บทที่ 1090 อันตรายรอบด้าน

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1090 อันตรายรอบด้าน

ในตอนนั้น คนคนนั้นได้เปิดเผยออกมาในระหว่างการสอบสวน อาวุธที่พวกเขาลักลอบขนอยู่พวกเขาทำการประดิษฐ์เอง และวัตถุดิบที่ใช้ในการประดิษฐ์ก็คือแร่โลหะที่ไม่ใช่เหล็กที่มาจากในประเทศ

แร่โลหะที่ไม่ใช่เหล็กที่มีเพียงแค่โรงหลอมของตระกูลเทวเทพเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติขุดได้

แล้วพวกเขาได้แร่หินนั้นมาจากที่ไหนกัน?

ม็อกโกรู้สึกได้ถึงความปิดปกติ

จากนั้น เขาจึงรีบนำเรื่องนี้บอกกับคุณปู่ไชยันต์ที่อยู่ไกลถึงเมืองหลวงทันที

ไม่นานนัก หลังจากไชยันต์ตามสืบดูด้วยความตกใจและโมโห ก็พบว่าเกิดปัญหาผิดปกติขึ้นที่โรงหลอมของตระกูลเทวเทพจริงๆ มีคนแอบอ้างชื่อของตระกูลเทวเทพไปขุดแร่หิน อีกทั้งยังสมรู้ร่วมคิดกับพ่อค้าอาวุธเหล่านี้

และในประเด็นนี้ อันที่จริงแสนรักได้ตามสืบดูอยู่นานแล้ว

แต่ในเวลานั้น เขายังตามสืบได้ไม่ถึงขั้นนี้

ไชยันต์ได้รู้ความจริงแล้ว ภายใต้ความโกรธนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกี่ยวข้องกับทางแสนรัก หลังจากที่เขาหาเหตุผลให้เขาหยุดในตอนที่เกิดเรื่องแล้ว ก็ปกปิดเขาและให้ม็อกโกตามสืบเรื่องนี้ต่อ

แน่นอนว่าเป้าหมายก็คือ ต้องการจับพวกพ่อค้าอาวุธเหล่านั้นให้ตกอยู่ในเงื้อมมือของตระกูลเทวเทพพวกเขาให้ได้ก่อนที่ฝ่ายศัตรูจะจู่โจม

แต่พวกเขาก็คาดคิดไม่ถึงเลยว่า คนเหล่านี้กลับตกอยู่ในมือของประเทศ Z เสียก่อนแล้ว

อีกทั้งก็ไม่สามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาได้!

หลังจากที่ม็อกโกมาถึงประเทศ Z แล้ว สิ่งแรกที่ทำคือติดต่อกับ รองผู้นำกองทัพ

“ฮัลโหล? ผมคือม็อกโก ตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหน?”

“หา?” กองทัพ ได้ยินเสียงของเขา มีความประหลาดใจเป็นอย่างมาก “พลตรี คุณ….คุณกลับมาแล้ว?”

“เหลวไหล! ผมถามคุณ พวกพ่อค้าอาวุธเหล่านั้นล่ะ? ตอนนี้อยู่ที่ไหน? ทำไมถึงส่งข้ามแดนกลับมาไม่ได้? ก่อนหน้านี้พวกหลักฐานที่ผมส่งมอบให้กับคุณ หรือว่ามันยังไม่พอที่จะส่งตัวพวกเขากลับมาอย่างนั้นเหรอ?”

ม็อกโกก็โมโหเดือดทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ เขาถามไปตรงๆ ผ่านทางสายโทรศัพท์

กองทัพ ได้เพียงแค่อธิบายว่า : “ผมเองก็ไม่ทราบครับ หลักฐานที่คุณให้ผม ผมก็ส่งมอบให้ไปหมดแล้ว แต่ทางทหารที่นี่เขาไม่ยอมรับเลย พวกเขายังเตรียมที่จะทำการย้ายคนเหล่านี้อีกด้วย”

“ไร้สาระสิ้นดี!”

เมื่อม็อกโกได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

ย้าย?

ย้ายไปที่ไหนกัน? ถ้าหากย้ายแล้ว ตระกูลเทวเทพพวกเขายังสามารถตามหาคนเหล่านี้เจอไหม?

นิ้วมือที่ม็อกโกจับพวงมาลัยรถอยู่ก็กำแน่นจนเห็นเส้นเอ็นสีเขียวปูดขึ้น

เขาไม่พูดอะไรต่อแล้ว รีบขับรถและเหยียบคันเร่งสุดแรงพุ่งตรงดิ่งไปหานายตำรวจในประเทศคนนี้

เดิมทีคิดว่าหลังจากมาถึงที่นี่แล้ว เขาต้องการจะเจรจาโดยตรงกับผู้รับผิดชอบของทางนั้น

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากที่เขามาถึงที่นี่แล้ว เขากลับมองเห็นพวกพ่อค้าอาวุธสองสามคนนั้นเข้าพอดี ที่กำลังถูกควบคุมออกมาจากด้านในแล้วส่งตัวเข้าไปในรถเรือนจำคันหนึ่งที่มีการคุ้มกันหนาแน่น

นี่พวกเขาจะถูกพาไปที่ไหน?

ม็อกโกรีบหยุดรถลงโดยทันที และเฝ้าดูอยู่ด้านข้าง

“ส่งพวกเขาเข้าไปในเรือนจำหมายเลข 1”

“ครับ ผู้นำ!”

ทหารผู้ควบคุมได้รับคำสั่ง

ไม่นานนัก พวกเขาก็พาพ่อค้าอาวุธเหล่านี้ไป

ม็อกโกขมวดคิ้ว แต่ไม่ขยับ

ในเมื่อพวกพ่อค้าอาวุธเหล่านี้เป็นนักโทษของพวกเขา งั้นตอนนี้ส่งพวกเขาเข้าไปในเรือนจำ ถือเป็นเรื่องที่ปกติมากเรื่องหนึ่ง

ม็อกโกเตรียมจะลงจากรถ เพื่อเข้าไปหาคนเจรจาในสถานีตำรวจต่อ

แต่ในเวลานี้ ทันใดนั้น หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นรถยนต์สีดำคันหนึ่งขับออกมาจากมุมมุมหนึ่ง และขับตามไปหลังจากที่รถเรือนจำขับออกไปแล้ว

ม็อกโก “…….”

หลังจากนั้นอีกหนึ่งวินาที เขาก็ได้โทรศัพท์หา กองทัพ อีกครั้งเรียบร้อยแล้ว

“คุณส่งคนสะกดรอยตามตำรวจ?”

“เปล่าครับ?” กองทัพ ปฏิเสธทันทีที่เอ่ยปากพูด “ผมอยู่ฐานที่ลับ ไม่ได้ไปไหนเลย ทำไมเหรอครับพลตรี? คุณเห็นคนของผมแล้วเหรอครับ?”

“……”

ม็อกโกไม่มีเสียงแล้ว

สายตาของเขาก็หรี่ลงมาแล้วจ้องมองไปยังรถยนต์สีดำคันนั้นราวกับตานกอินทรี

แต่ไม่ทันการณ์แล้ว ในไม่กี่วินาทีที่เขาเพ่งมองนั้น รถยนต์สีดำคันนั้นก็ได้มีคนชะโงกหัวออกมาจากด้านในเรียบร้อยแล้ว จากนั้น หยิบปืนกลกระบอกหนึ่งออกมากราดยิงไปทางรถเรือนจำคันนั้นต่อหน้าต่อตาของเขา

“ปังปังปัง—-“

นั่นคือฉากที่ม็อกโกไม่เคยเห็นมาก่อน

เพราะว่า การกระทำนี้โง่เกินไป

และก็เพราะว่า เหมือนกำลังแสดงละครอยู่ ถึงขั้นที่ว่าหลังจากที่เขานั่งดูอยู่ในรถตัวเองราวสี่ถึงห้าวินาที ยังเข้าใจว่ากำลังดูกองละครไหนถ่ายละครกันอยู่ จากนั้นจึงได้เกิดฉากที่น่าตลกขบขันมากจนแทบร้องไห้

นี่มันบนท้องถนนเลยนะ

อีกทั้งยังเพิ่งออกจากประตูของตำรวจ

แต่ความเป็นจริงก็คือ ในท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันขึ้นมา และในการต่อสู้นี้ รถยนต์สีดำที่วิ่งตามหลังอยู่ก็เสียหลักไปอย่างรวดเร็ว

“ปัง—-!“

หลังจากเกิดพวยเพลิงขึ้นสู่ฟ้าแล้ว!

รถยนต์สีดำคันนั้นถูกระเบิดจนพลิกคว่ำ คนที่ชะโงกหัวออกมาก็ตกออกมาจากข้างใน

แค่มองแว๊บเดียวม็อกโกก็เห็นเครื่องแบบที่คุ้นเคยนั้นบนตัวของเขา ยังมีตราสีทองบนหมวกด้วย ตอนที่เขาหล่นร่วงออกมาคือแทบจะหล่นอยู่ในสายตาเขาทันที

นี่มันเป็นเรื่องไร้สาระเหลวไหลสิ้นดี!

ม็อกโกหดรู้ม่านตาอย่างจัง ในวินาทีที่สีเลือดเหือดหายไปอย่างรวดเร็วจากใบหน้าของเขา เขาโกรธถึงขีดสุด แม้แต่กำปั้นเองก็กำลังสั่นเทาอยู่เล็กน้อย

เพราะว่า หน่วยเอสเอสของเดอะวิวซีเท่านั้นที่จะสวมใส่เสื้อผ้ากับหมวกอย่างนั้น

เมื่อเห็นตำรวจจากบนรถเรือนจำลงมาเรียบร้อยแล้ว กำลังจะเดินถึงด้านข้างของรถสีดำคันนั้น เพื่อพาคนที่ร่วงตกมานั้นไป

ม็อกโกหัวเราะเยาะ ทันใดนั้น พอเหยียบคันเร่งใต้เท้าของเขา และหลังจากที่รถซึ่งอยู่ด้านล่างของเขาก็ขับพุ่งออกไปเร็วราวกับจรวด เขาขับรถไปตรงด้านหน้าของรถสีดำคันนั้น และวิ่งทับร่างของชายคนนั้นไป

“แกร๊ก!”

นั่นคือเสียงดังของกระดูกที่แตกและบดขยี้ออกเป็นผุยผง