บทที่ 742
ถ้าเซียวชูหรันไม่ได้อาศัยความ “โง่” ที่หนักแน่นของเธอแล้วล่ะก็ เธอก็คงฟังคำพวกนั้น แล้วไปอยู่สุขสบายแล้ว
ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ตนเองจะมีชะตากรรมเป็นเช่นไรกันแน่?
เย่เฉินไม่อยากจะคิดมัน
ก่อนที่จะแต่งงานกับเซียวชูหรัน ชีวิตของเขาแต่ละวันนั้นลำบากมาก
เนื่องจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่รับบุคคลบรรลุนิติภาวะ ดังนั้น ในวันที่เขามีอายุ18ปี ป้าหลี่ใช้เงินที่ประหยัดจากค่าอาหารมาซื้อเค้กวันเกิดให้เขาในวันเกิด แล้วก็ส่งเขาออกไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้งน้ำตา
เวลานั้น เย่เฉินก็กลายเป็นผู้โดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีที่พึ่งในโลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
ป้าหลี่อยากช่วยเขามาก อยากจะหางานให้เขาทำ อยากให้ค่าดำรงชีพแก่เขา แต่ว่าเขาไม่มีหน้าที่จะรับมันไว้
เขาไปหางานก่อสร้างทำ อายุ18ก็ไปช่วยเขาขนย้ายก้อนอิฐ ขนทราย แบกปูน
เขาไม่อยากเช่าห้อง ได้แต่นอนพักอยู่ที่เพิงพักคนงานตลอด กินก็กินกับข้าวถูกๆ งานก็ทำงานที่หนักและสกปรกที่สุด
เงินที่หามาได้ เขาเหลือไว้ใช้ในชีวิตประจำวันเพียงเล็กน้อย ส่วนที่เหลือก็บริจาคให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้งหมด
เพราะว่า ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายังมีน้องๆ ที่ไร้ที่พึ่งเหมือนกับตนเองอีกมากมาย พวกเขายังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องการการดูแลและความรักอีกมาก
แต่ว่า สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นก็มีกำลังทรัพย์จำกัด ทำได้แค่ให้พวกเขากินอิ่มนอนอุ่น แต่ไม่สามารถรับรองได้ว่าพวกเขาจะกินดีอยู่ดี
ดังนั้น เขาจึงได้เอาเงินที่เหลือไว้นั้น บริจาคให้กับน้องๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของพวกเขา รวมไปถึงซื้อหนังสือให้พวกเขา ให้พวกเขาได้เรียนหนังสือ
ตอนที่ทำงานก่อสร้างเข้าปีที่4 ทีมก่อสร้างที่เขาทำงานอยู่ มารับงานของตระกูลเซียว แล้วทำงานก้านก่อสร้างให้กับตระกูลเซียว
ตอนนั้น คุณท่านใหญ่เซียวที่มาตรวจงาน มองตาเดียวก็รู้ว่าเย่เฉินนั้นเหมือนกับปู่ของเย่เฉินสมัยหนุ่มๆ รูปร่างหน้าตาเหมือนกันเลย
ส่วนที่คุณท่านใหญ่เซียวรู้จักปู่ของเย่เฉินนั้น ก็เพราะว่า ร้อยปีก่อนนั้น ตระกูลเซียวเป็นคนรับใช้ของตระกูลเย่!
คุณท่านใหญ่เซียวก็อพยพหนีสงครามตั้งแต่สมัยปู่ของคุณท่านเอง หนีมาจนถึงเย่นจิง ตอนที่หิวจวนจะตายแล้วนั้น ตระกูลเย่ก็รับดูแลพวกเขาไว้
เพื่อที่จะตอบแทนพระคุณ พวกเขาก็ยอมขายตัวเองเพื่อคนรับใช้ให้กับตระกูลเย่ทั้งชีวิต
ตระกูลเย่ในตอนนั้น ก็ได้เป็นถึงหนึ่งในตระกูลใหญ่ของประตูเมืองสี่เก้า อีกทั้งผู้นำตระกูลก็มีเมตตา ปฏิบัติต่อคนรับใช้ดีมาก อนุญาตให้แต่งงานได้ มีลูกได้ ให้พวกเขาได้ก่อร่างสร้างตัวในตระกูลเย่
พ่อของคุณท่านใหญ่เซียวนั้น ก็เกิดและโตในตระกูลเย่
ต่อมา พ่อของคุณท่านใหญ่เซียวก็บรรลุนิติภาวะ และก็ยอมขายตัวเองเพื่อคนรับใช้ในตระกูลเย่ด้วย เพื่อเป็นคนงานให้กับตระกูลสแกน
ต่อมา คุณท่านใหญ่เซียวก็เกิดในตระกูลเย่
ดังนั้น ตอนเขาเด็กๆ ก็โตมาในตระกูลเย่ และก็เป็นคนรับใช้ของตระกูลเย่ด้วย
คุณท่านของตระกูลเย่นั้น อายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณท่านใหญ่เซียว ทั้งสองคนก็ถือว่าโตมาด้วยกัน แต่ก็มีฐานะต่างกันมาก ดังนั้น คุณท่านใหญ่เซียวรู้จักเขา แต่เขากลับไม่รู้จักคุณท่านใหญ่เซียว
ต่อมาได้เกิดสงคราม ตระกูลเย่ก็เตรียมจะย้ายหนีสงคราม แต่จะพาคนรับใช้จำนวนมากไปด้วยไม่ได้ ก็เลยให้เงินก้อนหนึ่งแก่คนรับใช้ส่วนใหญ่เพื่อเป็นทุนสร้างตัว แล้วให้พวกเขาแยกย้ายกันไป
คุณท่านใหญ่เซียว ก็คือคนที่ได้รับเงินสร้างตัวจากตระกูลเย่ แล้วกลับบ้านเกิด
ดังนั้น ตอนที่เขาเห็นเย่เฉินนั้น เขาก็มั่นใจว่า เขาจะต้องเป็นทายาทตระกูลเย่อย่างแน่นอน
ดังนั้น ภายใต้การถามไถ่ของเขาหลายครั้งนั้น เย่เฉินก็บอกชาติกำเนิดของตนเองออกมา
ตอนนั้นคุณท่านใหญ่เซียวก็คุกเข่าลงที่พื้น แล้วโขกหัวให้เย่เฉิน3ครั้ง บอกว่าโขกหัวคำนับขอบพระคุณที่ตระกูลเย่มีต่อตระกูลเซียวในตอนนั้น
จากนั้น คุณท่านใหญ่เซียวก็พาเขากลับบ้านตระกูลเซียว แล้วดื้อดึงจะให้หลานสาวตนเองแต่งงานกับเขา
ในตอนนั้นคุณท่านใหญ่ไม่รู้เลยว่าเย่เฉินมังกรน้อยตัวนี้ ว่าจะสามารถบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้หรือไม่
แต่เขารู้สึกว่า เป็นถึงทายาทตระกูลเย่ ไม่ควรจะมาอยู่หมู่คนงานก่อสร้างทั้งชีวิต
ตระกูลเซียวเป็นคนรับใช้ตระกูลเย่มาหลายชั่วอายุคน มีภาระและหน้าที่ ที่ต้องดูแลนายน้อยตระกูลเย่ที่ร่อนเร่อยู่ภายนอกให้ดีที่สุด ให้บ้านที่สุขสงบแก่เขา!
——-