ตอนที่ 1302 ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ชิงมู่กล่าว “หม้อหยินหยางสองขั้วควบคุมทั้งหยินและหยาง ทั้งสองเป็นขั้วสุดขีด ตอนนี้นายท่านอยู่ในอาณาจักรหยิน มันจะไม่มีการโจมตี นายท่านไม่ต้องกังวล เพียงแต่ต้องอดทนรอสักหน่อย ไม่นานก็น่าจะจับกลิ่นอายของมันได้”

มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวไป๋กับเซียวเหยาจะไม่เป็นไรกระมัง!”

ชิงมู่กล่าว “ท่านไป๋มียาหัวใจโพธิ์ที่นายท่านให้ไว้ และด้วยพลังของเขาน่าจะไม่เป็นอะไร ส่วนนายน้อยเซียว เขาเป็นคนตระกูลเซียวอยู่แล้ว ร่างกายของเขาจึงแตกต่างกับคนทั่วไป เขายิ่งไม่เป็นไรแน่นอน นายท่านเป็นห่วงตัวเองเถอะ อย่างไรเสียเจ้านี้ก็เล่นใหญ่เกินไปจริง ๆ”

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “อืม!”

ร่างในชุดขาวกระพริบขึ้น มู่เฉียนซีเคลื่อนไหวไปมาในอาณาจักรหยินอันกว้างใหญ่นี้

ในพื้นที่นี้มีพิษร้ายแรงอยู่บ้าง แต่ก็ทำอะไรมู่เฉียนซีไม่ได้

ทันใดนั้นเอง ด้านหน้าก็มีร่างสีเขียวขจีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น

ในตอนนี้ร่างสีเขียวขจีนั้นกำลังพันรอบร่างร่างหนึ่งราวกับเป็นปลาหมึกก็มิปาน พร้อมกับกล่าวร้องทุกข์ด้วยความสะอึกสะอื้น

“ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว ฮือ ๆ ๆ…”

เห็นรูปร่างหน้าตาของบุตรสาวเหมือนตัวประหลาดเช่นนี้ หัวหน้าวังอวิ๋นก็ไม่อาจทนได้ จากนั้นเขาก็พบว่าอุณหภูมิในร่างของนางยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่า…

ในตอนนี้เอง เขาเหลือบไปเห็นกับร่างในชุดสีขาวร่างหนึ่ง!

“ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย!” เขารีบลากอวิ๋นเอ๋อร์ไปที่มู่เฉียนซีพลางเผยสีหน้าดีอกดีใจขึ้น

ทางด้านหน้าถูกขวางเอาไว้ เมื่ออวิ๋นเอ๋อร์ได้ยินคำว่าประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ดวงตาของนางพลันเปลี่ยนเป็นสีเขียวมองไปที่มู่หรงเฉียนเยี่ยอย่างรวดเร็ว

นางกล่าวอย่างเย้ายวนว่า “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ท่าน ท่านรีบช่วยข้าเร็วเข้า! ข้า ข้าแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”

ฉึก! นางฉีกเสื้อผ้าตัวเองออกต่อหน้ามู่เฉียนซี เหลือเพียงแค่ชุดชั้นในชุดเดียว

แม้ว่ามันจะส่องแสงแวววาว แต่กลับเขียวจนไม่น่ามองจริง ๆ!

หัวหน้าวังอวิ๋นก็ไม่รู้สึกว่าบุตรสาวของตนเองนั้นน่าอับอาย เขากล่าวขอร้องอ้อนวอนว่า “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย เหวพิษของตระกูลเซียวนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก เกรงว่าบุตรสาวของข้าจะโดนพิษเข้าแล้ว ได้โปรดประมุขน้อย ได้โปรด…”

มู่เฉียนซีกล่าวหยอกล้อว่า “หัวหน้าวังอวิ๋น ถ้าหากว่านี่ไม่ใช่บุตรสาวของเจ้า แล้วมีหญิงสาวคนหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาเช่นนี้อยู่ตรงหน้าเจ้า เจ้าจะยอมช่วยนางหรือไม่?”

รูปร่างหน้าตาของบุตรสาวตนเองน่าอนาถจนทำให้คนอื่นไม่อยากหันมองแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดว่าจะเข้าไปใกล้เลย

เขากล่าว “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย เหลียนเอ๋อร์ก็แค่โดนพิษก็เท่านั้น รูปร่างหน้าตาของนางตอนที่ยังไม่โดนพิษประมุขน้อยก็เคยเห็นแล้วมิใช่เหรอ อันที่จริงแล้วบุตรสาวของข้าก็เป็นหญิงงามที่สุดในแผ่นดิน และคู่ควรกับประมุขน้อยมาก”

“ต่อให้นางไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาเป็นตัวประหลาดสีเขียวเช่นนี้ ข้าก็ไม่ชอบนางอยู่ดี! ข้ามีเรื่องต้องทำ หัวหน้าวังอวิ๋นอย่าได้ขวางทางข้าจะดีกว่า” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเมินเฉย

“ท่านพ่อ…ท่านพ่อ…” อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ร้องไห้ขึ้นด้วยความเจ็บปวด ร่างกายในตอนนี้แทบจะไม่ใช่ตัวเองแล้ว

นางต้องการผู้ชายสักคน ผู้ชาย…

หัวหน้าวังอวิ๋นเห็นท่าทางของบุตรสาวตัวเองเช่นนี้ก็รู้สึกกระวนกระวายใจมาก และยิ่งเห็นท่าทางที่เมินเฉยของมู่หรงเฉียนเยี่ยแล้ว เขาก็ยิ่งโกรธ

“ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย บุตรสาวของข้าเป็นสาวบริสุทธิ์ อย่างไรเสียประมุขน้อยก็ไม่เสียเปรียบแน่นอน ท่านจะไม่ยอมช่วยจริงเหรอ?” น้ำเสียงของหัวหน้าวังอวิ๋นเคร่งขรึมลงไม่น้อย

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ว่าคนที่เสียเปรียบจะเป็นใคร ข้าก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ช่วย เจ้าไปหาคนอื่นเถอะ!”

ตอนนี้สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดมาก ไม่สามารถหาคนอื่นได้เลย และตอนนี้บุตรสาวของตัวเองก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว

อีกอย่างคนที่เข้ามาในเหวพิษของตระกูลเซียวก็มีเพียงแค่ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยกับหัวหน้าตำหนักเป่ยหานเท่านั้นที่คู่ควรกับบุตรสาวของเขามากที่สุด

หัวหน้าวังอวิ๋นเหลือบมองมู่หรงเฉียนเยี่ยและกล่าวว่า “ประมุขเฉียนเยี่ย ข้าเป็นคนใจร้อน หากประมุขน้อยไม่ร่วมมือ ข้าก็ทำได้เพียงต้องล่วงเกินแล้ว”

กล่าวจบ เขาก็ลงมือลอบโจมตีมู่เฉียนซีทันที

มู่เฉียนซีรับรู้ได้นานแล้ว นางเคลื่อนไหวหลบหลีกไม่ถูกหัวหน้าวังอวิ๋นจับได้

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี “หัวหน้าวังอวิ๋น เจ้ากล้าหาญไม่เบาเลย! นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าจะกล้าลงมือกับประมุขน้อยแห่งตำหนักเป่ยหานอย่างข้า”

“หากประมุขน้อยเฉียนเยี่ยให้ความร่วมมือ ข้าก็ไม่มีทางลงมือทำร้ายเจ้าเช่นนี้”

ถึงแม้ว่าจะเกิดเรื่องกับบุตรสาว แต่การที่ได้พบกับประมุขน้อยเฉียนเยี่ย นั่นก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่สุดโอกาสหนึ่ง

รอให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกขึ้นมาแล้ว ถึงตอนนั้นต่อให้ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยจะโกรธมากเพียงใดก็ไม่มีทางลงมือกับว่าที่พ่อตาในอนาคตอย่างเขาแน่นอน

บุตรสาวของเขาก็จะกลายเป็นว่าที่ฮูหยินของหัวหน้าตำหนักเป่ยหานในอนาคต เมื่อถึงตอนนั้นใครยังจะกล้าดูถูกวังอวิ๋นของเขาได้อีกเล่า

หัวหน้าวังอวิ๋นมองประมุขน้อยเฉียนเยี่ยตาเป็นมัน ตั้งใจจะจับประมุขน้อยเฉียนเยี่ยผู้นี้มาแก้พิษให้กับบุตรสาวของตนเองให้ได้

กล่าวจบ เขาก็ลงมืออีกครั้ง

ถึงแม้ว่าประมุขน้อยเฉียนเยี่ยแห่งตำหนักเป่ยหานจะมีพรสวรรค์มาก ความสามารถในการต่อสู้ข้ามระดับดีเยี่ยมอย่างวิปริต ธิดาศักดิ์สิทธิ์คนเก่าแห่งตำหนักเป่ยหานผู้ที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดล้วนแต่ต้องพ่ายแพ้ไปด้วยน้ำมือประมุขน้อยผู้นี้ แต่เขานั้นมีพลังถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า

หัวหน้าวังอวิ๋นคิดว่าการเอาชนะมู่เฉียนซีได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องยากเลย!

“เงาจันทราหนาวเหน็บ!”

กระบี่ของมู่เฉียนซีออกมาจากฝักแล้ว ตาเฒ่าตรงหน้าผู้นี้รับมือไม่ง่ายเลย!

แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เกิดความพะว้าพะวงแต่อย่างใด ไม่ได้ลงมืออย่างสุดความสามารถ ดังนั้นการจะเอาชนะนางมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน

ปัง! หัวหน้าวังอวิ๋นขวางการโจมตีของมู่เฉียนซีได้อย่างง่ายดาย

“ถึงแม้ว่านี่จะเป็นกระบวนท่าสังหารของหัวหน้าตำหนักเป่ยหาน แต่พลังวิญญาณของประมุขน้อยเฉียนเยี่ยยังคงอ่อนแอมาก!”

ร่างของเขาพุ่งจะเข้าไปจับมู่เฉียนซีอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด แต่มู่เฉียนซีก็หลบหลีกได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

“ทักษะโยวหลัว!”

เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น พื้นดินด้านซ้ายของหัวหน้าวังอวิ๋นถูกโจมตีจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้น

“ไม่มีประโยชน์หรอก! ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า อย่าได้ขัดขืนจะดีกว่านะ!”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าฝันไปเถอะ!”

ปัง ปัง ปัง! ทั้งสองต่อสู้กันไปมา หัวหน้าวังอวิ๋นพบว่าถึงแม้ว่าพลังวิญญาณของประมุขน้อยเฉียนเยี่ยจะอ่อนแอ แต่ความเร็วของเขานั้นรวดเร็วมาก

ฟึ่บ ๆ ๆ! พลันนั้นเข็มยาของมู่เฉียนซีก็พุ่งออกไป

หัวหน้าวังอวิ๋นรีบหลบหลีก จากนั้นอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ก็ตะโกนขึ้นว่า “ท่านพ่อ…ข้า…ท่านพ่อ ข้าไม่ไหวแล้ว รีบจับตัวประมุขน้อยเฉียนเยี่ยเร็วเข้า ข้าต้องการเขา ข้า…”

หัวหน้าวังอวิ๋นกล่าว “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ข้าจะไม่มัวเสียเวลากับเจ้าอีกต่อไปแล้ว”

พลังวิญญาณระดับเก้าอันเข้มข้นพลั่งพรูออกมา พลังอำนาจนี้กดขี่ข่มเหงยิ่งนัก!

และในขณะที่หัวหน้าวังอวิ๋นจะทุ่มเทพลังทั้งหมดลงมือกับมู่เฉียนซีนั้น มู่เฉียนซีก็พุ่งไปอีกทางหนึ่ง กระบี่เล่มนั้นของนางชี้ไปที่อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์

“หัวหน้าวังอวิ๋น ทางที่ดีเจ้าอย่างได้วู่วามไปเลยดีกว่านะ มิเช่นนั้นชีวิตของบุตรสาวเจ้าจะดับลงได้”

“จะ เจ้า…เจ้าน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ข้านึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเจ้าจะใช้เหลียนเอ๋อร์ที่กำลังโดนพิษอยู่มาขู่บังคับข้า”

มู่เฉียนซีรู้ถึงพลังของตัวเองดี และนางเองก็ไม่ได้คิดจะต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับหัวหน้าวังอวิ๋น

อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ที่ในตอนนี้กำลังถูกกระบี่ของมู่เฉียนซีจี้อยู่ จู่ ๆ นางก็โผตัวเข้าหามู่เฉียนซี “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ประมุขน้อย…”

ตอนนี้นางไม่สนใจอันตรายจากกระบี่เล่มนั้นแต่อย่างใดแล้ว นางแค่ต้องการ…

“ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ช่วยข้าเถอะนะ ฮือ ๆ ๆ! เหลียนเอ๋อร์ขอร้องล่ะ เหลียนเอ๋อร์ขอร้อง…”

เมื่อเผชิญหน้ากับตัวประหลาดสีเขียวตรงหน้าผู้นี้ ต่อให้เป็นพวกลามกก็รู้สึกรังเกียจ โดยเฉพาะมู่เฉียนซีที่ไม่ใช่ผู้ชาย

ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาสองเข็มแทงลงบนแขนของอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ ทำให้สองมือของนางที่พยายามจะจับมู่เฉียนซีแข็งทื่ออยู่กลางอากาศ

.

.