เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1706

หลิงเหยาพลิกฝ่ามือ กำไลกับขวดที่ลู่ฝานให้เธอปรากฏในมือ เธอกำของสองอย่างเอาไว้แน่นแล้วกัดฟันพูดว่า “ลู่ฝาน ฉันจะกลับไปรอนายที่ประเทศอู่อาน!”

พูดจบ หลิงเหยาพลิกฝ่ามือเก็บของสองอย่างไว้

ขณะนั้นหลิงเหยาเห็นผู้ฝึกชี่ปรากฏตัวด้านหน้า

คนพวกนี้จำนวนเป็นร้อย เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ฝึกชี่ของหลายตระกูลรวมตัวกัน

หลิงเหยารีบใส่พลังเข้าไปในเรือแล้วเคลื่อนตัวหนีไป

“เจอหลิงเหยา ไล่โจมตีไหม”

“ส่งทีมเล็กไปก็พอ ทีมใหญ่มุ่งหน้าไปต่อ!”

หลังจากเรือของหลิงเหยากะพริบอีกหลายครั้งและปรากฏออกมา เมื่อหันไปมองด้านหลัง หลิงเหยาพึมพำว่า “หาฉันไม่เจอหรือไม่อยากไล่โจมตีฉันกันแน่”

หลิงเหยาแอบกัดฟัน ทันใดนั้นผู้ฝึกชี่สองสามคนปรากฏตัวด้านหลัง มองหลิงเหยาแล้วตะโกนเสียงดัง “เธอยอมให้จับโดยไม่ต้องต่อสู้เถอะ!”

หลิงเหยามองพวกเขา ความอาฆาตพลุ่งพล่านนัยน์ตา

พลังแห่งทองพุ่งขึ้นมา หลิงเหยาแผดเสียงดังว่า “พวกนายรนหาที่ตาย!”

……

ลู่ฝานไม่รู้ว่าตัวเองหนีมานานเท่าไรแล้ว ด้านหน้ายังคงเป็นอากาศเวิ้งว้างกว้างใหญ่

เหล่าคนที่ไล่ตามใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ลู่ฝานเพิ่งสวนทางกับผู้ฝึกชี่กลุ่มหนึ่ง

“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ รีบหนีเถอะ มีคนตามมาด้านหลังอีกแล้ว!”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรตะโกนเสียงดัง

ลู่ฝานจะเดินทางต่อ แต่พบว่าเรือหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ

คราวนี้สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเขาคือองครักษ์เทพจุติอีกแล้ว

เป็นชุดคลุมยาวเหมือนกัน แต่คนที่เป็นหัวหน้ามีเสื้อคลุมมังกรดำ พลังฟ้าดินลอยอยู่บนตัว ยืนยันว่าวิทยายุทธของคนคนนี้ถึงแดนฟ้าดินแล้ว

“อริยปราชญ์ เป็นอริยปราชญ์อีกแล้ว!”

ลู่ฝานถอนหายใจ ประเทศตันเซิ่งไม่ขาดแคลนยอดฝีมือจริงๆ พูดว่าอริยปราชญ์เยอะก็ไม่เยอะ พูดว่าน้อยก็ไม่น้อย

องครักษ์เทพจุติกลุ่มนี้ล้อมลู่ฝานเอาไว้ เขตวิถีปกคลุมอากาศเวิ้งว้าง ปิดกั้นทางที่ลู่ฝานจะหนีได้เอาไว้ทั้งหมด

ลู่ฝานจับกระบี่หนักไร้คมแน่น สัมผัสปราณชี่ของตัวเองที่เพิ่งฟื้นฟูกลับมานิดหน่อย เขาฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันจะดูสิว่าวันนี้ฉันต้องสู้กับอริยปราชญ์กี่คน!”

เพิ่งพูดจบ ลู่ฝานเห็นอากาศเวิ้งว้างที่อยู่ไม่ไกลมีแสงกะพริบอีกแล้ว จากนั้นผู้ฝึกชี่หลายร้อยคนปรากฏตัวออกมาพร้อมกัน

มีคนสวมชุดทุกสี ล้อมลู่ฝานเอาไว้อีกครั้ง

เพียงแวบเดียว ลู่ฝานเห็นคนที่แสนคุ้นตาท่ามกลางกลุ่มคน

“สุ่ยหมิงคง สุ่ยโม่หราน พวกนายก็มาด้วยเหรอ!”

สุ่ยหมิงคงส่งเสียงหึอย่างเย็นชา ส่วนสุ่ยโม่หรานไม่พูดอะไรสักคำ!

ลู่ฝานกวาดตามองรอบๆ ผู้ฝึกชี่พวกนี้ แต่ละคนมีพละกำลังอย่างน้อยระดับปรมาจารย์บำเพ็ญชี่ชั้นสุดยอด ยอดฝีมือระดับเซียนบำเพ็ญชี่เหมือนสุ่ยหมิงคงก็ไม่น้อยเหมือนกัน อีกทั้งคนที่ยืนอยู่หน้าสุ่ยหมิงคงยังมีผู้อาวุโสอีกคน เห็นได้ชัดว่าเป็นอริยปราชญ์

ลู่ฝานพูดเสียงเบา “ไอ้เก้า ดูเหมือนผ่านวันนี้ไป แกต้องหาเจ้านายใหม่แล้วล่ะ!”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เจ้านายคือคนที่ฉลาดหลักแหลมและห้าวหาญที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา ประโยคนี้ไม่ได้พูดยอนะ ถ้าวันนี้เจ้านายตายที่นี่จริงๆ ฉันจะสืบทอดความปรารถนาสุดท้ายของเจ้านายต่อไป”

ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ความปรารถนาสุดท้ายเหรอ ฉันไม่ต้องการ”

เพิ่งพูดจบ อากาศเวิ้งว้างรอบตัวมีผู้ฝึกชี่ปรากฏตัวออกมาอีกแล้ว

กลุ่มคนมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนมากมายล้อมลู่ฝานเอาไว้เป็นชั้นๆ

ลู่ฝานมองพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัว

จู่ๆ สุ่ยโม่หรานตะโกนเสียงดัง “ลู่ฝาน นายจนมุมแล้ว วางกระบี่แล้วยอมจำนนเถอะ!”

ลู่ฝานเงยหน้าหัวเราะร่า “จะสู้ก็เข้ามาสิ ลูกผู้ชายต้องเป็นเช่นนี้ ถึงตายไปมีอะไรให้ต้องเสียดายอีก”

กระบี่หนักไร้คมตั้งตรงอยู่ด้านหน้า ลู่ฝานตวาดออกมาว่า “ฉันคือลู่ฝานนักกระบี่แห่งตงหวา มือซ้ายมีเจดีย์เก้ามังกร มือขวามีกระบี่หนักไร้คม พร้อมต่อสู้ทั่วใต้หล้า!”