มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1085

ภายในช่องจิตเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณดั้งเดิมของผู้แข็งแกร่งเทพมาร เป็นการกลายร่างของเทพจิต สำหรับจิตภัณฑ์แล้วถือเป็นยาบำรุงชั้นดี

สำหรับหลัวซิวเองกลับไม่ได้ต้องการช่องจิตจำนวนมากเพื่อยกระดับเทพจิตตัวสำนึกของตนเอง ถึงอย่างไรการอาศัยพลังจากภายนอกเพื่อยกระดับตัวสำนึก จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ฐานรากไม่มั่นคง

อาจารย์ท่านหนึ่งถูกฆ่า ทำให้เทพมารคนอื่น ๆ ต่างพากันคำรามออกมาด้วยความโกรธ อาวุธเทพมารหลายชิ้นลอยออกมา พลังสนั่นฟ้าสะเทือนแผ่นดิน กดหลัวซิวในจมลง

“ปัง!”

อาวุธเทพมารชิ้นหนึ่งถูกกระตุ้นให้โจมตีลงมา บดขยี้อนัตตาที่หลัวซิวเคยยืนอยู่จนแหลกสลาย แต่เขากลับหมุนเวียนโซนกฎเพื่อถอยออกมาก่อนแล้ว จึงไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายเส้นผม

ถึงอย่างไรภายใต้ค่ายใหญ่ค่ายดาราแปดด้าน อนัตตาถูกครึงเอาไว้ โซนพลังแห่งกฎที่หลัวซิวสามารถหมุนเวียนได้ก็มีขีดจำกัด เพราะฉะนั้นเมื่อปรากฏตัวขึ้น ก็จะถูกตรึงไว้อีกครั้งในทันที อาวุธเทพมารทั้งเจ็ดชิ้นเบียดกันเข้ามาโจมตีเขา

หลัวซิวยกมือขึ้นอัญเชิญไฟเทวสว่าง แสงศักดิ์สิทธิ์สีทองแผ่กระจายเป็นวงกว้าง กลายเป็นม่านคุ้มกัน

แต่ว่าไฟเทวนี้ในตอนที่จัดการกับกระบี่หักของเทพฟ้าก็ได้รับความเสียหายอยู่ก่อนแล้ว ในเวลานี้ภายใต้การโจมตีของอาวุธเทพมารทั้งเจ็ดชิ้น ก็พลันไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ เสียงกร๊อบดังขึ้นมา และแตกกระจายคามือของหลัวซิว เปลวเพลิงในไส้ตะเกียง ก็พลันดับลงในทันที

“เกราะเทพ!”

หลัวซิวตะโกน เกราะเทพเวหากาลปรากฏขึ้นมา เปลวไฟสีเทาสูงราวหนึ่งฟุต โหมกระหน่ำอยู่รอบตัวเขา บดบังประกายแสงของเกราะเทพ

เปลวไฟสีเทาบนตัวเขา นั่นคือกฎสองระดับความเป็นตายผสานหนึ่ง กำเนิดเป็นพลังเทพดั้งเดิม

“ปัง!”

วินาทีนี้เอง พลังรบของหลัวซิวก็พุ่งทะยานสู่ระดับเทพมารขั้นสูง ปล่อยหมัดออกไปโจมตีอาวุธเทพมารชิ้นหนึ่งกระเด็น หอกยุทธ์มังกรดำแทงออกไป เกิดเสียงดังผุ แทงทะลุร่างอาจารย์เทพมารท่านหนึ่งของตำหนักดารา

หอกยุทธ์สั่นขึ้น ร่างเนื้อของอาจารย์เทพมารผู้นี้ก็พลันแตกสลายกลายเป็นละอองเลือด ช่องจิตก็ถูกจิตภัณฑ์หงเทียนดูดกลืนในทันที

ก่อนหน้านี้ที่ผลการฝึกตนมีเพียง เจ้ายุทธจักรขั้นเก้านั้น เขาขับเคลื่อนเกราะเทพเวหากาลสามารถยื้อเวลาได้เพียงไม่ 13 อึดใจเท่านั้น

ในวันนี้ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ก็สามารถยื้อเอาไว้ได้ถึง 20 อึดใจ!

ระยะเวลาเพียงไม่นาน ทางฝั่งตำหนักดารานภาก็มีเทพมารสองท่านถูกฆ่าตาย ทำให้เหล่าอาจารย์เทพมารที่เหลือที่มาฝึกปฏิบัติยังโลกแสงดาวเกณฑ์กฎนับหมื่นปีนั้น ต่างก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจ

แต่เดิมพวกเขาไม่เชื่อคำพูดที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์คนปัจจุบันได้พูดเอาไว้ ผู้น้อยที่ฝึกตนเพียงสี่สิบกว่าปี จะไปสามารถต้านพลังของเทพมารได้อย่างไร?

แต่ตอนนี้พวกเขากลับเชื่อจนหมดหัวใจ อีกอย่าง นี่คือการต้านพลังเทพมารเทพมารเสียที่ไหน เขาสามารถฆ่าเทพมารได้ต่างหาก!

อย่างไรก็ตาม เรื่องมาจุดนี้ ในเมื่อเริ่มต้นขึ้นแล้วก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

“ฆ่ามัน!”

อาจารย์ที่แก่ชราที่สุดในตำหนักดาราตะโกนเสียงดัง เขามีชีวิตอยู่มาเกือบแสนปีแล้ว ผลการฝึกตนเข้าถึงระดับสูง บรรลุถึงเทพมารขั้นเจ็ดแล้ว

เจ้าศักดิ์สิทธิ์ดารานภาก็ยังแสดงอาการหวาดกลัว เอ่ยปากพูดเสียงสูง “อาจารย์ทุกท่าน โปรดอย่าได้ฆ่าชายผู้นี้เลย มิฉะนั้นจะมีปัญหาไม่รู้จบ!”

เพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวก็ฆ่าเทพมารไปถึงสองท่าน อาจารย์อีกหกท่านที่เหลือจะทนนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร จึงได้พากันลงมือในทันที ขับเคลื่อนพลังของค่ายดาราแปดด้านให้ไปถึงจุดที่แข็งแกร่งที่สุด เกิดเป็นเทพดาราร้อยตน พุ่งเข้าไปฆ่าหลัวซิวที่อยู่ในค่ายกล

“ด้านนอกสดใจ ด้านในเป็นโพล่ง”

หลัวซิวไม่เห็นด้วย ค่ายดาราแปดด้านนี้ถึงแม้จะเป็นค่ายเทพระดับสาม กำเนิดเทพดารานับร้อยมีพลังเทียบเท่าเทพมารขั้นหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารช่วงกลางต่างก็ยังต้องทนกลืนความเกลียดชัง

แต่ว่าเหล่าเทพมารพวกนี้ของตำหนักดารานภากลับไม่ได้มีระดับที่สอดคล้องกับค่ายกล ดังนั้นระหว่างที่ค่ายเทพกำลังถูกใช้งานอยู่นั้น จะมีข้อบกพร่องมากมายปรากฏขึ้นให้เห็น

หลัวซิวสังเกตเห็นได้ชัดราวกับมองเปลวเพลิง ทันใดนั้นก็ตั้งเป้าไปยังบริเวณลายค่ายที่เปราะบางนั้น เพียงคิด ตราธรรมจุติมรณะก็ถูกปล่อยออกมา