บทที่ 768

และในตอนนี้ เวลาที่หม่าหลันหายตัวไป ก็ครบ24ชั่วโมงแล้ว

ดังนั้นตอนนี้หม่าหลันก็เป็นห่วงมาก กังวลมาก ก็เลยไปตามหาตามคลินิกความงามและคลับบาร์ที่หม่าหลันชอบไป

เธอมายังคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง แล้วก็เอารูปของแม่ไปถามเจ้าของร้านว่า “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าเคยพบเห็นบุคคลในรูปไหมคะ? ”

เจ้าของร้านคนนั้นมองรูปของหม่าหลัน แล้วก็พูดอย่างตกใจว่า “อ้าว นี่พี่หม่าไม่ใช่หรือนี่? ”

เซียวชูหรันก็ถามอย่างดีใจว่า “รู้จักแม่ของฉันหรือคะ? ”

เจ้าของร้านยิ้มพูดว่า “ที่แท้คุณก็คือลูกสาวของพี่หม่านี่เอง เมื่อก่อนพี่หม่าเป็นลูกค้าประจำที่นี่ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เห็นเธอเลย ก่อนหน้านี้พี่หม่าชอบมาทำหน้าที่นี่กับเพื่อนๆ ทำไมหรือ? พี่หม่าหายตัวไปหรือ? ”

เซียวชูหรันพยักหน้า แล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณรู้จักเพื่อนๆ ของแม่ไหมคะ? ให้การติดต่อกับฉันหน่อยได้ไหม? ”

เจ้าของร้านคนนั้นก็นึกอะไรออก แล้วพูดว่า “ไอ้หยา พอดีว่ามีเพื่อนของพี่หม่ากำลังทำหน้าอยู่ที่นี่พอดี เดี๋ยวฉันเข้าไปถามให้ดีไหม? ”

เซียวชูหรันก็พูดอย่างซาบซึ้งว่า “งั้นก็ขอบคุณมากนะคะ รบกวนด้วย!”

“ไม่ต้องเกรงใจ สมควรทำอยู่แล้ว”

เจ้าของร้านคนนั้นก็ยิ้มๆ แล้วก็วอร์ขึ้นมาพูดว่า “ลี่ลี่ ไปบอกเจ๊หวาง ว่าลูกสาวของพี่หม่ามาตามหาพี่หม่า มีเรื่องอยากจะถามเธอหน่อย”

อีกฝั่งก็ส่งเสียงกลับมาว่า “ได้ค่ะ เจ๊หวางบอกว่าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เซียวชูหรันรออยู่สักพัก ก็เห็นผู้หญิงอ้วนๆ รวยๆ คนหนึ่ง ใบหน้าแปะแผ่นมากส์หน้าเดินออกมา

ใบหน้าผู้หญิงคนนี้ใหญ่นิดหน่อย ดังนั้นแผ่นมากส์หน้าก็เลยปิดไม่มิด ดูแล้วค่อนข้างตลก

แต่เซียวชูหรันก็ไม่ได้อยากจะขำอะไร เธอได้แต่มองฝั่งนั้นอย่างรอคอย หวังว่าจะไดเบาะแสอะไรที่เกี่ยวกับแม่ ออกมาจากปากเธอบ้าง

เจ๊หวางคนนั้นก็เดินมาตรงหน้าเซียวชูหรัน แล้วมองเธอหัวจรดเท้า พร้อมถามว่า “เธอน่ะหรือเป็นลูกสาวของพี่หม่า? ”

เซียวชูหรันก็รีบตอบอย่างเคารพว่า “สวัสดีค่ะคุณน้าหวาง หนูเป็นลูกสาวของหม่าหลันค่ะ หนูอยากถามว่า เมื่อวานได้เห็นแม่หนูบ้างไหมคะ? ”

“แม่เธอน่ะหรือ!” เจ๊หวางก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมา “เพื่อนอย่างแม่ของเธอน่ะหรือ พวกเราไม่อาจเอื้อมจะเป็นเพื่อนกับเธอได้หรอก!”

เซียวชูหรันรีบถามว่า “คุณน้าหวางคะ หมายความว่าอย่างไรหรือคะ? แม่หนูมีปัญหาอะไรกับคุณน้าหรือเปล่า? ”

เจ๊หวางก็เบ้ปาก แล้วพูดว่า “ฉันจะไปกล้ามีเรื่องกับเหล่าหม่าได้ไงกัน เมื่อวานตอนบ่าย ฉันแค่โทรหาหล่อนว่าจะชวนมาทำหน้าด้วยกัน สุดท้ายเธอรู้ไหมว่าหล่อนพูดว่าอย่างไร? ”

เซียวชูหรันก็รีบถาม “คุณน้าหวางคะ ตอนนั้นแม่หนูพูดอะไรหรือคะ? ”

เจ๊หวางก็พูดด้วยใบหน้าโมโห แล้วตวาดออกมาว่า “แม่เธอบอก ฉันน่ะหรือเป็นใครกัน จะมาทำหน้าแบบคนอย่างฉันได้อย่างไร ยังบอกอีกว่า คนที่ทำหน้าก็มีแต่คนอย่างฉันนี่แหละ หล่อนจะซื้อร้านทำหน้ามาทำให้ตัวหล่อนเองคนเดียวเลยยังได้ แถมยังบอกจะเลิกคบกับพวกเราอีก!”

พูดจบ เจ๊หวางก็มองเซียวชูหรัน แล้วถามอย่างหัวเสียว่า “เธอว่า แม่เธอทำเกินไปไหม? ”

“ต่างก็เป็นเพื่อนกัน ไอ้เราก็ชวนกันออกมาทำหน้าดีๆ ยังจะมาดูถูกกันได้ ประชดกันได้ ยังบอกว่าฉันจนอีก บอกว่าทรัพย์สินของหล่อนนั้น ใช้ทั้งชีวิตก็ยังไม่หมด!มันหมายความว่าไงกัน? หล่อนรวยแล้วหรือไง? ถึงได้มาดูถูกเพื่อนพ้องที่จนๆ ”

“ดูถูกฉัน ก็ไม่ต้องติดต่อกันก็จบ จะมาต่อว่าให้เสียใจกันทำไม? ฉันไปเรื่องแกรึไง? มีสิทธิ์อะไรมาว่าร้ายฉัน น่าโมโหจริง!”