บทที่ 739

เดิมที เซียวชูหรันยังมองไม่ออกว่าเซียวฉางควนไปดื่มเหล้ามา

แต่หลังจากที่เข้าไปใกล้ ก็ได้กลิ่นเหล้าบนตัวเขา ก็เลยโมโหขึ้นมา!

ปกติแล้วพ่อชอบดื่มเหล้านิดหน่อย เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ที่สำคัญก็คือ ก็เห็นอยู่ว่าไปตามหาแม่ที่บ่อนไพ่นกกระจอก ทำไมถึงไปดื่มเหล้ามาได้?!

นี่มัน….แสดงว่าเขาไม่ได้ไปตามหาแม่เลย แต่ไป……ดื่มเหล้า!

พอเซียวฉางควนได้ยินว่าเซียวชูหรันบอกว่าตนเองดื่มเหล้ามา ก็รีบปิดปาก แล้วถอยหลังไป รีบอธิบายอย่างร้อนรนว่า “แกอย่าพูดมั่วไป พ่อไม่ได้ดื่มเสียหน่อย!”

“พ่อแหละพูดมั่ว!” เซียวชูหรันโกรธจนกระทืบเท้า “หนูได้กลิ่นเหล้าบนตัวพ่อแล้ว!ตอนออกไปยังไม่มี แต่ตอนนี้มีกลิ่น!แสดงว่าระหว่างนี้ต้องไปดื่มเหล้ามา!”

พูดไป เธอก็จ้องมองคอเสื้อของเซียวฉางควน เห็นว่ามีรอยหยดน้ำมัน ก็โกรธจนตาแดง “แม่หายตัวไป ยังหาไม่พบ พ่อไม่เพียงไม่ออกไปตามหา แต่ยังไปดื่มไปกินอีก พ่อดีใจมากสินะคะ!”

เซียวฉางควนก็พูดอย่างทำอะไรไม่ถูกว่า “ไอ้หยา มันเอ่อ……พ่อ……พ่อเปล่านะ…..”

เซียวชูหรันพูดอย่างหัวเสียว่า “พ่อคะ คิดว่าหนูจะเชื่อพ่อหรือคะ?”

เซียวฉางควนก็รู้ว่าคงจะแก้ตัวไม่ได้ ก็เลยหันไปมองเย่เฉิน แล้วพูดว่า “เย่เฉินมันให้พ่อไปน่ะ”

พูดจบ ก็รีบส่งสายตาให้เย่เฉิน มันมีความหมายว่า ลูกเขยคนดี เรื่องซวยนี้ แกต้องช่วยพ่อด้วยนะ

เย่เฉินก็ฉลาด พยักหน้าตอบไปอย่างไม่ลังเลว่า “ใช่แล้วๆ พ่อพูดถูกแล้ว ผมเป็นคนชวนพ่อไปดื่มจริงๆ”

จริงๆแล้วเย่เฉินรู้ดี เพราะถึงอย่างไรตนเองก็ไม่ได้ดื่มเลย แต่เซียวฉางควนก็มึนๆ แล้วมาพูดตอนนี้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะเย่เฉิน เซียวชูหรันก็จะยิ่งไม่เชื่อ

เป็นอย่างที่ว่า เซียวชูหรันกระทืบเท้า แล้วพูดอย่างโมโหว่า “พ่อคะ ตอนนี้ไม่ต้องมาโยนปัญหาให้เย่เฉินเลย!ทำอะไรก็ยอมรับแบบลูกผู้ชายหน่อยได้ไหมคะ?”

เซียวฉางควนก็พูดอย่างกลุ้มใจว่า “พ่อพูดจริงๆ นะ แกไม่เชื่อ พ่อก็ทำอะไรไม่ได้”

พูดจบ ก็รีบพูดต่ออีกว่า “ไอ้หยาพ่ออายุมากแล้ว 4ทุ่มก็ง่วงมากแล้ว เดี๋ยวพ่อไปนอนก่อนนะ”

เซียวชูหรันอยากจะเรียกเขาไว้ แต่เขาก็วิ่งไม่หันหัวกลับมาเลย

พอทำอะไรไม่ได้ เซียวชูหรันก็หันมามองเย่เฉิน แล้วพูดว่า “คุณก็จริงๆ เลย ฉันโทรไปถามคุณ คุณก็บอกว่าอยู่ที่บ่อนไพ่ แต่จริงๆ แล้วพาพ่อฉันไปดื่มเหล้าอยู่!”

เย่เฉินก็ไอออกมา แล้วพูดว่า “ก็พ่อบอกว่าหิวมาก ผมก็คงจะไม่พ่อทนหิว วิ่งตามหาไปตามท้องถนนกับผมหรอก เดี๋ยวระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จะทำอย่างไร ดีไม่ดีเกิดอันตรายขึ้นมา”

“แต่คุณก็ไม่ควรมาหลอกฉันนะ!บอกฉันมาตรงๆ เดี๋ยวฉันก็ให้พวกคุณไปกินข้าวเองแหละ”

เย่เฉินก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร รู้สึกว่าเรื่องนี้จะจัดการยากจริงๆ จุดสำคัญก็คือไม่คิดเลยว่าเซียวฉางควนจะถูกเซียวชูหรันจับได้ ถ้ารู้อย่างนี้ ก็คงไม่ไปกินปิ้งย่างเสียดีกว่า

จากนั้นเขาก็เลยได้แต่ขอโทษอย่างจริงใจ “คุณภรรยา ผมขอโทษ เรื่องนี้ผมคิดน้อยไปหน่อย ตอนนั้นพ่อบอกว่าห้ามบอกคุณ ผมก็ไม่อาจจะบอกคุณในสายโทรศัพท์ได้เลย”

ตอนที่พูดคำนี้ เย่เฉินไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรก็ถูกโยนปัญหามาเอง ตอนนี้พ่อตาไม่อยู่ งั้นก็โยนปัญหาไปที่เขาจะเหมาะที่สุด

เซียวชูหรันก็เชื่อคำพูดของเย่เฉิน คิดว่าทั้งหมดต้องเป็นความคิดของพ่อแน่ๆ อีกอย่างเย่เฉินก็มีพ่ออยู่ข้างๆ ด้วย ไม่อาจจะพูดความจริงกับเธอได้

ถึงแม้จะหายโกรธไปบ้าง แต่ในใจเธอก็ยังรู้สึกไม่ดี เธอก็เลยถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วก็พูดอย่างเสียใจว่า “เย่เฉิน ตอนนี้แม่ฉันหายตัวไป พ่อก็ไม่สนใจ คุณก็ไม่สนใจ ฉันแค่คนเดียว จะทำอย่างไรดีเนี่ย……ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ชีวิตหลังจากนี้ ฉันจะอยู่อย่างไร? ฉันตายก็คงจะไม่ให้อภัยตัวเด็ดขาด!”

เย่เฉินก็รีบเข้าไปปลอบว่า “คุณอย่าเพิ่งคิดมาก แม่คุณจะต้องไม่เป็นอะไร”

————