ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 926 เรือนภาบัวแดง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เมื่อกวนอวี่ลั่วได้ยินว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ทราบที่อยู่ของเฟิงอวิ๋นเซิงเช่นกัน นางก็พลันผิดหวังทันที

“พวกเราเจอกันในมิติต่างแดนแห่งหนึ่งด้านนอกโลกซ้อนโลก เสียดายที่ต่อจากนั้นพลัดหลงกัน”

สีหน้าของนางค่อนข้างเป็นกังวล

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “ครั้งหน้าถ้าได้เจอ ข้าจะบอกกับนางว่ามีดรุณีน้อยคนหนึ่งกำลังคิดถึงนางอยู่”

กวนอวี่ลั่วได้ยินก็พูดอย่างดีใจ “รบกวนคุณชายเยี่ยนแล้ว ถ้าหากมีเวลา ขอเชิญท่านกับพี่เฟิงมาเป็นแขกของเขาหอเมฆา”

เฉิงโม่ที่อยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้นก็ยังมีสีหน้ายังคงเดิม ทั้งไม่มีความคิดคัดค้าน

“ชื่ออันสูงส่งของประมุขอุดร ทั่วทั้งสำนักเราได้ยินมานาน หากได้ไปเยือนเขาหอเมฆาสักครั้ง ย่อมเป็นเกียรติอย่างสูง” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

ตามคำกล่าวของเสี่ยวอ้าย เสวี่ยชูฉิงมารดาของตนเคยไปอยู่ในเขตราตรีอุดรอยู่ระยะหนึ่ง

ตอนที่ได้พบและเก็บเสี่ยวอ้ายมาดูแล ก็เป็นสถานที่แห่งหนึ่งในเขตราตรีอุดร

เขตราตรีอุดรไม่เคยตามจับเสวี่ยชูฉิง

แม้จะไม่อาจบอกว่าได้คอยดูแล กระนั้นอย่างน้อยก็แสดงท่าทีปิดตาข้างหนึ่ง หลักันบตาข้างหนึ่ง

แต่ก็ได้ยินว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขตราตรีอุดรกับเขตสารทอิสานไม่ได้ปรองดองนัก

ระหว่างสองเขตที่อยู่ติดกัน มักเกิดข้อพิพาทกรณีพรมแดน และเกิดการแย่งชิงทรัพยากรรวมถึงคนมีความสามารถ ที่แล้วมาไม่ค่อยลงรอยกัน แต่ก็อยู่ในความคาดหมาย

กระนั้นประมุขผู้ยิ่งใหญ่ทางทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เหมือนจะยืนอยู่คนละฝั่งในเรื่องการปฏิบัติต่อเสวี่ยชูฉิง

เยี่ยนจ้าวเกอกับพวกเฉิงโม่หลังจากคารวะกันเสร็จแล้ว ทุกคนก็ไปยังเรือนภาบัวแดงที่อยู่ห่างออกไปด้วยกัน

สายสืบทอดของอารามคงมายาบนเขาหอเมฆาอันเป็นสำนักของประมุขอุดร กับสายสืบทอดของผาบัวแดงบนยอดเขาอัศจรรย์อันเป็นสำนักของจักรพรรดิแพร ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดเป็นพิเศษ

แต่ว่าในเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่นี้ พวกเขารุดมาชมการต่อสู้ หากยึดตามมารยาทแล้ว จำเป็นต้องไปเยี่ยมเยือนคนของยอดเขาอัศจรรย์

ขณะที่เดินอยู่ ความจริงแล้วพวกเฉิงโม่กำลังสำรวจเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้เผยพลังฝึกปรือของตัวเองอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ปิดบัง

ด้วยระดับพลังฝึกปรือของพวกเฉิงโม่ ต่างมองความไม่ธรรมดาในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอออก

ทุกๆ คนเจอประสบการณ์เหมือนกับหลิวเซี่ยงถง ประมุขพรรคเขาหยกเมื่อก่อนหน้า

ไม่ใช่ประหลาดใจ แต่แทบจะตื่นตระหนก

กวนอวี่ลั่วมองระดับพลังฝึกปรือของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ออก แต่พอพวกเฉิงโม่แอบส่งกระแสเสียงบอกให้ทราบ นางก็พลันลืมตากลมโตค้าง

จอมยุทธ์อารามคงมายาที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งหลังจากลังเลอยู่สักพัก ท้ายที่สุดก็ถามขึ้นว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ อายุของเขาจะใช่…”

ในประวัติศาสตร์ มีจอมยุทธ์บางคนใช้ความสามารถพิเศษอำพรางอายุจริงของตัวเอง ทำให้คนอื่นๆ เข้าใจผิด เพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียง

แม้ว่าจะหาได้ยาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่มี

“แม้เขาจะปลอมแปลง อย่างน้อยข้าก็มองไม่ออกว่าเขาทำได้อย่างไร” เฉิงโม่กล่าวอย่างราบเรียบ

จอมยุทธ์จากอารามคงมายาลอบพยักหน้า

แม้ว่าจะกุเรื่องหลอกลวง แต่เมื่อปิดบังสายตาของเฉิงโม่ได้ ก็นับเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง ทำให้ผู้คนไม่กล้าดูแคลนแล้ว

ถ้าหากไม่ได้ปลอมแปลง เช่นนั้นก็ยิ่งทำให้คนทอดถอนใจเลื่อมใสยิ่งกว่าเดิม

เฉิงโม่ว่า “กลับเป็นคุณชายเยี่ยนท่านนี้มีความสัมพันธ์กับยอดเขาอัศจรรย์อย่างล้ำลึกจนเหนือความคาดหมาย แม้จะลือกันว่าประมุขอาคเนย์ชื่นชมเขามาก แต่ถึงอย่างไรประมุขอาคเนย์ก็คือประมุขอาคเนย์ จักรพรรดิแพรก็คือจักรพรรดิแพร”

สหายร่วมสำนักของเขาว่า “ถ้าหากยันต์ของเขาเป็นฟู่บัวแดงผู้นั้นมอบให้อย่างที่เขาว่าจริงๆ หรือว่าจะ…”

เฉิงโม่ส่ายศีรษะ “ยังบอกไม่ได้”

อีกคนส่งกระแสเสียงถาม ‘ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านว่าอาวุธเซียนที่จักรพรรดิประกายกาฬได้ทิ้งเอาไว้ ตกอยู่ในมือคนหนุ่มผู้นี้หรือไม่’

เฉิงโม่ว่า ‘ว่ากันว่าเขตตะวันอาคเนย์มียอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อถูกสังหารใต้เขากว่างเฉิง ข่าวลือเรื่องอาวุธเซียนน่าจะเป็นความจริง’

อีกฝ่ายแยกเขี้ยวยิงฟัน สีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง

จะว่าไปแล้ว แม้กวนลี่เต๋อจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับประมุขอุดร แต่ก็ใช้แซ่เดียวกัน ในโลกซ้อนโลกมีคนไม่น้อยที่ยังคาดเดาว่าทั้งสองฝ่ายมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่อยู่

คนผู้นั้นพึมพำกับตัวเอง “เช่นนั้นอาวุธเซียนสมควรอยู่ที่เขากว่างเฉิง คงไม่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้พกติดตัวเดินไปทั่วใต้หล้ากระมัง”

เฉิงโม่มองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าคิดทำอะไร”

อีกฝ่ายเงียบงันครู่หนึ่งค่อยเอ่ยว่า “ท่านอาจารย์มีคำสั่งเด็ดขาด ห้ามไม่ให้ลูกศิษย์อารามคงมายาทั่วไปถามไถ่เรื่องมรดกของจักรพรรดิประกายกาฬ”

“เรื่องนี้ข้าย่อมจำได้ เพียงแต่ว่า ศิษย์พี่ใหญ่ ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นอาวุธเซียนชิ้นหนึ่ง…”

เฉิงโม่ไม่ได้โกรธ เพียงถามอย่างเฉยชา “คำสั่งที่เด็ดขาดอย่างการไม่ให้พวกเราแตะต้องของล้ำค่าบางอย่าง ท่านอาจารย์เคยสั่งมากี่ครั้ง”

ลูกศิษย์อารามคงมายาผู้นั้นพอได้ยิน ใบหน้าฉายแววเหมือนนึกอันใดออก

คำตอบคือมีไม่กี่ครั้ง

แต่ก็เป็นเพราะเช่นนี้ จึงอธิบายถึงความร้ายแรงของปัญหานี้ได้มากขึ้น

จอมยุทธ์อารามคงมายาหลายคนไม่ได้กล่าววาจา เพียงติดตามอยู่ด้านข้างเฉิงโม่อย่างเงียบงัน

เยี่ยนจ้าวเกอร่วมทางกับพวกเขา ไปถึงใกล้ๆ ดอกบัวสีแดงอย่างรวดเร็ว

พอเข้าใกล้ เขาค่อยสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของดอกบัวแดง มันเป็นสีแดงชาด กว้างใหญ่ไร้สิ้นสุด ดุจดั่งทะเลเพลิง

ดอกบัวแดงบานออก กลีบดอกที่ใหญ่โตทุกกลีบ คล้ายเติมเต็มมิติ

บนกลีบดอกทุกกลีบ มีคนรวมตัวอยู่บางส่วนแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอรู้แก่ใจดีว่า นั่นต่างเป็นขุมกำลังและจอมยุทธ์ที่มีความสำคัญอันดีกับยอดเขาอัศจรรย์ ขณะเดียวกันยังมีตำแหน่งสำคัญเพียงพอด้วย

เกสรดอกไม้ใจกลางดอกบัวสีแดง มีปราณหนึ่งดำหนึ่งขาวสองสายวนเวียน เหมือนกับละอองเกสร

กระแสปราณสีขาวดำหมุนวน กอปรกันเป็นรูปไท่จี๋ ตรงกลางรูปไท่จี๋รองเรือยักษ์ลำหนึ่งไว้

ภายนอกดูใหญ่กว่าเรือนภาร่อนวายุทั่วไปเกือบหนึ่งเท่า

ขณะเยี่ยนจ้าวเกอเดินไปยังเรือนภาบัวแดงลำนั้นได้ครึ่งทาง เขาก็ได้พบคนคุ้นเคยอย่างมู่จวินแห่งเขาโถงทอง ลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์

พวกเฉิงโม่ทักทายมู่จวิน จากนั้นก็บอกลาเยี่ยนจ้าวเกอ มุ่งหน้าไปยังเรือนภาบัวแดง

เยี่ยนจ้าวเกอหยุดสนทนากับมู่จวินอยู่ที่เดิม

“มิติต่างแดนคล้ายเกิดความสับสนอลหม่าน ดังนั้นก่อนหน้านี้จักรพรรดิแพรกับจักรพรรดิเอกภพจึงมุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดน” มู่จวินว่า “จักรพรรดิเอกภพยังคงไม่ได้กลับมา ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าหากไม่ได้นัดสู้กับทวนพระอังคาร จักรพรรดิแพรก็คงไม่มีเวลากลับมาเช่นกัน”

เยี่ยนจ้าวเกอมองรอบๆ “เรื่องใหญ่แบบนี้ ไม่เห็นประมุขทั้งหลายมา”

มู่จวินตอบ “นอกจากประมุขทิศบนที่มีร่องรอยไม่แน่นอนแล้ว ท่านอาจารย์กับประมุขที่เหลือปกติจะรั้งอยู่บนโลกซ้อนโลก ประมุขปฐวีครั้งนี้เป็นผู้รับรองและไกล่เกลี่ย ดังนั้นจึงต้องมา”

ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย “ด้วยความเกี่ยวข้องระหว่างประมุขอาคเนย์กับจักรพรรดิแพร ศิษย์พี่มู่จวินไฉนอยู่บนบัวแดง ไม่ขึ้นบนเรือไป”

“เหอะ กล่าวไปไม่กลัวท่านหัวเราะ จักรพรรดิแพรกับท่านอาจารย์แม้จะสนิทสนมกัน แต่ว่าผู้คุมที่อยู่บนเรือนภาบัวแดง เป็นศิษย์น้องเล็กของจักรพรรดิแพร เถาอวี้ เทพธิดาสสารกำเนิด”

มู่จวินกลับไม่เห็นเยี่ยนจ้าวเกอเป็นคนอื่นคนไกล กล่าวว่า “นางกับท่านอาจารย์มีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีนัก อีกทั้งยังมีวัยวุฒิสูงส่ง ข้าไม่อยากขึ้นไปหาเรื่องให้ตัวเองอึดอัด”

ความอยากรู้ยากเห็นของเยี่ยนจ้าวเกอลุกโชนขึ้นในใจ “อ้อ?”

ครั้นเห็นสีหน้าของชายหนุ่ม มู่จวินก็พลันเบะปาก “ท่านอาจารย์มีความขัดแย้งกับนางคนเดียว หากจะกล่าวให้ถูกต้อง ว่ากันว่านางกับจักรพรรดิแพรในตอนนั้นคล้ายกับ…”

“แต่ข้าเองก็ไม่กล้ายืนยัน” มู่จวินพูดพลางมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ข้าขอเตือนท่านว่าอย่าขึ้นไปจะดีกว่า ท่านใกล้ชิดกับแม่นางฟู่ถิง ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเทพธิดาสสารกำเนิดและศิษย์น้องฟู่ก็ลือกันว่าไม่ได้ดีเท่าไรนัก”