ตอนที่ 1175: ทายาทของโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1175: ทายาทของโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม

ในบรรดาอาวุโสสองคนจากสาขาหยวน เจียงหยางหยวนเจิ้งหัวนั้นฝีมืออ่อนด้อยกว่าเจี้ยนเฉิน แต่เจียงหยางหยวนวูจินั้นเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8 เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสามของตระกูลและความแข็งแกร่งของเขาก็เหนือกว่าเจี้ยนเฉิน ทุกครั้งที่เขาถูกโจมตีด้วยพลังที่ทำลายภูเขาและทักษะโบราณที่เจี้ยนเฉินใช้ออกมาเป็นครั้งคราว มันยากมากสำหรับเจี้ยนเฉินที่จะรับมือกับมันได้ ดังนั้นเขาจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

การบาดเจ็บสาหัสบนร่างกายของเจี้ยนเฉินนั้นมาจากเจียงหยางหยวนวูจิ แต่ร่างบรรพกาลได้มอบพลังที่ยอดเยี่ยมและความหาญกล้าที่จะต่อสู้ในเวลาเดียวกัน ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ลดลงเลย แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่อาจอยู่ได้นานเช่นกัน

ปัง !

พร้อมกับเสียงอื้ออึง เจียงหยางหยวนวูจิกระแทกฝ่ามือลงบนหน้าอกของเจี้ยนเฉินทำให้เขากระเด็นออกไปไกล การโจมตีนี้รุนแรงอย่างมาก กว่าเจี้ยนเฉินจะหยุดตัวเองได้ก็ลอยห่างออกมาหลายพันเมตรและชนเข้ากับภูเขา หน้าอกของเขาทั้งหมดยุบตัวลงและกระดูกซี่โครงส่วนใหญ่ของเขาหัก

เจี้ยนเฉินกัดฟันและโคจรพลังบรรพกาลอย่างรวดเร็ว เขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นความเร็วที่เขาฟื้นตัวก็ช้ากว่าอัตราที่เขาได้รับบาดเจ็บอย่างมาก

เจี้ยนเฉินเหลือบมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าเจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางชิงหยุนยังต่อสู้อยู่ไกล ๆ ระลอกคลื่นมากมายทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในบริเวณรอบ ๆ พวกเขา ภูเขาทั้งหมดสั่นสะเทือน อีกด้านหนึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวจากเจียงหยางซูหยวนเซียวหลังจากที่เขาถูกเจียงหยางชิงหยุนโจมตีลอยออกไป

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินซีดราวกับขี้เถ้าเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เขาเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง เขาสามารถเป็นคู่ต่อสู้กับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ได้ แต่เขาทำอะไรกับเจียงหยางหยวนวูจิไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุด เจียงหยางหยวนวูจิรู้ทักษะลับโบราณที่ทรงพลังมากมาย ดังนั้นจึงไม่มีเซียนราชาคนไหนสามารถต่อกรกับเขาได้

มิติแยกถูกผนึกเช่นกันและไม่สามารถเปิดได้หากไม่มีทักษะลับที่สอดคล้องกัน ตอนนี้เขาถูกขังที่นี่และไม่อาจจากไปได้

พลังงานสั่นสะเทือนขณะที่เจียงหยางหยวนวูจิพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างแน่วแน่ ราวกับเขากลัวว่าเจี้ยนเฉินจะหนีไป ความโลภถูกแสดงออกมาอย่างชัดเจนบนใบหน้าของเขา

ตอนนี้ชิงหยุนกำลังยุ่งอยู่กับซูเซียว มันเป็นโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ลิ้มรสผลไม้เซียน ทันทีที่กินเข้าไปแล้ว เขาก็ไม่อาจทำอะไรข้าได้ สิ่งที่ทำได้คือมองดูอยู่ข้าง ๆ ข้าสามารถทะลวงไปถึงขั้นสูงสุดของเซียนจักรพรรดิในเวลาไม่นานและจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลผู้พิทักษ์ ! เจียงหยางหยวนวูจิแอบหัวเราะในใจ เขาจะได้ลิ้มรสช่วงเวลาที่เขาจะได้กลายเป็นเซียนจักรพรรดิ แต่เขาจำเป็นต้องระงับความตื่นเต้นนี้หรือห้ามตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมาดัง ๆ

แต่พรสวรรค์ของเจ้าเด็กเหลือขอนี่ยอดเยี่ยมอย่างมาก เขาอาจจะทะลวงไปยังระดับเซียนจักรพรรดิได้เองโดยใช้เวลาไม่นาน เขาจึงเป็นภัยคุกคามอย่างมาก เขาจะต้องตายในวันนี้ ดังนั้นข้าเลยต้องทำให้เสร็จสิ้นให้หมดพร้อมทั้งจัดการกับเขาในทีเดียว ยิ่งคิดจิตสังหารที่ถ่วมท้นพุ่งออกมาจากสายตาของเจียงหยางหยวนวูจิทันที เขาตัดสินใจที่จะฆ่าเจี้ยนเฉินเพราะคิดว่าเขาจะได้รับผลไม้

หอกเงินที่ควบแน่นจากพลังปราณปรากฏขึ้นบนมือของเจียงหยางหยวนวูจิ การที่ทำให้มันปรากฏเป็นรูปร่างนั้นทำให้มันทรงพลังอย่างมา ขณะที่มันปรากฏขึ้นมันได้บดขยี้ภูเขารอบ ๆ เจี้ยนเฉินรวมทั้งตัวของเจี้ยนเฉินเองเช่นกัน มันทำให้ร่างกายของเขาจมลงและไม่อาจขยับเขยื้อนเองได้

นี่คือแรงกดดันของทักษะการต่อสู้ระดับเซียนที่มีต้นกำเนิดมาจากเจียงหยางหยวนวูจิ หอกเงินกลายเป็นแสงสีขาวและพุ่งเข้าเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า

เจี้ยนเฉินจดจ่ออย่างมาก เพียงแค่คิดวัตถุเซียนก็กลายเป็นหอคอยทองคำสูงสิบเมตรทันทีด้านหน้าของเขาและทำให้เขาสามารถรับมือกับทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของเจียงหยางหยวนวูจิ

ในเวลาเดียวกัน ร่างสูงสามเมตรก็ปรากฏขึ้นข้าง ๆ เจี้ยนเฉินพร้อมกับแสงวาบสีทอง เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากที่ดูเหมือนกับยักษ์ตัวเล็ก ๆ ผิวของเขาเป็นสีน้ำตาลทองและเปล่งแสงสีทองออกมาจากตัวของเขา

ร่างของคนผู้นี้คือเถี่ยต้า เขาเป็นคนที่อาศัยอยู่ในวัตถุเซียน

เจี้ยนเฉินบอกกับเถี่ยต้าอย่างลับ ๆ มานานแล้วว่าสถานการณ์ภายนอกนั้นอันตรายมาก ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นชั้นแสงสีทองที่หนาแน่นล้อมรอบตัวเขาและเขาก็ตะโกนออกมาว่า ความลึกลับของสงคราม-หมัดโลก! แสงสีทองมารวมกันที่หมัดของเขาและในเวลาเดียวกันพลังที่น่าอัศจรรยย์มหาศาลก็หมุนรอบตัวของเขา จากนั้นเขาก็ทุบหมัดไปด้านหน้าของเขาตรง ๆ

ตูม !

หมัดของเถี่ยต้าได้ทำให้เกิดเสียงที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง มันฟังดูเหมือนกับเสียงทึบหนัก ๆ และทำให้มิติเกิดความผันผวน มันเริ่มสั่นอย่างแรงหลังจากที่โดนหมัดของเถี่ยต้าและมีรอยฉีกปรากฏออกมาให้เห็น

โถงศักดิ์สิทธิ์ 18 ชั้นบนฟ้าเริ่มมากองรวมกันมากขึ้น แม้เพียงชั้นเดียวของพวกมันจะหลอมรวมกับพลังงานทำให้มีพลังมากกว่าโลกภายนอก มิติเหล่านั้นไม่อาจทำลายได้ มันเหมือนกับกรงขัง

พื้นที่สั่นสะเทือนก่อนที่จะกลับคืนสมดุลอย่างรวดเร็ว การแสดงออกของเถี่ยต้าก็เปลี่ยนเมื่อเขามองเห็นสิ่งนี้และเขาก็พูดว่า เจี้ยนเฉิน ข้าไม่อาจทะลวงมิตินี้ได้ !

หา ! ? เจี้ยนเฉินตกใจอย่างมากขณะที่ถามว่า เถี่ยต้า เจ้าไม่ได้พูดหรอกหรือว่าความลึกลับของสงครามของเจ้าสามารถทะลวงข้อจำกัดของมิติทั้งหมดและเดินทางผ่านมิติไปไหนก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ ?

เถี่ยต้าเกาหัวของเขาด้วยความตื่นตระหนก เขาตอบอย่างประหม่าว่า นั่นคือข้อมูลที่ข้าได้รับมา หมัดโลกของข้าสามารถทะลวงข้อจำกัดของมิติใด ๆ ก็ได้ แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้ มันไร้ประโยชน์ ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของข้าจะอ่อนแอเกินไปและระดับความเข้าใจของข้ากับทักษจะยังไม่เพียงพอ

บ้าจริง เจี้ยนเฉินสบถอยู่ในใจ แผนมันไม่อาจปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ เขาไม่คิดเลยว่ามันจะจบลงแบบนี้

ตอนนี้ข้างนอกเป็นตอนกลางคืนแล้ว พระจันทร์เต็มดวงลอยขึ้นบนท้องฟ้าและส่องแสงอย่างสวยงาม

โถงจันทร์แจ่มมาจากมิติรอบ ๆ อย่างเงียบ ๆ และหยุนอยู่หน้าประตูทางเข้าสู่มิติของตระกูลเจียงหยาง สาวงามโหยวเยว่ได้สวมชุดสีขาวยืนอยู่บนหลังคา ขณะที่นางถือคทาเทพจันทราที่นางฟ้าเฮายู่มอบให้กับนาง

ทันใดนั้นโหยวเยว่ก็ยกคทาและอัญมณีที่ฝังอยู่ภายในก็เริ่มเปล่งแสงจันทร์ออกมา

ในเวลาเดียวกันพระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้าก็สว่างขึ้นอย่างกะทันหัน จริง ๆ แล้วมันส่องสว่างสดใสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ราวกับว่ามันสะท้อนข้องเกี่ยวกับคทาของโหยวเยว่ ดูเหมือนว่าพวกมันจะเรียกหากันจากระยะไกล

ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีผู้ช่วย แต่ในตระกูลผู้พิทักษ์มันไร้ประโยชน์ แม้ว่าเจ้าจะนำเซียนราชาขั้นสูงสุดมาก็ตาม เจียงหยางหยวนวูจิกลับเข้ามาในมิติแยก พลังงานรอบ ๆ ตัวเขาพุ่งทะยานและรีบพุ่งเข้ามาหาเจี้ยนเฉิน

เถี่ยต้าเลื่อนสายตามอง ขวานทองคำปรากฏอยู่ในมือของเขาและเขาก็ตะโกนว่า ความลึกลับของสงคราม-ทำลาย ! ความตั้งใจในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ก็ปรากฏออกมาทันที มันเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อจิตใจของทุกคน ในขณะนั้นพวกคนในตระกูลที่เฝ้ามองจากระยะไกลก็ขวัญหนีดีฝ่อและรู้สึกอยากตาย พวกเขาทุกคนสั่นสะท้านจากภายใน ความตั้งใจในการต่อสู้ของเถี่ยต้าดูน่ากลัวอย่างมาก

ในเวลานั้นเถี่ยต้าดูเหมือนจะกลายเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามที่ไม่อาจเอาชนะได้ ในสายตาของคนหลาย ๆ คน แม้กระทั่งเซียนผู้คุมกฏก็ยังสูญเสียความกล้าหาญที่จะต่อสู้ต่อหน้าของเถี่ยต้า

แสงระยิบระยับฟุ้งเต็มอากาศ เจียงหยางหยวนวูจิพุ่งเข้าหาราวกับสายฟ้า พร้อมกับความกระหายในการต่อสู้

เจียงหยางหยวนวูจิเทหมดหน้าตัก ความตั้งใจในการต่อสู้ที่ปรากฏออกมาอย่างฉับพลันมีผลต่อเขาเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็สามารถระงับผลของมันด้วยความแข็งแกร่งของตัวเขาได้ ดังนั้นเขาจึงได้สติอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นขวานทองลอยมาด้านหน้าเขา เขารีบใช้ทักษะลับโบราณและหาทางป้องกันการโจมตีของเถี่ยต้า แต่พลังของเขาก็ยังคงห่างไกล

ใครปรากฏตัวขึ้นมา ? เจียงหยางชิงหยุนและเจียงหยางซูหยวนเซียวหยุดต่อสู้ห่างออกไป พวกเขาจ้องมองเถี่ยต้าอย่างสงสัยและมีความแปลกใจบนใบหน้าของพวกเขา

ความลึกลับของสงคราม-ทำลาย นะ-นี่ไม่ใช้ทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังของเทพเจ้าสงครามของร้อยเผ่าพันธุ์ เอ่อหยินในอดีตโบราณที่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ ? บันทึกได้บอกไว้ว่าเอ่อหยินใช้มันทำลายทวีปเล็ก ๆ จนเป็นชิ้นเพียงแค่การโจมตีครั้งเดียวและเซียนจักรพรรดิกว่า 10 คนตายตกไป เจียงหยางชิงหยุนจ้องมองอย่างว่างเปล่าและมีความไม่เชื่ออยู่บนใบหน้าของเขา

เจียงหยางซูเซียวจ้องไปที่เถี่ยต้าขณะที่เถี่ยต้าอาบไล้ด้วยแสงสีทองจากที่ไกล ๆ เขาก็พึมพำว่า อาบไล้ด้วยแสงสีทองและสามารถกำจัดจิตต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร เขา เขาคือ…

นั่นคือเทพเจ้าสงครามแห่งร้อยเผ่าพันธุ์ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าร้อยเผ่าพันธุ์ถึงได้ตั้งตัวที่จะบุกทวีปใหญ่ของเราที่ไม่เคยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาก่อน เพราะงั้นมันน่าจะเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าสงคราม เจียงหยางชิงหยุนจู่ ๆ ก็ตะโกนออกมา เขาเดาได้ทันทีถึงตัวตนของเถี่ยต้าและกลายเป็นความหวาดกลัวและประหลาดใจ แม้แต่ในจิตใจเขาก็พยายามที่จะสงบสงติอารมณ์

เทพเจ้าสงครามแห่งร้อยเผ่าพันธุ์นั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก ศักดิ์ศรีของเขานั้นยิ่งใหญ่จนแม้แต่เซียนจักรพรรดิก็หน้าซีดหากได้ยินชื่อของเขา สุดท้ายเขาก็เป็นคนที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ ในอดีตโบราณจำนวนเซียนจักรพรรดิที่ตกตายด้วยเงื้อมมือของเขามีนับไม่ถ้วน มีเพียงผู้เชี่ยวชาญที่มีการบ่มเพาะเท่ากับเขาเท่านั้นที่จะรับมือเขาได้

อย่างไรก็ตามเจียงหยางชิงหยุนได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเถี่ยต้าในไม่ช้า เขาสงบลงอย่างมากในทันทีและจิตสังหารเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของเขาแบบไม่ปิดบัง เขากล่าวว่า ซูเซียว เทพเจ้าสงครามของร้อยเผ่าพันธุ์ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกตรั้ง เราอาจไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอดีตโบราณ แต่เจ้ารู้ดีจากบันทึก เจ้ารู้ว่าเจ้าต้องทำอะไรในตอนนี้

เจียงหยางซูเซียวขมวดคิ้วอย่างหนัก เขาจ้องมองไปที่เถี่ยต้าที่ส่องแสงในสายตาของเขา

ก่อนที่เทพเจ้าสงครามจะเติบโตเต็มที่ ฆ่าเขาซะและกำจัดอันตรายในอนาคต ไม่อย่างนั้นทั้งทวีปเทียนหยวนจะถึงจุดจบ โศกนาฎกรรมในสมัยโบราณจะกลับมาอีกครั้ง แต่ครายนี้เราไม่มีผู้เชี่ยวชาญอย่างโมเทียนหยวนที่จะหยุดเขา ซูเซียวลืมความบาดหมางของพวกเราตอนนี้และฆ่าเทพเจ้าสงครามด้วยกัน เจียงหยางชิงหยุนพูดอย่างเย็นชา เขาพุ่งเข้าหาเถี่ยต้าหลังพูดจบ

ตูม !

ในเวลานี้ เสียงตูมดังขึ้นบนฟ้าทำให้ทั้งตระกูลสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง