ทันทีที่การโจมตีนี้ตกลงไปก็ทำให้หัวหน้าวังอวิ๋นบาดเจ็บสาหัสทันที!

พรวด! เขากระอักเลือดคำโตออกมา ร่างกายภายในของเขาเริ่มกระอักกระอ่วนมากขึ้น

“มู่เฉียนซี เอายาแก้พิษให้ข้าเดี๋ยวนี้…เจ้าเอายาแก้พิษมาให้ข้าเดี๋ยวนี้…”

มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยัน “อยากได้ยาแก้พิษเหรอ เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีโอกาสนั้นอีกอย่างนั้นเหรอ?”

“ในเมื่อเจ้าไม่ให้ เช่นนั้นข้าก็…”

ดวงตาของหัวหน้าวังอวิ๋นแดงก่ำ เขาพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีด้วยร่างกายของเขาที่กำลังบาดเจ็บสาหัส

แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดผู้หนึ่ง แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมพลังวิญญาณของตัวเองให้คงที่ได้ และมู่เฉียนซีก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเขา

มู่เฉียนซีถ่ายเทพลังวิญญาณเข้าไปในกระบี่มังกรเพลิง ถึงเวลาต้องกำจัดเจ้านี่แล้ว

“บัวแดงพิฆาต!”

บัวอัคคีสีแดงฉานที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้างนี้พุ่งไปที่หัวหน้าวังอวิ๋น!

ไม่ว่าหัวหน้าวังอวิ๋นจะใช้พลังวิญญาณต้านทานเพียงใด แต่พลังวิญญาณจำนวนมากของเขานั้นก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อฟังเขาเลย เขาถูกเปลวไฟห้อมล้อมเอาไว้ พลันนั้นร่างของเขาก็พุ่งลอยออกไปกลางอากาศ

ในขณะที่พุ่งลอยออกไปนั้น ร่างของหัวหน้าวังอวิ๋นก็อันตรธานหายไปแล้ว!

“บัดซบ!”

มู่เฉียนซีรีบไล่ตามไป แต่กลับไม่เจอร่องรอยของหัวหน้าวังอวิ๋นเลยแม้แต่น้อย

ชิงมู่กล่าว “สถานที่เมื่อครู่นั้นมีรอยแยกที่ไปสู่อาณาจักรหยาง คาดว่าเจ้านั่นคงจะถูกส่งออกไปแล้ว”

ด้วยพลังการโจมตีนั้นมีความเป็นไปได้ถึงเก้าในสิบส่วนว่าหัวหน้าวังอวิ๋นอาจไม่รอด แต่ต่อให้มีเหลือเพียงแค่หนึ่งส่วน ตัวตนของนางก็มีโอกาสที่จะถูกเปิดเผยได้

“ต้องรีบหาเจ้าหม้อบ้านั่นให้เจอโดยเร็วที่สุด ถึงจะยืนยันได้ว่าเจ้าหัวหน้าวังอวิ๋นนั่นตายแล้วจริง ๆ”

“ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย…”

ในตอนนี้อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง สติสัมปชัญญะของนางเลอะเลือนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ยินถึงตัวตนที่แท้จริงของมู่เฉียนซี

แต่ถึงกระนั้น มู่เฉียนซีก็ไม่อยากให้เกิดข้อบกพร่องใด ๆ ที่จะทำให้เกิดปัญหาตามมาทีหลังอยู่ดี

มู่เฉียนซีเดินมาข้าง ๆ อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ เตรียมที่จะฆ่าปิดปาก!

อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์เห็นประมุขน้อยเฉียนเยี่ยที่ตนหมายตาเดินเข้ามาหาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ในที่สุดก็สนใจข้าแล้ว ข้า…”

ในตอนนี้เอง ร่างในชุดสีชมพูร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น และเหยียบร่างของอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์เข้าเต็มแรง!

แกร่ก! สันหลังอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ถูกเหยียบลง

อ๊า! อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์กรีดร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด

เซียวเหยามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “นายท่าน ไม่เป็นอะไรใช่ไหม! ข้าน้อยมาช้าไปแล้ว”

มู่เฉียนซีกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะตามหาข้าเจอได้”

“นี่เป็นอาณาเขตของตระกูลเซียวของข้า ข้าน้อยค่อนข้างคุ้นเคย หญิงผู้นี้สติเลอะเลือนไปแล้ว นายท่านจะช่วยนางเหรอ?”

ในขณะที่กล่าวนั้นเขาก็ออกแรงเท้าเหยียบร่างของอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์แรงขึ้น!

อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์เจ็บปวดจนสีหน้าเขียวคล้ำแล้ว

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าทายผิดแล้วล่ะ ข้าจะฆ่าปิดปากนางต่างหาก”

เซียวเหยาหัวเราะขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ข้าน้อยคิดอยู่แล้วเชียว! นายท่านจะไปต้องตาชอบพอคนโง่เขลาเช่นนี้ได้ยังไงกัน เพียงแต่ว่าตอนนี้สตินางเลอะเลือนก็ไปแล้ว การจะฆ่านางมันก็ดูเหมือนจะง่ายเกินไป ข้าน้อยมีที่ที่หนึ่งที่น่าจะเหมาะสมกับนาง”

“ขอเพียงแค่อย่าให้นางมีชีวิตรอดออกไปจากเหวพิษตระกูลเซียวได้ก็พอ เจ้าจัดการเถอะ!”

เซียวเหยากล่าว “นายท่านตามข้ามา!”

ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ!

ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ มู่เฉียนซีก็ได้ยินเสียงงูที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเหน็บขึ้น

เซียวเหยาเดินไปที่ถ้ำที่มืดสนิทที่อยู่ด้านข้าง “นี่คือถ้ำพิษของตระกูลเซียว ให้หญิงสาวผู้นี้เข้าไป หากนางต้องการแก้พิษ เด็ก ๆ ผู้น่ารักข้างล่างเหล่านั้นจะต้องทำให้นางพึงพอใจมากอย่างแน่นอน”

จากนั้นอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ก็ถูกเซียวเหยาโยนลอยขึ้นกลางอากาศ เมื่อเห็นรูม่านตาอันแข็งทื่อและเย็นชาแต่ละคู่ด้านล่างนั้น นางก็แทบจะเป็นลมหมดสติไป

“ไม่ อย่าทำเช่นนี้กับข้า ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย…” อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์กรีดร้องขึ้นด้วยความหวาดกลัว และนี่ก็ทำให้นางได้สติขึ้นมาไม่น้อย

ชายผู้นี้เป็นชายในร่างหญิงอสรพิษจริง ๆ!

เซียวเหยากล่าว “ยังมีหน้ามาขอร้องอ้อนวอนนายท่านของข้าอีก นายท่านของข้าไม่ใช่คนที่อ่อนข้อยอมแพ้ให้กับความงามนะ เจ้าตัดใจเสียเถอะ!”

ทันทีที่เซียวเหยาปล่อยมือ ร่างของอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ก็ร่วงลงไป

อ๊า อ๊า อ๊า! เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจอย่างสุดขีดดังก้องขึ้น แต่ไม่นานก็ถูกเสียงแตกหักเสียงหนึ่งดังกลบไปจนสิ้น

มู่เฉียนซีกล่าว “เซียวเหยา เจ้าคุ้นเคยกับที่นี่มาก! งั้นก็รีบนำทางข้าไปเถอะ! ข้าจะตามหาเสี่ยวไป๋”

หม้อหยินหยางสองขั้วก่อเรื่องใหญ่เช่นนี้ ยาหัวใจโพธิ์ของนางไม่อาจรับมืออยู่ได้

มู่เฉียนซีกล่าว “หลังจากหาเจอแล้วพวกเราจะออกไปจากที่นี่!”

นางไม่อยากได้หม้อบ้านี่จริง ๆ!

หลุนหุยกล่าว “นายท่าน ไม่ได้นะ! นายท่านจะทนเห็นเสี่ยวหยางหยางตกไปอยู่ในกำมือของคนอื่นได้ยังไง?”

“เหตุใดข้าต้องอดทน! ใครอยากได้ก็เอาไปสิ ยังไงข้าก็ไม่อยากได้”

สำหรับหม้อยาที่นิรันดร์สร้างขึ้นมาเหล่านั้น มู่เฉียนซีรู้สึกปวดหัวจริง ๆ

ชิงมู่กล่าว “แต่เพื่อความปลอดภัยของนายท่าน ข้าว่าอย่าให้มันตกไปอยู่ในกำมือของศัตรูจะดีกว่า”

มู่เฉียนซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ที่ชิงมู่พูดมานั้นก็ถูก

ต่อให้ไม่ชอบเพียงใดก็ไม่อาจปล่อยให้ศัตรูเอาไปได้

เซียวเหยาตกใจผงะไป “นายท่าน หาเขาเจอแล้วก็จะออกไปเลยเหรอ เราจะไม่แย่งชิงหม้อหยินหยางสองขั้วแล้วเหรอ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “หาเสี่ยวไป๋ให้เจอก่อน ส่วนเรื่องหม้อบ้านั่นค่อยว่ากันอีกที!”

เซียวเหยากล่าว “ข้าน้อยรับคำสั่ง นายท่านตัดสินใจเช่นไร ข้าน้อยก็จะทำเช่นนั้น”

ในขณะที่เซียวเหยานำทางอยู่นั้น เขาก็ภาวนาต่อบรรพบุรุษไปพร้อมกันว่าขอให้ได้หม้อยานี้มา

“นายท่าน อันที่จริงแล้วคงเป็นเพราะหม้อหยินหยางสองขั้วเพิ่งจะตื่นขึ้นมาก็เลยรู้สึกน่าเบื่อเกินไปหน่อยก็เลยทำเช่นนี้ ต่อไปนายท่านจะเข้าใจว่าหม้อหยินหยางสองขั้วมีประโยชน์อะไร”

มู่เฉียนซีเย้ยหยัน “หึ ๆ ๆ! ไหนเจ้าลองบอกข้ามาซิว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง?”

“ใช้หม้อหยินหยางสองขั้วหลอมยาเพิ่มความสนุกสนาน มันต้องสมบูรณ์แบบแน่นอน ต่อให้ในอนาคตนายท่านจะมีสาวงามถึงสามพันนาง นายท่านก็สามารถทำให้พวกนางหลงใหลนายท่านได้ชนิดที่ว่า…”

มู่เฉียนซีแทบจะเป็นบ้าแล้ว “นี่เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้นะ เจ้าคิดว่าทุกคนจะมีนิสัยเหมือนเจ้านิรันดร์อย่างนั้นเหรอ ข้าอยากจะบีบคอเจ้านั่นให้ตายจริง ๆ”

หากนิรันดร์สามารถปรากฏกายเป็นร่างมนุษย์ได้และมายืนตรงหน้ามู่เฉียนซี คาดว่ามู่เฉียนซีจะต้องลงมือกับเขาแล้วเป็นแน่

“นายท่านระงับโทสะก่อน!”

“นายท่านระงับโทสะก่อน!”

“นายท่านระงับโทสะก่อน!”

ชิงมู่ เซียวเหยาและหลุนหุยรีบขอร้องเจ้านายของพวกเขา

เนื่องจากผลกระทบที่ได้มาจากนิรันดร์ แม้แต่ชิงมู่ผู้ที่จริงจังและปกติที่สุดก็ล้วนแต่รู้สึกว่าเรื่องลามกเป็นเรื่องปกติ

มู่เฉียนซีสูดลมหายใจลึกเข้าปอด พยายามไม่นึกถึงเจ้านั่นก่อน นางจึงกล่าวกับเซียวเหยาว่า “รีบนำทางไปเถอะ!”

ดอกทิวลิปสีขาวบริสุทธิ์บานสะพรั่งทั่วทั้งสวนดอกไม้ หลังจากที่มู่เฉียนซีหายตัวไป กู้ไป๋อีก็อยากจะตามหานางให้เจอโดยเร็วที่สุด

ทว่า ในพื้นที่นี้ดูเหมือนจะถูกควบคุมเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าเขาจะเดินไปเช่นไรก็ไม่อาจเดินออกไปได้

ทันใดนั้นเอง ภายในร่างกายของเขาก็เกิดความรู้สึกคุ้นเคยขึ้น มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับที่โดนพิษในครั้งก่อน

เนื่องจากซีเอ๋อร์หลอมยาลูกกลอนให้เขาแล้ว เขาไม่มีทางโดนพิษได้ แต่ตอนนี้กลับมีความคิดเช่นนั้นแล้ว

“อือ…” ในตอนนี้เอง มีร่างร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากพุ่มดอกไม้นั่น เส้นผมสีดำขลับสยายยาวลงมา ดูออกว่าเป็นหญิงสาวผู้หนึ่ง

กู้ไป๋อีเดินไป แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวผู้นั้นกู้ไป๋อีก็หยุดก้าวเท้าลง และหันหลังจะเดินกลับทันที

ใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำค้างแข็งของอวี้ปิงชิงนั้นในตอนนี้พลันเปลี่ยนไปราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งก็มิปาน นางอุทานขึ้นว่า “ท่านหัวหน้าตำหนัก…”

ในขณะที่นางกำลังเจ็บปวดทรมานอยู่นั้น นึกไม่ถึงเลยว่าท่านหัวหน้าตำหนักจะมา นี่ต้องเป็นของขวัญจากสวรรค์แน่นอน!

อวี้ปิงชิงรีบตามกู้ไป๋อีมาอย่างรวดเร็ว ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความชื่นชม หลงใหลขณะมองไปที่กู้ไป๋อี “ท่านหัวหน้าตำหนัก ชิงเอ๋อร์ไม่ไหวแล้ว!”

.