บทที่ 911 ไม่เจียมตัว

The king of War

มองยังไง หยางเฉินก็ต้องตายเท่านั้น

แต่สิ่งที่ทำให้กวนซินผิดหวังก็คือ เธอไม่เห็นความหวาดกลัว บนใบหน้าหยางเฉินสักนิด กลับกันมีเพียงความอาฆาตอันรุนแรงเท่านั้น

กวนซินโดนหยางเฉินจ้อง จนอดสั่นไปทั้งตัวไม่ได้

เมื่อเธอตั้งสติได้ ตัวเองเตรียมการมาอย่างดี แต่เมื่อโดนหยางเฉินทำให้ตกใจ ก็หงุดหงิดจนโมโห “ฉันทำเอง แล้วจะทำไม”

หยางเฉินสูดหายใจลึก พยายามรักษาอารมณ์ของตัวเองให้มั่นคง

เขารู้ดี ถ้าโมโหขึ้นมา จะเกิดเรื่องน่ากลัวแค่ไหน

“เธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงที่บริสุทธิ์ ไม่เคยแค้นเคืองกับเธอ ถึงขนาดที่ไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ เธอทำกับเด็กผู้หญิงแบบนั้น ทำไมคนของเธอ ถึงโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้”

ดวงตาทั้งสองข้างของหยางเฉินแดงก่ำ เขากัดฟันและถามขึ้น

“หึ!”

กวนซินหัวเราะเย้ยหยัน “เธอจะเป็นผู้บริสุทธิ์หรือเปล่า เกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ว่าฉันลงมือฆ่าเธอเพราะอะไร”

ไม่รอให้หยางเฉินตอบ กวนซินชี้ไปที่หยางเฉิน แล้วพูดอย่างโมโห “ล้วนเป็นเพราะนาย!”

“ถ้านายฟังคำพูดของฉันอย่างว่าง่าย เป็นสุนัขของตระกูลคิงกวน มีการสนับสนุนจากตระกูล นายก็คือคิงแห่งเยี่ยนตู”

“มองดูทั้งจิ่วโจว นอกจากราชวงศ์ทั้งสี่กับตระกูลเดอะคิงทั้งห้า คำพูดของนายก็เป็นใหญ่ แต่นายไม่ต้องการ และมาเล่นงานฉัน”

“ไม่เพียงแค่นั้น ยังเกือบฆ่าฉันกับพ่อด้วย ในเมื่อเกิดความแค้นระหว่างเราแล้ว ฉันจะเหลือทางรอดให้นายไปทำไม”

กวนซินเหมือนคนบ้า หัวเราะร่าแล้วพูดออกมา “ดังนั้น ฉันอยากทำให้นายรู้สึกว่าตายไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ งั้นคงต้องทำให้คนข้างกายของนายโดนทำร้าย ทำให้พวกเขารู้ว่านายมันเป็นตัวซวย”

“หม่าชาวเป็นน้องที่ดีที่สุดของนายไม่ใช่เหรอ นายว่าถ้า หมีเสวี่ยตาย หม่าชาวจะโทษนายหรือเปล่า”

“ถึงเขาจะไม่โทษนาย แต่จะปฏิบัติกับนายเหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ……”

พูดพลาง กวนซินก็หัวเราะเสียงดัง

ในที่สุดหยางเฉินก็เข้าใจ ทำไมกวนซินถึงจ้องแต่จะเล่นงาน หมีเสวี่ย ที่แท้ต้องการสร้างความแตกแยก ในความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับหม่าชาวนี่เอง

“เธอชอบรังแกคนอื่นขนาดนี้เลยเหรอ”

จู่ๆ หยางเฉินถามขึ้น

“ใช่! ฉันชอบความรู้สึกที่ควบคุมทุกอย่างอยู่ในกำมือตัวเอง สำหรับฉัน ถึงนายมีประโยชน์แค่ไหน แต่ถ้าไม่มีประโยชน์กับฉัน ก็ต้องทำลายเท่านั้น!”

กวนซินเหิมเกริมเป็นอย่างมาก เธอหัวเราะแล้วพูดว่า “ทำให้นายทรมาน ทำให้นายผิดใจกับน้องชายที่ดี นี่แค่ก้าวแรกเท่านั้น!”

“และจุดประสงค์ที่แท้จริงของฉัน ก็คือเอาชีวิตไร้ค่าของนาย ตอนนี้นายเตรียมตัวตายแล้วหรือยัง”

หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร และหลับตาลงทันที

เขากำลังพยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเอง ไม่งั้นถ้าเขาระเบิดมันออกมา ที่นี่ต้องนองเลือดแน่นอน

“หยางเฉิน ชาติหน้า จำไว้ว่าอย่าหน้ามืดตามัว อย่าโง่เหมือนชาตินี้อีก”

จู่กวนซินพูดเสียงดัง “ลงมือ!”

“ปังๆๆๆ”

ทันใดนั้น ภายในลานคฤหาสน์หลังใหญ่ เต็มไปด้วยเสียงปืน

แต่ทว่าวินาทีต่อมา ทุกคนถึงกับช็อก

กวนหงเหว่ยเบิกตาโต กวนซินก็มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ “คน คนล่ะ”

หยางเฉินที่เดิมที ยืนอยู่ที่เดิม เหมือนหายไปกลางอากาศ

ทุกคนรู้สึกหนาวไปทั้งตัว พวกเขาไม่เห็นหยางเฉิน แต่กลับรู้สึกเหมือนหยางเฉินมองเห็นทุกที่

ความรู้สึกนั้น แปลกประหลาดมาก แต่กลับทำให้พวกเขาหนาวเข้ากระดูก

มือปืนสิบกว่าคน ที่ถือปืนอยู่ในมือ กำลังสั่นไม่หยุด

ถึงกวนซินจะช็อกเล็กน้อย แต่ไม่นาน ความกลัวในใจเธอหายไปหมด และตื่นเต้นมาก

เพราะเดิมทีเธอไม่ได้กะจะใช้มือปืน กับผู้คุ้มกันของตระกูลกวนฆ่าหยางเฉิน แต่ทำไปเพราะต้องการบังคับให้ผู้แข็งแกร่งแดนราชา ที่กษัตริย์กวนส่งมาคุ้มครองพวกเขาเงียบๆ ปรากฏตัวออกมา

หยางเฉินแข็งแกร่งมาก มีเพียงผู้แข็งแกร่งแดนราชาที่จะจัดการได้

แต่นี่เป็นเพียงความคิดของพวกเขาเองเท่านั้น

“พรวดๆๆๆ!”

ทันใดนั้น ลมหนาวพัดมา มือปืนกับผู้คุ้มกันข้างกายกวนซินและกวนหงเหว่ย ล้มลงบนพื้นอย่างเงียบๆ เมื่อกี้ยังมีชีวิตอยู่เลย เพียงชั่วครู่ ก็ล้มลงไปหมด

“นี่ นี่เป็นไปได้ยังไง”

“เสี่ยว เสี่ยวซิน เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

กวนหงเหว่ยตกใจจนพูดจาสะเปะสะปะ

ภายในลานคฤหาสน์ขนาดใหญ่ มีบรรยากาศแปลกประหลาดปกคลุมอยู่

นอกจากสองพ่อลูก กวนซินและกวนหงเหว่ย คนอื่นๆ ล้วนล้มลงบนพื้น

ไม่นาน กลางหน้าผากของมือปืนกับผู้คุ้มกัน เกิดเป็นรอยเลือด เลือดสดไหลออกมาไม่หยุด กลิ่นคาวเลือดรุนแรง ลอยคละคลุ้งไปทั่ว

กวนหงเหว่ยกับกวนซินช็อกไปแล้ว

ถึงแม้เป็นกวนซิน ตอนนี้แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

การที่เป็นคนของตระกูลเดอะคิง พวกเขาเคยเจอผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดมามากมาย ขนาดผู้แข็งแกร่งแดนราชาก็เจอมาเยอะ

แต่กลับไม่เคยเจอฝีมือที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้

หลบกระสุนได้ยังไม่เท่าไร สิ่งสำคัญคือ เพียงอึดใจเดียว สามารถฆ่ามือปืนกับผู้คุ้มกันหลายสิบคนได้

จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าหยางเฉินหลบอยู่ที่ไหน เหมือนหายไปกลางอากาศ

ในเมื่อหยางเฉินสามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งหลายสิบคน เพียงชั่วอึดใจ งั้นหมายความว่า ถ้าหยางเฉินจะฆ่าพวกเขา ตอนนี้พวกเขาคงกลายเป็นศพไปแล้ว

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ชายชราในชุดเสื้อคอจีน ปรากฏตัวตรงหน้ากวนหงเหว่ยและกวนซิน แววตาจริงจังอย่างไม่เคยเจอมาก่อน

“ลุงเต๋อ!”

เมื่อเห็นชายชราปรากฏตัว กวนหงเหว่ยส่งเสียงเรียก

ลุงเต๋อเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดของตระกูลคิงกวน ผู้แข็งแกร่งแดนราชาอย่างแท้จริง

แต่การปรากฏตัวของลุงเต๋อไม่ได้คลายความกลัวในใจเขา

ลุงเต๋อไม่ได้สนใจ สายตามุ่งไปยังทิศทางเดียว พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมมาก “นายท่านเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชา แต่กลับลงมือกับคนทั่วไปอย่างโหดเหี้ยม ไม่คิดว่าเกินไปหน่อยเหรอ”

“เกินไปงั้นเหรอ”

เสียงอันเฉยชาดังขึ้นทันที วินาทีต่อมา ร่างอันน่ากลัวของหยางเฉิน ดีดตัวลงมาจากต้นไม้เก่าสูงตระหง่าน

“โครม!”

เมื่อเท้าทั้งสองข้างของเขาสัมผัสพื้น ราวกับพื้นสั่นสะเทือน

และตำแหน่งที่เท้าทั้งสองข้างของเขาเหยียบลงไป กลายเป็นรอยเท้าสองข้าง ยุบลงไปเป็นหลุมลึก

จากตรงกลางรอยเท้า มีรอยแตกเป็นใยแมงมุมกระจายออกไปบริเวณรอบๆ จนถึงใต้เท้าของสองพ่อลูกกวนหงเหว่ยและกวนซิน

“คนของตระกูลคิงกวน ฆ่าคนธรรมดาตามอำเภอใจได้ แต่พอถึงตาฉันฆ่าคนของตระกูลคิงกวนบ้าง กลับทำเกินไปงั้นเหรอ”

หยางเฉินพูด และมองลุงเต๋อด้วยสีหน้าประชดประชัน

ตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ ความอาฆาตพลุ่งพล่านออกมาจากตัว ปกคลุมผู้หญิงร้ายกาจอย่างกวนซินเอาไว้

กวนซินที่เหิมเกริมเมื่อครู่ ตอนนี้ตัวสั่นไม่หยุด โดนความอาฆาตของหยางเฉินปกคลุมไว้ เธอทำไม่ได้แม้แต่จะขยับเท้า

“เรื่องที่กวนซินทำทั้งหมด เป็นสิ่งที่เกินไป แต่ยังโชคดี ที่ไม่ได้มีการตายเกิดขึ้น”

ลุงเต๋อพูดว่า “หวังว่านายจะเห็นแก่หน้าของตระกูลคิงกวนปล่อยพวกเขาไปสักครั้ง!”

“คุกเข่า!”

หยางเฉินไม่สนใจลุงเต๋อ และตวาดออกมาอย่างไม่สนใจ

กวนหงเหว่ยกับกวนซินที่โดนความอาฆาตปกคลุมไว้ รู้สึกเพียงว่าเสียงของหยางเฉิน เหมือนเสียงฟ้าผ่าลงข้างหูของพวกเขา

“ตุ้บ!”

“ตุ้บ!”

สองพ่อลูกต่างพากันคุกเข่า ตัวสั่นงันงกไปหมด

ตอนนี้ทั้งสองคน ไม่มีความอวดดีเพราะเป็นทายาทของตระกูลคิงกวนอีกแล้ว

ลุงเต๋อขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “พ่อหนุ่ม นายทำเกินไปแล้ว!”

“วันนี้พวกเขาต้องตาย!”

หยางเฉินพูดอย่างโมโหเป็นอย่างมาก

เมื่อพูดจบ เขาก้าวเข้าไปหาทั้งสองคนทีละก้าว

ไม่ว่ายังไง ลุงเต๋อก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาของตระกูลคิงกวน แม้เป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย ก็ต้องปฏิบัติต่อกันอย่างสุภาพ