ชายหัวโล้นพูดมาเช่นนี้ ก็เป็นแค่เพียงการพูดไปอย่างนั้น ทุกครั้งที่แก๊งรอบรู้ค้นพบแดนปริศนา จากนั้นก็พาเหล่านักยุทธ์จำนวนมากมาเพื่อหาสมบัติ ต่างก็มีนักยุทธ์จำนวนมหาศาลที่ต้องตายอยู่ที่แดนปริศนา

คนตายไปเท่าไรนั้น แก๊งรอบรู้ไม่ได้สนใจ เพราะเมื่อทุกคนขึ้นมาเรือมาแล้ว แก๊งรอบรู้ก็จะได้รับค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง รอจนคนกลุ่มนี้เข้าไปด้านในแล้ว แก๊งรอบรู้ก็ยังจะได้รับสิ่งมีค่าจำนวนมหาศาลอีกครั้ง ไม่จำเป็นที่จะต้องลงมือด้วยตนเองเลย

สำหรับสมบัติบางประเภทที่ค่อนข้างมีค่าในแดนปริศนา แก๊งรอบรู้ก็ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เพราะเหล่านักยุทธ์ที่พวกเขาพามาค้นหาสมบัติ พลังต่างก็ไม่ได้สูงมาก สมบัติและโอกาสที่ค่อนข้างมีราคา ด้วยพลังของคนเหล่านี้ไม่มีทางที่จะเอามาครอบครองได้ ย่อมมีผู้แข็งแกร่งของแก๊งรอบรู้ออกมาจัดการเอง

ดังนั้นจึงพูดได้ว่า ทั้งหมดนี้ต่างก็อยู่ในแผนการของแก๊งรอบรู้

อย่างเช่นครั้งนี้ที่ค้นพบแดนปริศนาเทพมาร เหล่านักยุทธ์จำนวนสองร้อยกว่าคนที่ห้องโดยสารเรือ ต่างก็เป็นแดนเจ้ายุทธจักร แต่ทางด้านแก๊งรอบรู้นั้นกลับมีมหาจักรพรรดิยุทธ์ถึงสามคน

“เอาล่ะ ข้าจะไม่พูดเรื่องไร้สาระแล้ว หวังว่าทุกท่านจะสามารถกลับมาอย่างด้วยสมบัติที่มากมาย!”

ชายหัวโล้นหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็สั่งให้เปิดวิชาห้ามค่ายกลของเรือบิน ณสถานที่อันห่างไกลของเรือบิน สามารถมองเห็นหมอกหนาทึบผืนใหญ่ ในส่วนลึกของหมอก มีบางสิ่งปรากฏขึ้นลาง ๆ

ไม่มีใครสงสัยในการรายงานข้อมูลของแก๊งรอบรู้ ด้วยเหตุนี้นักยุทธ์จำนวนมากบนดาดฟ้าก็ไม่พูดอะไรมาก พลันบินขึ้นไปในอากาศ ด้วยความเร็วสูงสุดพุ่งเข้าไปในม่านหมอกนั้น

หลัวซิวไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด แต่เดินตามหลังฝูงชน รอจนเข้าไปด้านในม่านหมอกแล้ว สิ่งแวดล้อมโดยรอบก็พลันเปลี่ยนไปในทันที เข้าสู่ภายในโซนแดนปริศนาแห่งหนึ่ง

โซนแดนปริศนาแห่งนี้กว้างใหญ่มาก หลัวซิวไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิมนานนัก แต่กลับมุ่งตรงเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของแดนปริศนาแทน ในเวลาเดียวกันก็ปล่อยตัวสำนึกออกไป เหมือนกับเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ ครอบฟ้าคลุมดิน ครอบคลุมบริเวณรัศมีพันเมตร

“เหมืองแก้วเทว?”

หลังจากนั้นไม่นาน หลัวซิวก็ได้ค้นพบสิ่งที่น่าประหลาดใจ ความคิดแล่น มือใหญ่ก็เอื้อมไปยกภูเขาขึ้นจากพื้นดิน เห็นฝุ่นพลิ้วไหว กรวดหินกระเดินกระดอน เหมืองแก้วเทวขนาดย่อมแห่งหนึ่งอยู่ด้านล่างของยอดเขานี้

ตัวสำนึกกวาดออกไป จากการประมาณ เหมืองแก้วเทวขนาดย่อมแห่งนี้ อย่างน้อย ๆ ก็มีแก้วเทวชั้นล่างนับหมื่น เพียงพอสำหรับผู้แข็งแกร่งเทพมารในการฝึกตน

แก้วเทว แฝงไปด้วยพลังงานของกฎดั้งเดิม เป็นทรัพยากรที่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขึ้นไปฝึกตนกันทั่วไป

แก้วเทวก็มีการแบ่งระดับเป็น ชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นสูง และชั้นยอดตามลำดับ

โดยปกติแล้วผู้แข็งแกร่งเทพมารจะฝึกตนโดยใช้แก้วเทวชั้นล่าง แต่หากผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้าใช้แก้วเทวชั้นล่าง ก็แทบจะไม่ได้มีผลลัพธ์ใด ๆ เลย จำเป็นต้องใช้แก้วเทวชั้นกลาง จากนั้นคือผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพ จะใช้แก้วเทวชั้นสูง เป็นไปตามหลักการเช่นนี้

หลัวซิวได้รับแก้วเทวหลายลูกมาจากภายในโซนแดนปริศนาเทพสงครามเอกภพ ก็ไม่ใช่แก้วเทวชั้นล่างทั่วไป แต่เป็นแก้วเทวชั้นกลาง

ผลลัพธ์จากการฝึกตนของแก้วเทวชั้นกลางชิ้นหนึ่ง สามารถเทียบเท่าได้กับแก้วเทวชั้นล่างร้อยร้อยชิ้น ดังนั้นหลัวซิวใช้เพียงแค่สองสามชิ้น ก็ทำให้ผลการฝึกตนยกระดับขึ้นไปถึงแดนบริบูรณ์ของเจ้ายุทธจักรขั้นเก้า

แต่ที่ทำให้หลัวซิวตกใจที่สุดไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ แต่เป็นภายในโซนแดนปริศนาแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีเหมืองแก้วเทวชั้นล่างเช่นนี้?

“แล้วมันจะแปลงตรงไหนกัน? ผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าเปิดโซน พลังเทพส่วนหนึ่งก็จะอยู่ในโซนและแปรเปลี่ยนกลับเป็นสภาพเดิม กลายเป็นแก้วเทวชั้นล่าง”

ภายในหอกยุทธ์มังกรดำมีเสียงของหงเทียนลอยออกมา เขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพในอดีต ความรู้มากมาย

“เจ้าหนุ่มช่างมีโชคจริง ๆ ในนภาแห่งพิภพต่ำสามารถค้นหาแดนปริศนาเทพฟ้าเจอ มีเหมืองแก้วเทวแห่งนี้ ก็สามารถทำให้เจ้ามีผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้แล้ว”