k ชาร์จพลังหนึ่งครั้งสามารถยิงกระสุนได้ห้านัด

หลังจากยิงกระสุนหมดทั้งห้านัดแล้ว ก็ต้องใช้เวลาชาร์จพลังอีกอย่างน้อย 10 ลมหายใจ

ในการต่อสู้ตัวต่อตัวที่วัดกันด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เวลาเพียงสิบลมหายใจก็เนิ่นนานพอที่จะตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว

ดังนั้น เด็กหนุ่มร่างอ้วนจึงเก็บปืนไรเฟิล 98k

“ฮ่า ๆๆ…”

เต๋อถิงระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความชอบใจ สองเท้าหยัดยืนอยู่บนพื้นสังเวียนอย่างมั่นคง

ความน่ากลัวของเด็กหนุ่มร่างอ้วนที่จัดการคู่ต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตก่อนหน้านี้ ส่งผลให้เมื่อเต๋อถิงทิ้งตัวลงมายืนอยู่บนสังเวียนประลองได้สำเร็จ ทว่านางก็ไม่กล้าโจมตีโดยพลการ แต่กลับเลือกที่จะยืนจ้องมองเซียวปิงด้วยความเหยียดหยามไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว

เหตุไฉนมนุษย์ปักษาสตรีถึงจ้องมองเซียวปิงด้วยแววตาเช่นนั้น?

นางต้องการยั่วโมโหเขาใช่หรือไม่?

น่าจะเป็นเช่นนั้นเอง

แต่เซียวปิงยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง

เต๋อถิงลอบชื่นชมเด็กหนุ่มผู้นี้อยู่ในใจ

นางตัดสินใจสะกิดปลายเท้าพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

ระหว่างนั้น ก็ใช้วิชากระบี่เงาทำลายสมาธิของเซียวปิงอย่างต่อเนื่อง

ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายร่นใกล้เข้ามา

จิตสังหารของเต๋อถิงแรงกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่มนุษย์ปักษาสตรีไม่รู้ตัวเลยว่ายามที่นางพุ่งเข้าไปประชิดตัวเซียวปิงนั้น เขาก็ได้เปลี่ยนอาวุธเสร็จสิ้นแล้ว

เด็กหนุ่มนำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปทรงคล้ายปืนออกมา

หลังจากนั้น เขาก็ตวัดปากกระบอกปืนยกขึ้นเล็งและเหนี่ยวไกยิงลูกกระสุนอย่างต่อเนื่อง

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

นี่คือปืนลูกซองสั้น

กระสุนหกนัดถูกรัวยิงออกไปในลมหายใจเดียว

ฟู่!

ม่านหมอกเลือดสาดกระจายในอากาศ

ผลั่ก!

ร่างไร้ชีวิตของมนุษย์ปักษาสตรีร่วงดิ่งลงมากระแทกพื้นดิน

ชุดกระสุนเมื่อสักครู่ปะทะเข้ากับหน้าอกของนาง

ร่างกายครึ่งหนึ่งของเต๋อถิงแทบจะแหลกเหลว

ใช่แล้ว นี่คืออานุภาพของปืนลูกซองสั้นศักดิ์สิทธิ์

นี่คืออาวุธสังหารระยะประชิดตัวอีกหนึ่งชิ้นที่หลินเป่ยเฉินยอมกัดฟันซื้อมาให้เป็นอาวุธคู่กายของเซียวปิง

เหตุผลก็คือไม่ว่าจะเป็นปืนอินทรีหิมะหรือปืนไรเฟิล 98k นั้น เมื่อโทรศัพท์มือถือได้รับการอัปเกรด พวกมันก็มีรุ่นใหม่ออกวางจำหน่าย แน่นอนว่าหลินเป่ยเฉินต้องซื้อหามาใช้งาน แต่ถึงกระนั้น แม้พวกมันจะมีอานุภาพในการสังหารผู้มีพลังขั้นเซียนได้จริง แต่ปัญหาก็คือเมื่อยิงกระสุนหมดแล้ว ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายลมหายใจเพื่อชาร์จพลังบรรจุกระสุนชุดใหม่

หลินเป่ยเฉินย่อมรู้ดีว่าผู้มีพลังขั้นเซียนจำนวนมากชำนาญการสร้างร่างแยก มีความรวดเร็ว สามารถหลอกลวงคู่ต่อสู้ได้หลายวิธีการ

หากคู่ต่อสู้สามารถหลบหลีกกระสุนเหล่านั้นเข้าประชิดกายเซียวปิงได้สำเร็จ เซียวปิงก็จะตกอยู่ในอันตราย

แม้ว่าปืนกลมือจะสามารถแก้ปัญหาในข้อนี้ได้ แต่มันก็เป็นการสิ้นเปลืองเกินไปโดยใช่เหตุ ทุกครั้งที่มีการใช้ศิลาบูชาชาร์จพลังเพื่อเติมลูกกระสุน หลินเป่ยเฉินก็มักจะรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอยู่เสมอ หากปล่อยให้เซียวปิงได้สาดรัวลูกกระสุนจากปืนกลมือตามใจชอบ อีกไม่นาน หลินเป่ยเฉินก็คงต้องอยู่ในสถานะล้มละลายเป็นแน่แท้

ด้วยเหตุนี้ หลินเป่ยเฉินจึงตัดสินใจซื้อปืนลูกซองสั้นมาเป็นอาวุธอีกชิ้นหนึ่งให้แก่เซียวปิง

แม้ว่าระยะการทำลายล้างและอานุภาพในการสังหารของปืนลูกซองสั้นจะไม่รุนแรงเท่าปืนกลมือ แต่ลูกกระสุนชนิดพิเศษของปืนลูกซองสั้นก็มีรัศมีสังหารน่ากลัวไม่ใช่น้อย

โดยเฉพาะปืนลูกซองสั้นรุ่นที่หลินเป่ยเฉินซื้อมานี้ มันมีฉายาว่าปืนสว่านไฟฟ้า สามารถยิงลูกกระสุนได้โดยไม่ต้องขึ้นลำกล้องใหม่ ซ้ำยังขึ้นชื่อเรื่องการระเบิดลูกกระสุนได้อย่างต่อเนื่อง อัตราความเร็วในการยิงและรัศมีการสังหารที่ครอบคลุมอย่างเหมาะสม จึงทำให้ปืนลูกซองชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

เต๋อถิงเข้ามาประชิดกายเซียวปิงเพื่อจะสังหารเขาในระยะใกล้

ดังนั้น นางจึงไม่อาจรอดพ้นกระสุนลูกซองสั้นได้เลยสักนัดเดียว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปืนลูกซองสั้นสว่านไฟฟ้าที่ซื้อหามาจากโทรศัพท์มือถือของยมทูตเครื่องนี้ มันยิ่งมีอานุภาพการทำลายล้างรุนแรงมากกว่าปืนลูกซองสั้นทั่วไป

เต๋อถิงจึงต้องกลายเป็นเหยื่อรายแรกจากอาวุธชิ้นใหม่ของเซียวปิง

เมื่อเห็นเช่นนั้น เสียงโห่ร้องด้วยความสะใจของบรรดามนุษย์ปักษาก็หยุดชะงักลงไปทันที

สีหน้าของพวกมันปรากฏเพียงความว่างเปล่า

ดวงตาทุกคู่จับจ้องไปที่สังเวียนประลอง ใบหน้าแข็งค้างราวกับถูกแช่แข็ง

นี่คือวิชากระบี่ชนิดใดกัน?

บรรดาผู้คนที่นั่งรับชมอยู่รอบสังเวียนประลองต่างก็ตกตะลึง

พวกเขาบอกไม่ได้เลยว่าวิชากระบี่ที่เซียวปิงใช้ออกมานั้นคืออะไรกันแน่

วิชากระบี่ชนิดนี้เมื่อใช้ออกมาก็มีรังสีกระบี่พุ่งออกถึงหกสาย แต่รังสีกระบี่ทั้งหกสายนั้นกลับอัดแน่นไปด้วยพลังลมปราณครอบคลุมรัศมีทำลายล้างกว้างไกล…

นี่คือวิชากระบี่ชนิดใดกันแน่?

“อาจารย์เจ้าคะ…”

ซวีหวันต้องยกมือขึ้นมาปิดปากอีกครั้ง

แต่ปรากฏว่าเมื่อนางหันไปมองหน้าอาจารย์ของตนเอง เหยียนหรู่อี้ก็กำลังยกมือปิดปากด้วยความตกตะลึงอยู่เช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ของนางก็ไม่ทราบเช่นกันว่านี่คือวิชากระบี่ชนิดใด

มีแต่หลินเป่ยเฉินเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ยกมือทำท่าดันแว่นคล้ายกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

เซียวปิงมีจุดเด่นอยู่ที่ร่างกายอันแข็งแรง แต่การมีอาวุธปืนคอยเป็นตัวช่วยยังไม่เพียงพอ หลินเป่ยเฉินรู้สึกว่าน้องชายร่วมสาบานของตนเองผู้นี้ยังมีอะไรบางอย่างขาดหายไป…

หรือว่าจะเป็นกับระเบิด?

ด้วยกับระเบิดคือสิ่งที่อันตรายมากในโลกวรยุทธ์แห่งนี้!