ตอนที่ 1305 จุดเด่นแห่งหยาง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ไฟในร่างของเขากำลังท่วมท้นราวกับไฟลามทุ่ง กู้ไป๋อีนึกถึงยาลูกกลอนที่มู่เฉียนซีให้ไว้ เขารีบกินมันลงไปทันที และในที่สุดก็สามารถควบคุมตัวเองได้

กู้ไป๋อีมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาพลางกล่าว “ไสหัวไปให้พ้น!”

อวี้ปิงชิงตกใจผงะไป นางนึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว กู้ไป๋อียังสามารถคงความเย็นชาเอาไว้ได้

“ท่านหัวหน้าตำหนัก…”

อวี้ปิงชิงรีบตามไป ในตอนนี้กลิ่นอายอันคุ้นเคยนั้นทำให้นางไม่กล้าเข้าไปใกล้กู้ไป๋อีแล้ว

ตูม!

สวนดอกทิวลิปขาวบริสุทธิ์แห่งนี้ดูเหมือนจะถูกขังอยู่ในวงกลมหนึ่งก็มิปาน กลิ่นอายกระบี่ของกู้ไป๋อีก็ไม่สามารถทำลายที่นี่เพื่อออกไปได้

เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ที่นี่ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก! ไม่รู้ว่าตอนนี้ซีเอ๋อร์จะเป็นยังไงบ้างแล้ว

กลิ่นอายของกู้ไป๋อีนั้นอันตรายมาก ไม่ว่าอวี้ปิงชิงคิดอยากจะเข้าใกล้กู้ไป๋อีมากเท่าไหร่ ตอนนี้นางก็ทำได้เพียงแค่มองเขาอยู่ไกล ๆ เท่านั้น

นางกำหมัดแน่นจนฝ่ามือเกิดรอยเลือด แต่นางจำเป็นต้องอดทน!

ตราบใดที่นางอดทนได้ รอให้หัวหน้าตำหนักเป็นฝ่ายอดทนไม่ไหวแล้ว นางก็จะเป็นฝ่ายชนะ!

จนสุดท้ายคนที่พ่ายแพ้นั้นก็คือตัวของอวี้ปิงชิงเอง นางทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

“ท่านหัวหน้าตำหนัก…” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

กระบี่เฉียนหานพุ่งออกไปอย่างเย็นชา อวี้ปิงชิงรีบหลบหลีก ชั่วครู่หนึ่งเลือดสีแดงสดก็ไหลย้อมชุดกระโปรงสีขาวราวหิมะนั้นของนาง

“หากท่านฆ่าข้า…” อวี้ปิงชิงมองกู้ไป๋อีอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็น

และในตอนนี้เองกู้ไป๋อีก็พบว่าฤทธิ์ของยาหัวใจโพธิ์จะยับยั้งเอาไว้ไม่อยู่แล้ว โชคดีที่มู่เฉียนซีให้เขามามากพอ เขาจึงกินเข้าไปอีกหลายเม็ด

หากสามารถป้องกันได้ หญิงสาวตรงหน้าไม่มีทางรอดแน่นอน

กู้ไป๋อีตัดสินใจจะลงมือฆ่านาง แต่จู่ ๆ ร่างสี่ร่างก็พรวดพราดเข้ามา และเมื่อเห็นกู้ไป๋อีจะลงมือฆ่าอวี้ปิงชิง พวกเขาก็ตะโกนขึ้นว่า “ท่านหัวหน้าตำหนัก อย่า…”

“ท่านหัวหน้าตำหนัก เหตุใดถึงต้องลงไม้ลงมือฆ่าชิงเอ๋อร์เช่นนี้ด้วย!”

นายน้อยทั้งสี่แห่งตำหนักเป่ยหานโจมตีเข้ามาในนี้เพื่อช่วยหญิงงาม

ในอีกสถานที่หนึ่ง เซียวเหยากล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “หม้อหยินหยางสองขั้วมีจุดเด่นอยู่สองจุดนั่นก็คือจุดเด่นแห่งหยิน และจุดเด่นแห่งหยาง ตราบใดที่เราหาจุดเด่นแห่งหยินเจอเราก็สามารถออกไปได้”

จู่ ๆ หลุนหุยก็ตะโกนขึ้นว่า “ข้านึกออกแล้ว เสี่ยวหยางชอบเอาชายผู้แข็งแกร่งที่สุดไว้ในจุดเด่นแห่งหยาง หากนายท่านต้องการหาตัวท่านไป๋ ก็ต้องไปหาที่จุดเด่นแห่งหยาง”

ชิงมู่กล่าวเสียงขรึม “นายท่าน ต้องรีบแล้ว! จุดเด่นแห่งหยางไม่ใช่ที่ที่ดีสำหรับท่านไป๋อีเลย”

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ทำไมล่ะ?”

“จุดเด่นแห่งหยางเป็นสถานที่ที่ฤทธิ์ยาแรงที่สุด เกรงว่ายาหัวใจโพธิ์ก็คงจะเอาไม่อยู่เป็นแน่”

“เร็วเข้า! รีบหาจุดเด่นแห่งหยินให้เจอให้เร็วที่สุด” มู่เฉียนซีกล่าวกับเซียวเหยา

“ขอรับ!”

เซียวเหยานำทาง มู่เฉียนซีและพวกก็เดินเข้ามาในที่ที่เต็มไปด้วยดอกมันดาลาสีดำขลับ

สถานที่นี้เป็นสถานที่ปิด และในตอนนี้เอง จู่ ๆ หลุนหุยก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นว่า “นายท่าน รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”

“ที่นี่คือจุดเด่นแห่งหยินอย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่! ที่นี่คือจุดเด่นแห่งหยิน แต่ฤทธิ์ยาในที่แห่งนี้ สำหรับสตรีแล้วไม่สามารถต้านทานได้เลย ฮือ ๆ ๆ! นายท่าน ตีข้าให้ตายเถอะ! ข้าหลับใหลไปนานมาก ความจำข้าถึงได้แย่เช่นนี้”

ชิงมู่กล่าว “นายท่าน ข้าก็มีส่วนผิด!”

อันที่จริงแล้วชิงมู่ผู้ที่มีสติและรอบรู้มาโดยตลอดก็ไม่ค่อยเข้าใจในหม้อหยินหยางสองขั้วมากนัก ดังนั้นจึงทำให้นายท่านของตัวเองประสบกับปัญหาเช่นนี้ขึ้น

และตอนนี้ดูเหมือนว่ามู่เฉียนซีจะรู้สึกได้แล้วว่าฤทธิ์ยานั้นได้แทรกซึมเข้ามาในทุกรูขุมขน แม้ว่านางจะเป็นนักปรุงยาก็ไม่อาจต้านทานได้

เซียวเหยาเองก็ตกใจผงะไปเช่นกัน จุดเด่นแห่งหยินสำหรับผู้ชายแล้วมันมีผลกระทบไม่มากนัก นายท่านสามารถต้านทานสภาพภายนอกได้ แต่เหตุใด…

“นายท่าน นายท่านเป็นอะไรไป?”

มู่เฉียนซีกล่าว “รีบหาทางเถอะ…”

หลังจากพบเสี่ยวไป๋ นางจะทำลายอาณาจักรบ้าบอนี่ซะ!

ในตอนนี้มู่เฉียนซีโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก หลุนหุยเองก็รู้สึกได้แล้ว

หากนายท่านเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ เกรงว่าเสี่ยวหยางหยางต้องถูกนายท่านตีจนกลายเป็นเศษเหล็กเป็นแน่

เจ้านี่ชอบเล่นจนไม่รู้เวลาไม่รู้สถานที่ และไม่รู้เอาซะเลยว่ากำลังเล่นกับใคร นายท่านมาแล้ว นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่ายังจะเล่นอยู่!

ดอกทิวลิปขาวบริสุทธิ์อย่างไร้ที่ตินั้นส่งกลิ่นหอมหวนออกมา เมื่อเห็นอวี้ปิงชิงที่กำลังแปดเปื้อนไปด้วยเลือดนั้นเข้า ดวงตาของชายทั้งสี่ที่พรวดพราดเข้ามาด้วยความโกรธเกรี้ยวก็ลุกเป็นไฟขึ้น

พวกเขาใช้ร่างกายของตนเองขวางตรงหน้าอวี้ปิงชิง ดวงตามองไปที่กู้ไป๋อีและกล่าวว่า “ท่านหัวหน้าตำหนัก ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเราเคารพท่านมาโดยตลอด! นึกไม่ถึงเลยว่าท่านลงมือจะฆ่าชิงเอ๋อร์ หญิงที่แสนอ่อนแอผู้นี้”

อวี้ปิงชิงกล่าว “ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง ช่วยข้าจับตัวท่านหัวหน้าตำหนักหน่อย ข้า ข้าอึดอัดมาก ข้าต้องการ…”

จับตัวท่านหัวหน้าตำหนัก? ด้วยพลังความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้วไม่มีทางทำได้แน่นอน!

“ท่านหัวหน้าตำหนัก ชิงเอ๋อร์ชื่นชมท่านมานานมากแล้ว ท่านจะไม่ให้โอกาสชิงเอ๋อร์สักครั้งเลยเหรอ?”

กู้ไป๋อีกล่าว “หากเจ้าฆ่าตัวตายในตอนนี้ มันจะทำให้เจ้าตายอย่างมีความสุขกว่า”

ความเย็นชาอย่างไร้ความปรานีของกู้ไป๋อีนั้นทำให้หัวใจของอวี้ปิงชิงแตกสลาย นางขอร้องอ้อนวอนว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าขอร้องพวกท่านแล้ว ช่วยข้าด้วย หากไม่มีท่านหัวหน้าตำหนัก ข้าต้องตายแน่…”

พวกเขาลังเลไม่กล้าลงมือ!

ท่านหัวหน้าตำหนักเป็นใคร ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งดินแดนสี่ทิศเชียวนะ เพียงแค่เขาขยับมือเล็กน้อยก็สามารถฆ่าพวกเขาให้ตายได้อย่างง่ายดาย!

และการที่พวกเขาจะลงมือกับท่านหัวหน้าตำหนัก มันก็เป็นการรนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“นี่พวกเจ้าสี่คนยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า! ช่างขี้ขลาดเสียจริง!” น้ำเสียงอันชั่วร้ายเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นในหัวของพวกเขา

พวกเขาตกใจผงะไป “ใคร?”

“ชู่ว! ไม่ต้องพูดออกไป! ใช้พลังจิตสื่อสารกับข้าก็พอ!”

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”

“ข้าเป็นใครมันไม่สำคัญ สิ่งสำคัญก็คือ ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าเอาชนะชายผู้นี้ได้! ข้าเกลียดนักชายที่วางมาดขรึมเช่นนี้ หญิงสาวผู้งดงามเสนอตัวให้ถึงที่เช่นนี้แล้วยังปฏิเสธ เปลืองแรงข้าจริง ๆ!”

“แต่เช่นนี้มันก็ดีเหมือนกัน ฮี่ ๆ ๆ!”

นายน้อยใหญ่และพวกกล่าวด้วยความสงสัยว่า “เจ้าช่วยพวกข้าเอาชนะท่านหัวหน้าตำหนักได้จริง ๆ เหรอ?”

“ได้แน่นอน หากเจ้าไม่เชื่อข้า ก็รอดูหญิงสาวผู้นั้นตายไปก็แล้วกัน และคาดว่าพวกเจ้าเองก็ไม่อาจมีชีวิตรอดด้วยเหมือนกัน”

นายน้อยใหญ่และพวกรู้สึกว่าที่เขาพูดมานั้นก็ถูก พวกเขาสี่คนมองตากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ตัดสินใจแล้ว!

ลงมือ!

หากสามารถเอาชนะท่านหัวหน้าตำหนักได้ มันต้องเป็นความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อมากแน่นอน

กู้ไป๋อีเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าสี่คนนี้จะกล้าลงมือต่อสู้กับเขา พวกเขาแยกกันออกเป็นสี่จุดสี่ตำแหน่งและโจมตีไปที่กู้ไป๋อี

กระบี่เฉียนหานของกู้ไป๋อีออกจากฝัก เตรียมจะกำจัดพวกรนหาที่ตายทั้งสี่คนนี้ไปในคราเดียว แต่ในขณะที่จะลงมือนั้น จู่ ๆ เขาก็เห็นร่างอันคุ้นเคยร่างหนึ่งเดินเข้ามาหา

พลันนั้นในสายตาของเขาก็ไม่เห็นคนทั้งสี่นั้นอีกแล้ว กู้ไป๋อีตกใจยิ่งนัก “ซีเอ๋อร์!”

เขาทำได้เพียงแค่เก็บกระบี่ กลิ่นอายกระบี่ย้อนคืนกลับมาทำให้เขาทุกข์ทรมานมาก

และเมื่อสี่คนนั้นเห็นช่องโหว่นี้เข้า ก็รีบโจมตีไปที่กู้ไป๋อีทันที!

ฉึก!

การโจมตีทั้งสี่กระทบลงบนร่างของกู้ไป๋อี กู้ไป๋อีถอยหลังไปหลายก้าว และชุดของเขาก็ย้อมไปด้วยเลือดพร้อมกับเกิดรูหลายรู รวมถึงแผลอีกนับไม่ถ้วน

หม้อหยินหยางสองขั้วไม่ได้โจมตี แต่ในอาณาจักรของมัน ง่ายมากที่จะสร้างภาพลวงตาให้รบกวนจิตใจได้

และนี่คือเหตุผลที่ว่าเพราะเหตุใดมันถึงได้มั่นใจมากว่าจะสามารถช่วยคนไร้ประโยชน์สี่คนนี้ให้เอาชนะกู้ไป๋อีได้

อวี้ปิงชิงตกใจผงะไป “เมื่อครู่ท่านหัวหน้าตำหนักเห็นใครกัน?”

“ซีเอ๋อร์ ซีเอ๋อร์คือใคร เหตุใดถึงสามารถทำให้ท่านหัวหน้าตำหนักผู้เย็นชาไร้ความปรานีมาโดยตลอดผู้นี้ยั้งมือได้”

.

.