มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1084

หลัวซิวไม่ได้แยแสใดใด ตัวสำนึกกวาดออกไปทั่วทั้งค่ายดาราแปดด้านแห่งนี้ เห็นว่าค่ายใหญ่แห่งนี้ผนึกฟ้าตรึงดินเอาไว้ คือค่ายยากเย็นชนิดหนึ่ง อนัตตาต่างก็ถูกปิดตาย ไม่มีหนทางให้ถอยกลับ หนทางเดียวคือต้องสู้เท่านั้น

“ทุกท่าน……”

หลัวซิวกระแอมเล็กน้อยและเอ่ยปากขึ้นมาทันใด

“อย่างไร? ความตายมาเยือนตรงหน้า เจ้าคิดจะร้องขอชีวิตเช่นนั้นหรือ?” เจ้าศักดิ์สิทธิ์ชราผู้หนึ่งของตำหนักดารานภาหัวเราะเสียงเย็น

หลัวซิวหัวเราะเสียงดัง “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ความหมายของข้าคือ หรือว่าตอนที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์ดารานภากับหลิวหงเทียนหนีมายังที่แห่งนี้ไม่เคยบอกพวกเจ้า ว่าพลังของข้าสามารถต้านทานเทพมารได้?”

“สามารถต้านเทพมารได้แล้วอย่างไร? ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นเพียงแค่เจ้ายุทธจักรตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น พวกข้าทั้งแปดคนเทพมารออกโรง อีกทั้งยังมีค่ายดาราแปดด้านขังเจ้าเอาไว้ เทพมารที่แท้จริงยังสามารถตายได้ แล้วเจ้าจะหนีไปไหนเสีย?” เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดารารุ่นก่อนไม่คล้อยตาม

“ใครบอกว่าข้าคือแดนเจ้ายุทธจักร?”

หลัวซิวเงยหน้าหัวเราะ “ดูแล้วข้อมูลของของพวกเจ้าคงจะล้าหลังไปมาก ผลการฝึกตนของข้าบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว!”

ชุดคลุมสีดำของเขาเกิดเสียงพับ ๆ พลิ้วไสวในสายลม หัวเราะด้วยความกระปรี้กระเปร่า พูดอย่างช้า ๆ “แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์พวกเจ้ารู้หรือไม่? ในตอนที่ข้าเป็นเจ้ายุทธจักรก็สามารถต้านทานเทพมารได้ แต่ในวันนี้บรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ นั่นก็คือสามารถฆ่าเทพมารได้!”

“แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์?”

เจ้าศักดิ์สิทธิ์ดารานภาได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นหนังตาก็พลันกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ เขาและอาจารย์ทั้งแปดเป็นถึงผู้แข็งแกร่งเทพมาร ย่อมไม่แยแสต่อมหาจักรพรรดิยุทธ์อยู่แล้ว แต่กับหลัวซิวนั้นไม่เหมือนกัน เขาคือแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แตกต่างกับมหาจักรพรรดิยุทธ์ทั่วไปราวฟ้ากับเหว ไร้ศัตรูในแดนเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นมหาจักรพรรดิ!

“มหาจักรพรรดิยุทธ์แล้วอย่างไร? วันนี้จะทำลายเจ้าให้สิ้น!”

อาจารย์ทั้งแปดของตำหนักดาราไม่เหมือนกับเจ้าศักดิ์สิทธิ์ดารานภา พวกเขาเพียงแค่เคยได้ยินเรื่องราวของหลัวซิวมาบ้างเท่านั้น แต่ไม่เคยได้เห็นเองกับตา ดังนั้นในใจจริง ๆ จึงไม่เชื่อว่าเจ้ายุทธจักรคนหนึ่งจะสามารถต้านเทพมารได้

ปัง!

ภายใต้การขับเคลื่อนของอาจารย์เทพมารทั้งแปด ค่ายใหญ่ค่ายดาราแปดด้านก็เริ่มหมุนเวียน เทพดาราแต่ละตนถูกหลอมรวมขึ้นภายในกฎพลังเทพดั้งเดิม

เทพดาราเหล่านี้ต่างก็ถือกำเนิดจากค่ายเทพ เทพดาราทุกตนต่างมีพลังเทียบเท่าเทพมารทั่วไป วินาทีที่ปรากฏตัวขึ้น ก็พลันพุ่งเข้าหาหลัวซิวด้วยความดุร้าย

“กล้าใช้กลอุบายค่ายกลต่อหน้าข้า?”

หลัวซิวไม่แยแส ร่างนั้นขยับและก็หายวับไปจากที่เดิม เพียงวินาทีเดียวก็ทะลุผ่านวงล้อมของเหล่าเทพดารา และปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอาจารย์ตำหนักดาราท่านหนึ่ง

อาจารย์เทพมารท่านนี้คำรามด้วยความโกรธ ด้านหลังปรากฏตำหนักดาราขึ้นมาหลังหนึ่ง ตำหนักดารายิงลำแสงแห่งเปลวเพลิงออกไป แผดเผาอนัตตาจนพังทลายอย่างต่อเนื่อง

“ปัง!”

หลัวซิวหยิบหอกยุทธ์มังกรดำออกมา แสงแห่งเปลวเพลิงถูกเขาโจมตีด้วยหอกจนแตกสลาย หอกมังกรยังคงพุ่งตรงไปไม่ลดละ โจมตีเข้าที่อาจารย์เทพมารท่านนั้นจนกระเด็นลอยออกไป

“ผุ!”

อาจารย์ตำหนักดาราผู้นี้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพมารขั้นสาม แต่ภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียวของหลัวซิว ก็ยังกระอักเลือดสดออกมา ใบหน้าขาวซีด ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดหยดเป็นทาง สภาพน่าเวทนาอย่างยิ่ง

แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงผู้แข็งแกร่งเทพมาร ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่กลับยังสามารถหมุนเวียนพลังเทพเพื่อเคลื่อนตำหนักดาราไปบดขยี้หลัวซิว

ในเวลานี้เอง ทันใดนั้นก็เห็นหอกยุทธ์มังกรดำในมือของหลัวซิวแทงทะลุผ่านแนวป้องกันของอนัตตา แหลมคมของหอกปรากฏขึ้นตรงบริเวณหว่างคิ้วของเขา

“ปัง!”

ศีรษะของอาจารย์เทพมารท่านนี้ถูกยิงทะลุเป็นรูกลวง ช่องจิตชิ้นหนึ่งหลุดออกมาจากตัวหยั่งรู้ที่แตกสลาย กลายเป็นลำแสงหนึ่งบินหนีไป

“โฮก!”

ภาพลวงหัวมังกรดำโพล่ออกมาจากหอกยุทธ์ อ้าปากกว้าง กลืนกินช่องจิตของอาจารย์เทพมารท่านนั้น จากนั้นก็มุดกลับเข้าไปในหอกยุทธ์อย่างรวดเร็ว

นักยุทธ์ที่ถูกหอกยุทธ์มังกรดำฆ่าตาย เทพจิตของคนผู้นั้นจะถูกจิตภัณฑ์ของหอกยุทธ์ดูดกลืน นี่เป็นการเติบโตอีกวิธีหนึ่งของจิตภัณฑ์